ตอนที่ 8-1 ตบปากนาง!
“เซียงเอ๋ออยู่ที่ใด” ชางอู๋ซินเอ่ยถามขณะกวาดสายตามองไปยังบรรดาคนรับใช้ที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่
น่าเสียดายที่มิมีเสียงของผู้ใดตอบกลับมา
เซียงเอ๋อเป็นสาวใช้คนสนิทขององค์รัชทายาท แต่นางมักจะวางอำนาจในตำหนักแห่งนี้
ดีเยี่ยม! เมื่อมิมีเสียงตอบรับ ชางอู๋ซินมิได้แสดงท่าทีโกรธเคืองแต่อย่างใด แต่กลับยิ้มกว้างแทน
เห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทผู้นี้เป็นผู้ที่อ่อนแอมากเสียจนมิมีผู้ใดสนใจคำกล่าวของนาง
“โง่เง่า!” ขันทีไห่ชิงใช้เท้าเตะเด็กรับใช้ที่นั่งอยู่ใกล้ที่สุด และตะคอกว่า
“พวกเจ้ามิได้ยินที่องค์รัชทายาททรงเอ่ยถามอย่างนั้นหรือ?
มิต้องการมีชีวิตต่อแล้วรึ?!”
สถานะของเขาอยู่เหนือสาวใช้ผู้อื่น นั่นทำให้เหล่าสาวใช้ต่างก็เกรงกลัวขันทีผู้นี้เป็นอย่างมาก
ต่อหน้าองค์รัชทายาท เขาอาจจะดูมีเมตตาและจิตใจดี แต่ลับหลังแล้ว ขันทีไห่ชิงกลับไร้ความปราณีต่อผู้คนที่มิเชื่อฟังองค์รัชทายาท
สาวใช้ที่ถูกเตะก่อนหน้านี้รีบวิ่งออกไปตามเซียงเอ๋อในทันที
เมื่อมองไปยังองค์รัชทายาทที่วางตัวแตกต่างจากปกติ ขันทีไห่ชิงจึงกำลังสงสัยว่า เขาตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่
โดยปกติแล้ว เซียงเอ๋อจะอาศัยความใจดีขององค์ชาย ในการวางอำนาจและกดขี่ข่มเหงสาวใช้ผู้อื่นในตำหนักแห่งนี้
ก่อนหน้านี้เขาต้องการที่จะจัดการกับเซียงเอ๋อเป็นการส่วนตัว แต่นั่นจะทำให้องค์รัชทายาททรงเสียพระทัย เขาจึงมิกล้ากระทำการอันใด
แต่เหตุใดวันนี้องค์ชายจึงเรียกหานาง หวังว่าจะมิได้เรียกเซียงเอ๋อมาเพื่อปลอบใจ
เซียงเอ๋อมิรู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ และมิรู้ตัวว่าควรจะประพฤติตนเช่นไร เพราะเห็นว่าองค์รัชทายาทเข้าข้างนาง
หลังจากรอมานาน สาวใช้ได้พาเซียงเอ๋อกลับมาที่บริเวณหน้าตำหนัก
เมื่อมองไปยังองค์รัชทายาท กำลังยืนรออยู่ เซียงเอ๋อจึงมีความรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และคิดอยู่ในใจว่า นี่คือองค์รัชทายาทจริง ๆ หรือ?
เห็นได้ชัดว่า เป็นใบหน้าเดียวกัน แต่เหตุใดจึงรู้สึกได้ถึงความแตกต่างถึงเพียงนี้?
ก่อนหน้านี้แม้ว่าตำแหน่งรัชทายาทจะสูงส่ง แต่เซียงเอ๋อก็ยังดูถูก และหลอกลวงเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่บัดนี้ แม้ว่าองค์รัชทายาทจะยืนอยู่ตรงนั้น และมิใส่ใจที่จะมองมาทางนาง
เซียงเอ๋อกลับรู้สึกว่าหัวใจของนางกำลังสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวอย่างหาสาเหตุมิได้
ชางอู๋ซินจ้องมองลงไปยังเซียงเอ๋อ ซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด และอยู่เบื้องหลังการตายก่อนวัยอันควรของรัชทายาท
รูปร่างหน้าตาของนางมิได้งดงามมากนัก
แต่เซียงเอ๋อก็มีความสง่างามอยู่บ้าง และที่สำคัญไปกว่านั้นในขณะที่องค์รัชทายาทหายไป เหตุใดสาวใช้ผู้นี้กลับแต่งกายอย่างหรูหรา
เซียงเอ๋อปักปิ่นมุกราคาแพงไว้บนศีรษะ และแต่งกายด้วยชุดสีชมพูอ่อน ซึ่งเย็บปักจากผ้าไหมเนื้อดี
สาวใช้ในตำหนักของรัชทายาทควรสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฐานะของตนเอง
แต่เซียงเอ๋อกลับแต่งกายแตกต่างจากสาวใช้ผู้อื่นมาก และเมื่อได้เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นมัวของนาง
ชางอู๋ซินก็สามารถกล่าวได้ในทันทีว่า เซียงเอ๋อคงจะอาศัยอยู่กับชายผู้หนึ่งแน่นอน!
“เซียงเอ๋อ เจ้ารู้หรือไม่ว่า ทำสิ่งใดผิด?”
ชางอู๋ซินเอ่ยถาม ขณะที่เงยหน้าขึ้นจ้องมองดูกลุ่มเมฆบนท้องฟ้า น้ำเสียงของนางช่างหยิ่งผยองยิ่งนัก
เซียงเอ๋อยืดหลังของนางให้ตรงและหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับแสร้งกล่าวอย่างใจเย็นว่า
“มิแน่ใจว่าองค์รัชทายาทหมายถึงสิ่งใด ข้ายังมิได้ทำสิ่งใดเลย และมีความกังวลใจยิ่งนัก เมื่อพบว่าองค์รัชทายาทได้หลงเข้าไปในป่า
ข้าภาวนาให้องค์รัชทายาทกลับมาอย่างปลอดภัย และแน่นอนสวรรค์ได้เห็นถึงความจริงใจของข้าแล้ว องค์รัชทายาทจึงได้กลับมาอย่างปลอดภัย!”
เซียงเอ๋อคร่ำครวญ แต่ดวงตาของนางกลับมิน้ำตาแม้ซักหยดเดียว
“ตบปากนาง” ชางอู๋ซินสั่งอย่างเลือดเย็น
เหล่าสาวใช้ต่างก็คิดว่า พวกนางคงได้ยินผิด องค์รัชทายาทจะสามารถสั่งลงโทษสาวใช้ที่เขาโปรดปรานได้อย่างไร้หัวใจเชียวหรือ?
มิมีผู้ใดกล้าขยับตัว และผู้ที่ตั้งสติได้ก่อนผู้อื่นคือ ขันทีไห่ชิง
ตอนนี้เขาสรุปได้ว่า องค์รัชทายาทเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
แต่การเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ตอนนี้พระองค์จะสามารถมองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของผู้คนเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว