บทที่ 107 การร่วมมือกัน
ฉู่เหินยิ้มให้กับแม่เฒ่าของเหล่าเงือกอย่างอ่อนโยน ครั้งนี้เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หมดแรง ถ้าพักผ่อนสักพักเขาก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม การจะฟื้นฟูพลังดวงดาวก็ไม่ยากเลย ภายในแหวนมิติของเขามีหินดวงดาวมากมาย ดังนั้นเขาจึงสามารถดูดซับพลังจากมันมาเพิ่มให้กับตัวเองได้
“ขอบคุณสำหรับความเอาใจใส่นะครับ เรียกผมว่าฉู่เหินก็ได้ ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้ว เพียงแค่พักผ่อนก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม! แต่ฉลามพิษช่างร้ายกาจนัก หากจะปล่อยพวกมันไปก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังแบบไม่จบไม่สิ้น”
ตอนนี้เขาเป็นศัตรูกับอีกฝ่ายแล้ว ดังนั้นฉู่เหินจึงไม่อยากเป็นกังวลเวลาออกทะเล ใครจะรับประกันว่าไอ้ราชาฉลามนี่จะไม่ทำเรื่องชั่วร้ายในทะเลอีก เพราะฉะนั้นการจะกำจัดทิ้งไปเสียตอนนี้ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ตอนนี้ราชาฉลามพิษเห็นบรรพบุรุษของเหล่าเหงือก มันก็ตัวสั่น ไม่มีท่าทีมีใจที่จะสู้แม้แต่น้อย เจ้าฉลามหันกลับหลังแล้วรีบหนีไปทันที ฉู่เหินมองแผ่นหลังที่หนีไปอย่างรวดเร็วของมันแล้วอดเสียดายไม่ได้ ต่อไปการออกทะเลของเขาคงจะไม่สะดวกสบายแล้วสิ
อย่างไรก็ตามแม่เฒ่าเพียงแค่โบกผ้าคลุมของตัวเอง มือที่เหี่ยวเพราะความชราของเธอพลันใหญ่ขึ้น ฉู่เหินมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ!
ภาพที่เกิดขึ้นคือกรงเล็บขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือหัวของราชาฉลามพิษ กรงเล็บยักษ์นั้นพุ่งเข้าหาฉลามที่อยู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว! มันรุนแรงเสียจนทำให้เกิดคลื่นทะเลแตกกระจายออกไปรอบทิศทาง
ราชาฉลามพิษนั้นถูกจับตัวได้ในแทบจะทันที ด้วยการออกแรงแค่เล็กน้อย เจ้าฉลามนั้นไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากทำได้แค่กรีดร้องจนหมดลมหายใจ! ก่อนที่ร่างของมันแหลกสลายไปเหลือแค่ละอองเลือด
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฉู่เหินนั้นตกใจเป็นอย่างมาก ถึงเขาจะรู้ว่าเงือกชราตนนี้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะทรงพลังมากขนาดนี้ ถึงมันสายเกินไปหน่อย ทว่ามันก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าหญิงชราคนนี้ทรงพลังขนาดไหน
อย่าว่าแต่เป็นศัตรูเลย ในยุคสมัยแบบนี้ การจะหายอดฝีมือที่ทัดเทียมกับเธอได้นั้นคงยากยิ่ง จากตรงนี้คงบอกได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งที่ยากจะต่อกรด้วยจริง ๆ
การจัดการกับร่างที่เหลืออยู่ของฉลามทั้งหลายนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะมองข้ามได้ ตอนนี้ฉู่เหินนั้นถูกพากลับมายังห้องลับเพื่อที่จะรักษาตัว ซึ่งก็ใช้เวลากว่าชั่วโมงถึงจะกลับมาเหมือนเดิมได้ ผลการต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้ฉู่เหินสามารถก้าวข้ามระดับปรมาจารย์ได้ทุกเมื่อ
“ขอขอบคุณสหายฉู่เหิน ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เราเกรงว่าเผ่าเงือกคงจะสูญพันธุ์เป็นแน่! ถึงพลังของเราจะมากก็จริง แต่ในภาวะโดนพิษ คงไม่สามารถเป็นคู่มือของฉลามพิษกลุ่มนี้ได้ พวกเราเหล่าเงือกขอขอบคุณจากใจจริง! เราขอนับท่านเป็นหนึ่งในมิตรสหายของเรา”
หลังจากหายดีแล้ว เขาก็ถูกเรียกให้มาพบกับท่านแม่เฒ่าแห่งเผ่าเงือกเพื่อที่จะพูดคุยกัน เมื่อฉู่เหินมาถึงเธอก็รีบแสดงความขอบคุณต่อฉู่เหินอย่างจริงใจในทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกดีมากที่เขาสามารถเป็นมิตรกับเหล่าเงือกได้
หลังจากที่คุยกัน ฉู่เหินจึงได้รู้ว่าสาหร่ายที่อยู่ใต้ทะเลลึกนั้นเป็นอาหารของเหล่าเงือก และเพราะเขากะจะหาสาหร่ายเพื่อเป็นไปอาหารปลา เมื่อได้ฟังแบบนี้แล้ว มันก็ทำให้ฉู่เหินรู้สึกลังเลเพราะว่าเจ้าสาหร่ายทะเลที่ว่าเป็นของหายาก ซึ่งพวกเงือกเองก็จำเป็นที่จะต้องกินเพื่อทำให้ตัวของพวกเขาเติบโตขึ้น
หลังจากที่ได้ยิน ฉู่เหินก็คิดอะไรบางอย่างได้ ถ้าเขาสามารถหาของมาแลกเปลี่ยนกับเงือกได้ละ ? อืมมม ของที่พวกเงือกมีแต่ละอย่างไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามล้วนแต่ดี ๆ ทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงพวกไข่มุกดำซึ่งมันประเมินค่าไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม ไข่มุกดำเป็นของล้ำค่าในทะเล และลึกลงไปในเขตปะการัง ดอกไม้ทะเลและสาหร่ายบางชนิดอาจไม่มีค่ามากนักบนแผ่นดิน ดังนั้นฉู่เหินจึงอดไม่ได้ที่จะเสนอออกไป
“ผมว่าเราสามารถร่วมมือกันได้นะครับ? ผมจะนำพวกอาหารและของใช้ของมนุษย์มาให้ เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนกับของในทะเลพวกนี้?”
“นั่นดีมากเลย แต่ใต้ทะเลนี้ค่อนข้างที่จะว่างเปล่า คงจะไม่มีอะไรที่มีค่ามาแลกเปลี่ยนกับเธอมากนักหรอก” แม่เฒ่าเผ่าเงือกนั้นยินดี แต่ก็พลันคิดได้ว่าทางฝั่งตัวเองก็ไม่มีอะไรไปแลกเปลี่ยนกับอีกฝ่ายเป็นเรื่องเป็นราว
“บางสิ่งอาจจะไม่มีค่ามากมายที่นี่ แต่บนบกนั้นเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากเลย อย่างพวกไข่มุกดำหรือปะการัง และของที่ผมต้องการมากที่สุดคือพวกสาหร่ายนี่แหละ! ” ฉู่เหินพูดด้วยความจริงใจ
ต่อหน้าหญิงชราแล้ว เขาไม่จำเป็นที่ต้องหลอกลวงอะไร ถ้าต้องการการแลกเปลี่ยนระยะยาวก็ควรที่จะจริงใจไว้ก่อน นอกจากนี้ที่นี่เป็นแหล่งขุมทรัพย์อันมหาศาลของมนุษย์ด้วย
“ได้ งั้นพวกเรามาร่วมมือกัน ตอนแรกเราก็กังวลว่าควรจะตอบแทนอย่างไรดี เอาเป็นว่าเราจะนับข้อเสนอนั้นเป็นของตอบแทนแล้วกัน” บรรพบุรุษของเหล่าเงือกยิ้มและหัวเราะด้วยความพอใจต่อข้อเสนอของฉู่เหิน
“ขอบคุณสำหรับของตอบแทนและความเอื้ออาทร แต่ผมมีเรื่องขอร้องครับ ที่นี่มีวัสดุพิเศษไหม? เมื่อครู่นี้ฉู่เฟิงได้รับความเสียหาย จึงต้องการวัสดุพิเศษมาซ่อมแซม” ฉู่เหินนั้นพูดคำขออีกข้อออกไปโดยไม่ได้ปิดบัง
“มีสิ เราไม่รู้ว่าสิ่งที่ต้องการเป็นยังไง แต่ถ้าพูดถึงวัสดุก็พอมีบ้าง มีสิ่งที่เรียกว่า หินห้วงลึกทมิฬอยู่ ฉันจะสั่งคนไปเอามาให้ ดูซิว่าจะใช้ได้หรือไม่ จริงสิ ครั้งหน้าถ้าหากมาที่นี่อีก อย่าลืมนำหนังสือเกี่ยวกับมนุษย์มาให้พวกเราล่ะ แบบไหนก็ได้!”
หลังจากฟังข้อเสนอนั้นฉู่เหินตอบตกลงโดยไม่ลังเล ทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี! มันใช้เวลาไม่นานนักในการขนของมาให้กับฉู่เหิน ฉู่เหินเปิดกล่องอย่างไม่ลังเล!
“วัสดุระดับที่ 4 หินห้วงลึกทมิฬ สามารถเอามาซ่อมแซมดาบวงพระจันทร์ได้ และยังทำให้พวกศพโลหะแข็งแกร่งขึ้นอีกกว่า 70%”
หลังจากที่เปิดกล่องก็มีเสียงดังขึ้นมา ฉู่เหินนั้นตกใจเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าจะได้พบกับวัสดุระดับ 4 ที่นี่ แค่ของชิ้นนี้ก็คุ้มค่ากับที่ลงแรงไปแล้ว
“หินนี่สามารถใช้ได้ แต่มันล้ำค่าเกินไป” เมื่อเห็นหินห้วงลึกทมิฬแล้วฉู่เหินก็ใจเต้นรัว แต่เขารู้ดีว่าจะยอมรับของล้ำค่าเช่นนี้มาทันทีไม่ได้ เขาจึงพูดปฏิเสธไป
“ใช้ได้ก็ดีแล้ว ใช้ได้ก็รับมันไปเถอะ! มันไม่ค่อยมีประโยชน์กับทางนี้เท่าไหร่ หากมีน้ำใจ ครั้งหน้านำอาหารของมนุษย์มาให้พวกเราก็พอแล้ว” หญิงชรากล่าว หลังจากนั้นเหล่าเงือกก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสดชื่น
รู้ใช่ไหมว่าพวกเรานั้นกินสาหร่ายมาเป็นเวลานาน พวกเขากินจนเบื่อแล้ว ถ้าสามารถหาอาหารอย่างอื่นได้จะเป็นอะไรที่ดีมากเลย ใบหน้าของเงือกนั้นมีรอยยิ้มเมื่อมองไปทางทุก ๆ คน
“หากท่านพูดเช่นนี้ ผมก็ขอรับไว้แล้วกัน วางใจได้ ภายในครึ่งเดือนจะมีของตอบแทนแน่นอน ถึงตอนนั้นจะนำอาหารของใช้และหนังสือมากมายมาให้นะครับ”