ตอนที่ 5 หลุดเข้าห้วงอวกาศโดยฉับพลัน
จิ๋งหยุนเฉามองไปที่เด็กสาวและชายวัยกลางคนคู่นั้นอย่างเหยียดหยามก่อนที่จะเดินจากไป
“แกจะไปไหน!?” เฉียวหงเย่กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกระชากแขนของจิงจิง
“อยากให้ฉันกินมากใช่ไหม! ได้!” จิงจิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขณะสะบัดแขนออกจากมือของหงเย่ เธอกลับเข้าไปที่ห้องของตนพร้อมกับจ้องมองโจ๊กเย็นๆ ถ้วยนั้นก่อนจะกลืนทุกอย่างลงไปในอึกเดียว
น่าเสียดายที่อาการปวดท้องไม่ได้ฆ่าเธอจนตาย แม้ว่าในวันจันทร์เธอจะไม่สบายแต่ยังไงซะเธอก็ต้องไปสอบได้อยู่ดี
“ช่างน่ารมณ์เสียซะจริง แกมันขี้แพ้ หึ!” เฉียวเหวยหมิงพูดด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ เมื่อเขามองเธอกินโจ๊กเสร็จเขาก็กลับไปนั่งที่โซฟาเพื่อดูรายการทีวีต่ออย่างสบายใจ ถึงอย่างนั้นหงเย่พยายามเดินเข้าไปหาจิงจิงด้วยสีหน้ารู้สึกผิด ทว่าจิงจิงได้ปิดประตูห้องใส่หน้าหงเย่และล็อกมันก่อนที่เธอจะได้เข้ามา
จิงจิงตัวสั่นเพราะความโมโห ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง!
ตอนนี้เธอช่างอ่อนแอ ในตอนนี้อย่าพูดถึงการแก้แค้นเลย…แม้แต่ปกป้องตัวเองเธอยังทำไม่ได้!
จิงจิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอนั่งลงบนเตียงพร้อมกับดึงจี้หยกที่ห้อยคอออกมา
สิ่งนี้ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด รูปทรงของมันถูกออกแบบเป็นรูปทรงน้ำเต้า ซึ่งด้านล่างของน้ำเต้าหยกนี้เขียนเอาไว้ว่า จิ๋ง สถาพของหยกยังดูใหม่ราวกับว่ามันมีอายุไม่ถึงสิบปี
หยกชิ้นนี้ควรจะถูกคนตระกูลเฉียวยึดไปนานแล้ว ทว่าเธอเคยได้ยินจากหงเย่ว่าในหยกชิ้นนี้มีวิญญาณสิงอยู่ หยกนี้อาจช่วยให้เธอปกป้องความชั่วร้ายได้ดีขึ้น ถ้าหากเธอไม่ได้นำหยกชิ้นนี้ไว้กับตัวล่ะก็ เธออาจไม่สามารถปัดเป่าความชั่วร้ายออกจากครอบครัวนี้ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะหมอดูคนนั้นล่ะก็ หยกชิ้นนี้อาจถูกเยว่ฉินและเฉียวหมิงยึดไปนานแล้วก็ได้
จิ๋นหยุนเฉามองไปที่หยกชิ้นนี้ด้วยความสงสัย เธอมักจะเกิดคำถามเสมอ พ่อแม่ที่ให้กำเนิดเธอคือใคร… เรื่องราวทั้งหมดนี้มันน่าสมเพชจนทำให้เธอหยุดหัวเราะเยาะชีวิตตนเองไม่ได้
ถ้าหากว่าพ่อแม่แท้ๆ ของเธอสนใจและรักเธอจริงๆ พวกเขาคงไม่ทิ้งเธอเอาไว้ข้างทางเช่นนี้
เมื่อเธอเอาจี้เก็บเอาไว้ใต้คอเสื้ออย่างเดิมเธอก็ได้รู้สึกปวดหัวอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกเหมือนหัวกำลังจะระเบิด! เธอกุมหัวของตนเองไว้แน่น…ทว่าความเจ็บปวดนั้นก็หายไปในไม่ช้า
เธอเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าวิวนี้เป็นวิวที่ไม่คุ้นตา…
“ที่นี่คือที่ไหนกัน?” จิ๋งหยุนเฉากล่าวด้วยความตื่นตระหนก
ตัวเธอถูกล้อมรอบด้วยหมอกหนา ด้านหน้าของเธอมือบ่อน้ำเก่าแก่ตั้งอยู่บ่อหนึ่ง มันดูโบราณเสียจริง ถัดจากบ่อน้ำเก่าแก่นั้น มีรูปปั้นมังกรตั้งอยู่ น้ำสีฟ้าได้ไหลออกจากปากมันเหมใือนกับน้ำตก ดูเหมือนว่าน้ำที่ไหลออกจากปากรูปปั้นมังกรนี้จะเป็นน้ำจากในบ่อ
“ฉันรอมาหลายปี… ในที่สุดทายาทที่แท้จริงก็ปรากฎตัว!” ท่ามกลางความเงียบสงบ เสียงของชายชราคนหนึ่งเปล่งออกมาอย่างน่าตกใจ หัวใจของจิงจิงเต้นระรัว “ใคร…นั่นใคร?!”
“ไม่ต้องกลัวไปหรอกสาวน้อย…เดินไปหมุนวงล้อที่โต๊ะหินด้านหลังเจ้าสิ แล้วเจ้าจะสามารถมองเห็นข้า” เสียงของชายแก่เปล่งออกมาอีกครั้ง
ถึงแม้ว่าจิงจิงจะกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทว่าเสียงของชายแก่คนนั้นก็ทำให้เธอได้ผ่อนคลาย เธอรู้สึกคุ้นเคยกับสถานที่นี้มาก ทั้งที่เธอไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลยในชีวิต
ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอจึงเริ่มเดินไปที่โต๊ะหินดังกล่าว โต๊ะไม่ได้ใหญ่มาก มันเหมือนโต๊ะหินธรรมดาที่มีลวดลายแกะสลักน่าค้นหา ตรงกลางโต๊ะคือวงล้อบางอย่าง จิงจิงตัดสินใจหมุนมันพร้อมกับหายใจเข้าอย่างแรง
เธอเห็นเพียงร่างเลือนรางปรากฏขึ้นจากวงล้อ ทว่าอย่างนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอเกรงกลัว
แม้ว่ารูปร่างของเขาจะดูแปลกประหลาดแต่มันก็ทำให้เธอรู้ว่านั่นคือรูปร่างของคน “แม่หนู…นั่นคือเจ้าใช่ไหม…”
“ถ้าหากว่าเจ้าสามารถเข้ามาในช่องว่างแห่งหยกนี้ได้ล่ะก็ นั่นแปลได้ว่าเจ้าคือผู้สืบทอดสายเลือดของข้า…ตระกูลจิ๋ง! แม่หนู…เจ้าชื่ออะไร?” ชายชราถามหลังจากที่เขาเห็นจิ๋งหยุนเฉา