หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ – ตอนที่ 75 ข้าเองก็หล่อไม่น้อย ! (ต้น)

บทที่ 75 ข้าเองก็หล่อไม่น้อย ! (ต้น)

ในยามนั้น ราวกับเวลาหยุดนิ่งอยู่กับที่ !

ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เพราะความแข็งแกร่งของหญิง สาวที่กดแผ่นหลังอยู่นั้นออกจะเกินความคาดหมายไปมาก ถ้าเยี่ยฉวนไม่หันกลับมาเผชิญหน้า เขาคงต้องต่อสู้ด้วยวิธีอื่น แต่เมื่อเขาพลาดโอกาสแล้ว จึงได้ตกอยู่สถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้

หลังจากเงียบไปอึดใจหนึ่ง ปลายมีดที่จ่อคอหอยพลันหายวับไป

เยี่ยฉวนผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกทันที

เขายังไม่ออกไปทันที หากทว่าค่อย ๆ หันกลับมา ก่อนจะพบว่าหญิงสาวสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว

นางสวมชุดยาวพื้นสีดำทับด้วยลวดลายภูเขาและแม่น้ำ รูปร่างอ้อนแอ้น เอวบางจนน่าจะสามารถโอบด้วยแขนข้างเดียวได้สบายด้วยเชือกที่รัดเอวบ่งชี้ขนาดของมันได้เป็นอย่างดี นัยน์ตาหวานแต่มีแววเย็นชาที่มองตรงมาราวกับจะเห็นทุกสิ่งได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

สวยงามจนน่าตกใจ !

นี่คือความรู้สึกในแวบแรกที่เห็นของเยี่ยฉวน !

ยิ่งนึกถึงภาพที่ได้เห็นก่อนหน้าแล้ว มันก็ยิ่งทำให้ร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ชายหนุ่มไม่เคยใกล้ชิดสตรีมาก่อน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ยังไงเสียเยี่ยฉวนก็เป็นชายทั้งแท่งเหมือนบุรุษคนอื่น

ฝ่ายหญิงเดินตรงเข้ามาช้า ๆ และสายตาจับจ้องมาที่เยี่ยฉวนในแบบที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกจับ เปลือยจนชาไปทั้งร่าง

ทั้งสองยืนจ้องประสานสายตา เห็นแต่เพียงแววตาอดสูของชายหนุ่ม

เขาทำราวกับว่าการมองเห็นร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติยังไงยังงั้น…

แคว้นเจียงไม่ได้เปิดให้ผู้คนจากต่างถิ่นเดินทางเข้ามา ดังนั้นหญิงสาวในแคว้นจึงยังอ่อนด้อยไม่ค่อย ประสีประสา เยี่ยฉวนรับรู้ในข้อนี้เป็นอย่างดี

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงต้องบอกไปเช่นนั้น ที่แท้ก็เพราะไม่ต้องการสร้างปัญหาขึ้นมานั่นเอง นอกจากนี้เอง สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็เป็นเพราะความผิดของเขาเองเช่นกัน

ใครจะคิดว่ามีคนมาอยู่ในสถานที่แบบนี้กัน… แถมหญิงสาวก็กำลังอาบน้ำในที่เปิดเผยแบบนี้ในกลางวันแสก ๆ อีกด้วย …แต่นางเองก็เป็นคนสวยเหลือเกิน คงจะดีเหมือนกันถ้าได้เห็นนางนานกว่านี้อีกหน่อย !

เพียงมีความคิดเช่นนี้แทรกขึ้นมา เขาชักกลัวใจของตนเอง “นี่ข้าอยากเห็นนางในสภาพนั้นอีกงั้นเหรอ ?”

ทันใดนั้นเสียงของสตรีตรงหน้าพลันถามดังขึ้นขัดจังหวะ “เจ้าเป็นใคร ?”

น้ำเสียงเย็นเฉียบ สายตาคมกริบดุดันราวกับนักฆ่า

ชายหนุ่มรีบรวบรวมสติกลับมาและตอบกลับ “ข้าชื่อเยี่ยฉวน เป็นศิษย์ใหม่ !”

หลังจากไขข้องใจให้นางแล้ว ชายหนุ่มก็ห่างออกไปอีกเล็กน้อย ถึงแม้จะไม่มีที่ทางให้หนี แต่เขาก็ยัง ต้องการที่จะอยู่ห่างจากนางไว้เสียหน่อย …ไม่ได้มีอะไรมากกว่าหรอก !

เมื่อหญิงสาวจับสังเกตอากัปกิริยาของเยี่ยฉวนได้ นางพลันขมวดคิ้วดำสนิทคู่นั้นเข้าหากันแน่น “ข้าน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือ ?”

เยี่ยฉวนเพียงจ้องแต่มอง แต่กลับไม่พูดจา เขาถอยหลังอีกสองก้าว ซึ่งนี่ก็ถือได้ว่าเป็นคำอธิบายที่ดี ยิ่งกว่าคำพูดเสียอีก

ฝ่ายหญิงใช้สายตาเหลือบมองชายหนุ่มจากหัวจรดเท้าพลางสั่นศีรษะ “เจ้าเองก็หน้าตาดีทีเดียว น่าเสียดายที่ฝักใฝ่เพศเดียวกัน…จะว่าไป ผู้ชายด้วยกันมีความสัมพันธ์กันได้อย่างไร ?”

“…”

เมื่อเห็นชัดว่าคงจะไม่ได้คำตอบไปมากกว่านี้ นางก็ไม่ได้กดดันเขาอีกต่อไป หากแต่มองชายหนุ่มด้วยสายตาสมเพชอย่างชัดเจน ก่อนจะหันหลังให้ และเดินหายเข้าห้องไป

ภายหลังจากที่ร่างของฝ่ายหญิงหายเข้าห้องไปแล้ว ชายหนุ่มก็ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก “จบเรื่องกันเสียที !”

เยี่ยฉวนรีบเดินออกไปยังลานสนามหญ้า ก่อนจะพบว่ามีอีกสองห้องอยู่ติดกัน หลังจากนั้นชายหนุ่มจึงเร่งมือทำความสะอาดห้องทั้งสอง ก่อนมุ่งหน้าไปทางหลังเนินเขา เมื่อย้อนกลับมาอีกครั้ง สองมือของเขาก็เต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่ล่ามาได้

ชายหนุ่มถนัดนักในการใช้ชีวิตในป่า ที่ผ่านมาเขาเคยเข้าป่าล่าสัตว์มาทำอาหารเลี้ยงชีพตนเองและ น้องมาแล้ว !

ตอนที่เยี่ยฉวนเดินกลับมาถึงหอประชุมสถานศึกษาฉางหลาน เยี่ยหลิงเองก็ทำความสะอาดเสร็จพอดี

ทันทีที่เห็นพี่ชาย ผู้เป็นน้องสาวก็รีบกุลีกุจอวิ่งออกมารับพร้อมรอยยิ้ม “ท่านพี่”

ชายหนุ่มเอื้อมมือมาขยี้ศีรษะอย่างเอ็นดู “เหนื่อยไหม ?”

เยี่ยหลิงสั่นหน้า “ไม่เลยเจ้าคะ !”

เยี่ยฉวนยิ้มน้อย ๆ “เช็ดโต๊ะรอได้เลย เดี๋ยวพี่จะทำกับข้าวให้กิน”

ทันทีที่ได้ยิน เด็กหญิงพลันนัยน์ตาเป็นประกายอย่างยินดี

“ท่านพี่จะทำกับข้าว !”

ฝีมือปรุงอาหารของเยี่ยฉวนเป็นที่ถูกปากของน้องสาวมากที่สุด นางคิดว่ารสมือของชายหนุ่มอร่อย กว่าพ่อครัวของตระกูลเยี่ยเสียอีก

ครึ่งชั่วยามให้หลัง เยี่ยฉวนและเยี่ยหลิงนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่กลางหอประชุมแห่งสถานศึกษาฉางหลาน บนโต๊ะมีจานกับข้าวสี่ถึงห้าชนิดวางอยู่ส่งกลิ่นหอมน่ากินอบอวลไปทั่วทั้งหอ

สองพี่น้องยิ้มให้กันและกำลังจะเริ่มลงมือกินอาหาร ก่อนที่จะมีคนผู้หนึ่งผลุนผลันเข้ามา คนผู้นั้นคือ ชายชรานั่นเอง กลิ่นสุราโชยคลุ้งตั้งแต่หัวจดเท้า เสื้อผ้าที่สวมมีสภาพเหมือนไม่ได้ทำความสะอาดมานานจน แทบไม่เหลือเค้าเดิม

ผู้สูงวัยทำตัวตามสบายเหมือนอยู่กับบ้านด้วยการตรงเข้านั่งประจำที่โต๊ะอาหาร ชายชราลงมือกินโดยไม่สนใจผู้ใด ขณะที่อีกด้านหนึ่งก็ได้ปรากฏคนเข้ามาอีก

เมื่อเห็นว่าผู้ที่เพิ่งเข้ามาเป็นใคร ชายหนุ่มพลันสะดุ้งพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง นางคือหญิงสาวคนที่พบก่อนหน้านี้ !

หญิงผู้นั้นไม่พูดจา นางตรงเข้าไปนั่งฝั่งซ้ายมือของชายชรา หญิงสาวกวาดตามองอาหารที่วางบนโต๊ะและหันมาพูดกับชายหนุ่ม “เจ้าทำกับข้าวให้ข้ากินหรือ ?”

เยี่ยฉวน “…”

เยี่ยหลิงผู้เป็นน้องสาวมองหน้าพี่ชายของนาง และสลับกลับไปมองหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาใหม่

หญิงสาวไม่พูดอะไรอีก กลับคว้าตะเกียบคีบเห็ดปรุงสุกขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ส่งเข้าปากเคี้ยวอยู่สักครู่ก่อน พยักหน้า “ไม่เลว”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายชราจึงคีบเห็ดใส่ปากและเคี้ยว เขาหันไปทางเยี่ยฉวนทันควัน “อร่อยนี่ เจ้ารับ หน้าที่ทำกับข้าวก็แล้วกัน !”

ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็หน้างออย่างหงุดหงิด เขารู้สึกอย่างอัดใครสักคนขึ้นมาตะหงิด ๆ

ผู้เป็นน้องเอียงหน้ามาทางชายชรา “แต่ท่านพี่ของข้าเป็นศิษย์นะเจ้าคะ !”

เมื่อได้ยินดังนั้น ชายแก่จึงพูดออกมา “การทำกับข้าวก็ถือเป็นการฝึกพลังเช่นกัน”

เยี่ยหลิงถึงกับพูดไม่ออก “…”

ชายหนุ่มเรียกโดยไม่หันมองชายชรา “ท่านผู้อาวุโส…”

“อาจารย์ใหญ่ !”

ชายชราหันหน้ามาพูดกับชายหนุ่ม “เรียกข้าว่า อาจารย์ใหญ่จี้ !”

เยี่ยฉวนพยักหน้ารับคำ “ขอรับอาจารย์ใหญ่จี้ ท่านคิดหาคนมาทำงานในสถานศึกษากว้างใหญ่เช่นนี้ดีหรือไม่ ?”

ชายชราถามสวนกลับทันควัน “เจ้าจะเป็นคนจ่ายค่าจ้างให้พวกมันหรือ ?”

“เอ๊ะ !”

เขาชะงักนิ่งไปนิดหนึ่ง พลันเอ่ยถามต่อไป “ท่านควรเป็นคนจ่ายค่าจ้างไม่ใช่หรือ ?”

อาจารย์ใหญ่จี้สั่นหัวดิก “ข้าไม่มีเงิน จะให้เอาที่ไหนไปจ้างคนกัน แม้แต่จะซื้อสุราข้ายังไม่มีเลย !”

ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง “…”

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

เยี่ยฉวนเติบโตขึ้นมาในฐานะนายน้อยตระกูลเยี่ย เขาทำทุกอย่างเพื่อตระกูล และน้องสาวที่กำลังป่วยหนัก เยี่ยหลิง ทั้งต่อสู้ แย่งชิง ฆ่าฟัน ทว่าสิ่งที่ชายหนุ่มได้กลับมาคือการทรยศหักหลัง !! แต่มีหรือที่เขาจะต้องยอมแพ้ !! ในเมื่อตระกูลเยี่ยไม่ต้องการข้า งั้นแล้วเราก็ถือว่าจบกัน ข้าเยี่ยฉวนผู้นี้จะพาน้องสาวจากไป และจะกลายเป็นเซียนกระบี่ผู้เหาะเหินตัดผ่านท้องนถาให้จงได้ !!! ชีวิตและความตายเป็นเพียงภาพลวง หากไม่ยอมรับแล้วไซร์ เช่นนั้นต่อให้เป็นเทพ เป็นมาร หรือเป็นเซียน ข้าก็จักประหารมันด้วยกระบี่ในมือ !!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset