ตอนที่ 9 ตบ!
การเรียนรู้วิชาทางการแพทย์มันเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่อย่างจิ๋งหยุนเฉา แต่อย่างน้อยๆ ข้อมูลต่างๆ ก็ได้สลักเข้าไปไว้ในหัวสมองของเธอ ถ้าหากเธอไม่เข้าใจทฤษฎีใดหรือเรื่องใด เธอเพียงนึกขึ้นมาในสมอง…ซึ่งคำตอบและคำอธิบายจะผุดเข้ามาในหัวทันที
เธออยู่ในจี้หยกนี้เป็นเวลาห้าวันแล้วทว่าโลกภายนอกเพิ่งผ่านไปวันเดียวเท่านั้น หลังจากที่เธอได้ดูดความรู้จากม้วนกระดาษโบราณเธอก็รู้สึกว่าเธอเข้าใจความรู้ทุกอย่างมากขึ้น ความรู้ของเธอได้รับการพัฒนาเป็นไปในทางที่ดีอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้สงสัยและมีความรู้มากพอเกี่ยวกับคุณสมบัติของสมุนไพรพื้นฐาน
ในที่สุดวันจันทร์ก็มาถึงแล้ว เธอจำเป็นต้องไปโรงเรียน…
จิ๋งหยุนเฉาจะต้องไปโรงเรียนกับพี่น้องตระกูลเฉียว โรงเรียนที่เด็กทั้งสามคนเรียนอยู่คือโรงเรียนที่ดีที่สุดในมณฑลฮัวหนิง
จิ๋งหยุนเฉาอาศัยอยู่ในมณฑลฮัวหนิงอยู่แล้วและโรงเรียนแห่งนี้ก็มีเพียงเด็กไม่กี่คนที่สามารถสอบเข้าได้ ถึงอย่างนั้นจิงจิงก็สามารถสอบเข้าโรงเรียนนี้ได้และมีเกรดที่ดีด้วย อย่าพูดถึงการจ่ายค่าเทอมหรือค่าจิปาถะต่างๆ เธอได้รับเงินทุนจำนวนมากจากโรงเรียน เธอค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียน
การเดินทางไปโรงเรียนของเธอมักจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยรถยนตร์ ตลอดการเดินทางจิ๋งหยุนเฉาสวมหน้ากากอนามัยพร้อมกับผมยาวที่ยุ่งเหยิงของเธอ
เสื้อผ้าที่จิงจิงใส่มักจะเป็นเสื้อผ้าที่หงเย่ใส่ไม่ได้หรือไม่ต้องการแล้ว
เมื่อเธอเดินเข้าไปยังโรงเรียน นักเรียนคนอื่นๆ ต่างซุบซิบกันอย่างสนุกปาก
จิ๋งหยุนเฉารู้ตัวทันทีว่าที่ทุกคนทำเช่นนั้นมันไม่ใช่เพราะเสื้อผ้าหน้าผมของเธอแต่เป็นเพราะวันก่อนเธอได้ไปเที่ยวกับพวกอันธพาล
เมื่อเธอเดินเข้าห้องเรียนประจำชั้นของตน…จู่ๆ เพื่อนคนหนึ่งในห้องพูดขึ้นมาว่า “จิ๋งหยุนเฉา! คุณครูบอกให้เธอไปพบที่ห้องพักครูก่อนจะเริ่มสอบ!”
เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่จิ๋งหยุนเฉาคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ในชาติที่แล้วเธอจะต้องลาออกจากโรงเรียนเพราะเยว่ฉินตายและเธอปวดท้องในวันนี้ ซึ่งเธอไม่เคยได้อธิบายเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอบ้าง ซึ่งนั่นก็กลายเป็นจุดด่างพร้อยในชีวิตเธอโดยปริยาย
ที่จริงแล้วครูประจำชั้นของเธอเชื่อว่าเธอไม่ใช่คนเช่นนั้น เพราะเธอเป็นเด็กดีมาโดยตลอด ตอนที่จิ๋งหยุนเฉาบอกคุณครูประจำชั้นว่าจะลาออก เธอได้พยายามหว่านล้อมไม่ให้เธอทำเช่นนั้น ทว่าข่าวลือได้แพร่กระจายไปรอบๆ เมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่คนอื่นจะคิดเช่นเดียวกันกับคุณครู…
จิ๋งหยุนเฉาเดินออกจากห้องเรียนและตรงไปที่ห้องพักครูทันที
มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ย คำดูถูกแดกดันตามเธอมาจากด้านหลัง
“คุณครู! ท่านเห็นไหม! เธอเริ่มจะไปสนิทสนมกับพวกอันธพาลเหล่านั้นจริงๆ! และเธอก็ยังจะให้พวกอันธพาลเหล่านั้นกลั่นแกล้งน้องสาวของตัวเองอีกด้วย!”
“พวกเขาเป็นพี่น้องกันนะ…เป็นไปไม่ได้…”
“คุณจะรู้อะไร! จิ๋งหยุนเฉาเป็นลูกของเยว่ฉินที่มาจากการแต่งงานครั้งก่อน! เด็กทั้งสองคนไม่ได้เกิดมาจากพ่อคนเดียวกัน! แล้วเด็กทั้งสองคนจะรักกันได้อย่างไร! จิ๋งหยุนเฉามันจะทอดทิ้งเฉียวหงเย่เสมอ เธอไม่เคยช่วยติวน้องสาวก่อนสอบเลย! ฉันไม่เคยเห็นใครหน้าด้านเท่าเธอมาก่อน!” เขาคิดว่าฉันเป็นเหตุผลที่ทำให้เฉียวหงเย่สอบได้คะแนนน้อยลงหรืออย่างไร! บ้าไปแล้ว!
…
จิ๋งหยุนเฉามักจะได้ยินคำพูดเหล่านี้บ่อยครั้งซึ่งเธอเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำด่าทอเหล่านี้และทำราวกับว่าไม่ได้ยิน…
เนื่องจากวันนี้เป็นวันสอบปลายภาคของโรงเรียนที่ออฟฟิศของคุณครูจึงเต็มไปด้วยหนังสือ คุณครูเงียบไม่พูดอะไรออกมาเลย
เมื่อจิ๋งหยุนเฉาเดินเข้าสู่ห้องพักครู คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องต่างแอบมองเธอตามๆ กัน
จิ๋งหยุนเฉาเป็นเด็กจากห้องหนึ่ง โดยครูประจำชั้นของเธอคือครูจิน เธอมีลักษณะผมสั้นและใส่แว่นดูเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถ เธอน่าจะอายุไม่มากนักราวๆ ยี่สิบแปดยี่สิบเก้าปี
เมื่อครูจินเห็นจิงจิงสีหน้าของเธอก็แสดงออกมาเต็มไปด้วยความซับซ้อน เธอขยับแว่นตาของเธอให้เข้าที่และโบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้จิ๋งหยุนเฉาเดินไปหา
“คุณครูจิน” จิ๋งหยุนเฉาทักทายเธอด้วยความเคารพ
ครูจินถอนหายใจ “จิ๋งหยุนเฉา…เธอรู้ใช่ไหมว่าทำไมครูถึงเรียกเธอมา”
“หนูคิดว่ารู้ค่ะ และหนูก็มีเรื่องจะบอกครูจินเช่นกัน” จิ๋งหยุนเฉาตอบพร้อมกับถอดหน้ากากอนามัยออกจากใบหน้าของตนเอง
เธอทำเช่นนั้นเพื่อให้ครูจินเห็นถึงแก้วอันแดงบวมของเธอ แค่แวบเดียวก็ดูรู้ว่าเธอถูกตบมา
ครูจินถึงกับสะดุ้ง “เกิดอะไรขึ้น!”
นักเรียนคนนี้ถูกทำร้ายอย่างนั้นหรือ? ใครทำ!? ผู้ปกครองปล่อยให้เธอโดนแบบนี้ได้อย่างไร!