หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 740

จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปด

“มู่เฉิน…”

เมื่อเสียงแหบพร่าของประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ดังขึ้น คนจากอาณาเขตกงเวทสวรรค์ก็เงียบไป ตามด้วยเสียงฮือฮาที่ไม่สามารถระงับได้

ทุกคนหันขวับไปมองมู่เฉินด้วยความตกตะลึง

สูชิงกับโจวเยี่ยก็อึ้งไปพลางแลกเปลี่ยนสายตากัน ริมฝีปากของพวกเขาขยับแต่ไม่มีคำพูดใดออกมา เพราะนี่เป็นการตัดสินจากประมุขเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าคัดค้านคำพูดนั่น

แต่ต่อให้พวกเขาไม่ได้พูดออกไป ในดวงตาก็ยังคงฉายแววสงสัย พวกเขาเคยเห็นการประลองระหว่างมู่เฉินกับหวูเทียน ก็รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่มองเห็นแต่ภายนอก

แต่ตอนที่มู่เฉินสู้กับหวูเทียน เขาใช้รัศมีจั้นยี่วิหคโลกันตร์ร่วมด้วย ตอนนี้เขาต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเอง… นี่ทำให้ทุกคนเกิดความกังขาขึ้นมา

ความโกลาหลบังเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่คนอื่นจะอึ้งไป แม้แต่มู่เฉินยังอดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง จากนั้นเขาก็เหลือบมองถังปิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยสายตาพิลึกกึกกือ ถังปิงก็มีท่าทางไม่ต่างจากเขาเลย

ชัดเจนที่ตัวนางก็ไม่เข้าใจว่าทำไมประมุขถึงได้เลือกมู่เฉินออกไป…

แม้คนจำนวนมากจะมีความสงสัยในแววตา แต่ชื่อเสียงของประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ยิ่งใหญ่เหลือคณนาจนไม่มีใครกล้าส่งเสียงคัดค้าน เว้นแต่ความเงียบงันที่ตามมาหลังจากเกิดความวุ่นวายดูผิดปกติยิ่ง

จิ่วโยวมองมู่เฉินด้วยสายตาพิลึกพิลั่นลังเลไปครู่หนึ่ง ก่อนประสานมือ “ท่านประมุขเจ้าค่ะ มู่เฉินประสบการณ์ยังตื้นเขิน จะไม่เป็นอันตรายเกินไปหรือหากเราส่งเขาออกไป?”

เวลานี้การต่อสู้ทั้งสามนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง คนที่ถูกเลือกให้ออกมาสู้จะรู้สึกกดดันยิ่งใหญ่ ดีไปหากพวกเขาชนะ แต่ถ้าแพ้ละก็ แรงกดดันที่ได้รับจะไม่เบาเลย แม้จิ่วโยวต้องการให้มู่เฉินยืนหยัดอยู่ในการศึกครั้งนี้ แต่นางก็ไม่ต้องการให้มู่เฉินอยู่ในสถานการณ์อันตรายเหมือนกัน

พอได้ยินคำพูดของนาง ประมุขก็โบกมือยิ้ม “ไม่เป็นไร ให้เขาไปเถอะ”

พอเห็นการยืนกรานของประมุขแล้ว จิ่วโยวก็ไม่พูดอะไรอีก แต่สายตายังดูพิลึกไปเล็กน้อย นางไม่เข้าใจเลยว่าทำไมประมุขถึงให้ความสำคัญกับมู่เฉินมากนัก ตัดสินจากเหตุผลด้านพลังของมู่เฉินในตอนนี้ เขาไม่มีคุณสมบัติเข้าตาประมุขเลยสักนิด…

ทุกคนเงียบไปเมื่อเห็นและไม่เอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน คำพูดของประมุขถือเป็นสิทธิ์ขาดในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าจะขัดคำพูด

ดังนั้นตัวแทนระดับแม่ทัพจึงเป็นของมู่เฉิน

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนฝั่งกองทัพอาณาเขตกงเวทสวรรค์แลกเปลี่ยนสายตากันพลางลอบถอนใจ พวกเขาหวังว่าจะชนะในการประลองสองคู่แรกนะ ผลการประลองของมู่เฉินจะได้ไม่มีความสำคัญนัก

เผชิญหน้ากับสายตาทอดถอนใจประหลาด มู่เฉินก็ทำได้แต่บุ้ยปากเท่านั้น เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประมุขถึงได้ยืนกรานให้เขาออกไปสู้

“ฮ่าๆ ดูท่าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะเลือกคนเรียบร้อยแล้วนะ” เฒ่าเร้นกระบี่หัวเราะ กวาดสายตามองจอมพลซุ่ยนอนที่มีดวงตาหลุบต่ำพร้อมกับแววเกรงกลัวฉายในดวงตา เขารู้มาว่าในหมู่จอมพลอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ซุ่ยนอนนับว่ายากแท้หยั่งถึงที่สุด

จากนั้นสายตาของเขาก็กวาดไปที่ซิวหลัวที่อยู่ในชุดออกศึกที่มีสีหน้าเรียบเฉย แต่ภายใต้สายตาสงบนิ่ง กลับมีแววสังหารน่ากลัวพวยพุ่งจนทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

ในบรรดาเก้าผู้บัญชาการ พลังของซิวหลัวนับว่าแข็งแกร่งที่สุด ลือกันว่าในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ซิวหลัวมีโอกาสสูงที่จะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งจอมพล

สุดท้ายเฒ่าเร้นกระบี่ก็เบนสายตาไปที่มู่เฉิน เขาถึงกับอึ้งเมื่อมองไป ขุมพลังจื้อจุนขั้นสองเรอะ? แม่ทัพอาณาเขตกงเวทสวรรค์อ่อนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

แววสงสัยวาบในดวงตาของเฒ่าเร้นกระบี่ แต่เขาก็ไม่แสดงอะไรออกมาพลางคลี่ยิ้ม “ในเมื่อเลือกนักสู้เรียบร้อยแล้ว ก็ให้ประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ตัดสินใจเลือกลำดับการต่อสู้ได้เลย”

แสงหนาแน่นพวยพุ่งรอบตัวประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขาเหลือบมองจอมพลซุ่ยนอนครู่หนึ่ง ฝ่ายหลังก็ค่อยๆ เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม “ถ้างั้นก็เริ่มประลองจากคนที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนเลย”

เมื่อเขาก้าวเท้าออกไปก็ปรากฏตัวบนท้องฟ้าสูง เขามองไปยังอสูรพิลาลส “ข้าได้ยินมานานแล้วว่า อสูรพิลาลสเป็นอัจฉริยะฟ้าประทานที่ฝ่าฟันอุปสรรคจากพิภพเขตล่างมา โชคดีจริงๆ ที่จะได้รับการชี้แนะในวันนี้”

อสูรพิลาลสยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั่น ร่างเคลื่อนไหวเบาบางหายตัวไปอย่างลึกลับแล้วปรากฏตัวที่เบื้องหน้าซุ่ยนอนราวกับคลื่นน้ำ

“ข้าได้ยินเกี่ยวกับคัมภีร์เทพต้าเมิ่งที่พี่เมิ่งฝึกฝนอยู่ในภาวะกึ่งหลับ ข้าหวังว่าจะได้เห็นทักษะอันน่าสนใจในวันนี้” ดวงตาของอสูรพิลาลสที่ราวกับท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวมองไปที่ซุ่ยนอนขณะเอ่ยช้าๆ

“ตามที่ขอ”

ซุ่ยนอนยิ้ม ทว่าแววง่วงงุนตลอดเวลาในดวงตาวาบหายไปอย่างรวดเร็ว แทนที่ด้วยประกายคมกริบแรงกล้า

เขาสะบัดแขนเสื้อ ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าสดใสก็บิดเบี้ยวทันที แรงกดดันคลื่นหลิงน่ากลัวที่สามารถทำให้ท้องฟ้าแตกสลายก็กระจายปกคลุมไปทั่ว

ปัง! ปัง!

บนท้องฟ้าชั้นเมฆกระจายตัวทันที รอยแตกบิดเบี้ยวน่ากลัวปรากฏในมิติ อึดใจซุ่ยนอนก็กำมือ รอยแตกคลื่นมิติสีดำเมื่อมก็ผุดขึ้นในมือ ราวกับอสรพิษตัวเล็กสีดำ ทว่ามีเพียงคนที่สายตาเฉียบแหลมเท่านั้นที่บอกได้ว่ามีพลังงานน่ากลัวเพียงใดที่บรรจุอยู่ภายในอสรพิษตัวเล็ก

นี่คือพลังงานของมิติ

“ควบคุมมิติได้ ระดับจื้อจุนขั้นแปด”

จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนสูดหายใจลึก มีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดเท่านั้นที่สามารถควบคุมพลังของมิติได้อย่างสบายๆ และการที่สามารถทำเช่นนั้นได้ ก็หมายความว่าซุ่ยนอนเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปด!

ทางด้านหลัง เทียนจิ้วกับหลิงถงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเห็นดังนี้ ดูเหมือนจะโดนซุ่ยนอนแซงหน้าไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว แม้พวกเขาจะได้สัมผัสถึงขอบเขตของขุมพลังจื้อจุนขั้นแปด แต่ก็ยังมีระยะห่างพอสมควรกับการบรรลุอย่างแท้จริง

“สมกับเป็นจอมพลซุ่ยนอนจริงๆ…” ถังปิงอดไม่ได้ที่จะชื่นชม จากที่นางรู้มา พลังของสามจอมพลที่แสดงออกมาน่าจะอยู่ในช่วงขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ด แต่เห็นชัดว่าข้อมูลดังกล่าวล้าสมัยไปแล้ว

มู่เฉินพยักหน้ามองร่างที่ยืนอยู่บนท้องฟ้า พลังงานที่แผ่จากร่างนั่นสามารถทำลายล้างและสร้างหายนะได้เลย

ภายใต้สายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน ซุ่ยนอนก็ยิ้มบางให้อสูรพิลาลสพลางดีดนิ้ว อสรพิษเล็กสีดำในมือหายไปอย่างลึกลับ

ตู้ม!

เมื่ออสรพิษเล็กที่เกิดจากพลังงานของมิติหายไป มิติรอบด้านอสูรพิลาลสก็บิดเบี้ยวฉับพลัน อึดใจมิติก็ฉีกออกเกิดรอยแตกน่ากลัวเกิดขึ้น ดูราวกับมิติถูกเฉือนขณะที่พุ่งไปหาอสูรพิลาลสโดยไม่ลังเลใดๆ

ไม่มีการเคลื่อนไหวสั่นสะเทือนของคลื่นหลิงใดๆ จากการโจมตีกระบวนท่านี้ แต่อันตรายที่อยู่ภายในกลับเหนือกว่าการปะทะระหว่างคลื่นหลิงเสียอีก พลังที่อยู่ในรอยแตกมิติสามารถสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าได้ในทันที จุดสำคัญอยู่ที่นี่ไม่ใช่การโจมตีที่คนทั่วไปสามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะเร็วขนาดไหน ก็ไม่สามารถเทียบกับความเร็วของคนที่ฉีกมิติออกจากกันได้

สีหน้าของอสูรพิลาลสไม่เปลี่ยนแปลง แต่ยื่นมือไปข้างหน้า เขายิ้มบางขณะที่มิติรอบตัวบิดเบี้ยวเช่นกัน รอยแตกมิติน่ากลัวปรากฏขึ้นปะทะกับรอยแตกมิติที่พุ่งตรงเข้ามา

ชี่! ชี่! ชี่!

เสียงคลื่นละเอียดดังมาจากท้องฟ้าขณะที่รอยแตกมิติปะทะกัน กัดกร่อนซึ่งกันและกัน แต่กลับไม่มีเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวดังออกมาเลย

“ควบคุมมิติ?”

“แม้แต่อสูรพิลาลสก็มีขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดแล้ว!”

บางคนถึงกับอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ ทุกคนบอกได้ว่าอสูรพิลาลสเลือกใช้ทักษะแบบเดียวกันในการลบล้างการโจมตีของรอยแตกมิติที่พุ่งเข้ามา

เห็นชัดว่าอสูรพิลาลสก็มีขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดแล้วเหมือนกัน!

“ชายคนนั้นช่างน่าสะพรึงสมคำล่ำลือที่ทะลุผ่านขอบเขตของพิภพเขตล่างขึ้นมาได้” ถังปิงเอ่ยพลางขมวดคิ้วแน่น

“ดูเหมือนจะต้องเกิดการประลองดุเดือดเลือดพล่านเพื่อตัดสินผลลัพธ์นี้แล้ว” มู่เฉินมีสีหน้าเคร่งขรึมลง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอสูรพิลาลสถึงถูกเลือกให้ประลองระดับจอมพล เขาปกปิดความแข็งแกร่งไว้มากมายขนาดนี้ แม้แต่ในผู้นำแดนร้อยสงคราม ขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดของเขาก็คงนับว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้ว

“เรื่องชักจะน่าสนใจขึ้นมาแล้ว ข้าหวังว่าฝีมือจะไม่ขึ้นสนิมหลังจากไม่ได้สู้มานาน” ซุ่ยนอนมองภาพตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่สายตากลับเริ่มเปลี่ยนเป็นคมกริบ คู่ต่อสู้เช่นนี้สมแล้วที่จะทำให้เขาต้องเผยความจริงจังออกมา

“ชี้แนะด้วย พี่เมิ่ง” อสูรพิลาลสยิ้มโดยไม่มีริ้วอารมณ์ใดๆ ในดวงตา

ซุ่ยนอนยิ้มพลางหลับตาลง เมื่อดวงตาเขาปิดลง มิติเบื้องหลังก็เริ่มบิดเบือน พื้นที่นี้ราวกับกลายเป็นหลุมดำขณะที่ดูดกลืนคลื่นหลิงทั่วบริเวณอย่างรุนแรง

เมื่อเส้นสายคลื่นหลิงมารวมตัวกัน ร่างใหญ่โตขนาดหลายพันจั้งก็ค่อยๆ ก่อตัว

ร่างนั้นนั่งอยู่บนท้องฟ้า ล้อมรอบด้วยแสงพร่างพราวแต่มันไม่ใช่ภาพลวงตา ขณะที่แสงไหลเวียนก็ดูเหมือนกับร่างร่างหนึ่ง ช่างเหมือนยักษ์ตัวเป็นๆ เลยทีเดียว!

ยิ่งกว่านั้นยังมีมังกรทองม้วนตัวอยู่รอบร่างยักษ์ มังกรขนาดใหญ่โตขดตัวอยู่บนร่างนั้นชูหัวขึ้นสูง ราวกับกำลังกลืนกินสวรรค์และโลก

เมื่อร่างใหญ่ยักษ์ปรากฏขึ้น ท้องฟ้าก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ราวกับไม่สามารถทนต่อแรงกดดันนั้นได้

โฮก!

มังกรทองคำราม คลื่นเสียงก็ดังก้องไปทั่วชั้นฟ้า คลื่นกระแทกสีทองกวาดออกมา พริบตาเดียวก็ทำให้ผืนฟ้าถล่มและผืนดินทลาย!

มู่เฉินมองร่างมหึมาและมังกรทองที่ล้อมรอบก็อดหดตาลงและพึมพำกับตัวเองไม่ได้

“นี่คือ…ร่างมังกรฟ้างั้นหรือ?”

ร่างมังกรฟ้าอันดับเจ็ดสิบในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset