บทที่ 91 ตามหา
ไม่มีทางที่ฉู่เหินจะหาเรื่องชวนคุยได้อย่างสบายใจตลอดทั้งคืน เพราะตัวเขาเองก็เกรงใจเด็กทั้งสองที่อยู่ในบ้านหลังนี้ด้วยเช่นกัน
ในขณะเดียวกันนั้น ถึงแม้ว่าเด็กทั้งสองจะแสดงความเป็นห่วงเขามากก็จริง แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก
โทรศัพท์ของฉู่เหินอยู่ในแหวน และเมื่อเขามั่นใจแล้วว่าเด็กทั้งสองไม่ได้ให้ความสนใจกับเขาแล้ว ชายหนุ่มจึงรีบโทรออกไปยังเลขหมายแรกทันที ซึ่งเบอร์นั่นก็คือเบอร์บ้านของซ่างกวงเสี่ยวฟู๋นั่นเอง แต่ทว่าที่นั่นกลับไม่มีใครอยู่ เมื่อเห็นแบบนั้นจึงทำให้เขาต้องวางหูไปอีกครั้ง
การที่ฉู่เหินหายตัวไปนั้นทำให้ทุกคนเริ่มเป็นห่วงเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางกองทัพ เพราะไม่พวกเขาไม่สามารถเพาะพันธุ์ปลาเกล็ดขาวของตัวเองได้ และด้วยความต้องปลาเกล็ดขาวที่มากขึ้นทุกวัน ดังนั้นการหายตัวไปของฉู่เหินจึงสร้างความเสียหายให้กับพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
ศาสตราจารย์จางเองก็กระวนกระวาย ชายหนุ่มคนนี้มีความสำคัญต่องานวิจัยนี้เป็นอย่างมาก แต่เขากลับมาหายไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ ดังนั้นเฒ่าจางรีบติดต่อหาทุกคนที่รู้จักให้ตามหาฉู่เหินทันที
ทุก ๆ สื่อตั้งแต่วิทยุไปจนถึงหนังสือพิมพ์ต่างก็ลงข่าวและประกาศทุกสิ่งที่เกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้ แต่วันเวลาก็ผ่านไปได้ราวๆ 1 เดือนแล้วโดยที่ไม่มีข่าวคราวใด ๆ เกี่ยวกับฉู่เหินเลย
หลังจากผู้เฒ่าหวงได้ข่าวนี้จากหลานสาวของเธอ ทุกคนในบ้านของเธอต่างก็รีบระดมพลกันไปช่วยตามหาฉู่เหินทันที
ถึงจะไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับหวงเจี้ยนหมิงก็จริง แต่ข่าวต่าง ๆ ที่ลงมากมายทำให้ทั้งสองพี่น้องนี้รู้ได้อยู่ดี ภายใต้ความกดดันมหาศาล ซูวี่เหมยจึงรีบกลับบ้านไปเพื่อตามหาฉู่เหินทันที
ทว่า หวงเจี้ยนหมิงที่ป่วยและนอนอยู่ในโรงพยาบาลกลับไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้เลย เขาพยายามคิดถึงเรื่องของฉู่เหินวนไปมาในหัวตลอดเวลา ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่มคนนี้กันแน่?
สื่อวิทยุประโคมข่าวตลอดเวลา ทำให้มีหลาย ๆ คนเริ่มตามหาฉู่เหินกันถ้วนหน้า
การตามหาฉู่เหินนั้นไม่ต่างอะไรจากการงมเข็มในมหาสมุทรเลย ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่กันแน่
ตอนนี้แทบจะทั้งโลกต่างก็สงสัยว่า ฉู่เหินเป็นใคร? ทำไมถึงหายตัวไป? แล้วทำไมถึงมีคนตามหาเขามากขนาดนี้? หรือว่าหมอนี่จะเป็นลูกคนรวยที่หนีออกจากบ้านกัน?
หลังจากที่หวงลี่ลี่เรียนเสร็จแล้ว เธอก็เริ่มออกตามหาฉู่เหินพร้อมกับเสี่ยวชิง
ตระกูลเสี่ยว กับ ตระกูลหลิว เองก็ออกตามหาด้วยเช่นกัน พวกเขาใช้เส้นสายมากมายที่มีอยู่มาร่วมด้วยช่วยกัน
ทั้งโลกในตอนนี้กำลังช่วยกันตามหาเขาคนนี้อยู่ ใบหน้าของฉู่เหินกระจายไปทั่วทั้งโลก
เด็กทั้งสองในบ้านของเฉินเจียนพยายามรบเร้าให้ฉู่เหินเล่าเรื่องของเขาให้ฟัง แต่ชายหนุ่มก็บอกไปว่าเขาเสียความทรงจำและบอกอะไรไม่ได้ ถึงจะเล่าได้เพียงเล็กน้อยแต่เด็กทั้งสองก็ดูมีความสุขดี
และแล้วความคิดก็ปรากฏขึ้น
“พี่ชิงจะเป็นพ่อของพวกเราได้ไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราจะได้เรียกน้าเจียนว่าแม่ด้วย”
เฉินเจียนที่อยู่ในห้องด้วยกัน เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมา หญิงสาวนั่งเงียบ ๆ เพื่อรอฟังว่าเขาจะตอบกลับอย่างไร
แม้ว่าฉู่เหินบรรยากาศจะเป็นใจ และตัวเขาจะอยากตอบรับมากขนาดไหนก็ตาม แต่ในใจของเขาก็พยายามขัดขืนมันอยู่
หลังจากที่อยู่ด้วยกันมานานนับเดือน ฉู่เหินเองก็เริ่มมีใจให้กับเฉินเจียนแล้ว แม้ว่าเขาจะลืมเรื่องราวไปเยอะแยะ แต่ความรู้สึกมันก็บอกกับเขาว่าอยากจะอยู่กับเฉินเจียนตลอดไป ทว่าเมื่อเขาคิดเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ในใจของเขาก็ยิ่งขัดขืนมากเท่านั้น
“เด็กโง่ พวกหนูยังเด็กอยู่เลยนะ แค่เรียกชื่อแล้วมันจะสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉู่เหินตอบเลี่ยง ๆ พลางลูบหัวเด็กทั้งสอง
แน่นอนว่าคำตอบนี้ทำให้ทุกคนในบ้านไม่พอใจสุด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินเจียน
“พี่ชิง พวกเราไม่เข้าใจเลย ตกลงพี่จะเป็นไหม?”
“ช่วยรอจนกว่าฉันจะได้ความจำกลับคืนมาก็แล้วกันนะ” ฉู่เหินบอกแบบนั้น
เด็กทั้งสองผิดหวังเป็นอย่างมาก ในเมื่อพวกเขาพบคนที่อยากจะให้เป็นคนรักกับเฉินเจียนแล้วแท้ ๆ แต่คำตอบกลับทำให้ผิดหวังซะได้
แม้ว่าที่นี่จะเข้าฤดูร้อนแล้ว แต่ทุกบ้านก็มีช่องทำน้ำแข็งของตัวเอง ถึงจะเรียกว่าเป็นช่องน้ำแข็งก็ตาม หากแต่มันก็คือถ้ำเล็ก ๆ ที่ทุกบ้านขุดเอาไว้สำหรับหลบร้อนและแช่อาหารไว้ข้างในเท่านั้น
แหล่งอาหารทั้งหลายของหมู่บ้านฮวายซานนั้นมาจากพวกสัตว์บนภูเขา เพราะว่าคนที่นี่มีอาชีพนายพรานทั้งนั้น แต่ในช่องแช่ของเฉินเจียนนั้นกลับโล่งโจ้งไม่มีอะไรเลยเพราะว่าไม่มีใครขึ้นไปล่าสัตว์
ทว่า มันก็เปลี่ยนไปตั้งแต่ที่ฉู่เหินมาที่นี่ เพราะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ช่องแช่อาหารก็มีเนื้อสัตว์อัดแน่นตลอดเวลา เท่าที่กะดูแล้ว ด้วยจำนวนเนื้อสัตว์ทั้งหมดที่มีน่าจะพออยู่ได้ราวๆ 1 เดือนเต็มเลยทีเดียว
เมื่อฉู่เหินขึ้นไปล่าสัตว์ เขาก็ได้เก็บรากไม้สมุนไพรมาด้วย มันมีสีแดงและเขากะว่าจะถักทอเป็นกำไลข้อมือ เพื่อเอาไปให้เฉินเจียน
เมื่อได้กำไรข้อมือ เฉินเจียนก็ถึงกับน้ำตาไหล นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ของขวัญจากคนอื่น เธอกำมันแน่นแล้วพูดออกมา “ขอบคุณนะ!”
เพียงชั่วพริบตา ฉู่เหินก็แทบจะคุ้นชินกับที่นี่เสียแล้ว
เพียงเดือนเดียว ฉงยิงและฉงเซี๋ยก็รู้สึกได้ว่าที่นี่คือบ้านของพวกเขา ตลอดเดือนนี้ เวลาที่เฉินเจียนกลับบ้าน ในใจเธอก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข
“พรุ่งนี้พวกเราจะเข้าเมืองไปซื้อของกัน เสี่ยวชิง ไปกับพวกเราสิ!” ได้ยินคำพูดแบบนั้นจากเฉินเจียน ชายหนุ่มก็ครุ่นคิดก่อนที่จะส่ายหัว เขาไม่คิดจะซื้ออะไรอยู่แล้วและคิดจะทำสวนที่บ้านต่อไป
ไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจ ในหัวใจของเขาบอกได้เลยว่านี่ถึงเวลาที่เขาต้องจากไปแล้ว ทุก ๆ วันที่เคลื่อนผ่านไป จิตใจของเขาก็เริ่มสั่นไหวมากขึ้นเรื่อย ๆ มันเหมือนกับว่าหัวใจของฉู่เหินขาดอะไรบางอย่างไป