หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา – บทที่ 463 อาวุธเทพคุณภาพกลาง!

บทที่ 463 อาวุธเทพคุณภาพกลาง!

หลังจากที่ได้ไม้พายตะเกียงและชุดคลุมสีดำมาครอบครองเรียบร้อย หวังเป่าเล่อก็ยืนหลับตานิ่งอยู่ในโลกใต้ดิน สายฟ้าฟาดอยู่กลางใจขณะที่ภาพหนึ่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในความคิด

เขาเห็นภาพเรือขนาดมหึมาลำหนึ่ง เรือลำนั้นฝังอยู่ใต้ดินลึก ยาวหลายร้อยเมตรและเป็นสีดำสนิท ลำเรือถูกทำลายไปเกือบหมด ส่วนที่เหลืออยู่ก็เต็มไปด้วยรอยร้าวขนาดใหญ่

ปราณมืดซึมออกจากรอยแยกเหล่านั้นไม่ขาดสาย หลั่งไหลลงผืนดินและแทรกซึมเข้าสู่โลกใต้ดินเปลี่ยนอาณาเขตกว้างใหญ่ให้กลายเป็นดินแดนมืด

ภาพในใจของหวังเป่าเล่อดูไม่สมเหตุสมผลอย่างสิ้นเชิง อันดับแรกคือ เรือที่พังไปแล้วกว่าร้อยละเก้าสิบจะยังคงรูปร่างอยู่ได้อย่างไร หากว่ากันตามความเป็นจริง เรือลำนี้ควรจะพังลงไปตั้งนานนมแล้ว แต่เรือสีดำในมโนภาพของหวังเป่าเล่อยังคงรูปร่างอยู่ได้ด้วยพลังประหลาดบางอย่าง แม้ร่องรอยความเสียหายจะมากเหลือ แต่เรือสีดำลำนี้ก็ยังคงดูเหมือนเรืออยู่!

เรือลำนี้คือเรือสำปั้นแห่งความมืด!

การที่เรือถูกฝังอยู่ใต้ดาวอังคาร ทำให้พลังปราณของดาวทั้งดวงแปรปรวน ปราณมืดซึมเข้าใต้ผืนดินกว่าครึ่งของดาวดวงนี้ มันกระทบต่อวิวัฒนาการของสัตว์ร้ายบางสายพันธุ์ และส่งผลให้เกิดการกลายพันธุ์ การกลายพันธุ์นี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้เหตุอสูรหลั่งไหลมากมายอุบัติบนดาวอังคาร

ปราณมืดจากเรือสำปั้นยังทำให้ซากศพและศพผีโบราณตื่นขึ้นมาร่วมกับอสูรหลั่งไหลอีกด้วย!

เหตุที่เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ได้ ไม่ใช่เพราะเรือสำปั้นแห่งความมืดที่ทรงพลานุภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นเพราะ… วัตถุเวทแห่งความมืดที่ฝังอยู่ใต้ดินดาวอังคารไม่ได้มีแค่เรือสำปั้นเท่านั้น!

ยังมีไม้พายตะเกียงและชุดคลุมสีดำด้วย!

ในนิมิต หวังเป่าเล่อเห็นไม้พายขนาดยักษ์อยู่ข้างเรือสำปั้น ไม้พายนั้นก็ผุพังไม่แพ้กัน และดูเหมือนจะเสียหายมากกว่าตัวเรือด้วยซ้ำ เนื่องจากเหลือเศษอยู่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ตะเกียงและด้ามจับหายไปโดยเป็นรอยเหมือนโดนกระชากออก ชะตากรรมของด้ามจับและตะเกียงนั้นเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้

อีกฝั่งหนึ่งของเรือสำปั้นมีชุดคลุมสีดำฝังดินอยู่ ชุดคลุมนั้นก็เหลือเศษผ้าอยู่เพียงน้อยนิดเช่นกัน ส่วนเศษผ้าที่เหลือจะอยู่ที่ใดนั้นไม่มีใครล่วงรู้

วัตถุเวทแห่งความมืดทั้งสามนี้ คือวัตถุเวทของบุตรแห่งความมืดจากสำนักแห่งความมืดที่แท้จริง!

หวังเป่าเล่อลืมตาขึ้นหลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ หัวใจของเขาท่วมท้นด้วยความรู้สึกมากมาย เขารู้ว่าเสื้อคลุมสีดำที่สวมอยู่ เรือที่ใต้เท้า และไม้พายตะเกียงในมือเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ไม่ใช่ของที่จับต้องได้จริงแต่อย่างใด กระนั้นชายหนุ่มก็ยังตกใจกับสภาพที่แท้จริงของวัตถุเวทแห่งความมืดทั้งสาม

แม้จะเสียหายถึงเพียงนี้แต่ก็ยังทรงพลังเหลือเกิน… จนเปลี่ยนสภาพภูมิทัศน์ใต้ดินของดาวอังคาร และยังทำให้อสูรกลายพันธุ์อีกด้วย แถมยังทำให้เกิดโลกใต้ดินสามชั้นบนดาวอังคาร… หวังเป่าเล่อสูดหายใจเข้าลึกให้กับความคิดนั้น เขารู้แล้วว่าตนอยู่ที่ใด ตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ภายในวัตถุเวทแห่งความมืด สถานที่แห่งนี้มีพลังเวทที่ทำให้มิติบิดเบี้ยว จนทำให้เกิดโลกใต้ดินทั้งสามชั้นขึ้น และมันก็มีขนาดใหญ่อย่างเหลือเชื่อ

เนื่องจากหวังเป่าเล่อผนึกตราลงบนวิญญาณวุธทั้งสามแล้ว ตอนนี้ชายหนุ่มเป็นนายของวัตถุเวทแห่งความมืดเรียบร้อย เขาเห็นวัตถุเวทเหล่านี้มีขนาดใหญ่มหึมา เนื่องจากพวกมันเสียหายหนัก จึงสูญเสียความสามารถในการลดขนาดของตนเองลง หากซ่อมแซมจนถึงจุดหนึ่ง ชายหนุ่มจะสามารถย่อขนาดของสิ่งเหล่านี้ได้โดยใช้เพียงความคิดเท่านั้น!

หากวัตถุเวททั้งสามชิ้นนี้กลับคืนสู่สภาพสมบูรณ์… มันจะทรงพลังถึงเพียงใดกันนะ ความตกใจเกาะกุมหวังเป่าเล่อ เขารู้คำตอบดีอยู่แล้ว ตามความรู้เรื่องวัตถุเวทแห่งความมืดที่ชายหนุ่มได้รับมาในนิมิตมืด เมื่อวัตถุเวทได้รับการซ่อมแซมจนเสร็จสมบูรณ์ มันจะกลายมาเป็นอาวุธทรงพลังที่ช่วยให้บุตรแห่งความมืดท่องไปในจักรวาลได้ไม่รู้จบ!

เพียงแค่คิดชายหนุ่มก็ตื่นเต้นจนตัวสั่น หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็หายใจเข้าลึกและออกคำสั่งว่า “วิญญาณวุธทั้งหลาย จงรายงานความเสียหายของวัตถุเวทประจำกายเจ้าให้ข้าทราบ!”

ทันทีที่หวังเป่าเล่อพูดจบ เสียงของวิญญาณวุธทั้งสามก็ดังก้องอยู่ในศีรษะเขา ทั้งสามพูดด้วยน้ำเสียงเคารพเชื่อฟังอย่างถึงที่สุด

“นายท่านขอรับ ไม้พายตะเกียงขาดหายไปราวร้อยละหกสิบ ส่วนที่ขาดหายไปอยู่ที่ใดข้าไม่อาจทราบหรือสัมผัสได้ ที่เหลืออยู่ร้อยละสี่สิบได้รับความเสียหายราวร้อยละแปดสิบ ที่ไม้พายตะเกียงนี้ยังติดอยู่ด้วยกันได้ เป็นเพราะพลังแห่งกฎจักรวาลเท่านั้น…”

“นายท่านขอรับ ชุดคลุมสีดำก็เช่นกัน ชิ้นส่วนของชุดคลุมหายไปราวร้อยละเจ็ดสิบ… ที่เหลืออยู่อีกร้อยละสามสิบที่ก็เสียหายเป็นส่วนมาก…”

คำตอบของเด็กชายและราชครูทำให้หวังเป่าเล่อปวดหัว วัตถุเวทแห่งความมืดทั้งสามชิ้นเสียหายมากเกินกว่าจะรับได้ โดยเฉพาะชุดคลุมสีดำ ชายหนุ่มรู้สึกว่าชุดคลุมนั้นดูไม่เหมือนชุดคลุม หากแต่เป็นเศษผ้าชิ้นๆ เสียมากกว่า…

ไร้ประโยชน์สิ้นดี ข้าอุตส่าห์ตื่นเต้น! ชายหนุ่มถอนใจ

“นายท่านขอรับ หากมีวัตถุดิบมากพอ วัตถุเวทเหล่านี้จะซ่อมแซมตนเองได้ ตราบใดที่วัตถุเวทหนึ่งในสามฟื้นสภาพกลับมาครบร้อยละสิบ ก็จะสามารถสร้างเกราะคุ้มกันซึ่งต้านทานการโจมตีของผู้ที่มีปราณต่ำกว่าระดับจิตวิญญาณอมตะได้ขอรับ!” คำพูดของวิญญาณวุธทำให้หวังเป่าเล่อกลับมามีความหวังอีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับพลังของวัตถุเวทแห่งความมืดเหล่านี้

“เพียงแค่ร้อยละสิบก็ทำได้เช่นนั้นหรือ แล้วหากมากกว่านั้นเล่า”

“หากเรือสำปั้นแห่งความมืดกลับมาใช้งานได้ร้อยละสามสิบ จะสามารถโจมตีด้วยพลังระดับเดียวกับผู้มีปราณขั้นจิตวิญญาณอมตะระดับสูงได้ แต่การทำเช่นนั้นต้องใช้พลังงานสูงมากขอรับ จึงต้องการวัตถุดิบมาซ่อมแซมเพิ่มเติมก่อนที่จะปล่อยพลังออกเป็นครั้งที่สองได้! ในเมื่อชิ้นส่วนของไม้พายตะเกียงและชุดคลุมยังขาดหายไป ข้าขอเสนอให้นายท่านเริ่มซ่อมแซมเรือสำปั้นที่สภาพครบกว่าก่อน!” วิญญาณวุธชายหื่นประจำเรือสำปั้นเอ่ย ก่อนยื่นรายการวัตถุดิบให้หวังเป่าเล่อ…

หากเป็นก่อนหน้านี้ ราชครูและเด็กชายคงประท้วงข้อเสนอของวิญญาณชายหื่นประจำเรื่องสำปั้นเป็นแน่ แต่ตอนนี้พวกเขาเหลือเพียงความขุ่นหมองและจำยอมอยู่ในจิตใจ ทั้งสองทำได้เพียงทำตามคำสั่งอันเป็นประกาศิตเท่านั้น และอย่างไรเสีย การซ่อมแซมเรือสำปั้นก่อนก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้

ดวงตาของหวังเป่าเล่อเป็นประกาย แต่หลังจากอ่านรายการวัตถุดิบที่ได้รับมา เขาก็อดตบหน้าผากตนเองไม่ได้ วัตถุดิบที่ต้องใช้ซ่อมแซมเรือสำปั้นแห่งความมืดนั้นมากมายเกินไป มีหลายชิ้นที่เป็นวัตถุดิบหายาก บางชิ้นก็เป็นถึงชิ้นส่วนต้นกำเนิดแห่งดวงดาวเลยทีเดียว…

วัตถุดิบทั้งหมดที่หวังเป่าเล่อเคยใช้หลอมวัตถุเวท เทียบไม่ได้แม้แต่นิดกับสิ่งที่เขียนอยู่บนกระดาษ โดยด้อยค่ากว่าอยู่ถึงหนึ่งในหมื่นเลยทีเดียว ชายหนุ่มจึงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้

“ข้าใช้วัตถุดิบเหล่านี้หลอมอาวุธเทพได้หลายชิ้นเลยเชียว!”

“นายท่านขอรับ เป็นเช่นนั้นจริงๆ เสียด้วย แต่อาวุธเทพที่หลอมออกมาจะขาดพลังแห่งกฎจักรวาลอยู่ ทำให้เป็นเพียงอาวุธเทพระดับด้อยเท่านั้น” ราชครูเอ่ยอย่างรวดเร็ว ก่อนที่วิญญาณเรือจะมีโอกาสได้พูดว่าเขามีประโยชน์เพียงใด

ดวงตาของหวังเป่าเล่อส่องประกาย เขาอ่านตำรามากมายในนิมิตมืด แต่ก็ไม่เจอข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเทพแม้แต่น้อย จึงอดไม่ได้ที่จะซักถามต่อ

“อาวุธเทพระดับด้อยหรือ?”

“ขอรับนายท่าน อาวุธเทพแบ่งออกเป็นระดับด้อย ระดับกลาง ระดับสูง และระดับสมบูรณ์แบบ ความแตกต่างเรื่องพลังของแต่ละระดับนั้นมากล้น เหมือนพื้นดินกับสวรรค์เลยทีเดียว!” ผู้ที่ตอบคือเสี่ยวเป่า ผู้ตระหนักได้ว่าหากหวังเป่าเล่อเริ่มซ่อมเรือสำปั้นก่อน คุณค่าของเขาจะลดลง ด้วยเหตุนี้เด็กชายจึงรีบชิงพูดออกมาเพื่อแสดงว่าตนยังมีประโยชน์อยู่

“เจ้าเคยเห็นอาวุธเทพของสหพันธรัฐหรือไม่ เป็นระดับใดกัน” หวังเป่าเล่อถามทันที

“พวกข้าไม่เคยเห็น แต่รู้สึกได้ขอรับ อาวุธเทพนั้นเป็นอาวุธเทพระดับด้อยขอรับ!”

“ระดับด้อยหรือ แล้ววัตถุเวทแห่งความมืดนี้เล่า” หวังเป่าเล่อหายใจไม่เป็นจังหวะ

“วัตถุเวททั้งสามชิ้นนี้เป็นวัตถุเวทระดับกลาง หากฟื้นคืนสภาพจนครบสมบูรณ์ จะสามารถปล่อยพลังเทียบเท่าอาวุธเทพระดับสูงได้ขอรับ!”

เมื่อหวังเป่าเล่อได้ยินคำตอบ ก็ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของเขาทอประกายเจิดจ้าเหมือนดวงดาว ส่วนดวงใจก็โชติช่วงไปด้วยไฟแห่งความหวัง ราวกับว่าจับพลัดจับผลูไปเก็บเอาของล้ำค่าที่ประเมินราคามิได้มาจากข้างถนน เขาเคยคิดว่าอาวุธเทพของสหพันธรัฐนั้นทรงพลังยิ่ง จนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่มันกลับเป็นเพียงอาวุธเทพระดับต่ำเท่านั้น วัตถุเวทแห่งความมืดของเขาต่างหาก ที่จะกลายมาเป็นอาวุธเทพระดับสูงเมื่อซ่อมแซมเสร็จเรียบร้อย!

ชายหนุ่มอยากเริ่มรวบรวมวัตถุดิบทั้งหมดเพื่อเริ่มซ่อมแซมวัตถุเวทของตนในทันที ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ เหมือนผีดิบที่อดโซมาหลายพันปี ดวงตาของหวังเป่าเล่อทอแสงสีแดงออกมา ขณะมองไปรอบกายอย่างลุกลี้ลุกลน

“ทรัพยากร… ข้าต้องการทรัพยากรจำนวนมาก…” หวังเป่าเล่อพึมพำกับตนเอง ทันใดนั้น ภาพของผู้ฝึกตนจากนอกโลกสามคนที่มีปราณระดับจุติวิญญาณก็ผุดขึ้นมาในใจ!

เจ้าพวกนั้นต้องมีทรัพยากรเก็บไว้เป็นจำนวนมากแน่! หวังเป่าเล่าเลียริมฝีปาก ดวงตาทอแสงอำมหิตกร้าว จิตของเขาที่ผูกติดอยู่กับวัตถุเวทแห่งความมืดทำให้ชายหนุ่มรู้ว่า เพราะวัตถุเวทเหล่านี้ลดขนาดลงมาไม่ได้ ทำให้เขาควบคุมมันได้อย่างยากลำบากหากออกไปยังโลกภายนอก และจะปล่อยพลังของมันออกมาไม่ได้ถึงขีดสุด  ทว่าในโลกใต้ดินที่วัตถุเวทเหล่านี้สร้างขึ้นมา หวังเป่าเล่อผู้เป็นนายของวัตถุเวททั้งสาม… ถือเป็นเทพเจ้า!

แม้พลังปราณของเขาจะด้อยกว่า จึงไม่อาจเอาชนะได้ด้วยกำลังของตนเอง แต่หากเขายืมพลังของวิญญาณวุธ ก็คงสามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนระดับจุติวิญญาณได้!

“ไปกันเถิด เราจะไปล่าทรัพยากรมาซ่อมเรือสำปั้นกัน!” หวังเป่าเล่อหรี่ตา เขาชี้ไม้พายตะเกียงมายาไปข้างหน้า ทันใดนั้น ท้องฟ้าและพื้นดินก็สั่นไหวอีกรอบ โลกใต้ดินทั้งสามชั้นสะท้านสะเทือน แสงสว่างระเบิดออกจากหลายส่วนของโลกใต้ดินนี้

ชุดคลุมมายาที่หวังเป่าเล่อสวมอยู่ปลิวไสวตามสายลมขณะที่เรือสำปั้นที่อยู่ใต้เท้าเริ่มเคลื่อนที่ หวังเป่าเล่อและวัตถุเวทแห่งความมืดทั้งสามลอยขึ้นไปในอากาศ หลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับความมืดไร้ที่สิ้นสุด ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย!

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

นิยายกำลังภายใน แปลจีน จากนักเขียนขายดีตลอดกาล ‘เอ่อร์เกิน’ กับตัวเอกแปลกใหม่ ไม่มีใครเหมือน! บังอาจดูถูกความหล่อเหลาของข้า จงเรียกข้าว่า ‘บิดา’ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศปักเข้าใจกลางดวงอาทิตย์ แรงกระแทกนั้นทำให้ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนและกระจัดกระจายไปทั่วทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก ก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัดขึ้นบนโลกในบัดดล พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ‘ปราณวิญญาณ’ เมื่อสหพันธรัฐและขุมอำนาจอื่นๆ เริ่มออกรวบรวมเศษชิ้นส่วนต่างๆ พวกเขาก็ได้รู้ถึงเคล็ดวิชาการฝึกตน การหลอมโอสถ การหลอมศิลาวิญญาณ และเคล็ดวิชาพิสดารนานัปการ ตัวอักขระที่จารึกอยู่บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นล้วนเก่าแก่ยิ่งนัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนกลับมานิยมใช้ภาษาจีนโบราณกันอีกครั้ง การถือกำเนิดของปราณวิญญาณ ทำให้แหล่งพลังงานรูปแบบเดิมตกยุค และได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์โลกไปโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่เครือข่ายวิญญาณจะได้รับการคิดค้นขึ้นมา แต่ปราณวิญญาณยังพลิกโฉมอารยธรรมมนุษย์ นำพาโลกเข้าสู่ยุคสมัยแห่งการฝึกตน ซึ่งต่อมารู้จักกันในนามว่ายุคกำเนิดวิญญาณ หวังเป่าเล่อ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป ชายหนุ่มศึกษาอัตชีวประวัติของเจ้าพนักงานสหพันธรัฐจนขึ้นใจ และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาในสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความ ‘หน้าหนาหน้าทน’ ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ …เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตายหากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี!! ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

Options

not work with dark mode
Reset