บทที่ 58 หนีไม่รอดแล้ว
ในที่สุดส้งหลิงหลิงก็คิดหาวิธีได้ และได้รับแรงบันดาลใจจากเซี่ยชีหรั่น
เธอออกจากห้องของตัวเอง ไปหาเย่เชินหลิน
เคาะประตูและได้ยินเขาพูดว่า “เข้ามา!” เธอลูกบิดประตูและเข้าไปข้างใน
เย่เชินหลินกำลังดูโทรศัพท์มือถือในมือของเขา ไม่แม้แต่จะมองไปที่ประตู และพูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ว่า “ต้องรอให้ฉันเชิญคุณก่อน คุณถึงจะสามารถมาได้”
ส้งหลิงหลิงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาพูด แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เชินหลิน ฉันเองค่ะ”
เย่เชินหลินถึงได้วางโทรศัพท์ลงบนเตียง และเงยหน้าขึ้นมองส้งหลิงหลิงพร้อมกับถามว่า “คุณมาที่นี่ทำไม”
“ดูเหมือนว่าฉันจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่างมาจากข้างนอก จู่ๆก็รู้สึกกลัวขึ้นมานะค่ะ คืนนี้คุณนอนเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมค่ะ” เธอไปที่เตียงของเขานั่งลงแล้วพูดอย่างน่าสงสาร
เย่เชินหลินมองมาที่เธอ แต่เธอดูไม่ออกว่าเขาหมายถึงอะไร ตกลงเขาจะอยู่เป็นเธอหรือไม่อยู่เป็นเพื่อนเธอกันแน่
เขาพูดเบา ๆ และใจเย็นว่า “ฉันจำได้ครั้งหนึ่งที่ส้งหลิงหลิงและพานจิ้งและผู้หญิงห้าหกคนไปบ้านผีสิงด้วยกันทุกคนต่างกรีดร้องด้วยความสยองขวัญ มีเพียงส้งหลิงหลิงมองดูอย่างไม่สะทกสะท้านแม้แต่นิดเดียว ฉันเองยังทึ่งในความกล้าหาญของผู้หญิงอย่างเธอเป็นอย่างมาก ”
ท่าทีของส้งหลิงหลิงไม่รู้สึกว่ามีอย่างแปลกๆ เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองควรจะรู้สึกดีใจดีหรือไม่ ที่เขาดูจะใส่ใจรายละเอียดเกี่ยวกับเธอมากเช่นนี้ หรือเขานั้นรู้ดีว่าเธอจงใจหาข้ออ้างเพื่อจะเข้าหาเขา
“เชินหลิน ถ้าหากคุณ … ”
ส้งหลิงหลิงกล่าวได้แค่ครึ่งหนึ่งเย่เชินหลิน ยิ้มเย็นอีกครั้งแล้วพูดว่า “ในที่สุดยังมีความเป็นผู้หญิงอยู่ รู้สึกกลัวบ้างบางครั้งบางคราวก็ดูน่ารักดี ในเมื่อกลัว เดี๋ยวฉันจะอยู่กับคุณเอง”
ดีมากเย่เชินหลิน ทำให้เธอไม่สามารถหลีกหนีคำถามต่าง ๆจากเขาได้ แต่ก็แอบสนใจเธออย่างลับๆ หลังจากนี้ไปคงไม่ต้องใช้ข้ออ้างในการเข้าหาเขาอีกแล้ว
“ขอบคุณค่ะ เชินหลิน!”
“ ไม่เป็นไร นั่งที่นี่ซักแปบ ฉันให้พ่อบ้านจัดเตรียมอาหารว่างอีกชุด จะได้กินด้วยกัน”
หลังจากเย่เชินหลินพูดเขาจบ เขาก็กดโทรศัพท์ที่หัวเตียงและสั่งว่า”พ่อบ้านเตรียมของว่างเพิ่มอีกหนึ่งสำรับ”
“ครับ คุณเย่!”
พ่อบ้านได้ไปที่ห้องนอนของคนงานแล้ว แต่เซี่ยชีหรั่นไม่ได้อยู่ที่นั่น และหลิวเสี่ยวเจียวก็ได้ผล็อยหลับไปแล้ว พ่อบ้านปลุกเธอให้ตื่นขึ้นและสอบถามเธอ แต่เธอบอกไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นไปอยู่ที่ไหน
ระหว่างทางจากบ้านใหญ่ไปที่ห้องพักของคนงาน พ่อบ้านเดินไปสองรอบแล้วก็ไม่เห็นเซี่ยชีหรั่น
เขาไม่กล้ารายงานต่อเย่เชินหลิน เพราะเกรงว่าเขาจะโทษเขาว่าทำไรไม่ได้เรื่อง
เย่เชินหลินโทรมาและบอกว่าเขาจะเพิ่มของว่างอีกหนึ่งสำรับ เขาคิดว่าคงจะเป็นส้งหลิงหลิง ที่กินด้วยกันกับเขา
มีส้งหลิงหลิงอยู่ด้วย ที่นี่เขาคงจะละเว้นเรื่องเกี่ยวกับเซี่ยชีหรั่นไปแล้วก็ได้
แม้ว่าจะหาเซี่ยชีหรั่นไม่เจอจริงๆ และหลังจากเตรียมอาหารว่างเสร็จแล้ว พ่อบ้านก็ได้ส่งมันมาด้วยตัวเอง
เย่เชินหลินเหลือบมองไปที่พ่อบ้านที่เข้ามาพร้อมกับถาดอาหารและถามเบา ๆ ว่า “ทำไมถึงเป็นคุณที่มาส่งเซี่ยชีหรั่นละ”
“เธอ … ” พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่ส้งหลิงหลิงเพื่อขอความช่วยเหลือ
ส้งหลิงหลิงยืนขึ้นหยิบถาดในมือของเขา แล้วนำไปที่เย่เชินหลิน และช่วยแก้ตัวให้กับพ่อบ้านว่า “เมื่อไม่นานมานี้สุขภาพของเธอไม่ค่อยดี ฉันเกรงว่าเธออาจจะหลับไปแล้วรึปล่าว เรามากินของว่างกันดีกว่าค่ะ เพียงแค่มาส่งอาหารว่างแค่นั้น ใครมาส่งก็เหมือนกันไม่ใช่หรือค่ะ”
เย่เชินหลินรับซุปที่ส้งหลิงหลิงยื่นส่งมาให้ และมองนิ่งกลับไปยังพ่อบ้างแลัวพูดว่า “ระบบคือระบบ เธอเป็นคนรับใช้และหน้าที่ของคนรับใช้ก็คือเรียกใช้ตอนไหนก็ต้องมาตอนนั้น ตอนนี้คุณไปเรียกเธอมาพบฉันเดี๋ยวนี้ ”
“คือว่า… คุณเย่ครับ… ”
พ่อบ้านรู้สึกลำบากใจยิ่งนัก เพื่อที่จะช่วยเขาและไม่อยากจะเจอหน้าเซี่ยชีหรั่นส้งหลิงหลิงอ้อนวอนเขาด้วยรอยยิ้มว่า
“ช่างมันเถอะเชินหลิน นี่ก็ดึกมากแล้ว ปล่อยให้เธอได้นอนเถอะค่ะ”
ใบหน้าของเย่เชินหลินดูเคร่งขรึมและตอบกลับมาว่า “เอาไหมต่อจากนี้ไปทุกเรื่องในตระกูลเย่ยกให้เป็นคนจัดการทั้งหมด แต่ระวังจะทำให้ฉันต้องกลุ้มใจ”
ส้งหลิงหลิงหัวเราะแห้งออกมาสองครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ และหันไปหาพ่อบ้านและพูดว่า “เชินหลินต้องการพบเธอ แน่นอนว่าต้องมีเหตุผล คุณรีบไปหาเธอมาพบเขาเถอะค่ะ”
“ครับ คุณเย่ กระผมจะไปตามมาให้ตอนนี้ครับ!”
หลังจากพ่อบ้านออกไปเย่เชินหลินและส้งหลิงหลิงไม่มีเรื่องไรจะพูดกันอีก แล้วค่อยๆกินอาหารว่างอย่างช้าๆ
เขารู้ดีว่าเธอต้องการซ่อนเขา เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำอะไรต่อเธอในคืนนี้ได้แล้ว แต่เขายังจำต้องเรียกเธอให้มาหา เพื่อที่จะทำให้เธอคิดว่าคืนนี้เธอจะต้องไม่รอดจากเขาไปได้ และทำให้เธอตกใจกลัวเล่น ใครใช้ให้เธอไปยุ่งเกี่ยวสนิทสนมกับเจ้านามสกุลไห่นั้นกันล่ะสมควรแล้ว!
พ่อบ้านกลับไปที่ห้องนอนของคนงานอีกรอบ แต่เขาก็ไม่เห็นเซี่ยชีหรั่น
เขาไม่กล้าทำให้เรื่องมันดูใหญ่โตจนเกินไป ดังนั้นเขาจึงโทรหาเจิ้งเห่า และขอให้เขาช่วยตามหาเธอให้เขาหน่อย
ใครจะรู้ว่าเจิ้งเห่าไม่ได้นำโทรศัพท์มือถือไปด้วย เขาทำได้เพียงเรียกฟางลี่น่ากับซุนเหมิงเหมิงให้ตื่นขึ้นมาเบาๆ
“พวกเธออย่าเอะอะไป หากมีคนถามขึ้นมาก็บอกว่านอนไม่หลับแล้วเดินเล่น เข้าใจมั้ย”
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ” ซุนเหมิงเหมิงตอบ
“เร็วเข้าสิ!”
เย่เชินหลินและส้งหลิงหลิงทานอาหารว่างเสร็จ และเซี่ยชีหรั่นก็ยังไม่ปรากฏแม่แต่เงา
แม้แต่ส้งหลิงหลิงเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจ เธอไม่ได้ไม่เคยไปที่ห้องพักคนงานมาก่อน เดินไปแค่สองสามก้าวจากบ้านหลังใหญ่เอง
ทำไมถึงได้ช้าขนาดนี้ หรือมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมาจริงๆ แต่ใช่เพราะเธอลงมือทำเองแบบนั้นก็ดีเธอผ่อนแรงเธอไปได้เยอะ
เผื่อวันหลังเธอไม่ต้องการให้เย่เชินหลินต้องคิดว่าเธอตั้งตารอที่จะให้เกิดเรื่องกับเซี่ยชีหรั่น เธอเลยทำเป็นเตือนเบา ๆ ว่า “เชินหลินทำไมน้องสาวของฉันถึงยังไม่มาอีก นี่ก็ผ่านไปนานมากแล้ว ให้ใช้ไปดูหน่อยดีมั้ยค่ะ
“ไม่ต้อง!”
เย่เชินหลินติดต่อกับพ่อบ้านอีกครั้ง และถามเขาเสียงแข็งว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงยังไม่มาอีกล่ะ”
ฉันได้ยินว่าเย่เชินหลินเริ่มไม่มีพอใจแล้ว พ่อบ้านจึงจำเป็นต้องบอกความจริง เขายังเป็นห่วงว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเซี่ยชีหรั่นขึ้นมาจริง ๆแล้ว และหากเขาไม่บอกไปเขาคงจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
“คุณเย่ครับ ยังหาไม่เจอเซี่ยชีหรั่นเลยครับ เธอไม่ได้อยู่ในห้องพักของคนงาน และบริเวณใกล้กับบ้านใหญ่ก็ไม่เจอครับ”
“ถามพนักงานดูแลความปลอดภัยที่ประตูดูก่อนว่าเธอได้ออกไปหรือไม่ ถ้าไม่ ก็ปลุกให้สาวใช้และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนมาช่วยตามหา และระวังตามหากันเงียบหน่อย อย่าทำเสียงดัง” เย่เชินหลินบัญชาการมา
ใบหน้าของส้งหลิงหลิงก็เสแสร้งอาการความกังวลขึ้นมาด้วย และพูดกับเย่เชินหลินว่า “พวกเราก็แยกย้ายช่วยกันตามหากันเถอะค่ะ เพียงแค่อย่าให้เกิดเรื่องอะไรกับเธอเลย”
“อืม!”
เย่เชินหลินอืมในลำคอครั้งหนึ่ง แล้วก็ออกไปด้วยกันกับเธอ
ทั้งสองแยกกันที่ประตูของบ้านใหญ่ คนหนึ่งไปทางทิศตะวันออก และอีกคนหนึ่งไปทางทิศตะวันตก
เจิ้งเห่าพูดว่าเซี่ยชีหรั่นไม่พูดอะไร แค่ฟังเขาพูดก็พอ
เวลาผ่านไปทุก ๆนาทีทุก ๆวินาที เซี่ยชีหรั่นคิดว่าบางทีอาจจะซ่อนตัวได้สำเร็จแล้ว
“ชีหรั่น สิ่งที่ฉันกำลังพูดถึงอยู่ก็คือ คุณลองเล่าให้ฉันฟังหน่อยเกี่ยวกับเรื่องตลกๆของคุณในตอนเด็ก” เจิ้งเห่ากล่าว
“ ได้สิค่ะ แต่ว่าเรื่องตอนที่ฉันยังเด็กๆมันไม่มีอะไรที่น่าสนใจหรอกค่ะ”
ซุนเหมิงเหมิงเดิมตามจากเสียงที่ได้ยินแว่วๆมา และได้ยินเสียงของผู้ชายเรียกชื่อของเซี่ยชีหรั่นขึ้นมาพอดี
ดูแล้ว เธอมาอยู่ในที่ลับตาคนกับผู้ชายตามลำพังที่นี่ทำให้เธอแอบรู้สึกยินดีอย่างผู้มีชัยต่อศัตรูหัวใจเธอ และยิ้มอย่างร้ายออกมา และตามเสียงนั้นไปเงียบๆโดยไม่ได้ส่งเสียงใดๆออกมา
เดินไปได้แค่ครึ่งทางซุนเหมิงเหมิงได้พบกับส้งหลิงหลิงซึ่งกำลังเดินมาทางนี้ด้วย
“คุณหนูส้ง!” เธอกระซิบออกมา
ด้วยการส่งเสียงเรียกที่เบาๆของซุนเหมิงเหมิงนั้น ทำให้ส้งหลิงหลิงอดสงสัยไม่ได้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นได้อยู่ข้างหน้าใช่หรือไม่
เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย และถามเธอเบา ๆ ว่า “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้”
ซุนเหมิงเหมิงหยุดคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วคิดว่าถ้าหากเธอไปรายงานต่อคุณเย่ แต่จะเป็นการดีกว่าถ้าหากว่าเธอจะส่งเซี่ยชีหรั่นไปให้กับศัตรูหัวใจของเธอ จากนั้นเธอก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดกระซิบข้างหูของส้งหลิงหลิงว่า เซี่ยชีหรั่นนั่งคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่ริมสระน้ำค่ะ ”
“อ่อออ!”
ส้งหลิงหลิงนั้นดีใจมาก แต่ภายนอกของเธอก็ยังทำเป็นเฉยอยู่
“คุณหนูส้งคิดว่าฉันควรไปบอกคุณเย่ดี หรือปล่อยให้คุณเป็นคนจัดการดีค่ะ” ซุนเหมิงเหมิงถาม
ส้งหลิงหลิงถอนหายใจอย่างนุ่มนวลและพูดว่า “เธอรู้ไหมว่าเธอนั้นคือน้องสาวของฉันและฉันรู้สึกอับอายกับเรื่องแบบนี้มาก แต่ฉันก็ไม่สามารถปกป้องเธอจากเรื่องนี้ได้ เธอไปบอกเรื่องนี้กับคุณเย่เถอะ และคิดเสียว่าไม่เคยบอกอะไรฉันก็แล้วกัน ”
“ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะ คุณหนูส้ง”
ซุนเหมิงเหมิงฉลาดกว่าฟางลี่น่าและจ้าวเทียนอั้ย เธอเดาถูกว่าส้งหลิงหลิงไม่ได้ปฏิบัติต่อเซี่ยชีหรั่นในฐานะน้องสาวเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างที่เห็นเป็นแค่การแสดงให้ทุกคนดูเฉยๆก็แค่นั้น
เกิดอะไรขึ้นกับเธอในคืนนี้เนี่ย เธอรู้สึกโชคดีมากเหลือเกิน หนึ่งคือจับเซี่ยชีหรั่นได้ และสองคือได้หน้ากับว่าที่นายหญิงใหญ่ในอนาคต
หลังจากนั้นซุนเหมิงเหมิงเดินไปพร้อมกับก้าวที่รวดเร็วส้งหลิงหลิงเดินไปอีกไม่กี่ก้าวเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นกำลังพูดคุยกับผู้ชายคนอื่นจริงๆหรือไม่ แล้วเธอก็ได้เดินไปอีกทาง
เย่เชินหลินหน้านิ่ง แล้วค่อยเดินช้า ๆราวกับว่ากำลังเดินเล่น
เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเซี่ยชีหรั่น เขาคิดว่าเธอคงจะกลัวที่จะสูญเสียพรหมจรรย์ของเธอให้เขา และเธอจึงต้องหลบซ่อนตัวเช่นนี้
แน่นอน แต่ยังมีอีกอย่างที่เป็นไปได้ … ฉันหวังว่าจะเป็นครั้งแรกของเธอ
เมื่อซุนเหมิงเหมิงกำลังเดินไปหาเย่เชินหลิน เขาก็พบกับพ่อบ้านอีกครั้งระหว่างทาง
“ เธอหาเจอหรือยัง” พ่อบ้านถาม
“ฉันหาพบแล้วค่ะ และฉันกำลังจะไปรายงานให้คุณเย่ทราบว่าเซี่ยชีหรั่นอยู่ที่ข้างสระน้ำพร้อมกับชายคนหนึ่ง … โอ้ย ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเธอกำลังทำอะไรกันอยู่”
“ฉันเข้าใจแล้ว เธอกลับไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะบอกกับคุณเย่เอง”
พ่อบ้านกลัวว่าตนเองจะต้องรับผิดชอบ แต่นี่เซี่ยชีหรั่นได้หนีไปนัดพบกับชายอื่นด้วยตัวของเธอเอง และคงไม่สามารถโทษเขาได้แล้วสิน่ะ
เขารีบเร่งฝีเท้าเดินไปหาเย่เชินหลิน เพื่อช่วยชีวิตของเขาเอง
เย่เชินหลินเดินมาจากอีกทางและมุ่งหน้าไปยังบ่อปลาตรงมุมลับนั้นพอดี พ่อบ้านตามเขามาทันแล้วรายงานเขาว่า “คุณเย่ครับ เจอตัวเซี่ยชีหรั่นแล้วครับและเธออยู่ตรงข้างบ่อปลาครับ”
“คนเดียว” เย่เชินหลินถาม
“ไม่ครับคุณเย่ เธออยู่กับผู้ชายอีกคน กระผมเคยพูดแล้วว่าเซี่ยชีหรั่นคนนี้ดูกิริยาไม่ค่อยนิ่งสักเท่าไหร่ และยิ่งนับวันก็ยิ่งดูมากเกินไปแล้ว”
ในที่มืดเช่นนี้พ่อบ้านไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่ดูเศร้าหมองของเย่เชินได้ แต่เขาเดาได้ว่าสีหน้าของเขาคงจะต้องดูไม่ค่อยดีแน่นอน
“โอเค ฉันเข้าใจแล้วอย่าเสียงดัง ฉันจะลองเดินไปดู”
เมื่อเย่เชินหลินเข้าใกล้สระน้ำ เขาได้ยินเพียงแค่เสียงของเซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นว่า “มันดึกเกินไปแล้ว พวกเรากลับกันดีกว่าค่ะ”
เจิ้งเห่าตอบว่า “ไปกันเถอะครับ หลังจากนี้ถ้าหากคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร คุณสามารถมาหาฉันได้เสมอ”
เย่เชินหลินได้ยินทั้งสองประโยคนี้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าเซี่ยชีหรั่นไม่เพียงแค่กลัวที่จะสูญเสียร่างกายให้เขาถึงได้หลบซ่อนตัว แต่น่าจะเป็นไปได้ในประเด็นที่สอง
ในขณะที่เขากำลังจะไปไกลมากกว่านั้น ส้งหลิงหลิงซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขาได้คำนวณเวลาดีแล้วและถามขึ้นเสียงดังว่า “เชินหลินข้างหน้านั่นใช่คุณหรือเปล่า คุณเจอน้องชีหรั่นหรือยังค่ะ?
สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 58 หนีไม่รอดแล้ว
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด
Recommended Series
Comment
Facebook Comment