บทที่ 102 ผจญศึกฉลาม
ถึงแม้ฉู่เหินจะไม่สนใจเรื่องศึกชิงอำนาจในมหาสมุทร แต่เขาก็รู้ดีว่าถ้าสงครามอุบัติขึ้นในท้องทะเลจริง ๆ ละก็ นั่นก็จะทำให้ชายหนุ่มลงมาหาสาหร่ายได้ยากขึ้น เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องช่วยเผ่าเงือกเพื่อตัวเขาเอง ยังไงเสียการสร้างมิตรย่อมดีกว่าสร้างศัตรู
“ผู้อาวุโสครับ ผมจะฉีดเซรั่มให้อีก แต่ถ้ามันมากเกินไป มันจะส่งผลร้ายกับตัวท่านเองนะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น นางเงือกก็พยักหน้าและขอบคุณฉู่เหิน
หลังจากฉีดเซรั่มเข้าไปในร่างกายของนางเงือกอีกครั้ง ฉู่เหินรับรู้ได้ทันทีว่านางเงือกดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นผิดหูผิดตา ฉู่เหินมั่นใจว่าเซรั่มที่อยู่ในตัวนางเงือกตอนนี้น่าจะช่วยขับพิษในร่างกายของนางออกไปได้ภายในครึ่งชั่วโมง ฉู่เหินยังคอยระแวดระวังภัยรอบตัวตอนเขาออกมา ขาก็รู้สึกว่าควรทำอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไว้ก่อน
แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้ลงมือทำอะไร เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนมาจากนอกวัง ฉู่เหินเริ่มรู้สึกหวั่นใจเมื่อได้ยินเสียงนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเผ่าฉลามพิษจะมาโจมตีเร็วถึงเพียงนี้ ดูท่าที่แล้ว เขาคงต้องเข้าร่วมอย่างไม่มีทางเลือก
ตอนแรกฉู่เหินตั้งใจเอาไว้ว่าจะต่อสู้เท่าที่จำเป็น และจะหนีหากเขาไม่มีทางชนะ แต่เมื่อชายหนุ่มออกมาแล้ว เขารู้ว่างานนี้เขาคงต้องติดร่างแหไปด้วยแน่นอน เพราะนอกวังของเผ่าเงือกตอนนี้รายล้อมไปด้วยฉลามพิษมากมาย
พวกมันแต่ละตัวมีความยาว 2-3 เมตร ตัวที่ว่ายอยู่ด้านบนน่าจะยาวกว่า 10 เมตร ฉู่เหินไม่รู้ว่ามันตัวใหญ่ขนาดนั้นได้อย่างไร แต่เพียงแค่มองชายหนุ่มก็รู้สึกแล้วว่าพละกำลังของพวกมันจะต้องมากกว่าฉู่เหินแน่นอน
เขาอาจถูกฉลามพิษมารุมล้อมมากมายเพราะเขามีรูปร่างหน้าตาคล้ายนางเงือก ยังไม่ทันที่ฉู่เหินจะได้พูดอะไรออกไป จู่ ๆ พวกฉลามพิษก็เริ่มโจมตี
ฉลามพิษยักษ์มากมายพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาตัวแล้วตัวเล่าด้วยความเร็วสูงสุด มันเอาปากแหลม ๆ ของมันพุ่งตรงมาหาฉู่เหินอย่างไม่ลังเล
พวกมันนี้มีปากแหลมไม่ต่างจากดาบอันแสนคม ถ้าหากฉู่เหินหนีไม่พ้นและถูกปากคมๆ นี้ทิ่มแทงเข้าไปละก็ เขาคงได้ตายแน่ ๆ
เมื่อเห็นฉลามพิษเป็นสิบๆ ตัวพุ่งมาแบบนี้ ชายหนุ่มก็รีบวิ่งลนลานโบกไม้โบกมือเพื่อนำเสี่ยวหงออกมา ถึงแม้ความสามารถในการต่อสู้ของมันจะต่ำมาก แต่ความสามารถในการร่ายมนตร์ของมันก็พัฒนาขึ้นมากแล้ว และเมื่อเจ้ากระต่ายตัวน้อยเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า มันจึงเริ่มร่ายมนตร์คาถาทีละอัน ในขณะที่มันเริ่มร่ายมนตร์ ศัตรูก็ว่ายเข้ามาใกล้แล้วเช่นกัน
“เสี่ยวหง สาปเจ้าฉลามปากยาวพวกนี้เลย” เมื่อได้ยินคำสั่งของฉู่เหิน เสี่ยวหงก็เริ่มเปล่งเสียงออกมา แม้คนอื่นจะไม่รู้ว่ามันพูดอะไร หากแต่ฉู่เหินเข้าใจดี และเพราะเขาเข้าใจดีนี่แหละ เขาถึงพูดไม่ออก
“ฮ่าฮ่า ในที่สุดก็ถึงคราวที่ฉันจะได้สำแดงอิทธิฤทธิ์แล้ว เห็นฉันสาปพวกแกรึยัง มาเลย แกกำลังโดนกระต่ายหายนะสาป!” เมื่อสิ้นสุดเสียงของกระต่ายหายนะ เสี่ยวหงก็สาปฉลามทุกตัวที่อยู่ตรงหน้า มันสามารถสาปทุกอย่างที่มันต้องการได้ เสี่ยวหงมองกลุ่มฉลามพิษที่อยู่ตรงหน้า หัวเราะออกมาแล้วสาปแช่งต่อไป
ฉลามพิษที่อยู่ตรงข้ามต้องคำสาปในชั่วพริบตา พวกมันตรงเข้ามาจู่โจม แต่เพราะคำสาปของเสี่ยวหง นั่นจึงทำให้มันลื่นหรือไม่ก็ชนกันเอง เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นก็ทำให้เสี่ยวหงรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก
ฉู่เหินเอง เขาก็รู้สึกดีใจอยู่ลึก ๆ ถึงแม้เสี่ยวหงจะไม่มีพลังในการต่อสู้ แต่ฤทธิ์การสาปแช่งของมันก็ร้ายกาจมากทีเดียว ถ้ามีเสี่ยวหงช่วยในช่วงออกรบ มันจะต้องช่วยได้เยอะมากทีเดียว
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉู่เหินจึงรีบสั่งให้ฉู่เฟิงปล่อยพลังปราณออกมา ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉลามพิษบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน เสี่ยวหงเองที่ติดเล่นก็ยืนหมุนอยู่บนไหล่ของฉู่เหิน แต่พอหยุดหมุน เจ้ากระต่ายก็เห็นว่ามีศัตรูมากมายยืนอยู่ข้างหลัง มันจึงตระเตรียมจะสาปใส่ฝ่ายนางเงือก โชคดีที่ฉู่เหินสังเกตเห็นก่อน จึงห้ามมันไว้ทัน
“เสี่ยวหง นางเงือกเป็นพวกเดียวกับเรา อย่าไปสาปเขา” ถึงแม้ฉู่เหินจะตะโกนห้ามไว้ทัน แต่ก็ฉิวเฉียดมาก ขืนช้าอีกนิดเดียว นางเงือกต้องโดนสาปแน่ๆ
เสี่ยวหงเห็นว่าฉู่เหินโกรธจึงรีบตั้งสติ แลบลิ้นออกมาแล้วรีบขอโทษฉู่เหิน “เข้าใจผิดเอง ฉันเข้าใจผิด”
ฉู่เหินโกรธมาก เขารู้สึกว่าเจ้ากระต่ายตัวนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย โชคดีที่มีแต่ฉลามที่โดนสาป แต่ถึงจะใช้พลังของนางเงือกต้านฉลามไว้ แต่นั่นก็คงถ่วงเวลาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ฉู่เหินกัดฟันกรอดและตัดสินใจใช้การวางกับดักเพื่อถ่วงเวลาศัตรู ก่อนที่เขาจะสั่งให้กระต่ายสาปต่อ แต่ต้องดูให้แน่ใจ อย่าสับสนอีก
เมื่อได้ยินฉู่เหินบอก เจ้ากระต่ายน้อยก็ตัวพอง มันรีบพยักหน้าหงึก ๆ และเอาอุ้งเท้าตบอกเพื่อบอกว่า เรื่องผิดพลาดนั้นจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่เมื่อฉู่เหินเอาพัดออกมาเพื่อเตรียมออกไปสู้ เจ้ากระต่ายน้อยก็สาปฉลามพิษและทำให้มันว่ายตามกระต่ายไป
ฉู่เหินหมดคำบรรยายกับเจ้ากระต่ายน้อย แต่เขาก็รู้ว่านี่ยังไม่ใช่ว่าจะต่อว่าอะไรได้ เขาปล่อยอาวุธออกไปจากมือและมองมันพุ่งไปดั่งดาบแสนคม
“สังหาร”
เมื่อฉู่เหินออกคำสั่ง ดาบแสนคมที่อยู่ในพัดก็โผล่ออกมา มันพุ่งเข้าหาฉลามพิษที่กำลังว่ายเข้ามาทันที มันไม่ได้เป็นเพียงพัดธรรมดา แต่มันมีดาบติดปลายและไม่ใช่ปลายทื่อ ๆ เสียด้วย
ฉลามดุร้ายที่กำลังว่ายตรงมาหาฉู่เหิน แววตาของมันแฝงความบ้าคลั่งจากความกระหายเลือด เจ้าฉลามจ้องเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับวางแผนกะจะใช้ปลายปากแทงทะลุหัวใจ เมื่อคิดดังนั้นมันเร่งความเร็วเข้ามาหาฉู่เหินอย่างเต็มขั้น แต่แล้วด้วยความซวยจากกระต่ายหายนะก็มาถึง จู่ ๆ ก็มีสาหร่ายโผล่ขึ้นมาพันหางมันเสียอย่างนั้น
ฉู่เหินรีบกระโดดไปข้างตัวมันอย่างไม่รีรอ ก่อนที่จะสะบัดพัดในมือลงไปบนตัวมัน เจ้าฉลามตัวขาดครึ่งทันทีด้วยน้ำมือฉู่เหิน ณ วินาทีที่เขาฆ่าฉลาม ฉู่เหินรู้สึกราวกับตัวเองเป็นพระเจ้า เพราะคงมีจอมยุทธ์เก่ง ๆ เท่านั้นที่สามารถฆ่าฉลามพิษได้
“ฉันไม่นึกเลยว่าคำสาปของไอ้แสบจะร้ายแรงขนาดนี้เลย มันทำให้ศัตรูโชคร้ายขณะกำลังต่อสู้ นี่มันเจ๋งสุด ๆ ไปเลยแฮะ” ฉู่เหินกล่าวพร้อมหัวเราะ นางเงือกที่กำลังเข่นฆ่าศัตรูถึงกับต้องมองหน้ากัน พวกเขารู้สึกโล่งใจมากที่เห็นฉู่เหินต่อสู้ได้อย่างเก่งกาจ
ตอนนี้สนามรบดูน่าขันพิกล หัวหน้าฉลามพิษกำลังสู้รบกับเหล่านางเงือก แต่ระหว่างที่มันกำลังต่อสู้นั้น มันก็อยู่ในท่าทีสับสนวุ่นวายจากฤทธิ์ของคำสาป เมื่อเห็นดังนั้นพวกนางเงือกเหวี่ยงค้อนในมือไปด้านหลัง ก่อนจะฟาดเข้าไปเต็มแรงที่หัวของฉลาม