ตอนที่ 11 พูดจาไร้สาระ!
จิ๋งหยุนเฉาพยักหน้าตอบตกลงตามคำพูดของคุณครูจิน ทว่าก่อนที่เธอจะได้เดินออกไปจากห้องพักครูนี้จู่ๆ โทรศัพท์ของครูจินก็ดังขึ้น
เมื่อเธอได้ยินปลายสายในโทรศัพท์ สีหน้าของเธอก็ซีดลงทันที
ต่อมาเธอหันมาพูดกับจิ๋งหยุนเฉาว่า “จิ๋งหยุนเฉาอย่างเพิ่งทำแบบทดสอบ เธอไปพาน้องสาวไปโรงพยาบาลก่อนเลยตอนนี้ แม่ของพวกเธออาการแย่แล้ว…”
จิ๋งหยุนเฉาหยุดชะงักชั่วครู่ เธอไม่คิดว่าอาการของเยว่ฉินจะแย่ลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้
เมื่อชาติที่แล้ว…วันนี้จิ๋งหยุนเฉาไม่ได้มาโรงเรียนดังนั้นคนที่ได้รับข่าวจะเป็นเฉียวหงเย่แทน ตอนนั้นพิษไข้ได้ขังเธอเอาไว้ที่เตียงนอนโดยไม่รับรู้เลยว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง จิงจิงคาดคะเนจากเหตุการณ์เมื่อชาติที่แล้วแล้วว่า เยว่ฉินจะยังมีเวลาเหลืออีกหนึ่งวัน เธอไม่ได้ตายทันที เมื่อเธออยู่โรงพยาบาลเธอได้รับการรักษาหนึ่งวันก่อนจะสิ้นใจ
เมื่อนึกถึงเยว่ฉินอารมณ์และความรู้สึกของเธอก็เริ่มแปรปวน
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามอย่างน้อยๆ เย่วฉินก็เคยอุปการะเลี้ยงดูเธอ นอกจากนี้ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเธอยังคิดว่าเยว่ฉินคือแม่แท้ๆ ของตนเอง ดังนั้นสายใยความเป็นแม่ลูกระหว่างจิ๋งหยุนเฉากับเยว่ฉินก็ยังคงมีอยู่
เยว่ฉินเป็นคนเดียวในตระกูลเฉียวที่ไม่ได้เกลียดจิ๋งหยุนเฉา
จิ๋งหยุนเฉารีบวิ่งไปที่ห้องเรียนเพื่อตามหาเฉียวหงเย่
เมื่อได้เห็นหน้าของเฉียวหงเย่เธอก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีเพราะเธอเผลอนึกขึ้นได้ถึงช่วงชีวิตอันยากลำบากที่ผ่านมา ในตอนนั้นหงเย่ทำข้อสอบอย่างมีความสุข เพราะคิดว่าจิงจิงจะไม่ได้สอบอีกแล้วและเธอจะได้ทำคะแนนได้เป็นอันดับสูงสุดในโรงเรียน
อนิจจา…ชะตากรรมของหงเย่ช่างโหดร้าย เธอไม่สามารถทำเช่นที่ฝันได้ ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้เธอต้องหยุดทำข้อสอบกระทันหัน เธอรู้สึกว่า พระเจ้ากลั่นแกล้ง! เหตุการณ์นี้ทำให้เธอหงุดหงิดมาก
โรงพยาบาลที่แม่ของพวกเธออยู่ได้อยู่ไม่ไกลโรงเรียนของพวกเธอ เมื่อจิ๋งหยุนเฉาและเฉียวหงเย่เดินทางมาถึงโรงพยาบาลก็ได้เห็นเยว่ฉินนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย…เธอทั้งสองได้รับรู้ถึงความเคร่งเครียดที่น่ากลัว เยว่ฉินหายใจรวยริน เธอดูเหนื่อยล้าราวกับว่าจะหายใจเป็นเฮือกสุดท้าย
สีหน้าของเฉียวเหวยหมิงค่อนข้างโศกเศร้า เมื่อสายตาของเขาที่จับจ้องไปยังใบหน้าของจิ๋งหยุนเฉา เธอรู้สึกได้ในทันทีว่าแววตาของเขาคิดอะไรบางอย่าง
“หงเย่…แม่ของลูกอาจไม่รอดคืนนี้…”เขาพูดอย่างอ่อนโยน
ในหัวใจของจิ๋งหยุนเฉาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย! อาการเจ็บป่วยของเยว่ฉินนั้นมีมาเนินนานแล้ว และการเจ็บป่วยของเธอก็ทำให้ตระกูลเฉียวเสียเงินไปค่อนข้างเยอะ เยว่ฉินสร้างความเดือดร้อนให้ทุกคนในตระกูล! ความสิ้นหวังนี้มันมีมานานแล้ว ความรู้สึงนี้ปรากฎขึ้นในจิตใจมาสักพักแล้ว ตั้งแต่ที่เย่ฉินตรวจพบโรคนี้ทุกความหวังของคนในตระกูลก็ค่อยๆ จากหายไปเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวังแทน
ดังนั้นทุกคนในตระกูลจะไม่อดทนต่อภาระนี้อีกต่อไปแล้ว…ทุกคนรอการจากไปของเยว่ฉินอย่างใจจดใจจ่อ! พวกเขาไม่อยากมีภาระอีกแล้ว!
หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งจิ๋งหยุนเฉาได้ตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป “พ่อ…ฉันรู้เรื่องยา และแยากจะลองปรุงให้แม่ได้ลองกินดู เผื่อว่าจะทำให้แม่ได้ดีขึ้นมาบ้าง“
จิ๋งหยุนเฉาใช้เวลาและความรู้ที่ตนเองมีคิดค้นวิธีรักษาโรคที่เยว่ฉินเป็น แต่ถึงอย่างนั้นก็คงเป็นโชคร้ายของเธอ…ม้วนกระะดาษหยกชิ้นแรกไม่มีวิธีใดเขียนบอกเอาไว้เลยว่าโรคที่เยว่ฉินเป็นควรรักษาอย่างไร เธอเรียนรู้และเข้าใจโรคนี้ได้อย่างไม่กระจ่างแจ้งนัก เธอจึงทำได้เพียงใช้ความรู้พื้นฐานที่ตนได้ศึกษามาช่วยชืดอายุของเย่ฉินให้ยาวขึ้นเท่านั้น
ในตอนนี้เธอไม่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของเยว่ฉินได้อย่างหายขาด แต่ด้วยความฉลาดและเรียนรู้เร็วของจิงจิง เธอต้องการความรู้อีกสักหน่อยเธอก็จะมีโอกาสสามารถรักษาเยว่ฉินให้หายได้
เพราะความรู้ที่เธอได้จากบรรพบุรุษเก่าแก่อย่างท่านปู่จิ๋งมี่ที่มีประสบการณ์ในการรักษาโรคมากกว่าสามร้อยปี และยังเป็นความรู้ที่มาจากโลกคู่ขนานอีก… เธอรู้ได้ทันทีว่าข้อมูลทั้งหมดในม้วนกระะดาษหยกโบราณนี้น่าอัศจรรย์มากเพียงใดเพราะวิธีการและผลลัพธ์นั้นได้ผลดีกว่าหมอแผนปัจจุบันทั่วไปบนโลกใบนี้!
“แกเนี่นะ?! แกมันจะไปรู้อะไร! แกแค่อยากเอาชนะทุกคนล่ะสิท่า!” เฉียวเหวยหมิงยกมือขึ้นหวังตบเข้าไปที่ใบหน้าของจิงจิง เขาคงไม่อยากทนฟังเรื่องไร้สาระนี้อีกแล้ว!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหลังทันที เมื่อหันไปก็เห็นว่านี่นคือคุณครูจิน! เธอดึงจิงจิงออกห่างจากดหวยหมิงในทันใด “มิสเตอร์เฉียว…ท่านเป็นผู้ใหญ่ โตขนาดนี้แล้วทำไมถึงยังตบเด็กอายุน้อยอยู่อีกล่ะ?”
หลังจากที่ครูจินได้คุยกับจิงจิงเธอจึงตัดสินใจตามมายังโรงพยาบาล เธอเป็นห่วงจิงจิงและไม่คิดเลยว่าเหวยหมิงจะเป็นอย่างที่จิงจิงพูด เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง! เฉียวเหวยหมิงต้องรับกรรมที่ทำกับเด็กคนนี้!
แม้ว่าคำพูดของจิงจิงจะอยากที่จะเชื่อ เพราะโรคที่แม่ของเธอป่วยอยู่ค่อนข้างร้ายแรง… ซึ่งจิงจิงอาจแค่กังวลเรื่องแม่มากเกินไปจึงอยากทำตัวเป็นหมอซะเอง! เห็นได้ชัดว่าจิ๋งหยุนเฉาเป็นลูกที่กตัญญู! เธอน่าชื่นชม! เพราะเหตุใดทำไมเธอถึงต้องถูกทุบตีด้วย? มันไม่สมเหตุสมผล!
ในทางกลับกันเฉียวเหวยหมิงเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของตัวเองมาก! เขาหันไปมองครูจินและชักมือตนเองกลับก่อนจะพูดว่า… “เด็กคนนี้พูดจาไร้สาระ! โกหก! ถ้าผมไม่สั่งสอนเธอเธอคงจะไม่มีวันเป็นเด็กดี!”