สุดยอดรัชทายาท ตอนที่ 17-1ลูกศิษย์เก่งกว่าอาจารย์
ตอนที่ 17-1 ลูกศิษย์เก่งกว่าอาจารย์
“เหตุใดคุณชายฮวนจึงมาพบข้าในวันนี้”
ชางอู๋ซินเอ่ยถาม ขณะที่ก้มลงจิบชาที่สาวใช้นํามาวางไว้ให้ เมื่อครู่
ชายผู้มาเยือนจ้องมองไปที่องค์รัชทายาท ที่นั่งอยู่บนเบาะด้านบน ซึ่งทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความสง่างาม
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า ความอยากรู้อยากเห็นจึงผุดขึ้นในใจของฮวนม่อเฉอในทันที
เขาอยู่ในเมืองหลวงมาเป็นเวลานานมาก และแม้ว่าจะมิเคยพบองค์รัชทายาทมาก่อน
แต่เคยได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องความไร้สามารถของเขา
ซึ่งจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนเช่นนี้จะเป็นผู้ที่ไร้สาระเช่นนั้น?
ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่มีพรสวรรค์ประเภทนี้ น่าจะเป็นมังกรในหมู่มวลมนุษย์เสียมากกว่า
ฮวนม่อเฉอเคยเห็นบุตรชายขององค์จักรพรรดิทั้งหมดแล้ว แต่มิมีผู้ใดสามารถเทียบได้กับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาได้เลย
หากเรื่องราวทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นเรื่องที่รัชทายาทเสแสร้ง แล้วเหตุใดเขาจึงหยุดในตอนนี้?
“พระองค์ควรเรียกกระหม่อมว่าอาจารย์ ในฐานะอาจารย์สอนพิเศษ
กระหม่อมจะรับผิดชอบในการสอนอย่างดีที่สุด”
ฮวนม่อเฉอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ยิ่งไปกว่านั้น ฝ่าบาทได้มีพระราชโองการ ให้กระหม่อมแนะนําท่านให้ดี ขอให้พระองค์อย่าได้ทรงทําเรื่องยุ่งยากให้กับกระหม่อม
“เราชื่นชมในความสามารถของท่านอาจารย์ฮวน แต่เมื่อมินานมานี้สุขภาพของเรานั้นย่ําแย่
ดังนั้นเกรงว่า จะมิสามารถเรียนรู้จากอาจารย์ฮวนได้”
ชางอู๋ซินกล่าวพลางมองไปยังถ้วยน้ําชาในมือของตนเอง
“หากท่านพอจะมีเวลา สวนของตําหนักแห่งนี้ก็มเลวนัก สําหรับการชื่นชม และตอนนี้ได้เวลาพักผ่อนของเราแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ นางได้ลุกขึ้นยืนและพร้อมที่จะเดินออกจากห้องโถงใหญ่
โดยมิได้รอให้ชางอู๋ซินก้าวเท้าออกจากห้องโถง ฮวนม่อเฉอได้ตามหลังนางอย่างใกล้ชิด
ขณะที่รอยยิ้มอ่อนโยนยังคงแขวนอยู่บนใบหน้าของเขา แต่ชางอู๋ซินรู้สึกได้ว่า เขาเป็นคนประเภทที่ซ่อนความคิดในใจไว้ ใต้พื้นผิวหน้าที่เรียบเฉย ซึ่งเป็นดังเช่นการสวมหน้ากาก
อย่างไรก็ตาม จะสามารถเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของคนผู้นี้ให้ผู้อื่นเห็นได้อย่างไร?
ดูเหมือนว่า หากฮวนม่อเฉอมิได้มีแววตาที่มีเล่ห์เหลี่ยมและรู้ทันคนซึ่งคล้ายกับนาง ชางอู๋ซินก็คงจะรู้สึกชื่นชมคนผู้นี้เช่นกัน
“เนื่องจากองค์รัชทายาทเป็นลูกศิษย์ของกระหม่อม ดังนั้น เมื่อลูกศิษย์กําลังรู้สึกมสบาย
ไม่ว่าจะเป็นในฐานะอาจารย์สอนพิเศษ หรือราษฎรของแผ่นดินนี้ กระหม่อมจึงควรมีส่วนร่วมในการดูแลพระองค์มิทางใดก็ทางหนึ่ง”
ฮวนม่อเฉอกล่าว โดยมิได้สนใจน้ําเสียงที่บ่งบอกถึงความรําคาญใจขององค์รัชทายาท
เมื่อเห็นปฏิกิริยาขององค์รัชทายาทแล้ว เขาสามารถกล่าวได้ว่า พระองค์มิได้ชื่นชอบในตัวเขามากนัก หรืออาจจะรังเกียจเลยด้วยซ้ํา
แต่ว่าเขาจะพยายามครุ่นคิดสักเพียงใด ก็จํามิได้ว่าตนเองเคยกระทําสิ่งใดที่ดูหมิ่นเขามาก่อนเพราะพวกเขาทั้งสองคนได้พบกันครั้งนี้เป็นครั้งแรกอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น เขามีความสนใจในตัวขอองค์รัชทายาทผู้นี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงต้องการที่จะเอาชนะเขาให้ได้
ชางอู๋ซินหยุดฝีเท้าของตนเอง และจ้องมองไปยังฮวนม่อเฉอด้วยความรําคาญใจที่ปรากฏขึ้นในแววตาของนางอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สายตาที่เฉียบคมของนางนั้น ยังคงมองเห็นแววตาคู่นั้นพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยด้วยความจริงใจที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาของเขา
เขากล่าวด้วยความห่วงใยว่า
“องค์รัชทายาททรงประชวรหรือ?”
พระองค์ทรงต้องการให้กระหม่อมเรียกหมอหลวงให้หรือไม่?”
เมื่ออู๋เหว่ยและอู๋จได้เห็นดังนั้นแล้วจึงเกิดความรู้สึกตกใจเล็กน้อย กับการกระทําของฮวนม่อเฉอ และแม้แต่หัวหน้าขันที่ไห่เองก็รู้สึกงุนงง
เพราะพฤติกรรมของคุณชายฮวนนั้นผิดปกติเกินไป!
ในขณะนี้ ฮวนม่อเฉอรู้ตัวดีว่าตนเองทําตัวผิดปกติ แต่เขาเพียงต้องการหยอกล้อเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เท่านั้น
และดูเหมือนว่า อารมณ์ของเขาเองจะผ่อนคลายเป็นพิเศษเมื่อได้อยู่ใกล้กับองค์รัชทายาทผู้นี้
ชางอู๋ซินมิได้สนใจเขาเลย เพราะนางมิสามารถไล่ให้เขากลับไปได้และมิสามารถฆ่าเขาได้เช่นกัน
นอกจากนี้นางยังรู้ว่า วิทยายุทธของชายผู้นี้นั้นมิได้ต้อยต่ําอย่างแน่นอน ในกรณีนี้การเพิกเฉยต่อเขาก็นับว่าเพียงพอแล้ว
จากนั้นชางอู๋ซินจึงมิได้กลับไปที่ห้องนอนของตนเอง
แม้ว่านางจะมิได้ใส่ใจในความเป็นหญิงสาวของตนเอง แต่ห้องนอนนั้นเป็นพื้นที่ ซึ่งต้องการความเป็นส่วนตัว
และเมื่อเข้าไปในห้องนอนแล้วนางจึงมิต้องการให้ผู้ใดไปรบกวนอีกแต่ชายผู้นี้คงจะมิยอมเป็นแน่
ด้วยเหตุนี้นางจึงนั่งลงบนโต๊ะทํางาน และเริ่มฝึกเขียนอย่างฟุ้งซ่าน
มันอยู่ภายใต้ข้ออ้างของการฝึกฝน แต่อันที่จริงแล้วมันสามารถทําให้จิตใจของนางสงบลงได้
และจิตใจของนางในตอนนี้กําลังถูกรบกวนจึงต้องการความสงบเป็นอย่างมาก
ฮวนม่อเฉอแอบมองเด็กหนุ่มที่กําลังฝึกประดิษฐ์ตัวอักษรที่โต๊ะทํางานของเขาด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก
เพราะเขารู้ดีว่าองค์รัชทายาทผู้นี้มิได้เข้าโรงเรียนเหมือนดังเช่นเชื้อพระวงศ์ท่านอื่นตั้งแต่ยังเด็ก และจักรพรรดิก็มิได้ส่งคนมาสอนวิธีอ่านและเขียนให้กับเขาด้วย
ในตอนนี้เขามีความรู้สึกว่า ดูเหมือนรัชทายาทจะมีความลับมากมาย
เห็นได้ชัดว่า นิสัยของฮวนม่อเฉอนั้นมีความรักสันโดษ และมิแยแสผู้คนรอบข้างเท่าใดนัก
แต่เขาก็มีเข้าใจเช่นกันว่า เหตุใดตนเองจึงให้ความสนใจรัชทายาทเช่นนี้
เขาเดินมาที่ด้านข้างของชางอู๋ซินโดยตั้งใจจะตรวจสอบว่าองค์ชายผู้ลึกลับนี้ฝึกเขียนด้วยลายมือแบบใด
แต่เมื่อได้เห็นสิ่งนั้นเพียงชั่วอึดใจเดียว ก็ทําให้เขาเกิดความรู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะ
ตัวอักษรบนกระดาษมีความเฉียบคม และประณีตงดงามเป็นอย่างยิ่งอีกทั้งยังโดดเด่นทรงพลังและแตกต่างจากลายมือที่เคยได้พบเห็น
เป็นการเขียนที่มีทักษะประณีต อีกทั้งยังมีความมั่นคงด้วยรูปแบบที่ชัดเจนและไร้ขีดจํากัด
แม้แต่อาจารย์ผู้นี้ก็มสามารถเทียบเทียมได้ด้วยทักษะประเภทนี้
เขาคิดว่า แบบฝึกหัดการเขียนแบบคล่องแคล่วและพริ้วไหวขององค์รัชทายาทนั้นเพียงพอที่จะทําให้ทุกคนแย่งชิงเพื่อให้ได้มาเป็นงานศิลปะของตนเอง
“ยอดเยี่ยม”
ฮวนม่อเฉอกล่าวด้วยความชื่นชม เมื่อมองไปยังงานเขียนที่น่าประทับใจนั้น ก็ยิ่งทําให้เขาเกิดความพึงพอใจมากขึ้นไปอีก
“ดูเหมือนว่า ความใฝรู้ขององค์รัชทายาทจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับกระหม่อม ทําให้กระหม่อมเกิดความรู้สึกละอายใจที่จะต้องมาทําหน้าที่อาจารย์
มิทราบว่า ต่อจากนี้ไปพระองค์จะทรงยอมรับกระหม่อมเป็นมิตรได้หรือไม่?”