ตอนที่ 10 ใครทำ!?
เมื่อใดที่เฉียวเหวยหมิงทำร้ายร่างกายจิ๋งหยุนเฉาเขามักจะให้แรงมากมายทำร้ายเธอ ถ้าหากเธอไม่ได้โดนความเจ็บปวดเช่นนี้ตั้งแต่ยังเด็ก เธอคงจะทนแผลร้ายแรงนี้ไม่ได้ เธอตั้งใจที่จะไม่รักษาหรือทำอะไรกับใบหน้าของตนเองเลยในสองสามวันที่ผ่านมาเพราะต้องการให้ครูจินได้เห็นว่าเธอโดนอะไรมาบ้าง
เมื่อเธอเข้าไปในจี้หยกความเจ็บปวดจากแผลมักจะหายไป ทว่าเมื่อเธอกลับออกมาเธอก็เจ็บเหมือนเดิม ดังนั้นแผลบนหน้าของเธอยังคงเห็นได้ชัด
“คุณครูคะ…หนูถูกกลุ่มอันธพาลทำร้ายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พวกเขาล้อมตัวหนูและไม่ยอมให้หนูกลับบ้าน! พวกเขาแสร้งทำเป็นสนิทสนมกับหนูและหนูยังโดนลากเข้าไปในตรอกที่เปลี่ยวอีกด้วย…ถ้าไม่ใช่เพราะตำรวจมาพบล่ะก็หนูคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้…นี่มันคงเป็นโชคร้ายของหนูเองที่กลสยเป็นเป้าหมายของอันธพาลเหล่านั้น หนูไม่อยากโทษใครเลนเพราะนี่มันคือความผิดของพวกอันธพาล! แต่ใครกันที่ปล่อยข่าวลือว่าหนูไปนอนกับคนพวกนั้น…มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย!”
“คนพวกนั้นทำร้ายเธอหรือเปล่า?” ครูจินถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
อาการบาดเจ็บของเธอดูเหมือนจะไม่เบาลงเลย… นี่มันก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่บาดแผลบนใบหน้ายังคงแดงและบวมไม่ลดลงเลย รอยช้ำนั้นดูน่าจะเจ็บมาก มันบอกได้เลยว่าเธอต้องโดนแรงกระแทกมาอย่างแรงแน่นอน
“ไม่ใช่ค่ะ…คนพวกนั้นเพียงทำให้หนูตกใจก็เท่านั้นซึ่งหนูก็เป็นลมทันที…รอยแผลนี้…” ใบหน้าของจิ๋งหยุนเฉาแสดงออกถึงความเสียใจ เธอพูดต่อว่า “มันมาจากพ่อหนะค่ะ…”
เมื่อเธอพูดจบคุณครูในห้องทุกคนต่างตกใจไปตามๆ กัน
นี่มันจิ๋งหยุนเฉา…เด็กที่มีการเรียนดีที่สุดในโรงเรียน ครอบครัวของเธอจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ ดังนั้นทุกคนจึงได้รู้ว่าเฉียวเหวยหมิงคือพ่อเลี้ยงของเธอ
และถ้าเขาคือพ่อแท้ๆ ของเธอเขาคงไม่ทำอะไรรุนแรงเช่นนี้!
คุณครูเข้าใจทุกอย่างโดยเร็วและลุกขึ้นทันที “เขาตีเธอใช่ไหม? ทำไม? จิ๋งหยุนเฉาเธอต้องบอกครูทุกอย่าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง? เธอทำอะไรให้เขาโกรธหรือไม่?”
“มันไม่มีอะไรเลย…เป็นเพียงเพราะหนูไม่ยอมกินโจ๊กที่มันเย็นแล้วเพราะกลัวจะท้องเสีย และหนูกลัวว่าจะมาสอบในวันนี้ไม่ได้เพราะอาการป่วยเลยไปต้มโจ๊กชามใหม่มากิน ทว่าพ่อก็โกรธมากเพราะเขาคิดว่าโจ๊กชามใหม่มะนสิ้นเปลือง! เขาตบหนูอย่างแรงและไล่ให้กลับไปกินโจ๊กชามเก่า” จิ๋งหยุนเฉาตอบอย่างผ่อนคลายราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับเธอ
ทว่าเรื่องนี้ทำให้ครูจินรู้สึกแตกต่างออกไป
ผู้ใหญ่จิตใจดีคนไหนจะยอมให้เด็กกินโจ๊กเย็นๆ ที่บ้านของจิ๋งหยุนเฉาเลี้ยงดูเธอได้ย่ำแย่มาก เพียงแค่โจ๊กร้อนๆ สดใหม่ยังให้เธอไม่ได้เลย
“แล้วแม่ของเธอไม่พยายามทำอะไรเพื่อเธอบ้างเลยหรือ? พี่น้องของเธอก็ไม่ช่วยเลยหรือ?” คุณครูจินถามอย่างสงสัย
จิ๋งหยุนเฉาสูดหายใจเขา “แม่มีสุขภาพไม่ค่อยดีนัก เธอไม่สนใจปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าหนูจะต้องกินโจ๊กเย็นๆ เธอก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรตราบใดโจ๊กชามนั้นมันไม่ได้ฆ่าหนูให้ตาย…คุณครูจินคะ…หนูชินและชากับนิสัยพวกนี้ของคนที่บ้านแล้ว ประเด็นสำคัญคืออันธพาลพวกนั้นจะมาหาหนูอีกไหม? ถ้าหากมีอะไรเช่นนั้นเกิดขึ้นอีกหนูขอให้โรงเรียนเรียกตำรวจมาได้ไหมคะ?”
เธออายุเพียงสิบห้่าปี นอกเหนือจากครอบครัวก็มีสถาบันโรงเรียนนี่แหละที่สามารถช่วยเหลือเธอได้ ถ้าหากเธอเป็นคนโทรแจ้งตำรวจเอง ตำรวจอาจไม่เชื่อเรื่องราวทั้งหมดและอันธพาลเหล่านั้นจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุกและตลก
เมื่อคูรจินเห็นแสงแห่งความหวังในดวงตาของจิงจิง เธอก็รู้สึกสั่นไหวทันที
เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กที่พูดเก่ง ท่วาด้วยเหตุผลบางอย่างคนในโรงเรียนมักพูดถึงเธอว่าเธอเป็นคนที่หยิ่งผยอง
แต่เป็นเรื่องแปลกที่คุณครูในโรงเรียนชอบเธอทุกคน
ที่จริงแล้วเธอเป็นเด็กที่เงียบขรึม ตั้งใจเรียนและขยัน เธอไม่เคยรังแกหรือดูถูกใครด้วยซ้ำ ถ้าหากเธอไม่ได้มีคะแนนที่สูงจนโดดเด่น ผู้คนในโรงเรียนคงไม่รู้จักเธอเสียด้วยซ้ำ
“ไม่ต้องกังวล! โรงเรียนของเราคงไม่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แน่นอน เธอกลับไปที่ห้องเรียนและเตรียมตัวสอบได้เลย…เดี๋ยวครูจะคุยกับผู้อำนวยการเอง เราจะแจ้งความเรื่องทั้งหมดนี้กับตำรวจ! ทางโรงเรียนจะไม่ยอมให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง!”