บทที่ 103 ราชาฉลามพิษผู้โชคร้าย
ณ ตอนนี้ ฉลามรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย หลังจากส่ายหัวไปมา เมื่อเห็นแบบนั้นนางเงือกแสนสวยก็เตรียมเข้าไปซ้ำอีกรอบในทันที เมื่อสบโอกาสแบบนี้เป็นใครก็ต้องคว้าไว้ทั้งนั้นแหละ
นางเงือกรีบฟาดหางไปที่ท้องของฉลามตัวนั้น ถ้านางเงือกฟาดเข้าไปเต็มแรง เจ้าฉลามพิษต้องตัวขาดสองท่อนเป็นแน่แท้ แต่พอนางเงือกเตรียมสะบัดลงไปฟัน จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนร่างกายชักกระตุกอย่างแรง ซึ่งนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าฉลามเอาหางฟาดนางเงือกอย่างแรง จนตัวของเธอฟาดลงกับพื้นอย่างจัง
ตอนนี้ ฉลามพิษที่อยู่ตรงข้ามนางเงือกฟื้นคืนสติแล้ว มันยิ้มเยาะ ก่อนจะหันปากแหลม ๆ มาที่นางเงือก ตอนนี้ทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก นางเงือกไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย ขณะที่เจ้าฉลามกำลังเตรียมจะเอาปากแทงนางเงือก จู่ ๆ น้ำอันเงียบสงบที่ใต้ท้องทะเลก็สั่นไหว นางเงือกที่นอนอยู่บนพื้นได้อาศัยจังหวะนั้นรีบว่ายไปหลบด้านข้างในเวลาเดียวกันกับที่ฉลามพุ่งเข้ามาทำร้าย
ผลที่ตามมาก็คือ ปากแหลม ๆ ของฉลามกระแทกเข้ากับหินก้อนใหญ่อย่างจังจนมันต้องร้องออกมาเสียงหลง และได้แต่หยุดนิ่งด้วยความมึนงง มันมองอาวุธเดียวที่มันมี ปากของมันตอนนี้ได้หักลงแล้วจากการกระแทกก่อนหน้านี้
อุบัติเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นได้ในการต่อสู้ทุกครั้ง ไม่ใช่แค่กับฉลามเท่านั้น หากแต่สามารถเกิดขึ้นได้กับนางเงือกเช่นกัน
ฉู่เหินรีบฉวยโอกาสนี้เพื่อเตรียมการตั้งรับ เขาเห็นพลังของนางเงือกแล้ว เขารู้ว่าพวกนางคงต้านทานไว้ได้อีกไม่นาน เขาจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่ตอนนี้ชายหนุ่มมีทรัพยากรในมือจำกัด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะป้องกันการโจมตีจากพวกฉลามพิษได้หมด ฉู่เหินต้องเรียงกับดักเอาไว้ให้พร้อมที่สุด เพื่อที่พวกนางเงือกจะได้มีเวลามากขึ้น ซึ่งจะพร้อมเมื่อไหร่นั้น ก็คงจะมีแต่เขาคนเดียวที่รู้
ซึ่งตัวฉู่เหินเอง เขาก็รู้ดีเช่นกันว่านี่ไม่ใช่ทางออกของปัญหา เขาต้องยอมให้ฉลามว่ายหนีไปก่อน แล้วค่อยกลับไปจู่โจมเมื่อเขาพร้อมอีกที ข้างหน้าจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน
เจ้ากระต่ายแดงเสี่ยวหงยังคงกระโดดอยู่รอบตัวฉู่เหินเป็นพัก ๆ ในเวลาไม่นาน ฉลามเกือบทุกตัวต้องคำสาปของมัน ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ากระต่ายน้อย เขาคิดว่านางเงือกก็คงถูกรุกรานไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น ฉู่เหินก็เห็นว่าฝ่ายนางเงือกก็บาดเจ็บไม่น้อยเลย
ในเวลาไม่ถึง 10 นาที นางเงือกเกือบทุกตัวได้รับบาดเจ็บ นี่คือเหตุผลที่มันต้องจับราชาฉลามเอาไว้ ถึงแม้ฉู่เหินจะแรงไม่เยอะเท่าราชาฉลาม หากแต่ฉู่เหินเองก็แข็งแรงราวกับเหล็กกล้า ชายหนุ่มไม่เกรงกลัวการต่อสู้สักนิด ด้วยทักษะของฉู่เหินที่มีเป็นสิบ ๆ อย่าง ต่อให้ต้องสู้กับแบบเอาเป็นเอาตาย อย่างน้อยฉู่เหินก็มั่นใจ เขาน่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักได้อย่างแน่นอน
สำหรับฉู่เหินแล้ว เจ้าฉลามพิษพวกนี้ถือเป็นความท้าทายไม่ใช่น้อย ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้เขาอยู่ด้วย เหล่านางเงือกก็คงถูกฆ่าตายหมดไปนานแล้ว อันที่จริงเขาเองก็อยากหนีเช่นกัน เพราะพวกฉลามนี่ก็เก่งไม่เบาเลยทีเดียว แถมด้วยจำนวนที่เยอะของมัน ยังไม่ทันที่เขาจะได้พักหายใจจากการต่อสู้ครั้งก่อนหน้า พวกมันอีกตัวก็เข้ามาโจมตีอีกรอบเสียแล้ว
เจ้าฉลามพิษรู้ดีว่ายังไงมันก็ฆ่าฉู่เหินไม่ได้ มันจึงไม่อยากจะต่อสู้ด้วยอีกแล้ว ดูเหมือนว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสู้กับฉู่เหิน ไอ้หมอนี่มันกระดูกเหล็กชัด ๆ แม้แต่ฉลามที่มองว่าตัวเองเป็นราชาก็ยังหืดขึ้นคอ
แต่มันเองก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่านางเงือกเฒ่าน่าจะบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน เพราะมันต่อสู้มาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังไม่เห็นเงือกเฒ่าโผล่มาเสียที หรือไม่อย่างนั้น เงือกเฒ่าก็คงหนีไปนานแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ราชาฉลามหัวเสียมากก็คือความซวยที่เกินขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันรู้สึกว่าวันนี้โชคร้ายเหลือเกิน เมื่อไหร่ก็ตามที่มันสั่งให้ลูกสมุนไปจู่โจม มันก็มักจะโดนอีกฝ่ายทำร้าย เวลามันออกโรงเอง ก็มักจะพลาดจังหวะเหมาะ ๆ และโดนทำร้ายกลับมาเป็นสองเท่า วันนี้มันช่างโชคร้ายจริง ๆ
เมื่อทั้งสองประจันหน้ากัน ฉู่เหินก็เงยหน้ามองราชาฉลามแล้วเตะมัน เจ้าฉลามเซไปข้างหลังเล็กน้อย ก่อนที่มันจะเอาครีบแหลม ๆ ที่เอวพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ด้วยความเร็วระดับนี้ ดูเหมือนว่าฉู่เหินจะหลบไม่พ้นเสียแล้ว
ฉู่เหินได้แต่จ้อมมองครีบแหลม ๆ พุ่งมาที่ตา ซึ่งเป็นที่เปราะบางที่สุดในร่างกายของเขา ถึงผิวของฉู่เหินจะทนทาน แต่ตาของเขาก็ยังเหมือนคนปกติ ถ้าเขาถูกแทงเข้าที่ตา ก็คงจะต้องเป็นคนตาบอด ต่อให้เขาไม่ตาย แต่ความสามารถในการต่อสู้ของฉู่เหินคงจะลดลงไปมากทีเดียว
ฉู่เหินที่ไม่สามารถหลบที่ไหนได้อีก แต่เหมือนว่าเขาจะคิดอะไรได้ เพราะจู่ ๆ ขาของชายหนุ่มก็ลอยขึ้นจากพื้น ซึ่งนั่นก็ทำให้ลำตัวของเขากระแทกลงบนพื้นเข้าอย่างจัง ถึงแม้ราชาฉลามพิษจะโจมตีอย่างรวดเร็ว แต่ฉู่เหินก็ยังสามารถตั้งสติ และหาทางแก้ได้ภายในเสี้ยววินาที
ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันไม่ยากเลยที่ร่างกายของเขาจะหยุดเคลื่อนไหว แต่ ณ วินาทีที่ร่างกายของเขากำลังจะหยุด เจ้าฉลามพิษก็รู้สึกถึงแรงกระแทก มันไม่รู้ว่ามีดเหล็กโผล่มาจากไหน รู้ตัวอีกทีมีดก็พุ่งเข้ามาที่ตัวของมัน ถ้ามันไม่ว่ายหนี มันก็ต้องโดนมีดเหล็กนี้แทงแน่นอน
เมื่อเห็นแบบนั้นเจ้าราชาฉลามพิษจึงรีบพุ่งตัวไปข้างหน้า แต่ในเวลานี้เบื้องหน้าของมันคือดิน ฉลามพิษไม่ได้กลัวอะไรมากนัก เพราะปกติแล้วดินใต้น้ำจะนุ่ม ถึงมันจะกระแทกดินอย่างแรง มันก็คงไม่บาดเจ็บอะไรมาก ซึ่งดินแถวนี้ก็ค่อนข้างนุ่มอยู่แล้ว
แต่แล้วเกิดเสียงดังขึ้นสองครั้ง แล้วทั้งสองฝ่ายก็ต้องรู้สึกแปลกใจเมื่อเจ้าฉลามดึงปากออกมาจากดิน ปากของมันตอนนี้มีรอยร้าวหลายแห่ง ความเจ็บปวด ทำให้ราชาฉลามพิษถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา
“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย ทำไมถึงชั่วช้าแบบนี้ คนบ้าที่ไหนเอาหินมาฝังไว้ใต้ดิน มันเจ็บนะ” ทั้งคนทั้งเงือกต่างก็สงสารราชาฉลามเมื่อเห็นหินที่โผล่ออกมาจากพื้นที่ฉลามพิษกระแทกหินเข้าอย่างจัง
เจ้าฉลามตัวนี้โชคร้ายอย่างมาก อันที่จริงแล้วแค่พยายามจะเลี่ยงมีดที่กำลังพุ่งเข้ามาปักหัว หากแต่ไม่นึกเลยว่า มันจะกระแทกเข้ากับหินที่ฝังอยู่ใต้ดิน ตอนนี้ตัวของมันเซไปข้างหลัง ซึ่งนั่นทำให้มีดปักเข้าที่หางของมัน เมื่อเห็นสีหน้าอันทุกข์ทรมานของราชาฉลาม ทั้งคนทั้งเงือกก็อยากจะหัวเราะออกมา เพียงแต่พวกเขาเองก็หัวเราะไม่ออก จึงได้แต่นึกสงสารให้ความโชคร้ายของพวกมัน
ทุกคนที่ว่านี้ไม่รวมถึงฉู่เหิน ฉู่เหินที่เห็นเจ้าฉลามยักษ์กระแทกกับพื้น เขาก็รีบปรี่เข้าไปชกมัน ฉลามที่กำลังตกตะลึงได้แต่หยุดนิ่ง มันไม่ทันไม่ตอบโต้อะไร เมื่อเห็นแบบนั้นฉู่เหินจึงเข้าไปต่อยรัว ๆ
แต่เขาก็ทำได้เพียงเท่านี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่ามัน ถ้าไม่ใช่เพราะมันต้องคำสาปดวงซวยของกระต่ายหายนะ ฉู่เหินก็คงเป็นฝ่ายที่กำลังเจ็บตัวอยู่ในตอนนี้แน่ นี่คือช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่าย
ถึงแม้สถานการณ์จะเป็นไปในเชิงบวก แต่พวกนางเงือกเองก็บาดเจ็บและประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็ลดลงเรื่อย ๆ ฉู่เหินแอบมองค้อนเสี่ยวหงเพราะมันคือตัวการที่ทำให้เรื่องกลับตาลปัตร
ดูเหมือนเจ้ากระต่ายน้อยจะรับรู้ถึงสายตาพิฆาตของฉู่เหิน มันทำตาโตตีเนียนแบบไม่รู้ไม่ชี้ ฉู่เหินรู้สึกโกรธมันอยู่ไม่น้อย เจ้ากระต่ายนี้ปราดเปรียวขึ้นทุกวัน ซึ่งเขาเองก็เดาไม่ออกเลยว่าในอนาคตคนข้างหน้าเจ้ากระต่ายตัวน้อยนี่จะเป็นยังไงต่อไป