ตอนที่ 9-2 เข้าวังหลวง
“องค์รัชทายาท…”
อู๋เหว่ยตกตะลึงเมื่อเห็นคู่มือศิลปะการต่อสู้
แม้เห็นเพียงพริบตาเดียว นางก็สามารถกล่าวได้ว่า มันทรงพลังและมีค่ามากมายมหาศาล
เหตุใดองค์ชายจึงมอบหนังสือเช่นนี้ให้กับนาง?
“จงหาเวลาฝึกฝน ตอนนี้วิทยายุทธของเจ้า ยังนับว่าอ่อนด้อยอยู่มาก”
ชางอู๋ซินกล่าว และดูเหมือนว่าคู่มือเล่มนี้อาจจะยากเกินไปสำหรับอู๋เหว่ย นางจึงกล่าวเสริมอีกว่า
“หากเจ้ามิเข้าใจสิ่งใด ให้ไปสอบถามกงกงไห่ได้
และข้าหวังว่า จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเจ้าภายในสามเดือน”
“เพคะรัชทายาท!”
อู๋เหว่ยพยักรีบหน้า
จากนั้นจึงรีบไปจัดห้องนอนขององค์รัชทายาท
โดยมิกล่าวสิ่งใด ขณะที่ชางอู๋ซินนั่งอยู่ข้างหน้าต่างและจ้องมองดูกลุ่มเมฆบนท้องฟ้ากว้าง
อู๋เหว่ยสังเกตเห็นว่า ปกติแล้วองค์รัชทายาทเป็นผู้ที่เงียบขรึม และในบางทีเงียบเสียจนน่ากลัว
บางครั้งองค์ชายมิเหมือนกับผู้ที่มีชีวิตเสียด้วยซ้ำ
เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว อู๋เหว่ยจึงยืนรอคำสั่งโดยมิเอ่ยสิ่งใดออกมา
จากนั้นนางจึงตระหนักได้ว่า จะต้องออกไปฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โดยเร็วที่สุด
“องค์รัชทายาท!” เสียงของกงกงไห่ดังมาจากภายนอก
ซางอู๋ซินจ้องมองไปยังอู๋เหว่ย นางทราบในทันทีว่า จะต้องทำสิ่งใดจึงตอบขันทีไห่กลับไปว่า
“องค์ชายตื่นแล้ว เรียนเชิญขันทีไห่”
แม้ว่าอู๋เหว่ยจะมิเคยรับใช้องค์รัชทายาทมาก่อน แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ นางก็พอจะเข้าใจนิสัยของเขาบ้าง
ขันทีไห่เข้ามาในห้องนอนโดยสวมเสื้อคลุมสีเทาเหมือนเช่นทุกวัน
และเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่เขามิเคยเปลี่ยนไปแต่งกายแบบอื่นเลย
นอกจากขันทีไห่แล้ว มิเคยมีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้ามาในห้องนอนขององค์รัชทายาทมาก่อน
แม้กระทั่งสายลับส่วนตัว ก็ยังมิเคยมีโอาสที่จะไดเข้ามายังที่ประทับขององค์รัชทายาท
แต่เมื่อมินานมานี้สาวใช้ผู้หนึ่งนามว่า
อู๋เหว่ยได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องนอนขององค์รัชทายาท
ดังนั้นทุกคนในตำหนักจึงหันมาประจบและเอาใจนาง
แต่อู๋เหว่ยมิได้ใส่ใจบรรดาสาวใช้เหล่านั้นเลย นางทำแค่เพียงรับใช้องค์รัชทายาท และดูแลงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
ขันทีไห่เห็นองค์รัชทายาทนั่งอยู่ที่ริมหน้าต่าง
หากเขามิคุ้นเคยกับองค์ชายมาก่อน กงกงผู้นี้คงจะคิดว่า นี่เป็นคนละคนกับองค์ชายองค์ก่อนอย่างแน่นอน
ขันทีไห่มิทราบว่า เกิดสิ่งใดขึ้นกับองค์ชายบ้าง เมื่อเขาพลัดหลงเข้าไปในป่าบนภูเขาวันนั้น
แต่เขามั่นใจว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากพอที่จะทำให้องค์รัชทายาทเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แต่สำหรับเขาแล้ว การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีมาก
“มีเหตุอันใด?” ชางอู๋ซินเอ่ยถามอย่างร้อนรน
ขันทีไห่รีบตั้งสติ หลังจากเพลิดเพลินกับความคิดของตนเองอยู่นาน
องค์รัชทายาทผู้นี้มิใช่เด็กผู้หญิงตัวน้อย ที่ชอบวิ่งไปซ่อนตัวในห้องนอนของตนเองอีกต่อไปแล้ว
ในตอนนี้ สิ่งที่กงกงไห่ต้องทำก็เพียงแค่ดูแลตำหนักขององค์รัชทายาทให้ดี
“องค์รัชทายาท ฝ่าบาทมีบัญชาให้ท่านเข้าพบด่วน!”
ขันทีไห่กล่าวพร้อมกับก้มหัวลง และในแววตาของเขานั้น ยังคงรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง
นับตั้งแต่จักรพรรดินีสิ้นพระชนม์ จักรพรรดิก็มิเคยแยแสองค์ชายเลย
แม้ว่าเขาจะดำรงตำแหน่งรัชทายาท แต่ก็มิได้กุมอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้รัชทายาทมักจะต้องเจ็บปวดอยู่ในหัวใจ เพราะท่าทีของจักรพรรดิผู้เป็นบิดา
แต่องค์รัชทายาทคนปัจจุบันจะยังคงเจ็บปวดเช่นเดิมอยู่หรือไม่?
ชางอู๋ซินมองไปยังขันทีไห่ราวกับว่านางมิได้ยินสิ่งใด
แต่เขามั่นใจว่า องค์ชายผู้นี้ต้องได้ยินทุกคำกล่าวอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นมินานนักชางอู๋ซินจึงลุกขึ้นยืน และส่งเสียงเรียกสาวใช้
“อู๋เหว่ย ตามข้าเข้าวังเดี๋ยวนี้”
ชางอู๋ซินคาดเดาบางอย่างเกี่ยวกับจักรพรรดิ
ในความทรงจำของนางนั้น จักรพรรดิผู้เป็นบิดาอาจจะถูกมองว่าไร้หัวใจและดูเหมือนจะรังเกียจองค์รัชทายาท
โดยมักจะตำหนิเขาต่อหน้าองค์ชายผู้อื่นเสมอ
แต่ชางอู๋ซินรู้สึกเหมือนกับว่า สิ่งต่าง ๆมิได้เป็นเช่นนั้น และนางต้องการที่จะเข้าไปพบเขาสักครั้ง
และหากจักรพรรดิมิได้เป็นภัยคุกคามต่อเขา นางจะเพิกเฉยเสีย
แต่หากเขาตั้งใจจะขวางทาง นางก็มิลังเลใจที่จะกลายเป็นกบฏแม้แต่น้อย
อู๋เหว่ยมิได้เอ่ยสิ่งใดออกมา นางดึงผมลงเล็กน้อยเพื่อปกปิดรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนหน้าผาก
เพราะมิต้องการให้ผู้คนคิดว่าองค์รัชทายาททำร้ายสาวใช้ของตนเอง
“องค์รัชทายาท! อู๋เหว่ยเป็นเพียงสาวใช้ การให้นางเข้าวังอาจมิใช่เรื่องดี
หากฝ่าบาททรงทราบ พระองค์อาจจะโกรธเคือง ขอให้รัชทายาทได้โปรดพิจารณาใหม่ด้วย!”
ไห่กงกงกล่าวเตือนด้วยความเป็นห่วง
ในตอนนี้องค์รัชทายาทมีทั้งความกล้าหาญและความเฉลียวฉลาด หากจักรพรรดิตัดสินใจที่จะปราบปรามเขาคงมิใช่เรื่องดี
“ข้าคิดดีแล้วกงกง”
ชางอู๋ซินตอบกลับด้วยประโยคนี้เพียงประโยคเดียว และนั่นเพียงพอสำหรับความมั่นใจของขันทีไห่
จากนั้นชางอู๋ซินจึงเดินนำอู๋เหว่ยออกจากที่ตำหนัก และขึ้นรถม้าที่จะพาพวกเขาเข้าไปยังวังหลวง
ขันทีไห่ยังคงยืนอยู่ที่บริเวณประตู ขณะที่หัวใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความกังวลใจ
แต่เขายังคงมีความเชื่อมั่นในองค์รัชทายาทผู้นี้อยู่