บทที่ 43 แรงแค้นของหญิงสาว[รีไรท์]
ถึงแม้ว่าลี่ลี่จะดูร่าเริงและไม่ได้กลุ้มใจอะไร แต่ฉู่เหินรู้ดีว่าเรื่องที่เกิดวันนี้ รวมถึงเรื่องที่หวงเจี้ยนหมิงยังอยู่ในโรงพยาบาล มันทำให้เธอหนักใจมากทีเดียว เพียงแต่ว่าลี่ลี่เธอเป็นเด็กที่ค่อนข้างรู้ความจึงไม่ได้แสดงความรู้สึกกังวลใจใด ๆ ออกมาเท่านั้น
“แม่คะ คืนนี้หนูไม่กลับบ้านนะคะ ใช่ค่ะ หนูอยู่บ้านพี่ฉู่เหิน โอเคแม่พอดีหนูมีเรื่องต้องทำนิดหน่อย แค่นี้นะคะ”
ไม่รู้ว่าเสี่ยวชิงตั้งใจหรืออย่างไร หลังจากที่ตัดสายไปนั้น ตระกูลหลิวก็โทรมาเข้ามาพอดี! ครั้งก่อนทั้งสองออกไปทำงานนอกสถานที่ด้วยกัน ไม่รีบกลับก็ไม่ต้องพูดถึงหรอก ถึงตอนนี้กลับมาแล้วแต่ไม่กลับบ้านน่ะสิ!
พ่อแม่ของเสี่ยวชิงเริ่มรู้สึกร้อนใจเกี่ยวกับการที่เสี่ยวชิงจะนอนที่บ้านฉู่เหินอยู่ไม่น้อย โชคดีที่เสี่ยวเฟิงคอยขัดขวางไว้ให้ตลอด
“เด็กน่าตายนั้น! ต้องการจะแก้เผ็ดพวกเรารึไงจะพูดอะไรก็พูดแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ตั้งใจทำให้พวกเราอกสั่นขวัญแขวนรึไง พ่อแม่ ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวหนูโทรไปถามอาเหินให้” คนที่รู้จักเสี่ยวชิงดีที่สุดคือเสี่ยวเฟิง เธอรู้ว่าเสี่ยวชิงต้องไม่พอใจกับการไต่สวนในวันนั้น เธอจึงจะแก้แค้น
“อาเหินเหรอ นี่เจ๊เฟิงพูดนะ วันนี้เสี่ยวชิงไม่กลับบ้านแล้ว ฝั่งเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า” ฉู่เหินรับโทรศัพท์ขณะกำลังนอนอยู่ชายหาดได้ยินเสียงเสี่ยวเฟิงจากในโทรศัพท์ ฉู่เหินรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นเช้านั้น แต่เขาไม่นึกว่าผู้หญิงคนนี้จะเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้
เขาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายและกล่าวว่า “พี่เฟิง หวงลี่ลี่ น้องสาวผมเพิ่งกลับมาบ้าน เกิดเรื่องขึ้นที่โรงเรียน ผมไม่ค่อยสบายใจ พี่ชายผมก็เข้าโรงพยาบาล ผมไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียว เลยให้เสี่ยวชิงมาอยู่เป็นเพื่อน” เมื่อได้ยินฉู่เหินบอกอย่างนั้น เสี่ยวเฟิงก็รู้สึกโล่งอก ที่จริงตัวเธอเองก็นึกไว้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น และเมื่อพ่อแม่ของเธอได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็รู้สึกโล่งอกไปด้วย
คืนนั้นฉู่เหินพาหวงลี่ลี่มาฝึกวิทยายุทธพร้อมกับเขาด้วย หลังฝึกไปสักพัก ฉู่เหินก็รู้สึกเมื่อยล้า จึงกลับไปนอนที่ห้อง เช้าวันต่อมา ฉู่เหินเพิ่งทำงานเสร็จ เขาเห็นเสี่ยวเฟิงนำอาหารมาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ซึ่งดูแล้วน่าจะไม่ใช่แค่มาส่งอาหารอย่างเดียวแน่ ดูแววแล้วเธอน่าจะมาดูอะไรบางอย่าง พอเธอเห็นว่าน้องสาวกับหวงลี่ลี่ยังไม่ตื่น ถึงได้วางใจและเดินออกไปในที่สุด
พระอาทิตย์ขึ้นและตกลับขอบฟ้าไปวันแล้ววันเล่า ในพริบตาความสัมพันธ์ของลี่ลี่กับเสี่ยวชิงแล้วนับวันก็มีแต่จะสนิทขึ้นเรื่อย ๆ กล่าวถึงตรงนี้ฉู่เหินย่อมต้องรู้สึกมีความสุขมาก เขาเฝ้านับเวลา ในที่สุดช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง
วันนี้ฉู่เหินเตรียมออกไปตกปลาอีก เขาตั้งตาคอยวันนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าชะตาของครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ฉู่เหินบอกลาเสี่ยวชิงกับลี่ลี่และออกไปตกปลาพร้อมอุปกรณ์ครบมือ เสี่ยวชิงกับลี่ลี่ไปส่งฉู่เหินที่ชายหาด เมื่อฉู่เหินลับตาไปในทะเลอันกว้างใหญ่ หญิงสาวทั้งสองคนก็กลับหลังหัน
ทะเลน้ำจืดในพื้นที่น้ำท่วมมีฉายาว่าทะเลแห่งความตาย จึงไม่มีใครกล้าลงไปในน้ำ หลายปีที่ผ่านมาท้องทะเลแห่งนี้ปกคลุมด้วยหมอกหนาและฟ้าแลบ ใครก็ตามที่หลงไปอาจไม่มีชีวิตกลับมา
และนี่ก็เป็นเพียงสิ่งที่อันตรายน้อยที่สุด สัตว์ร้ายในทะเลน้ำจืดมีอยู่นับไม่ถ้วน ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน ก็ไม่อาจต้านทานสัตว์ร้ายที่ถาโถมเข้ามาได้ สัตว์ร้ายหลายล้านตัวว่ายวนเวียนอยู่ในทะเล ถ้าอยากจะเข้าไป ก็ต้องขอให้โชคช่วย
ท้องทะเลแห่งนี้ปราศจากผู้มาเยี่ยมเยือนเกือบ 10 ปีแล้ว แต่วันนี้กลับมีเงาคนเป็นร้อยมุ่งหน้าเข้ามา แต่ละคนเหินอยู่ในอากาศ แน่นอนว่าทักษะการฝึกตนของพวกเขาอยู่ในขั้นสูง
เสื้อผ้าที่คนนับร้อยเหล่านี้สวมใส่มีลักษณะเหมือนกัน แปลว่าฝึกศิลปะป้องกันตัววิชาเดียวกันมา อีกทั้งแววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอำมหิตและจิตสังหาร เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีมีเมตตาแน่!
แต่สิ่งที่น่าแปลกคือสิ่งที่อยู่ในมือของจอมยุทธ์คนหนึ่ง เพราะนั่นคือผู้หญิงที่กำลังหายใจรวยริน ถึงเธอจะดูสวยแต่ปลายหูของเธอกลับมีลักษณะเรียวแหลม ผมของเธอเป็นสีน้ำตาล คนที่อุ้มเธอมาเป็นชายแก่ ดูแล้วผู้หญิงคนนี้น่าจะถูกอีกฝ่ายจับมา
เมื่อดูดี ๆ มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในแขนของผู้หญิงคนนี้ มันคืออะไรกันนะ ปรากฏว่ามันคือแมวธรรมดา ๆ นี่เอง ไม่ผิดแน่ มันคือแมวขนสีดำสนิทที่พบเห็นได้ตามบ้านเรือน มีจุดสีขาวประปราย มันได้แต่ร้องเหมียว ๆ อย่างไร้ทางสู้
“บอกไว้ก่อนนะว่าอย่ามาเล่นตุกติกกับพวกฉัน แผนที่ขุมทรัพย์นั้นมันอยู่ที่ไหน รีบพาเราไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะซ้อมแกให้ตาย” ชายชรามองหญิงสาวหูแหลม เมื่อเธอไม่ยอมบอก เขาก็ขู่เธออีก
หญิงสาวหูแหลมที่แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เธอจ้องชายชราครู่หนึ่งก่อนจะก้มหัวลง ด้วยพลังของเธอตอนนี้ ขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เธอกับสามีพลัดตกลงไปในทะเลแห่งนี้ พวกเขานึกว่าจะต้องตายแน่แล้ว แต่กลับเอาชีวิตรอดมาได้ พวกเขาไม่รู้เหนือรู้ใต้ ได้แต่เดินไปเรื่อยเหมือนคนหลงทาง
แต่ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะบังเอิญไปเจอเข้ากับขุมทรัพย์ที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ นอกจากทรัพย์สมบัติมากมาย พวกเขายังได้แผนที่ที่ช่วยให้พวกเขาเข้าออกทะเลได้ตามอำเภอใจอีกด้วย เมื่อทั้งสองจำได้ขึ้นใจ พวกเขาก็ทำลายแผนที่ทิ้ง
ตอนกำลังจะออกจากที่นั่น พวกเขาบังเอิญเจอลูกแมวที่บรรพบุรุษทิ้งเอาไว้ ถึงแม้ลูกแมวตัวนี้จะเป็นแมวธรรมดา แต่มันก็ถือได้ว่าเป็นนิพพานของผู้หญิง ผู้หญิงคนไหนบ้างไม่ชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ พอเธออ้อนวอน สามีก็ยอมให้เธอเก็บมันมาเลี้ยง
เมื่อขึ้นมาจากทะเล คู่สามีภรรยาก็หาเบอร์โทรเพื่อนำทรัพย์สมบัติที่ได้ไปประมูล แต่แน่นอนว่าโลกนี้ย่อมมีคนโลภ
ร้านที่รับประมูลยอมเปิดเผยชื่อเจ้าของสมบัตินี้ คู่สามีภรรยาถูกจับ ผู้เป็นสามีถูกยิงตายขณะที่เขาพยายามปกป้องเธอ และนี่เองคือสาเหตุที่เธอจ้องมองชายชราคนนั้นด้วยความเกลียดชัง
เหตุผลที่เธอไม่ตายตามสามีไปตั้งแต่แรกก็เพราะเธอต้องการพาคนพวกนี้มาท้องทะเลอันแสนอันตรายแห่งนี้ เธอกำลังพาคนนับร้อยเหล่านี้มาพบจุดจบ
ว่ากันว่าหัวใจสตรีที่อันตรายที่สุดคือหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความแค้น ส่วนหญิงสาวคนนี้ เธอกำลังพาจอมยุทธ์นับร้อยมุ่งหน้าสู่ทะเลที่ค่อย ๆ ลึกลงไป เพื่อฝังศพพวกมันด้วยตัวเอง
“ทำไมใช้เวลานานนัก นี่จะเล่นตุกติกหรือไง ถ้าแกไม่ให้ความร่วมมือ ฉันมีวิธีทำร้ายแกอีกเยอะนะ” ชายแก่ที่ถือไม้เท้าในมือเดินมาขู่หญิงหูแหลม
“นายท่าน ไม่ต้องกังวล ถ้าไม่ฆ่าฉัน ฉันก็พาท่านไปหาสมบัติเองนั่นแหละ ถ้าดูตามกำหนดของกระแสน้ำ อีกไม่นานเราก็จะถึงแล้ว” หญิงสาวกล่าว คนพูดนี้ดูจะทำให้ชายชรากลัวถึงกับหน้าซีด
“อีกนิดเดียวเท่านั้นแหละ” เมื่อพูดจบ เธอก็เดินไป คนหลายร้อยคนรีบเดินไปตามทิศทางที่เธอชี้บอก
ถึงแม้ที่นี่จะเป็นทะเล แต่พื้นที่ทั้งหมดไม่ได้ปกคลุมไปด้วยน้ำ พื้นที่เกาะกินเนื้อที่กว่าครึ่งของท้องทะเล หลังเลี้ยวไปสองสามครั้ง พวกเขาก็เดินผ่านมาสามเกาะแล้ว แต่สิ่งที่คนเหล่านี้รู้สึกว่าแปลกคือ ระหว่างทางที่ผ่านมามันดูปลอดภัยมากเกินไป พวกเขาลงมาที่นี่นานแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอสัตว์ร้ายเลยสักตัวเดียว