บทที่ 106 บรรพบุรุษของเงือก
น้ำทะเลที่สงบนิ่ง จู่ ๆ ก็เกิดการสั่นไหว แนวปะการังในที่ไกลๆ พากันระเบิดออกอย่างกะทันหัน ส่งผลให้สาหร่ายและแนวปะการังในท้องทะเลเกิดการทลายลงมา
ในตอนนี้ น้ำทะเลที่สงบสุขราวกับถูกท่อนไม้ขนาดใหญ่กระแทกน้ำ มันทำให้ฉู่เฟิงที่กำลังสู้กับราชาฉลามพิษต้องรีบว่ายน้ำไปอีกทาง เพราะเขารู้สึกได้ว่า ต่อให้ตัวเองอยู่ตรงนี้ ก็คงหนีไม่พ้นอันตรายแน่
ทันใดนั้นใต้น้ำก็เกิดสายฟ้าขึ้น มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติในใต้น้ำ ทุกครั้งที่เกิดสายฟ้าฟาดนั้น สายน้ำก็ราวกับจะพัดพาไปตามนั้น คลื่นนั้นดูผันผวนไม่มีระเบียบ ต้นไม้และก้อนหินรอบ ๆ ดูจะสั่นไหว และถูกทำลายไปทีละอัน
แสงสีม่วงและแดงสาดไปมา จากนั้นก็มีสีเงินขาว สีเทา และสีเขียวอ่อนตามมา ทันใดนั้นเหนือหัวของฉลามพิษมีสีหลากสีมารวมตัวกัน ถึงจะดูสวยงาม แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกคุกคาม
ทันทีที่สีสันเหล่านั้นปรากฏขึ้นมา มันค่อย ๆ ตกลงมา แล้วกระแทกใส่ตัวฉลามที่อยู่ตรงหน้าฉู่เหินตรง ๆ
โดยไร้เสียงกึกก้องใด ๆ ตอนที่แสงทั้งหมดนั้นหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไปด้วย ซึ่งนั่นก็รวมถึงฉลามพวกนั้นด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้มีพวกมันอยู่ตรงหน้าของฉู่เหินเกือบ ๆ ร้อยตัว แต่ตอนนี้มันได้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงบางตัวที่อยู่ด้านหลังที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ส่วนตัวอื่น ๆ ก็มองมาทางฉู่เหินราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาด
เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเหมือนยาวนาน แต่ที่จริงแล้วมันเกิดขึ้นในชั่วพริบตา เมื่อเหตุการณ์สงบลง ฉู่เหินก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตนเอง เขาไม่ได้คาดหวังว่าเหตุการณ์มันจะรุนแรงขนาดนี้ น่าเสียดายที่ว่าเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นอีกรอบ
ชายหนุ่มสงสัยมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว การโจมตีแบบนี้มันต้องมีขีดจำกัดบ้างซิ ตอนนี้จากการที่เขาใช้มันครั้งแรก ฉู่เหินถึงได้เข้าใจ การโจมตีแบบนี้ใน 1 วันสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว และต้องใช้ตอนที่เขามีพลังเต็มเปี่ยมเท่านั้น มิเช่นนั้นอย่าแม้แต่จะคิดเลย
ฉู่เหินตอนนี้อยู่ในสภาพที่อ่อนแรงมาก ถ้าพวกฉลามใช้โอกาสตอนนี้โจมตีเข้ามา เขาต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของเขาสามารถขัดขวางพวกฉลามไว้ได้อย่างสมบูรณ์ พวกฝูงฉลามต่างตะลึงงัน สายตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ฉู่เหินจับพัดในมือแน่น ชายหนุ่มมองไปทางด้านราชาฉลามพิษด้วยท่าทางท้าทาย ตอนนี้ราชาฉลามพิษเองก็มีท่าทีหวาดกลัว ตอนแรกมันตั้งท่าจะหนีไปแล้ว แต่โชคดีที่มันสามารถควบคุมความกลัวของมันเอาไว้ได้
จากการจู่โจมอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ ตอนนี้ตัวของฉู่เหินนั้นล้าไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามการถอนตัวก็ไม่สามารถทำได้แล้วเช่นกัน เพราะในตอนนี้พวกฉลามพิษต่างก็พากันจ้องมาทางฉู่เหิน
หลังจากนั้นฉู่เหินก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาถอนหายใจอยู่นานสองนาน โชคดีที่ตอนนี้เจ้าตัวใหญ่ยังไม่ได้โจมตีสวนมา ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ได้ยืนชิลแบบนี้แน่ ๆ ตอนนี้แผนการทุกอย่างเป็นไปตามการคาดเดาของเขา เพียงแค่ถ่วงเวลาไว้อีกนิด อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น อีกเดี๋ยวแม่เฒ่า หรือก็คือท่านบรรพบุรุษของเหล่าเงือกก็จะออกมาแล้ว
ถ้าเงือกชราออกมาจริง มันจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ตอนนี้สนามรบตกอยู่ในสภาพที่แปลกประหลาดมาก รอบข้างตกอยู่ในความเงียบ ท่าทีเหมือนกำลังรอดูอะไรบางอย่างอยู่?
เวลาผ่านไป ในที่สุดฉลามพิษก็หมดความอดทน มันพุ่งตัวเข้ามาสู้ต่อเพื่อที่จะแย่งชิงพัด แม้ว่าตอนนี้เจ้าฉลามจะเจ็บก็ตาม แต่ตราบใดที่มันแย่งสมบัติที่อยู่ในมือของฉู่เหินมาได้ มันก็จะถูกเรียกขานว่าราชันย์แห่งมหาสมุทรแห่งนี้อย่างแน่นอน
หลังจากที่ครุ่นคิด ราชาฉลามพิษก็ไม่ลังเลอีกต่อไป มันเข้าไปโจมตีฉู่เฟิงหนึ่งครั้งแล้วพุ่งเข้าหาฉู่เหินอย่างรวดเร็ว ถึงแม้มันจะกลัวพัดที่อยู่ในมือฉู่เหิน แต่การโจมตีรุนแรงแบบนั้น ฉู่เหินไม่มีทางใช้ติดต่อกันได้แน่ เพราะเหตุนี้ มันถึงกล้าโจมตี
หากฉู่เหินสามารถใช้การโจมตีแบบเมื่อครู่นี้ได้อีก ถ้าอย่างนั้นมันก็กำลังเผชิญหน้ากับความตายอยู่ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสมบัติล้ำค่า มันก็เลือกที่จะเสี่ยง
เมื่อเห็นราชาฉลามพิษเข้ามาอย่างรวดเร็ว ฉู่เหินจึงหรี่ตาลงอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ในตอนแรกเขาจะสั่งให้ฉู่เฟิงมาป้องกัน แต่เขาก็รู้ดีว่า ด้วยพลังของฉู่เฟิงในตอนนี้ การที่หุ่นเชิดของเขาจะไล่ตามราชาฉลามพิษให้ทันคงยาก
แต่ถ้าหากให้ราชาฉลามพิษเข้ามาใกล้ ตัวเขาเองก็ต้องตกอยู่ในอันตราย แม้จะเห็นว่าฉู่เหินยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับ หากแต่นี่เป็นเพียงการแสดงออกว่าตัวเขานั้นไม่ได้ร้อนรนอะไรเท่านั้น แท้จริงแล้วตอนนี้ในใจชายหนุ่มเต้นรัวอย่างมาก ฉู่เหินรู้ว่าถ้าให้มันเข้ามาถึงตัว วันนี้คงได้ตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ตอนนี้ฉลามพิษเข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว แต่ฉู่เหินนั้นไม่มีท่าทางหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับกัน ในตอนนี้ชายหนุ่มได้มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาแทนที่ ทันใดนั้นเขาโบกพัดในมือ พร้อมกับพลังแห่งดวงดาวที่ถูกรวบรวมอีกครั้ง แสงไฟกะพริบขึ้นอยู่ที่พัดในชั่วพริบตา ภาพที่เห็น มันทำให้ราชาฉลามพิษนั้นสั่นกลัว มันกลัวเสียจนหยุดการเคลื่อนไหวในทันที
เมื่อเห็นว่าราชาฉลามพิษนั้นไม่พุ่งเข้ามาต่อ ฉู่เหินก็แสดงสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยออกมา ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาโล่งอกมากต่างหาก! เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ คู่ต่อสู้นั้นโหดหินมาก เขาแทบจะต้องระวังแทบทุกกระบวนท่า ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่ต้องเสี่ยงมากขนาดนี้
ดวงตาของฉลามพิษนั้นแข็งค้าง ตั้งแต่ที่จู่โจมใส่ฉู่เหิน อีกฝ่ายไม่ได้วางอาวุธในมือลงเลย มันจ้องพัดในมืออีกฝ่ายอย่างไม่วางตา ทันทีที่เห็นแสงบนพัด มันก็หยุดการโจมตีในทันทีแล้วพิจารณาอย่างระแวดระวัง
ราชาฉลามพิษคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องของตนเข้าไปโจมตีฉู่เหิน มันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าฉู่เหินตรงหน้าของมันนั้นเก่งจริงหรือแค่ทำเป็นเก่งกันแน่ เมื่อเห็นฉลามพิษนับพันกำลังพุ่งเข้ามา สีหน้าของฉู่เหินก็ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ในใจของเขาร้อนรนมากแล้ว…
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอย่างหนักก็ได้ยินเสียงตะโกนของใครคนหนึ่ง
“หยุดนะ ไอ้พวกฉลามสวะในทะเลกว้าง วันนี้เป็นวันที่พวกแกจะโดนล้างบางไปจากโลก!” สิ้นเสียงหอคอยสูงตระหง่านก็ปรากฏออกมาจากพระราชวังของพวกเงือก
ตอนนี้เองฉู่เหินถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดบรรพบุรุษของเงือกก็ออกมาจนได้! ถ้ายังจะช้าไปมากกว่านี้อีก เกรงว่าตัวเขาเองจะทนไม่ไหวซะก่อน หลังจากที่เขารู้สึกโล่งอก เขาก็ทรุดลงกับพื้นหอบท่าเดียว!
ที่จริงแล้วฉู่เหินนั้นยื้อเอาไว้ได้นานแล้ว และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เผาเงือกยังไม่ถูกทำลายจากการโจมตีของฉลามพิษ ตอนนี้ชายหนุ่มไม่สามารถพยุงร่างกายของเขาให้ลุกขึ้นได้อีกแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดของบรรพบุรุษเงือก เขาก็ทรุดลงกับพื้นทันที
ในตอนที่เขากำลังจะลงไปกองอยู่กับพื้นนั้น บรรพบุรุษเงือกนั้นก็มาประคองเขาเอาไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เห็นการต่อสู้กับตา แต่จากการฝึกฝนของเขา ชายหนุ่มสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
เงือกชรารู้ดีว่าหากครั้งนี้ไม่ได้ฉู่เหินช่วยไว้ล่ะก็ เผ่าพันธุ์เงือกคงล่มสลายไปแล้ว เพราะฉะนั้นสายตาที่เธอมองไปยังฉู่เหินจึงเต็มไปด้วยความตื้นตันและขอบคุณ
“คุณจะเป็นเพื่อนกับเผ่าเงือกตลอดไป ขอบคุณมากสหาย ต่อไปฉันจะจัดการเอง!” เธอพูดกับฉู่เหินด้วยความเป็นมิตร
เมื่อผู้นำของเหล่าเงือกออกมา พวกเขาก็ร้องดีใจกันใหญ่ พวกเขารู้ดีว่าเพียงแค่เมื่อผู้นำออกมา ปัญหาต่าง ๆ ก็จะถูกคลี่คลายได้เอง