ตอนที่ 18-1 รถม้าคันใหม่
ชางอู่ซินตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ แต่เนื่องจากมันยังเช้าเกินไปอารมณ์ของนางจึงยังคงขุ่นมัวราวกับว่าตอนนี้ มีชั้นน้ำแข็งฉาบอยู่บนใบหน้าที่เฉยเมยของนางอีกชั้นหนึ่ง
“องค์รัชทายาท!” อู๋จูเดินเข้ามาด้านข้างขององค์รัชทายาทด้วย ความอ่อนน้อมและเขินอาย
นางจ้องมองด้วยสายตาแห่งความหลงใหล ขณะที่พระองค์ทรงเสวยพระกระยาหารเช้าอย่างใจเย็น
เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ สาวใช้ยังคงกล่าวอย่างแน่วแน่ว่า
“วันนี้บ่าวขอติดตามไปรับใช้พระองค์ได้หรือไม่?”
ในช่วงเวลานี้ นางเริ่มชื่นชมองค์รัชทายาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ ชัดและความเคารพที่นางมีต่อพระองค์ก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้นางยังมีความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่า ตนเองจะได้รับความไว้วางใจให้มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ และมีคุณสมบัติที่จะทําหน้าที่เป็นมือขวาของพระองค์ได้
ตอนนี้ความรู้สึกของนางแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
ในตอนแรกที่ยังมิเคยได้พบและรู้จักกับองค์รัชทายาทนั้น นางมีเพียงความรู้สึกที่ต้องการจะปกป้องพระองค์เท่านั้น
แต่ตอนนี้นางมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่สําคัญของพระองค์ แม้ว่านางจะเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ตาม
อู๋เหว่ยเป็นผู้หญิงเช่นเดียวกัน แต่นางสามารถรับใช้ตลอดเวลาที่องค์ชายทรงต้องการความช่วยเหลือ
หลังจากได้ยินคํากล่าวของนาง อู๋เหว่ยซึ่งอยู่ระหว่างจัดอาหารให้กับองค์รัชทายาท เกือบจะทําตะเกียบในมือของนางหล่นด้วยความตื่นตระหนก
นางตระหนักดีถึงความฉลาดเฉลียวและความแข็งแกร่งของอู๋จู
และหญิงสาวผู้นี้เป็นคนเก่าคนแก่ของพระมารดาขององค์รัชทายาท บางที่นางอาจจะมีความสามารถมากกว่าตนเอง
และที่สําคัญ หลังจากใช้เวลาร่วมกันหลายวัน อู๋เหว่ยสามารถสังเกตเห็นความทุ่มเทของอู๋จูได้อย่างชัดเจน
พวกนางกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อประโยชน์ขององค์รัชทายาทด้วย
นางต้องการทราบเหมือนกันว่า วันนี้พระองค์จะพาอู๋จูไปด้วยหรือไม่ เมื่อพระองค์เข้าวัง แต่นางมิกล้าที่จะเอ่ยถาม
ท้ายที่สุดแล้ว นางก็ยังจดจําครั้งสุดท้ายได้ มันทําให้นางเข้าใจว่าหากนางมีความน่าเกรงขามมากกว่านี้ นางจะสามารถปกป้องตนเองได้ มิฉะนั้นนางจะเป็นภาระให้พระองค์
“อา ”
เนื่องจากนางตื่นเช้ามากเกินไป จึงมิรู้สึกอยากอาหารมากนักชางอู๋ซินจึงวางตะเกียบของตนเองลง
เมื่อได้ยินคํากล่าวของอู๋จู อารมณ์ของนางจึงดีขึ้นมาบ้าง
“นี่เป็นงานเลี้ยงวันเกิด มิใช่การอัญเชิญส่วนตัวของพระบิดาแน่นอนว่า ข้าสามารถพาเจ้าไปด้วยได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าเข้าไปในพระราชวัง จงตั้งสมาธิกับการดูและฟัง และอย่าเปิดปากกล่าวในสิ่งที่มีจําเป็น
องค์ชายผู้นี้หวังว่า เจ้าจะมี
สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น เข้าใจหรือไม่?”
อู๋เหว่ยมีความยินดีในใจขณะที่อู๋จู กล่าวทันที
“ขอบพระทัยองค์รัชทายาท บ่าวผู้นี้เคารพเชื่อฟังในการปฏิบัติหน้าที่ บ่าว จะมทําให้พระองค์ต้องกังวลใจ!”
พวกนางรู้อย่างชัดเจนว่า ในขณะที่องค์รัชทายาทดูเหมือนสิ่งมีชีวิตที่มีอิสระบนท้องฟ้าที่เคร่งขรึม แต่เขาก็มิชอบสิ่งที่ยุ่งยากใจ
ชางอู๋ซินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“อย่างไรก็ตาม เจ้าคือคนของข้าดังนั้นจึงมิสามารถปล่อยให้ผู้อื่นรังแกเจ้าได้
เป็นเรื่องที่ดี หากเจ้าจะมิสร้างปัญหาใด ๆ แต่หากมีผู้ใดมายั่วยุ เจ้าก็มิควรทําให้องค์ชายผู้นี้ต้องเสียหน้า
หากมีอันใดเกิดขึ้น ข้ายังคงต้องรับผิดชอบต่อไป”
“เพคะ!”
อู๋เหว่ยและอู่จูพยักหน้าอย่างหนัก เนื่องจากการได้ยืนเคียงข้างองค์รัชทายาทนั้น ถือเป็นโชคดีที่สุดในชีวิตของพวกนาง
“องค์รัชทายาท รถม้าพร้อมแล้ว เราควรออกเดินทางไปยังพระราชวังเดี๋ยวนี้หรือไม่?”
หัวหน้าขันที่ไร่เอ่ยถามจากทางด้านหน้าประตู
และเมื่อนึกถึงสิ่งที่รัชทายาทเตรียมไว้เป็นของขวัญวันคล้ายวันประสูติของจักรพรรดิ ทําให้เขาเกิดความรู้สึกกังวลใจขึ้นมาทันที
แต่เขารู้ว่า ความกลัวของเขามมีเหตุผล เพราะองค์ชายผู้ชาญฉลาดคงจะไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงโกรธเคืองเขาจริง ๆ แต่องค์รัชทายาทคนปัจจุบันก็คงจะมิใส่ใจแม้แต่น้อย
ชางอู๋ซินลุกขึ้นยืนและหยิบผ้าเช็ดหน้าในมือของอู๋เหว่ยมาเช็ด มือของตนเอง
จากนั้นได้พาสาวใช้ทั้งสองคนเดินไปที่รถม้าที่จอดอยู่ด้านหน้าพระตําหนัก
แต่ทันทีที่เดินออกไป นางสังเกตเห็นรถม้าสีดําทรงสูงที่ทําจากไม้เครื่องหอม แม้ว่านางจะมิรู้ว่าข้างในนั้นเป็นอย่างไร แต่ตัดสินเพียงแค่ภายนอก นางก็ตระหนักได้ถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของมัน
“สิ่งนี้คืองานผลของผู้ใด?”
ชางอู๋ซินเอ่ยถามโดยมิมีความรู้สึกใด ๆ ปรากฏอยู่บนสีหน้าของนาง
และมิมีผู้ใดสามารถบอกกล่าวได้ว่า นางมีความสุขหรือมิพอใจกับเรื่องนี้
หัวหน้าขันที่ไหรีบวิ่งมาที่ด้านข้างของชางอู่ซินและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
“บ่าวชราผู้นี้เป็นผู้สั่งทําขึ้นมาเอง องค์ชายทรงชื่นชอบมันหรือไม่?”
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะที่ตําหนักของรัชทายาทนั้นมีทรัพย์สินน้อยเกินกว่าที่จะใช้จ่ายสิ่งของฟุ่มเฟือยเช่นนี้ได้
แต่ตอนนี้พวกเขามีทรัพย์สินมากขึ้นแล้ว จึงมิควรทําให้องค์รัชทายาทต้องทรงลําบากอีกต่อไป
และเมื่อเห็นว่า ทรัพย์สินในตําหนักมีมากพอ ขันที่ไร่จึงปรึกษากับอู๋เหว่ยทันที่เกี่ยวกับการทํารถมาคันใหม่นี้
ชางอู๋ซินจะมิตระหนักถึงความตั้งใจของหัวหน้าขันที่ไม่ได้อย่างไร
นางผงกศีรษะ
“ไห่กงกงทําได้ดี องค์ชายผู้นี้ชื่นชอบมาก”
นางเข้าไปในรถม้าขณะที่กล่าวเช่นนั้น แน่นอนว่าการตกแต่งภายในถูกจัดให้เข้ากับความชื่นชอบในปัจจุบันของนางอย่างสมบูรณ์แบบ
ทุกอย่างดูมีความเรียบง่าย แต่หรูหรา และที่สําคัญมันสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อเขาได้ยินว่า องค์รัชทายาททรงมีความพอพระทัย หัวหน้าขันที่ไร่ก็หัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา
เมื่อรวมกับรูปร่างอ้วนกลมของเขาใบหน้าที่หัวเราะนั้นทําให้เขาดูมีความสุขมากขึ้น
แม้แต่อู่เหว่ยและจก็อดมิได้ที่จะยิ้มกว้างออกมา นับประสาอันใดกับทหารองครักษ์คนอื่น ๆ ที่แอบก้มหน้าและหัวเราะด้วยความขบขัน
และสังเกตเห็นว่า หัวหน้าขันที่ไร่ผู้เคร่งขรึมและน่าเกรงขาม มักจะเป็นผู้ที่น่าขบขันต่อหน้าองค์รัชทายาทเสอ
การได้ยินเสียงหัวเราะของทุกคนจากภายในรถม้า ทําให้เกิดรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของชางอู๋ซินเช่นกัน
ช่างน่าเสียดายที่มิมีผู้ใดได้เห็นรอยยิ้มนั้น แม้ว่าหญิงสาวทั่วไปได้เห็นรอยยิ้มที่น่าหลงใหลเช่นนี้หัวใจของพวกนางคงจะต้องเต้นระทึกด้วยความหวั่นไหวอย่างแน่นอน
คนที่ขับรถม้าคืออู่เหว่ยและอู่จูในขณะที่ราชองครักษ์ขององค์รัชทายาทได้รวมตัวกัน เพื่อป้องกันและคุ้มภัยให้กับพระองค์
เมื่อมองไปที่รูปแบบนั้น ทุกคนต่างก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับองค์รัชทายาทผู้นี้มากยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้ประชาชนต่างก็พากันแพร่ข่าวลือที่น่ายินดีว่า องค์ชายรักษาความเป็นส่วนตัวและน่าเกรงขาม
แต่น่าเสียดายที่องค์รัชทายาทมิเคยแสดงตัวต่อหน้าพลเมืองเหล่านั้นเลย
นับประสาอันใดกับพวกเขา แม้แต่ขุนนางของราชสํานักก็ยังมีเคยเห็นพระองค์เช่นเดียวกัน
และเนื่องจากองค์รัชทายาทยังมีอายุไม่ถึงสิบหกปี จึงมิสามารถ เข้าร่วมว่าราชการกับทางราชสํานักได้
ดังนั้นเหตุผลที่ขุนนางหลายคนมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดในวันนี้คือต้องการเห็นองค์รัชทายาท
“โอ! นั่นคือรถม้าขององค์รัชทายาทใช่หรือไม่?
ดูเหมือนว่า มันค่อนข้างใหญ่และน่ามีความสนใจมิใช่น้อย ข้าสงสัยว่าพระองค์ทรงประทับอยู่ด้านในหรือไม่?”
เสียงกระซิบของบรรดาหญิงสาวดังไปทั่วท้องถนนที่รถม้าวิ่งผ่าน
บรรดาหญิงสาวทั่วไป มีผู้ใดบ้างที่มิต้องการจะแต่งงานกับเชื้อพระวงศ์?
ก่อนหน้านี้พวกนางคิดว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีความอ่อนแอแต่ฟังคําบอกเล่าล่าสุดแล้ว หลายคนเริ่มชื่นชมองค์รัชทายาทผู้ลึกลับพระองค์นี้
“ต้องใช่! ดูสิมิมีรถม้าขององค์ชายผู้ใดสามารถเทียบได้เลย!”
“ข้าสงสัยว่า พระองค์มีหน้าตาเป็นอย่างไร? พระองค์จะทรงสง่างามหรือไม่?”