หนึ่งกำเนิดสองสมบัติ : รักแสนหวานของมหาเศรษฐี – ตอนที่ 110 เคยร่วมเตียง

นิยาย หนึ่งกําเนิดสองสมบัติ : รักแสนหวานของม…

ตอนที่ 110 เคยร่วมเตียง

ชายในชุดสูทคนนั้นเห็นท่าทางที่หยิ่งยโสและดื้อรั้นบนใบหน้าของเธออย่างเป็นธรรมชาติเขาจึงค่อยๆหดมือและกระชับแขนเสื้อ เขาเงียบไปชั่วขณะและริมฝีปากบางของเขาก็ยกขึ้นและค่อยๆ โค้งขึ้น

การจ้องมองของเขาเริ่มทําให้หยุนซือชื่อรู้สึกอึดอัด

เธอไม่เข้าใจว่าทําไมเขามักจะปรากฏตัวได้เสมอเมื่อเธอตกที่นั่งลําบาก?

หยุนซือชื่อไม่ต้องการให้ความสน ใจมากนักเธอปัดฝุ่นบนร่างกายและหันไปเพื่อเดินจากไปแต่เสียงที่เย็นชาและลึกดังมาจากด้านหลัง “หยุดก่อน”

ชายคนนี้พูดอย่างแผ่วเบาทะนุถนอมด้วยถ้อยคําราวกับทองคํา น้ําเสียงของเขาทุ่มต่ําและมีเสน่ห์มันกลมกล่อมเหมือนไวน์เก่าที่เพียงจิบเดียวก็มึนเมาได้

เธอหยุดและขมวดคิ้วพร้อมกับหันกลับมามองชายคนนั้น”คุณมีอะไรหรือ เปล่าคะ”

“จะไปแล้วเหรอ?” เขารู้สึกขบขันกับปฏิกิริยาของเธอ

ถ้าผู้หญิงคนอื่นเห็นเขาก็จะแห่เข้ามาหาแต่เธอกลับหลีกเลี่ยงเขาเหมือนโรคระบาด

ม่หย่าเจ๋อโค้งริมฝีปากและยิ้ม

รอยยิ้มของเขาทําให้เธอรําคาญเธอถามด้วยความเฉยเมย “ฉันกับคุณไม่รู้จักกันนิ่?”

ความไม่อดทนและความห่างเหินของเธอทําให้ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังชายชุดสูทประหลาดใจพวกเขาไม่เคยเห็นใครดูหมิ่นเจ้านายหนุ่มของพวกเขามาก่อน!

รู้ดีว่าด้วยสถานะและภูมิหลังที่มีเกียรติของเขาแม้แต่ข้าราชการระดับสูงก็ยังแสดงความสุภาพดังนั้นเมื่อเห็นเธอหยาบคายใบหน้าของพวกเขาก็กลายเป็นขุ่นเคือง

แต่ชายคนนี้ไม่ได้โกรธกับพฤติกรรมของเธอด้วยความใจร้อนเขาเดินเข้าไปใกล้เธอและกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ ว่า “ไม่รู้จักกัน?แต่….เราเคยร่วมเตียงกันมาแล้ว…จําได้ไหม?”

สีหน้าของเธอเคร่งขรึมเธอถามเขาด้วยน้ําเสียงเย็นชาและปวดร้าว “คุณมู่คุณไร้ยางอายแบบนี้เองเหรอ?”

“หือ? ไร้ยางอาย? นี่เรียกว่าไร้ยางอายแล้วเหรอ?” รอยยิ้มของเขาลึกล้ํา”อยากเห็นความไร้ยางอายกว่านี้ไหม? ”

เธอไม่รู้ว่าผู้ชายตรงหน้าเธอเป็นใครเซี่ยวเวสเองก็ไม่สนใจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเหอหลิงเซียงและคนอื่น ๆจะไม่รู้

หยุนซือซื้อและมู่หย่าเจ๋ออยู่ใกล้กันมากและมีความคลุมเครือจนทุกคนในนั้นตกใจ

โดยเฉพาะเหอหลิงเซี่ยงและพรรคพวกของเขาที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้มีสถานะแบบไหน

เหอหลิงเซียงอยู่ในแวดวงนี้มาหลายปี และพบกับผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อ ความอยู่รอดและเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ก้าวเท้าผิด เขาจึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับผู้คนที่มีอิทธิพล

ชายหนุ่มลึกลับคนนี้เป็นใครพวกเขาไม่เคยพบมาก่อนแล้วนับประสาอะไรกับตัวตนของเขาแต่เขารู้จักกลุ่มผู้ชายที่ยนอยู่ข้างหลังชายคนนั้นและคุ้นเคยกัน

ยกตัวอย่างชายวัยกลางคนที่อยู่ด้านหลังชายคนนั้นเป็นหนึ่งในผู้นําระดับสูงในเมืองหลวงซึ่งกุมอํานาจในธุรกิจใหญ่ๆและกองกําลังลับตําแหน่งปัจจุบันของเขาทําให้เขากลายเป็นผู้มีอํานาจตัดสินใจสําคัญในเมืองหลวง

แม้แต่เหอหลิงเซียงมีอํานาจและชื่อเสียงเมื่อเผชิญหน้าชายวัยกลางคนคนนั้นเหอหลิงเซียงก็ถึงขั้นพูดไม่ออก