บทที่ 57 อยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหม
หลังจากที่เขาพูดจบลงแล้ว เขาไม่ต้องการพูดคุยอะไรกับไห่ลี่หมินอีกต่อไป เขาหันหลังกลับและจับที่ข้อมือของเซี่ยชีหรั่นพร้อมกับรับสั่งเสียงแข็งว่า “ตามฉันมา เมื่อกี้ฉันยังทำไม่เสร็จ ”
คำพูดของเขานี้ยิ่งทำให้เรื่องนั้นยิ่งชัดเจนออกมาขึ้นไปอีก ตอนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นแดงขึ้นอย่างไม่สามารถห้ามได้และเธอรู้สึกอับอายเสียจนไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปวันที่ไหนแล้ว
สีหน้าของไห่ลี่หมินเองก็เปลี่ยนเป็นดูไม่ได้เลย และเขายังจะต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ครู่หนึ่งเขาก็คิดได้ว่ามันก็ไม่ง่ายเลยที่จะจู่โจมที่บ้านของเย่เชินหลิน
“คุณชายไห่ เดี๋ยวฉันจะสั่งให้คนมารับใช้ท่าน พวกเราจะรีบกลับมาละกัน”
เย่เชินหลินพูดทิ้งท้ายไว้สองสามประโยคนี้ไว้เบื้องหลัง และเจ้าตัวนั้นได้เดินออกจากห้องนั่งเล่นไป สั่งให้พ่อบ้านส่งคนไปรับใช้ไห่ลี่หมิน เขานั้นไม่ถึงกับใจจืดใจดำจนเกินไปหรอก
อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา และเขาจะไม่ยอมให้เพราะผู้หญิงหน้าซื่อใจคดคนนี้ต้องทำให้เขาเข้าหน้ากันไม่ติด
ห้องหนังสือห่างจากห้องรับแขกไม่ไกลมาก เย่เชินหลินลากเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในห้องหนังสือด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งและปิดประตูอย่างแน่นหนา เซี่ยชีหรั่นก็กลัวการกระทำของเขาเสียจนหัวใจสั่นสะท้านไปหมด
เขาไม่ได้พูดอะไรและกดเธอไปชิดติดกับหน้าประตู
ใบหน้าของเขารังแกใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ ทั้งกัดฟันและพูดกับเธอว่า ” เธอกล้าโกหกฉันหรือ”
“ฉัน … ” เซี่ยชีหรั่นโต้แย้งออกมาอย่างยากเย็นเหลือเกิน
เขาเห็นเต็มๆตาว่าไห่ลี่หมินจับไหล่ของเธอ ถ้าพวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเลย แล้วจะอธิบายการกระทำที่ดูสนิทสนมนั้นได้อย่างไร
“ทำไม ถึงกับพูดอะไรไม่ออกเลยละสิ”
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจและพูดอย่างแผ่วเบาว่า ” คุณเย่ค่ะ ฉันรู้ดีว่าต่อให้ฉันจะอธิบายอะไรออกไปคุณก็ไม่เชื่อฉันอยู่ดีค่ะ ดังนั้นฉันจะขอไม่พูดอะไร คุณจะลงโทษอะไรฉันก็ลงโทษฉันได้เลยค่ะ พอเพียงคุณไม่ไล่ให้ฉันไปจากที่นี่ คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ”
ช่างดูหญิงร้ายชายเลวจริง ๆ คนหนึ่งขาดเธอไม่ได้ ต้องการจะพาเธอไป อีกคนหนึ่งเพื่อเขาแล้วจะเป็นหรือตายก็ยอมขอเพียงให้ได้อยู่ที่นี่ต่อ
สีหน้าของเย่เชินหลินดูเคร่งขรึม และตรงหัวคิ้วของเขาดูขมวดกันเล็กน้อย
เขาบีบร่างกายของเธออย่างแรงและถามเธออย่างรุนแรงว่า “เธอเชื่อไม่เชื่อ ว่าฉันจะขึ้นคร่อมเธอเสียเดี๋ยวนี้ ”
เซี่ยชีหรั่นกลัวมาก กลัวว่าเขาจะทำอย่างนั้นกับเธอจริงๆ ร่างกายของเธอเก็บไว้ให้เสี่ยวจุนผู้เดียวเท่านั้น แม้ว่าเสี่ยวจุนจะตายไปแล้วก็ตาม เธอก็ไม่ควรให้ตัวเองนั้นตกเป็นของคนอื่น
ในสมองของเธอพยายามคิดหาวิธี และสงสัยว่าจะทำให้ความโกรธของเขาสงบลงได้อย่างไร จะต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้เขาขจัดความคิดที่จะครอบครองเธอได้
เย่เชินหลินไม่ได้ปล่อยช่องว่างให้เธอได้คิดเลย แล้วมือใหญ่ของเขาก็ตรงไปที่ปกคอเสื้อของชุดยูนิฟอร์มของเธอ
เธอทั้งกลัวทั้งอาย พยายามใช้แรงผลักเขา แต่เธอจะผลักเขาได้ที่ไหนกัน
บางทีเขาอาจไม่ยอมให้ผู้หญิงทุกคนรอบกายของเขาชอบคนอื่น อาจเป็นเพราะความหยิ่งทระนงในตนเองของเขา
เพื่อที่จะได้ออกจากการควบคุมของเขาโดยเร็วที่สุด เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนอีก เพราะกลัวว่าจะยิ่งกระตุ้นความปรารถนาที่จะเอาชนะของเขา
เธอลังเลเล็กน้อยและกระซิบกับเขาว่า ” คุณเย่ค่ะ ตราบใดที่คุณต้องการ ผู้หญิงทุกคนจะยินยอมจำนนขึ้นเตียงกับคุณและพวกเธอไม่รีรอเลยที่จะได้มีทำสิ่งที่ใกล้ชิดกับคุณ ฉันก็เช่นกัน”
ในที่สุดคำพูดของเธอก็คลายความโกรธของเย่เชินหลินลงได้ และแรงที่กดทับร่างของเธอไว้นั้นก็ดูลดลงเล็กน้อย
เขายังคงไม่ปล่อยเธอไป เธอยังจะพูดอะไรหรือทำอะไรอีก
ในขณะที่เขากำลังจะรุกขึ้นอีกก้าว เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้นมาทันที
การโทรมาที่นี่นั้นมักจะโทรมาจากแม่ของเขา
“คุณเย่ค่ะ คุณรีบรับโทรศัพท์เถอะค่ะ!” เซี่ยชีหรั่นแนะนำ
เขาจะไม่เพราะผู้หญิงแค่คนหนึ่ง แม้แต่โทรศัพท์แม่ของเขาก็ไม่รับสาย
ทันทีที่เขาถอยออกจากร่างกายของเธอ เธอก็รีบจัดปกคอเสื้อ กลัดกระดุมตรงหน้าอกของเธออย่างรวดเร็ว และรีบบิดประตูเพื่อจะวิ่งหนีไปทันที
“คืนนี้มานอนที่ห้องของฉัน ต้องมาเท่านั้น!” เขาสั่งเสียงขรึมก่อนที่จะตอบรับโทรศัพท์ แล้วเรียกออกมาหนึ่งคำว่า “แม่!”
เซี่ยชีหรั่นผู้ที่รีบเดินออกจากห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว เห็นด้านหลังของพ่อบ้านหายวับไปในตอนท้ายของบริเวณทางเดิน ดูเหมือนว่าเวลาที่โทรศัพท์ในห้องไม่บังเอิญ
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คิดต่อ และยังคงกังวลเกี่ยวกับประโยคสุดท้ายของเย่เชินหลิน
ถ้าหากว่าจะมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่เพียงพอจะต่อต้านคำสั่งของเขาได้ อีกทั้งไม่ทำให้เขาต้องได้โกรธก็คงจะดี
กำลังคิดลึกอยู่นั้น ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเรียกร้องอันไพเราะมาจากด้านหลังของเธอ ” น้องชีหรั่นจ๊ะ มาดื่มชากับเราในห้องรับแขกกันดีกว่าน่ะ”
เธอมองกลับไปและก็ส้งหลิงหลิงและพานหยูกำลังเดินเข้ามาหาเธอ
ในขณะนั้นเธอได้หยุดคิดถึงคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง
หน้าประตุห้องออกกำลังกายเจอพ่อบ้านยืนอยู่ ที่ประตูห้องหนังสือก็เจอพ่อบ้านยืนอยู่อีก แต่ย่อมไม่ใช่เขาแน่ที่ได้โทรศัพท์หาแม่ของเย่เชินหลิน ดูเหมือนว่าคนที่จัดการเรื่องทั้งหมดนี้คือส้งหลิงหลิงซึ่งตอนนี้กำลัง “บังเอิญ” เดินมาในตอนนี้
ผู้ที่ไม่ต้องการให้เธอไปที่ห้องของเย่เชินหลินมากที่สุดในคืนนี้ อีกทั้งมีความสามารถที่หยุดยั้งมันได้ เกรงว่าคงจะเป็นเธอผู้นี้เท่านั้น
ฝู้เฟิ่งหยีบอกกับเย่เชินหลินมาทางโทรศัพท์ว่า วันเวลาได้ถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้วว่า ในวันมะรืนทุกคนในครอบครัวจะไปสู่ขอส้งหลิงหลิงที่บ้านตระกูลส้ง
“ ลูกโม่ ลูกจะต้องเตรียมพิธีงานแต่งงานในวันพรุ่งนี้ ส่วนแม่จะมาหาลูกพรุ่งนี้ ลองคุยกับหลิงหลิงดูอีกครั้ง เพื่อดูว่าเธอยังจะต้องการอะไรเพิ่มเติงหรือเปล่า”
“โอเคครับ งั้นผมจะไปรับแม่มาก่อนพรุ่งนี้”
“ไม่ต้องหรอก ให้คนขับรถพาแม่ไปส่งก็ได้”
การสนทนาระหว่างแม่กับลูกชายจบลง และเย่เชินหลินก็กลับไปที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
เขาและไห่ลี่หมินทำเป็นเหมือนไม่ได้มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อย่างน้อยส้งหลิงหลิงและพานหยูก็ไม่รู้ว่าพวกเขาต่อสู้กันเพื่อผู้หญิงคนนึง
พานหยูยังเป็นสุภาพสตรี แม้เธอจะรู้จากปากของส้งหลิงหลิงแล้วว่าเซี่ยชีหรั่นมักจะยั่วยวนเย่เชินหลินอยู่เสมอ และประพฤติตัวที่ไม่เหมาะสม แต่เธอก็ไม่ได้เปิดเผยอาการใดๆออกมาเลย อย่างไรก็ตามเธอก็ยังจับมือของเธอและพูดคุยกันอย่างสนิทสนมด้วยความรัก
ไห่ลี่หมินและพานหยูอยู่ที่บ้านของเย่เชินหลินตลอดทั้งวัน เซี่ยชีหรั่นพยายามพูดอยู่หลายครั้งว่าเธอมีงานที่ต้องทำ แต่เธอกลับถูกห้ามไว้โดยส้งหลิงหลิง บังคับให้เธอนั่งคุยไปกับเธอตลอดทั้งวัน
เธอระมัดระวังตัวอย่างมาก พยายามหลีกเลี่ยงสายตาจ้องมองของไห่ลี่หมิน และไม่ได้มองดูไปยังเย่เชินหลินเลย
หลังจากทานข้าวเย็นกันเสร็จแล้วไห่ลี่หมินกับพานหยูก็กลับไป ส้งหลิงหลิงขอให้ผู้ช่วยของเธอเซียวเสี่ยวลี่พาพวกเขาไปส่งขึ้นรถกลับไป
เย่เชินหลินไปที่ห้องหนังสือ เพื่อทำงานของเขา ในขณะที่ส้งหลิงหลิงก็กลับไปที่ห้องของเธอเพียงคนเดียว
เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่นอกประตูห้องของส้งหลิงหลิง ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ตัดสินใจจะเคาะประตูในที่สุด
“เข้ามา!”
ส้งหลิงหลิงเห็นเซี่ยชีหรั่น และอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินไปที่ประตูอย่างกระตือรือร้น และพูดด้วยความรักว่า “น้องชีหรั่น เป็นเธอเองหรอกเหรอ เป็นไปได้อยากที่จะเห็นว่าเธอเป็นฝ่ายมาหาฉันด้วยตัวเองแบบนี้ ”
“ดิฉันเองค่ะ พี่หลิงหลิง ดิฉันคิดว่าวันนี้ผู้ช่วยของคุณก็ไม่อยู่ คุณคงจะกลัว ให้ดิฉันนอนเป็นเพื่อนดีกว่าค่ะ”
ส้งหลิงหลิงไม่รู้ถึงความหมายที่แท้จริงของเซี่ยชีหรั่นในทันที และจากปฏิกิริยาตอบโต้โดยสัญชาตญาณต่อศัตรูหัวใจของเธอ กลับคิดว่าเธอต้องการมาเพื่อสอดแนมเธอ ว่าเธอนั้นนอนห้องเดียวกันกับเย่เชินหลินหรือไม่ เธอต้องไม่แพ้การต่อสู้นี้ ดังนั้นเธอจึงแสร้งทำเป็นเขินเล็กน้อยและตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรจ๊ะ ปกติฉันนอนกับเชินหลินอยู่แล้ว ฉันยังจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะจ๊ะ”
เธอพูดออกมาอย่างนั้น เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถตอบอะไรได้อีก
ท้ายที่สุดเธอไม่สามารถพูดออกไปตรงๆได้ ว่าคุณเย่ได้ขอให้เธอไปนอนที่ห้องของเขาในคืนนี้ด้วย ซึ่งเทียบเท่ากับการก่อให้ความรู้สึกระหว่างคู่รักกันได้
เธอคิดว่าส้งหลิงหลิงจะเป็นคนฉลาด ที่สามารถเข้าใจว่าเธอกำลังมาขอความช่วยเหลือจากเธอ
ในครั้งนี้ดูเหมือนเธอก็ไม่เข้าใจ เธอทำได้แค่ยิ้มและพูดกับเธอว่า “ดิฉันไม่ได้คิดถึงจุดนี้ไปได้อย่างไร งั้นดิฉันขอตังกลับก่อนน่ะค่ะ”
“โอเคจ๊ะ! พรุ่งนี้ตอนกลางวันเราค่อยมาคุยกันอีกนะ!”
สีหน้าของส้งหลิงหลิงเปลี่ยนไปในทันทีที่เธอออกไป ทุกอย่างต้องรอพรุ่งนี้ และเธอไม่สามารถทนรอได้ในตอนนี้
เซี่ยชีหรั่นเดินออกจากห้องโถง และเดินออกไปจากบ้านใหญ่ เธอยังกังวลอยู่ว่าอีกในไม่นานนี้ถ้าหากเย่เชินหลินเห็นว่าเธอไม่ได้ไปหา เขาก็จะโกรธและโมโหมากแน่ๆ เขาคงจะสั่งให้แม่บ้านบังคับให้เธอให้ไปหาให้จงได้เป็นแน่
ไม่ได้ ฉันทำไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องซ่อนตัวก่อนคืนนี้ แม้ว่าจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ก็เอาตัวให้รอดไปวันต่อวันก่อนก็ยังดี หลังจากคืนนี้ไปเขาอาจจะไม่มีความคิดนี้อีกแล้วก็ได้
เมื่อคิดถึงได้เช่นนี้ เซี่ยชีหรั่นเดินไปที่มุมที่มืดที่สุดของคฤหาสน์เพียงลำพัง
หลังจากที่เย่เชินหลินทำงานเสร็จเขาก็เดินกลับไปที่ห้องนอน อาบน้ำเสร็จและดูเวลามันเป็นเวลาสี่ทุมแล้ว
ในห้องนอนนั้นว่างเปล่า ผู้หญิงคนนั้นช้างกล้าไม่เบาที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา
ถ้าเธอว่านอนสอนง่ายเขาอาจปล่อยเธอไป ถ้าเธอไม่มาเช่นนี้ เท่ากับเธอกำลังท้าทายเขาจริงๆ
เธอคิดว่าเธอซ่อนไปได้ถึงไหนหรือ
เขากดปุ่มทางลัดบนโทรศัพท์ที่โต๊ะข้างเตียงเรียกพ่อบ้านทันที และพูดกับเขาเพียงสั้น ๆ ว่า “บอกห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารว่างมาให้ฉันหน่อย แล้วให้เซี่ยชีหรั่นนำมาให้ด้วยตนเอง”
“ได้ครับคุณเย่”
พ่อบ้านได้รับคำสั่งแล้วสั่งให้ฝ่ายครัวเตรียมอาหารว่างให้กับเย่เชินทันที
ในขณะที่เขากำลังรออาหารอยู่นั้น เขาก็รีบเรียกส้งหลิงหลิงมารายงานทันที
“คุณหนูส้งกระผมคิดว่าคุณเย่อาจจะไม่เพียงแค่ให้เซี่ยชีหรั่นไปส่งแค่ของว่างเท่านั้น คุณคิดดูสิว่า ทั้งห้องออกกำลังกายและในห้องหนังสือเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันแค่ช่วงสั้นๆ บางทีพวกเขาอาจจะไม่ทันได้ ….. กระผมก็แค่คาดเดาไปนะครับ คงไม่ใช่ว่าคืนนี้คุณเย่คิดจะ … ”
“ขอบคุณมาก ฉันเข้าใจล่ะ”
ส้งหลิงหลิงยุติการสนทนา และทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ว่าเซี่ยชีหรั่นได้เสนอที่จะนอนด้วยกันกับเธอในก่อนหน้านี้
โง่ เธอนี่โง่เสียจริง เธออาจรู้ว่าเย่เชินหลินกำลังให้เธอไปหาในตอนกลางคืน ดังนั้นเธอจึงต้องการซ่อนตัวจากเขา
ตอนนี้เธอควรทำอย่างไรดี
เธอเดินเข้าไปในห้องอย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่เซี่ยชีหรั่นเองก็นั่งเงียบ ๆ อยู่ที่มุมมืดๆด้านในของสวนหลังบ้าน
มีบ่อเลี้ยงปลาทองอยู่ตรงนั้น และเธอก็นั่งอยู่ข้างสระน้ำ
เธอไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนที่กำลังเดินมาดังขึ้นใกล้ ๆ
ที่นี่มันทั้งมืดและเงียบมาก และเสียงฝีเท้านั้นก็เริ่มชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆ เซี่ยชีหรั่นมองไปรอบ ๆ และรู้ทันทีว่าการนั่งอยู่ที่นี่นั้นอาจจะไม่ปลอดภัย แล้วเธอก็ลุกขึ้นและเดินกลับไป
“ชีหรั่นคุณเป็นไงบ้าง” เซี่ยชีหรั่นหันหน้ามาดูผู้ที่เดินมาหาเธอ ปรากฏว่าเป็นเจิ้งเห่าหลานชายของพ่อบ้านนั่นเอง
เมื่อเห็นว่าเป็นเขา ความเครียดของเซี่ยชีหรั่นก็สงบลงเล็กน้อย
“คุณมาทำอะไรที่นี่” เธอถามเขากลับ
“นอนไม่หลับครับ เลยออกมาเดินเล่น คุณก็ด้วยเหรอ” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า
“งั้นก็ดีเลย มานั่งคุยกันสักแปบดีมั้ย”
เซี่ยชีหรั่นเองก็ยังไม่ต้องการที่จะกลับไปในตอนนี้เพราะคิดว่ามันคงจะเร็วเกินไป และเธออาจจะถูกเรียกให้ไปเจอเย่เชินหลินได้เมื่อเธอกลับไปถึง
มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งเป็นเพื่อนอยู่ด้วย มันก็ต้องปลอดภัยกว่าอยู่คนเดียว เซ้นต์ของเธอบอกเช่นนั้น
ทั้งสองนั่งลงเคียงข้างกันบนขอบของบ่อปลาและพูดคุยกันเบา ๆ
สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 57 อยู่เป็นเพื่อนฉันได้ไหม
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด
Recommended Series
Comment
Facebook Comment