ตอนที่ 8 อัตราเล็ก
จิ๋งหยุนเฉาได้ออกมาจากจี้หยกและมองไปที่ประตูอย่างกังวลใจ เธอเปิดประตูห้องและวิ่งไปกระแทกประตูห้องน้ำ
“หงเย่! เร็วๆ ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วนะ…” จิ๋งหยุนเฉาตะโกนออกมาโดยเจตนา
ในห้องน้ำ…เมื่อหงเย่ได้ยินเช่นนั้นเธอก็พยายามเฝ้าห้องน้ำเช่นนั้นต่อไป “จิงจิง ฉันว่าฉันกินอะไรแย่ๆ เข้าไปอย่างแน่นอนเลย ท้องของฉันปั่นป่วนไปหมด เธอไปเข้าห้องน้ำที่อื่นก่อนเถอะ”
ที่อื่นอย่างงั้นเหรอ? ตระกูลเฉียวไม่ได้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยเสียหน่อย ทั้งบ้านก็มีห้องน้ำห้องเดียว! และหงเย่เป็นคนใส่ยาถ่ายด้วยตนเองมิใช่หรือ? ทำไมเธอจะไม่รู้กันเล่าว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร! ถ้าหากจิ๋งหยุนเฉายังท้องเสียอยู่และเดินลงบันไดไปล่ะก็…เธอต้องทนไม่ไหว อึแตกอย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้จิ๋งหยุนเฉาท้องดีเป็นปกติแล้ว และเธอก็ไม่โง่พอที่จะโกรธเด็กไม่รู้ประสีประสาอย่างหงเย่ เธอพูดอย่างสงบและใจเย็นที่หน้าประตูห้องน้ำว่า “ถ้าอย่างนั้น…ฉันจะรอเธอก็แล้วกัน…”
เธอมั่นใจว่าถ้าหากเธอพูดอย่างนั้นหงเย่จะต้องอยู่ในห้องน้ำและไม่ยอมออกมาอย่างแน่นอน
อย่างที่คาดการณ์เอาไว้ แม้เธอจะกลับเข้าไปที่ห้องนอนแล้วหงเย่ก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ
ทุกๆ สิบนาทีจิ๋งหยุนเฉาจะเดินไปเคาะประตูห้องน้ำ และใช้น้ำเสียงที่กระอักกระอ่วนเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง น้ำเสียงของเธออ้อนวอนคล้ายกับขอทาน เฉียวหงเย่ที่อยู่ในห้องน้ำจึงรู้สึกสงสารและสับสน ปริมาณยาถ่ายที่เธอใส่ลงไปในโจ๊กจะต้องทำให้จิงจิงเสียการควบคุมตัวเองไปแล้ว ทว่าตอนนี้จิงจิงยังไม่ได้เป็นอะไรมากขนาดนั้น
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรจิ๋งหยุนเฉาก็ยังไม่ได้รู้สึกสบายดีจนเหมือนปกติ แต่ถ้าหากว่าเธอสามารถอดทนได้ เธอก็คงอดทนมันไว้ได้ตลอดไป
คนที่เหลือในครอบครัวเฉียวไม่รู้เลยว่าจิ๋งหยุนเฉาและหงเย่กำลังทำอะไรกันอยู่ ในคืนนี้เฉียวเหวยหมิงดื่มแอลกอฮอลเข้าไปค่อนข้างมาก ซึ่งในตอนนั้นหงเย่ก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำ ไม่ว่าหงเย่จะเป็นลูกสาวแท้ๆ ของเขาหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาอดทนกับความงี่เง่าของหงเย่ไม่ไหวอีกแล้ว
“เธอเข้าไปทำบ้าอะไรในนั้นอยู่นานสองนาน! ออกมาเดี๋ยวนี้!” เฉียวเหวยหมิงตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทนพร้อมด้วยกลิ่นแอลกอฮอลที่เหม็นหึ่ง แม้แต่เฉียวหงเย่ยังรู้สึกกลัวเพราะความโกรธเกรี้ยวของเขา
หงเย่มีลักษณะรูปลักษณ์เป็นเด็กที่นิสัยดีและเชื่อฟังคำผู่ใหญ่ ทุกครั้งที่เธอไปเที่ยวในสถานที่สาธารณะเธอไม่เคยทำตัวไม่สุภาพแม้แต่ครั้งเดียว ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของเธอสำคัญเหลือสิ่งอื่นใด
เมื่อหงเย่ได้ยินเสียงของเหวยหมิงที่คำรามอย่างโกรธเกรี้ยวเธอก็รีบออกมาทันที
เหวยหมิงดึงหงเย่ออกมาอย่างรุนแรง เดิมทีแล้วหงเย่ตัวเล็กและบอบบางไม่มีพละกำลัง หลังจากที่ร่างกายของเธอกระแทกกับกำแพงและล้มลงที่พื้นอย่างรุนแรง
“ทำไมเหรอหงเย่? ยืนไม่เป็นเหรอ?” จิ๋งหยุนเฉาหัวเราะเยาะเธอพร้อมยืนพิงประตูหน้าห้องนอนของตนเอง
จิ๋งหยุนเฉายืนอยู่ด้านหน้าเฉียวหงเย่ที่กำลังนิ่งสงบ เมื่อเฉียวหงเย่เห็นสภาพของจิ๋งหยุนเฉาที่กินโจ๊กผสมยาถ่ายแล้วดูไม่เป็นอะไรเลย เธอผงะและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอพูดออกมาว่า “สบายดีเหรอ?”
“ตอนแรกท้องของฉันทุกข์ทรมานมาก ทว่าตอนนี้ฉันหายเป็นปกติแล้ว แต่ตลกนะ…ตรงกันข้ามเธอกลับไปขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำตั้งนานแสนนาน!” จิ๋งหยุนเฉาหัวเราะเยาะ
เมื่อหงเย่ได้ยินเช่นนั้นเธอก็หายใจไม่ออกอย่างกระอักกระอ่วนและไม่สามารถตอบโต้จิงจิงได้
เธอลุกขึ้นยืนอย่างเจ็บปวดและรีบวิ่งกลับไปที่ห้องของตนเอง เมื่อเธอเดินไปได้สองสามก้าวเธอก็ต้องล้มลงอีกครั้งเพราะรักษาสมดุลร่างกายของตนเองได้ มันคงเป็นเพราะเธอยืนอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาหลายชั่วโมง แน่นอน! ขาของเธอคงยืนจนไม่ได้พัก!
จิ๋งหยุนเฉามองสภาพที่น่าสังเวชของเฉียวหงเย่ด้วยสายตาเย็นชา นี่มันเพิ่งเริ่ม! การแก้แค้นของฉันยังต้องมีอีกหลายครั้ง…เพียงแค่นี้มันยังไม่พอใจฉัน!
ในคืนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ
เสียงครวญครางที่มาจากความเจ็บปวดของเฉียวหงเย่ช่างน่าสังเวช…และตามมาด้วยเสียงกรนของเฉียวเหวยหมิง หงเย่ไม่อยากขยับตัวแม้แต่นิดเดียวเพราะความเจ็บปวดของตนเอง
ในตอนนี้ความเจ็บป่วยของเยว่ฉินไม่มีทางที่จิ๋งหยุนเฉาจะสามารถรักษาเธอได้ และอีกอย่างหนึ่งคือจิ๋งหยุนเฉาก็ไม่ได้อยากรักษาเธอเช่นกัน ในคืนนั้นจิ๋งหยุนเฉาใช้เวลาไปกับการอ่านกระดาษม้วนโบราณในจี้หยกจนถึงวันรุ่งขึ้น