บทที่ 7 การหว่านแหมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการเหวี่ยง
หลังจากสองพี่น้องวิ่งเข้าไปในป่าหมอก พวกเขาก็พบยุงที่มีปีกยาวหลายเมตรบินอยู่ด้านหน้า พวกมันดูกระหายเลือดเป็นอย่างมาก
“ยุงปีศาจ! ไม่คิดเลยว่าจะมีสัตว์ร้ายอยู่ที่นี่จริง ๆ เสี่ยวหลิงรีบหนีไป ข้าจะสกัดมันไว้!” เด็กหนุ่มหยิบดาบออกมาและยืนขวางระหว่างน้องสาวกับยุงปีศาจเอาไว้
“พี่ชาย ยอมแพ้เถอะนะ ด้วยความสามารถของพวกเราตอนนี้ เราสู้มันไม่ได้หรอก พ่อกับแม่ก็ตายไปแล้ว ถึงพวกเรามีชีวิตอยู่ก็ไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วล่ะ” เสี่ยวหลิงไม่คิดจะวิ่งหนี เธอหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง
“สวรรค์ไม่ยุติธรรม เมื่อคิดว่าตระกูลเซียวของเราเพิ่งถูกทำลายและเราพี่น้องยังต้องมาตายอย่างน่าอนาถที่นี่ ถ้าใครเต็มใจช่วยเราพี่น้องให้รอดพ้นจากความหายนะนี้ ข้าเสี่ยวเฟิงยินยอมที่จะเป็นทาสของคนผู้นั้นไปจนตาย!” เสี่ยวเฟิงร้องสาบานต่อสวรรค์ หลังจากเห็นฉากนี้แล้วยุงปีศาจก็บินเข้ามาหาทั้งสอง มันเปิดปากอันกว้างใหญ่ก่อนส่งเสียงคำรามดังสนั่นออกมา จากนั้นยุงก็พุ่งเข้าโจมตีทั้งสองพี่น้องทันที ด้วยการโจมตีรุนแรงขนาดนี้ เกรงว่าทั้งสองพี่น้องคงได้แต่กลายเป็นกองเลือดเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อยุงปีศาจพุ่งตัวไปหาสองพี่น้อง แหดักปลาขนาดใหญ่จากไหนไม่รู้ ก็โผล่ขึ้นกลางอากาศ จากนั้นมันก็ม้วนเอายุงปีศาจเข้าไปด้านใน ก่อนจะถอยกลับอย่างรวดเร็วไปในทิศทางที่จากมา!
หลังจากเห็นสัตว์ร้ายหายไป พี่ชายและน้องสาวทั้งสองก็กอดกันร้องไห้ และเมื่อเสี่ยวเฟิงเรียกหาผู้มีพระคุณ สิ่งที่ตอบกลับพวกเขาก็มีแต่เพียงความเงียบงันเท่านั้น
ฉู่เหินรู้สึกเบื่อหน่ายมาก เขาจ้องมองที่แหไหมเงินในทะเลอยู่นานสองนาน เขาไม่คาดหวังว่าการหว่านแหครั้งที่สองจะใช้เวลานานขนาดนี้ เมื่อเขากำลังจะยอมแพ้ ทันใดนั้นฉู่เหินก็รู้ได้สึกถึงความเคลื่อนไหวของแหที่ส่งผ่านมา ว่าแล้วเขาก็รีบรวบแหดักปลาอย่างรวดเร็ว
ฉู่เหินอดยิ้มด้วยความคาดหวังไม่ได้ เขาต้องการดูว่าของที่ได้จากการหวานแหครั้งที่สองคืออะไร อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังเปิดแหออก เขาก็เห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่หลายเมตรในแหของเขา สัตว์ประหลาดตัวนั้นดูเหมือนยุงมาก
เหตุการณ์นี้ทำให้ฉู่เหินทำอะไรไม่ถูก ดูเหมือนว่ายุงยักษ์จะเห็นฉู่เหินเป็นเหยื่อ มันเปิดปากอันกว้างใหญ่ของมันเตรียมจู่โจมเข้าที่หัวของฉู่เหิน
ฉู่เหินไม่สงสัยเลยว่าถ้าเขาถูกมันโจมตีเข้า เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามตอนนี้ฉู่เหินกลับสงบนิ่งอย่างน่าประหลาด เขารู้ว่าต้องทำใจให้สงบและคิดเท่านั้นจึงจะหาทางออกได้
แม้ว่ายุงตัวใหญ่นี้จะถูกห่อด้วยแหไหมเงิน แต่ปากยาว ๆ ของมันก็สามารถทะลุผ่านช่องว่างของแหไหมเงินออกมาได้ และยิ่งเวลานี้มันกางปีกขนาดใหญ่ทั้งสองออกมา ความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นในทันที!
ฉู่เหินมองสัตว์ประหลาดข้างหน้าเขาอย่างใกล้ชิด ลำตัวของมันเป็นสีเหลืองทองและมีปากรูปกระบอกยาว หัวของมันเป็นรูปสามเหลี่ยม และภายใต้ร่างโปร่งแสงสีทองนั้นจริง ๆ แล้วมีขายาวหกขา เพียงแค่เหลือบมองก็ให้ความรู้สึกที่น่ากลัว
ดวงตาที่ยื่นออกมาจากด้านข้างของศีรษะเปล่งแสงวาววับออกมาเป็นระยะ เพียงแค่มันมองมาก็สามารถทำให้เขารู้สึกขนลุกได้แล้ว นี่ยังไม่รวมถึงเสียงกรีดร้องของยุงตัวนี้ ที่ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถในการสร้างความเสียหายได้อีก! หากไม่ใช่เพราะฉู่เหินมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ป่านี้เขาคงจะถูกมันทำให้ตกใจตายไปแล้ว
เมื่อเห็นว่ายุงตัวนั้นบินใกล้เข้ามา ดวงตาของฉู่เหินก็สว่างวาบ เขาตัดสินใจรวบแห ก้าวถอยหลัง ทำการเหวี่ยงแหไปรอบ ๆ ก่อนที่จะโยนมันลงไปที่ทะเลข้างหน้าอีกครั้ง ‘ได้โปรดเถอะพระเจ้า’ ฉู่เหินร่ำร้องในใจ หวังว่าแหนี้จะสามารถส่งสัตว์ประหลาดกลับไปได้
ในอีกโลกหนึ่ง ณ ซากปรักหักพังโบราณ จากสภาพโดยรอบบอกได้เลยว่านี่คือสนามรบในสมัยโบราณที่มีวีรบุรุษนับไม่ถ้วนเสียชีวิตลงมากมาย ด้วยเหตุนี้เองซากปรักหักพังโบราณนี้ จึงกลายเป็นที่ชื่นชอบของปีศาจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จ ขอเพียงข้าดูดซับเลือดของคนหลายร้อยล้านคน ข้าก็จะสำเร็จวิชาปราบโลกาขั้นสูงสุด ถึงเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นสวรรค์หรือโลกมนุษย์ก็ต้องยอมสยบให้ข้า ฮ่าฮ่าฮ่า” ขณะที่ปีศาจพันธุ์ผสมตัวนี้หัวเราะอย่างดุเดือด ทันใดนั้นแหดักปลาก็ปรากฏขึ้นบนหัวของเขา จากนั้นก็มียุงตัวใหญ่ถูกปล่อยออกมาจากแหดักปลา เมื่อยุงบินออกมาดวงตาของมันก็สับสนงุนงงเป็นอย่างมาก แต่ในไม่ช้ามันก็รู้สึกพอใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าของมัน
ว่าแล้วเจ้ายุงก็พุ่งเข้าโจมตีปีศาจพันธุ์ผสมที่กำลังหัวเราะอยู่อย่างไม่ลังเล เจ้าปีศาจรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานอยู่ข้างหลังของเขา เขาจึงรีบหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อได้เห็นมัน นั่นก็ทำให้เขาตกใจจนแทบสิ้นสติ
“เฮ้ย! นี่มันยุงปีศาจนี่หว่า!!” หลังจากตะโกนแล้ว เขาก็รีบวิ่งหนีทันที ยุงปีศาจถือเป็นอันตรายมาก ถึงแม้ว่ามันจะสติปัญญาต่ำ แต่พลังต่อสู้กลับแข็งแกร่ง ความสามารถในปัจจุบันของเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะยุงปีศาจตัวนี้ได้เลย
ยุงปีศาจโกรธเมื่อเห็นอาหารของมันหนีไป มันรีบสะบัดปีกอันใหญ่โตของมันเพื่อพุงเข้าไปหาเหยื่ออย่างรวดเร็ว มันเปิดปากขนาดใหญ่ของมันออก ก่อนที่จะเสียบปากของมันเข้าไปในร่างของอีกฝ่าย เพื่อดูดเลือดจนเหือดแห้งในชั่วพริบตา
ตำแหน่งเดิมปีศาจพันธุ์ผสมเคยยืนอยู่ แต่เดิมมีรูปปั้นหินขนาดใหญ่กว่าสามสิบเซนติเมตรตั้งอยู่ที่นั่น แหไหมเงินที่ว่างเปล่าลงอีกครั้งก็ได้รวบเอารูปปั้นหินรวมไปถึงฟูกบนพื้น จากนั้นถอยกลับอย่างรวดเร็วไปในทิศทางที่จากมา!
เมื่อฉู่เหินรู้สึกถึงการกระตุกของแหไหมเงินอีกครั้ง หลังจากลังเลเล็กน้อยเขาก็ดึงมันกลับมา แต่คราวนี้ฉู่เหินเตรียมพร้อมที่จะโต้ตอบตลอดเวลา! ในจังหวะนั้นเองจู่ ๆ เขาก็นึกถึงประโยคหนึ่งขึ้นมาได้ว่า ‘การหว่านแหมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการเหวี่ยง’ ขึ้นมา แหไหมเงินหดตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อมันหดกลับเข้ามามันมีขนาดที่เล็กกว่าสองเมตร ตอนนี้เขาเห็นของสองอย่างอยู่ภายในแหดักปลา หนึ่งในนั้นคือฟูกโทรม ๆ อีกอย่างคือรูปปั้นหินธรรมดา! ฉู่เหินดึงของทั้งสองอย่างออกมา หลังจากที่เขาพิจารณาพวกมันสักพัก เขาก็ไม่เห็นความพิเศษใด ๆ
ในตอนนั้นเองเสียงจากระบบก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ผู้ถือครองฉู่เหินประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงอันตรายที่รุนแรงจากการหว่านแหครั้งที่สอง ค่าประสบการณ์ บวกหนึ่งร้อย เหลืออีกสองพันแปดร้อยสี่สิบแต้มในการเลื่อนไประดับถัดไป” หลังจากได้ยินคำว่าระดับถัดไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่นอีกครั้ง หากเขาได้รับโอกาสให้เลือกอีกครั้ง เขาจะไม่หว่านแหครั้งที่สองนี้! ใครจะอยากเล่นตลกกับชีวิตของตัวเองกัน
“ผู้ถือครองฉู่เหิน การหว่านแหครั้งที่สาม จับได้ฟูกโบราณหนึ่งอัน รูปปั้นหินหนึ่งอัน พลังกายบวกสอง ความเร็วบวกสอง และพลังวิญญาณ บวกสอง ค่าประสบการณ์เพิ่มขึ้น แปดร้อยแต้ม เหลืออีกสองพันสี่สิบแต้มในการเลื่อนไประดับถัดไป”
หลังจากได้ฟังประโยคถัดมา ฉู่เหินก็อดที่จะตกใจไม่ได้ หลังจากเสียเวลาไปทั้งวัน สิ่งที่คิดว่าเป็นของธรรมดาทั่วไปกลับกลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดที่เขาได้รับในวันนี้! ดูเหมือนว่าหลังจากกลับไป เขาจะต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมเสียแล้ว
ตอนนี้เมื่อมองไปที่ท้องฟ้าก็ปรากฏว่าเย็นมากแล้ว หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถอนสมอแล้วล่องเรือกลับไปยังชายฝั่งอย่างรวดเร็ว! ตอนนี้เขาตั้งตารอคอยว่ามังกรทะเลที่เขาจับมาจะขายได้ราคาเท่าไหร่ เขาจะสามารถจ่ายค่ารักษาให้กับพี่ใหญ่ได้หรือไม่นั้น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับมังกรทะเลเหล่านี้แล้ว