บทที่ 41 สิ้นใจ[รีไรท์]
“ด้วยความยินดีครับ คุณฉู่ เรียกผมว่าลุงหลิวก็ได้” คนขับแท็กซี่ที่ชื่อเหลาหลิวพูดกลั้วหัวเราะ ท่าทางดูเป็นคนอารมณ์ดีคนหนึ่ง
“งั้นผมเรียกว่าลุงหลิวนะครับ ครั้งหน้าขอรบกวนด้วยนะครับ”
“คุณฉู่ คุณนี่สุภาพมากเลย ตั้งแต่วันนี้ไป ถือเสียว่าผมเป็นคนขับของคุณเลยแล้วกัน โทรมาเรียกเมื่อไหร่ก็ได้ นี่เบอร์ผม ถ้ามีอะไรก็โทรมาได้” ลุงหลิวเอาปากกาออกมาเขียนเบอร์โทรศัพท์ให้ฉู่เหิน
รถยนต์ส่งเสียงขณะเครื่องเร่งไปข้างหน้า มุ่งสู่หมู่บ้านชาวประมง ไม่นานนักหวงลี่ลี่ก็เริ่มสงบอารมณ์ได้ ก่อนที่เธอจะซบไหล่ฉู่เหินแล้วร้องไห้
ฉู่เหินรู้ว่าถึงแม้น้องสาวของเขาจะมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว เธอก็ยังเป็นแค่เด็กสาว
“เด็กโง่ อย่าร้องไห้น่า ต่อไปนี้พี่ชายจะคอยดูแลให้เธอมีชีวิตที่ดี แต่จำไว้ว่าอย่าทำอะไรโง่ ๆ แบบนี้อีก มีพี่อยู่ทั้งคน พี่จะให้เธอหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ยังไง” ฉู่เหินกล่าวพร้อมกอดหวงลี่ลี่ไว้ในอ้อมแขน
แม้หวงลี่ลี่จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับฉู่เหินทางสายเลือด แต่เธอไม่ต่างอะไรกับน้องสาวแท้ ๆ สำหรับเขา พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ถ้ามีใครรังแกหวงลี่ลี่ ฉู่เหินจะวิ่งเอาตัวไปบังหวงลี่ลี่เอาไว้ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนเขาจะคอยปกป้องลี่ลี่เสมอ
หวงลี่ลี่นอนหลับบนตักฉู่เหินอยู่นาน ฉู่เหินก้มหน้ามองลี่ลี่ เขานึกกับตัวเองในใจ “วางใจเถอะ ลี่ลี่ คนที่รังแกเธอจะไม่มีลมหายใจในวันพรุ่งนี้”
มังกรจะตายถ้าถูกสัมผัสเกล็ด และเกล็ดของฉู่เหินก็คือเพื่อนและญาติของเขา ฉู่เหินไม่สนใจอะไรทั้งนั้น บาปกรรมไม่ทำให้คนตาย แต่คนที่กล้าทำร้ายน้องของเขาต่างหากที่สมควรตาย มันอาจจะดูเกินไปหน่อย แต่เขาคิดว่ามันคือหน้าที่ของเขาในฐานะพี่ชาย
หลังผ่านไป 3 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็มาหมู่บ้านชาวประมง เมื่อมาถึงบ้าน ฉู่เหินก็เห็นประตูบ้านของเขาเปิดอยู่ ไม่บอกก็รู้ว่าเสี่ยวชิงอยู่บ้าน ฉู่เหินอุ้มลี่ลี่ที่ยังหลับอยู่แล้วเดินไปที่ห้อง
เสี่ยวชิงเห็นรถมาจอดที่หน้าบ้านของฉู่เหิน แต่พอเห็นเขาอุ้มเด็กผู้หญิงอยู่ สีหน้าของเธอก็เริ่มดูไม่ดียิ่งขึ้น แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่าฉู่เหินไม่ใช่คนที่จะมีความลับกับเธอ มันจึงช่วยบรรเทาความหึงหวงของเธอไปได้
“นี่น้องสาวฉันเอง ชื่อหวงลี่ลี่ เธอมีปัญหาที่โรงเรียน เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง” เสียงของฉู่เหินแทรกเข้าไปในห้วงความคิดของเสี่ยวชิง เขาเดินผ่านเธอพร้อมอธิบายให้เธอฟังเบา ๆ หนึ่งประโยค
เสี่ยวชิงที่ตอนแรกรู้สึกหึงหวง แต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เหิน ความรู้สึกหึงหวงก็หายไปทันที ความกังวลเริ่มเข้ามาแทนที่เพราะเธอเห็นสีหน้าของฉู่เหินไม่ค่อยสู้ดี เมื่อเธอเห็นฉู่เหินเข้าบ้านมา เธอก็กลับหลังหันแล้วเดินตามไป ฉู่เหินอุ้มหวงลี่ลี่ไปนอนในห้องของเธอ เขาหาผ้าห่มมาห่มให้
เขาออกไปหาเสี่ยวชิงนอกห้องเพื่ออธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาในวันนี้ เมื่อเสี่ยวชิงได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้น เธอถึงกับเลือดขึ้นหน้า แล้วตะโกนว่าผู้ร้ายสองคนนั้นต้องถูกจับมาลงโทษตามกฎหมาย
ขณะที่เสี่ยวชิงกำลังครุ่นคิดว่าลงโทษคนร้ายสองคนนั้นอย่างไร ก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นในศูนย์ควบคุมตัวนักโทษในเมือง ผู้ต้องสงสัยสองคนที่ยังลุกนั่งได้ปกติดี จู่ ๆ ก็บอกว่าปวดท้อง ไม่กี่สิบกว่านาทีต่อมา พวกเขาก็หายใจแรงแล้วล้มลงไปนอนตายบนพื้น
ครอบครัวครูหลิวเป็นครอบครัวธรรมดา แต่เจ้างูพิษคนนั้นคือคนที่มีเส้นสาย ถึงแม้ว่าเรื่องนี้เขาจะเป็นคนผิด แต่โทษของเขาก็ไม่ถึงกับประหารชีวิต อีกทั้งพ่อของเจ้างูพิษเป็นนักธุรกิจ ผู้ทรงอิทธิพลในเมืองเหลียวคูอีกด้วย
เมื่อได้ยินว่าลูกชายของเขาถูกจับ เขาก็ไม่สามารถนั่งเฉย ๆ ได้ แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง เขาจะได้รับข่าวการตายของลูกชาย มันทำให้เขาช็อก เศร้า โกรธและอีกหลากหลายอารมณ์ในเวลาเดียวกัน เขาเร่งให้หมอรีบชันสูตรศพ ซึ่งผลการชันสูตรศพยิ่งทำให้ให้เขาไม่อยากจะเชื่อ
ผู้ตายไม่มีร่องรอยบาดเจ็บที่เห็นได้ชัดเจนและไม่ได้ถูกวางยาพิษ แต่อวัยวะภายในของเขาแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี หมอชันสูตรศพสงสัยว่าเขาจะดื่มเหล้ามากไป และด้วยความที่เขาไม่รู้ว่าฉู่เหินสัมผัสตัวผู้ตายมาก่อน หมอจึงสรุปว่าเป็นเพราะดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
พ่อของเจ้าพ่องูพิษรู้สึกปวดใจเมื่อได้ฟังข้อสรุปของหมอ เขาพอเข้าใจถ้าลูกชายของเขาเป็นเหมือนผลสรุปที่ออกมา แต่ที่สำคัญคือครูหลิวที่ถูกจับพร้อมกันกับลูกชายของเขาก็ตายด้วยสาเหตุเดียวกัน
พ่อของเจ้าพ่องูพิษไม่เชื่อและไม่พร้อมจะเชื่อผลสรุป หมอรายอื่นที่เขาไปหาก็ได้ข้อสรุปเดียวกัน เขาจึงต้องจำใจเชื่อ มีเพียงตำรวจยศใหญ่นายหนึ่งจำได้ว่าฉู่เหินตบหลังผู้ตายทั้งสองเบา ๆ ในวันที่พวกเขาถูกจับ
ถึงเขาจะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร แต่เขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับฉู่เหิน แต่เขารู้ว่าไม่ควรไปยุ่ง อีกอย่าง เขาเพียงแค่สงสัย แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัด
จนถึงตอนนี้ ตำรวจเพิ่งรับรู้ความร้ายกาจของฉู่เหิน พลังที่ฉู่เหินใช้เรียกว่าพลังมือ หลักการพื้นฐานของพลังมือนี้คือการทะลุทะลวงไปทำลายอวัยวะภายในโดยตรงโดยไม่ก่อความเสียหายให้ผิวหนังหรือกระดูก มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนธรรมดา แต่มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ฝึกวิทยายุทธ
ไม่ว่าเรื่องนี้จะโหดร้ายเพียงใด แต่ฉู่เหินก็ยังปลอดภัยที่นี่ หวงลี่ลี่กำลังหลับ ฉู่เหินกับเสี่ยวชิงจึงออกมาจากห้องและปิดประตูอย่างแผ่วเบา
เสี่ยวชิงเล่าเรื่องที่บ้านให้ฉู่เหินฟัง ระหว่างที่เสี่ยวชิงกลับไปดู ทหารจากกองทัพจับปลาเกล็ดขาวได้ 500 ตัว เมื่อปลาถูกบรรทุกออกไป ทหารก็มาคุยกับพวกเขา การเจรจาเสร็จสิ้นแล้ว งานจะเริ่มในอีกไม่ช้า ภูเขาโล้น ๆ กำลังจะถูกขุด
ฉู่เหินไม่นึกว่าทหารจะทำอะไรเรียบง่าย ถ้าเขาจะขุดบ่อที่ภูเขาโล้น ๆ นี้ มันน่าจะมีขนาดหลายร้อยเอเคอร์ ถ้ามันกลายเป็นบ่อปลาจริง ๆ มันคงจะเป็นบ่อที่เล็กน่าดู
ตอนแรกฉู่เหินก็กลัวว่าคนในหมู่บ้านจะนินทา แต่เขานึกไม่ถึงเลยว่าเมื่อคนได้ข่าวเรื่องฉู่เหินจะทำลายภูเขาเพื่อขยายบ่อปลา คนในหมูบ้านกลับอยากจะมาช่วย เพราะพวกเขามองว่าในอนาคต มันจะต้องสามารถแข่งกับฉือเจียจี ที่เป็นเจ้าของบ่อขยะทางเหนือของหมู่บ้านชาวประมง และสามารถเอาไปสร้างจัตุรัสขนาดใหญ่ได้แน่นอน
จัตุรัสนี้สามารถใช้เป็นสถานที่สำหรับการแข่งขัน และในอนาคต คนในหมู่บ้านก็สามารถใช้เป็นสถานที่พักผ่อนได้ด้วย ถือเป็นทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย
ขณะที่ทั้งคู่กำลังคุยกัน ก็เกิดเสียงดังขึ้น พวกเขาได้ยินความเคลื่อนไหวจากในห้องของหวงลี่ลี่ ฉู่เหินรู้ว่าหวงลี่ลี่ตื่นแล้ว เขาจึงลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องของหวงลี่ลี่ เสี่ยวชิงก็เดินตามไปติด ๆ
หวงลี่ลี่ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย เธอมองสภาพแวดล้อมที่คุ้นตา ความเศร้าที่เธอรู้สึกก็หายไปทันที เธอเริ่มคิดว่าจะกินอะไรดี ในตอนนั้นเอง ฉู่เหินกับเสี่ยวชิงก็เดินตามกันเข้ามาในห้อง