หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 756

การเปลี่ยนบทบาท

ซ่า!

เมื่อมู่เฉินพุ่งลงไปในลาวา อุณหภูมิสูงก็ปะทะเข้ามาอย่างรุนแรง เขาเร้าวิชากายาเทพสายฟ้าจนถึงขีดสุด ยิ่งกว่านั้นยังแผ่คลื่นหลิงปกป้องตัวเองไว้ด้วย ทว่าก็ยังรู้สึกถึงความแสบร้อนบนผิวหนัง

ฟิ้ว!

มู่เฉินเปลี่ยนเป็นร่างแสงพุ่งผ่านลาวาทะยานไปยังจุดลึกสุดอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายที่จะทำ แต่ไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่ได้ลูกเสือ เพื่อบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นสาม เขาต้องลองสักตั้งถึงจะอันตรายยังไงก็ตาม

สามารถพบเห็นฝูงอสรพิษเพลิงวิญญาณแหวกว่ายในลาวา มู่เฉินไม่อยากไปยุ่งกับพวกมันมากจึงหลีกเลี่ยงไปอย่างระมัดระวังและมุ่งหน้าต่อไป

ประมาณไม่กี่สิบอึดใจ มู่เฉินก็พลิ้วตัวลงในระยะหนึ่งพันลี้ของบ่อเพลิงข่ายฟ้า ลาวาที่นี่มีสีม่วงอ่อนเนื่องจากอุณหภูมิสูงถึงระดับที่น่ากลัวมากแล้ว

แม้แต่วิชากายาเทพสายฟ้าของมู่เฉินยังยากที่จะอดทนกับอุณหภูมิสูงเช่นนี้

ซี้ด

มู่เฉินสูดลมหายใจเบาๆ อึดใจจิตใจก็เคลื่อนไหว เส้นใยเพลิงสีม่วงเข้มปรากฏบนผิวกายถักทอเป็นเยื่อไฟห่อหุ้มร่างของเขาไว้

อุณหภูมิสูงน่ากลัวลดลงในตอนนี้

เพลิงสีม่วงเข้มก็คือเพลิงอมตะ แม้อุณหภูมิในบ่อเพลิงข่ายฟ้าจะสูง แต่ก็ไม่สามารถเจาะผ่านปราการป้องกันของเพลิงอมตะได้ ก่อนหน้าเนื่องจากมู่เฉินต้องการฝึกฝนจึงไม่ได้เร้าขึ้นมาใช้ แต่ตอนนี้ในเมื่อเขาต้องล่าอสรพิษเพลิงวิญญาณที่มีอายุมากขึ้น จึงเป็นเรื่องดีที่จะเริ่มใช้

วาบ!

เมื่อมีเกราะเพลิงอมตะ ความเร็วของมู่เฉินก็เพิ่มขึ้น ไม่กี่นาทีเขาก็พุ่งลึกลงไปกว่าสองพันจั้ง คลื่นหลิงที่บรรจุอยู่ในลาวาป่าเถื่อนจนน่าตกใจ ลาวาบางส่วนถึงขนาดควบแน่นเป็นกลุ่มเพลิงลอยอยู่บนพื้นผิว

นอกจากนี้สิ่งที่ประหลาดที่สุดก็คือบริเวณรอบลาวาที่ควบแน่นราวกับกลายเป็นพื้นที่สุญญากาศ ไม่มีลาวาใดสามารถเข้าไปในพื้นที่นั้นได้แม้แต่น้อย

มู่เฉินพลิ้วตัวลงบนหินลาวาขนาดใหญ่ก็สัมผัสได้ในทันทีว่าแรงกดดันโดยรอบหายไปในพริบตา ราวกับว่าหินลาวานี้สามารถต้านทานแรงกดดันและอุณหภูมิสูงในส่วนลึกของบ่อเพลิงข่ายฟ้าได้

“เป็นสถานที่ที่แปลกประหลาดจริงๆ”

มู่เฉินลองกระทืบเท้า หินลาวาก็ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว ทำให้เขาอดชื่นชมไม่ได้ มหาพันภพช่างเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับนานัปการจริงๆ

“แต่ทำไมไม่เห็นอสรพิษเพลิงวิญญาณสักตัวเลยล่ะ?” มู่เฉินกวาดสายตาไปรอบๆ ก็พึมพำกับตัวเอง เพราะเขาเหมือนจะไม่เห็นอสรพิษเพลิงวิญญาณแม้แต่ตัวเดียว ซึ่งแตกต่างจากการมารวมตัวกันหนาแน่นที่ส่วนบนโดยสิ้นเชิง

ขณะที่มู่เฉินกวาดสายตาอย่างสงสัย หินลาวาควบแน่นที่อยู่ไม่ไกลก็ระเบิดออก หางงูขนาดใหญ่แหวกผ่านลาวาฟาดใส่มู่เฉินจังใหญ่

การโจมตีฉับพลันทำให้สีหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไป เขากระทืบเท้าล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

ตู้ม!

หางฟาดลงมา ทำลายหินลาวาจนแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ส่วนร่างของมู่เฉินก็ถูกกวาดจากคลื่นกระแทกต้องถอยออกไปหลายสิบก้าวอย่างทุลักทุเลก่อนจะทรงตัวได้

สีหน้าเคร่งขรึมมองไปก็เห็นอสรพิษเพลิงวิญญาณขนาดใหญ่ขดตัวอยู่ในลาวา ร่างใหญ่โตยิ่งกว่าทุกตัวที่เขาเคยเห็นมา

“เจ้าตัวดีนี่ อายุอย่างน้อยก็สี่ร้อยปีเชียวล่ะ!”

มู่เฉินสูดหายใจลึกสุดปอด ขนาดของอสรพิษใหญ่กว่าตัวที่มีอายุร้อยปีสองถึงสามเท่า จากการประเมินของเขาตัวนี้อย่างน้อยก็ต้องมีอายุประมาณสี่ร้อยปี

ระดับพลังของอสรพิษเพลิงวิญญาณตัวนี้คงไม่ด้อยกว่าฉิงเปยแล้ว

นี่คืออสรพิษยักษ์ที่ยากจะจัดการ

ชี่! ชี่!

อสรพิษเพลิงวิญญาณจ้องมองมู่เฉินอย่างดุร้าย จากนั้นมันก็ไม่ลังเลที่จะอ้าปากกว้างปล่อยลำแสงลาวาสีแดงพุ่งใส่มู่เฉิน

พลังที่อยู่ในแสงลาวาไม่ใช่สิ่งที่อสรพิษเพลิงวิญญาณที่มู่เฉินปะทะก่อนหน้าสามารถเทียบได้ ดังนั้นเขาไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย แสงสีทองระเบิดจากด้านหลัง ร่างเทพสุริยะถูกเรียกขึ้นมา

ตึง!

ฝ่ามือทองคำและแสงลาวาปะทะกัน ลมพายุน่ากลัวก็กวาดออกมา ทำให้หินลาวาที่ลอยอยู่หลายก้อนแตกสลาย

ร่างมู่เฉินปรากฏบนหัวของร่างเทพสุริยะ สายตาคมกริบมองอสรพิษเพลิงวิญญาณที่กำลังโกรธเกรี้ยวเขม็ง เขาวาดตราประทับสองมือ จุดจื้อจุนไห่ก็พลุ่งพล่านขึ้นมาด้านหลัง พร้อมกับเสียงคำรามของมังกรและคชสาร

ฟิ้ว!

มังกรและคชสารอย่างละสองตัวพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน ควบแน่นเป็นวงแสงมังกรคชสาร สุดท้ายภายใต้การชี้นิ้วออกไปของมู่เฉิน วงแสงก็ฉีกผ่านมิติว่างเปล่า

มู่เฉินใช้วิชาเก้ามังกรคชสารไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาตั้งแต่ปะทะกระบวนท่าแรก เขาทราบดีว่าอสรพิษเพลิงวิญญาณตัวนี้ทรงพลังเพียงใด ดังนั้นจึงไม่คิดลองมือ

ชี่! ชี่!

อสรพิษเพลิงวิญญาณเงยหน้าขึ้นคำรามลั่นฟ้า เกล็ดบนตัวชูชันเมื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย

ตู้ม! ตู้ม!

วงแสงสีแดงหนาแน่นไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกจากร่างของอสรพิษเพลิงวิญญาณ มองดูแล้ว ก็ราวกับปราการเป็นชั้นๆ ป้องกันร่างอสรพิษเพลิงวิญญาณ

สิ่งนี้สิ่งเดียวก็แสดงให้เห็นถึงพลังของอสรพิษเพลิงวิญญาณตัวนี้ที่เหนือกว่าตัวที่มู่เฉินเคยเจอเมื่อก่อนหน้าแล้ว เพราะมู่เฉินไม่เคยเห็นการป้องกันทรงพลังเช่นนี้จากอสรพิษเพลิงวิญญาณก่อนหน้าเลย

แต่มู่เฉินก็มั่นใจในวิชาเก้ามังกรคชสารเช่นกัน ตอนนั้นแม้แต่ฉิงเปยก็พ่ายแพ้ เขาไม่เชื่อหรอกว่าอสรพิษเพลิงวิญญาณที่ไม่มีสติปัญญาจะรอดชีวิตไปได้!

ฟิ้ว!

จานแสงมังกรคชสารปรากฏเหนือร่างอสรพิษเพลิงวิญญาณ ภายใต้การหมุนคว้างเร็วจี๋ ก็เพิ่มความคมกริบที่สามารถฉีกทุกสรรพสิ่งได้ เมื่อบวกกับพลังมังกรคชสารแล้วก็ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งได้

จานแสงมังกรคชสารพุ่งผ่านอย่างรวดเร็ว อึดใจเดียวปราการป้องกันรอบร่างอสรพิษเพลิงวิญญาณก็ถูกฉีกออกจากกัน ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องแหลม

เมื่อเขามองตรงไปก็เห็นอสรพิษเพลิงวิญญาณถูกตัดเป็นสองท่อน ผลที่เกิดขึ้นทำให้เขายิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ ภายใต้พลังสังหารของวิชาเก้ามังกรคชสาร ทุกสิ่งล้วนถูกจัดการเรียบร้อยไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

ตู้ม!

ทว่าก่อนที่มู่เฉินจะผ่อนคลายลง เขาก็เห็นอสรพิษเพลิงวิญญาณที่ถูกตัดพล่านเป็นสองท่อนอ้าปากกว้างอย่างดุร้าย ปล่อยลำแสงรุนแรงพุ่งตรงมาหาล้อมรอบร่างเขาไว้

ตึง!

ร่างเทพสุริยะยกแขนไขว้กัน ต้านลำแสงสีแดงด้วยร่างใหญ่โต แต่บนแขนก็มีรอยร้าวเกิดขึ้น

มุมปากของมู่เฉินกระตุก เขาไม่คิดว่าพลังชีวิตของอสรพิษเพลิงวิญญาณจะทรงพลังปานนี้ ขนาดถูกฟันขาดเป็นสองท่อนก็ยังดิ้นรนได้จนถึงระดับนี้

“แก่นเพลิงวิญญาณของเจ้าต้องเป็นของข้า” มู่เฉินส่งเสียงขึ้นจมูก เขาไม่เชื่อหรอกว่าอสรพิษเพลิงวิญญาณที่ถูกฟันขาดจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้

ฟ่อ!

ทว่าขณะที่มู่เฉินเตรียมจัดการขั้นเด็ดขาด อสรพิษเพลิงวิญญาณกลับไม่ได้กระโจนเข้าใส่ทางด้านหน้า แต่หันหลังหนีไป ทำเอามู่เฉินตกใจไป เขาไม่คิดว่าอสรพิษเพลิงวิญญาณที่มีอายุสี่ร้อยปีตัวนี้ไม่เพียงจะมีพลังแก่กล้า มิหนำซ้ำยังรู้วิธีที่หลบหนีอีกด้วย แตกต่างจากอสรพิษเพลิงวิญญาณที่เผชิญมาก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

จิตใจมู่เฉินเคลื่อนไหว ร่างเทพสุริยะก็ไล่ตามไปกระชั้นชิด ยากเหลือเกินกว่าจะเจออสรพิษเพลิงวิญญาณที่มีค่าเช่นนี้ เขาไม่มีทางปล่อยให้มันหนีไปได้หรอก

ตู้ม!

ทว่าทันทีที่กำลังจะพุ่งตาม มู่เฉินก็รู้สึกขนลุกชันฉับพลัน อันตรายที่ไม่อาจอธิบายได้ผุดขึ้นมาในหัวใจ ซึ่งความรู้สึกนี้ทำให้การควบคุมร่างเทพสุริยะของมู่เฉินหยุดนิ่งกลางคัน

ปัง!

ในส่วนลึกเข้าไป ร่างสีแดงพุ่งขึ้นมาด้วยความเร็วไม่อาจอธิบายได้ จากนั้นก็ม้วนตัวพันรอบร่างอสรพิษเพลิงวิญญาณ ก่อนที่เข็มสีแดงจะเจาะเข้าไปในหัวอสรพิษ

อสรพิษเพลิงวิญญาณดิ้นรนรุนแรง แต่ไม่กี่อึดใจร่างก็เหี่ยวแห้ง ดูแล้วราวกับว่าถูกสูบจนฟีบไปหมด

มู่เฉินตะลึงไปขณะมองภาพนี้ จากนั้นก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงอย่างติดขัด มองเห็นร่างครึ่งแมงป่องครึ่งอสรพิษสีแดงขนาดใหญ่ยักษ์ว่ายวนอยู่ในส่วนลึกของลาวา

มันมีหัวเป็นแมงป่องหางเป็นอสรพิษ ซ้ำยังมีหางพิษส่องประกายแสงเยือกเย็นอีกด้วย คลื่นหลิงน่ากลัวปลดปล่อยออกมาจากร่าง

ความผันผวนนี้ทรงพลังกว่าอสรพิษเพลิงวิญญาณอายุสี่ร้อยปีไปไม่รู้เท่าไร

อึก

มู่เฉินกลืนน้ำลายรู้สึกถึงฝ่ามือที่เย็นเฉียบ เขาไม่คิดว่าจะมีสัตว์ครึ่งแมงป่องครึ่งอสรพิษทรงพลังลึกลับเช่นนี้ซ่อนตัวอยู่ในจุดลึกของลาวา มิน่าล่ะถึงไม่มีอสรพิษเพลิงวิญญาณอยู่ในบริเวณนี้!

สายตาไร้อารมณ์ของสัตว์ครึ่งแมงป่องครึ่งอสรพิษเบนมาหยุดที่ร่างของมู่เฉิน มันไม่มีสติปัญญาใดๆ มีเพียงจิตสังหารและความรุนแรง

มู่เฉินสูดอากาศเข้าปากคำใหญ่ วินาทีต่อมาร่างเทพสุริยะข้างใต้ก็สลายไป ขณะเดียวกันเขาก็พุ่งตัวหลบหนีราวกับภูตผี

สัตว์ครึ่งแมงป่องครึ่งอสรพิษสีแดงมีพลังที่ตัวเขาในตอนนี้ไม่สามารถต่อกรได้ มู่เฉินรู้ว่าหากไม่หนีไปตอนนี้ ผลลัพธ์ก็คงไม่ต่างกับอสรพิษเพลิงวิญญาณ

แม้เขาจะรู้สึกปวดใจกับแก่นเพลิงวิญญาณอายุสี่ร้อยปี แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ชัดว่าชีวิตเขาสำคัญกว่า

มู่เฉินหนีเอาชีวิตรอด ตอนแรกเขาตั้งใจจะหนีขึ้นไปด้านบน แต่หินลาวาที่ลอยอยู่กลับกลายเป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับเขาแล้ว สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้วิ่งเป็นเส้นตรงออกไป

ขณะวิ่งหนีสุดชีวิต หางตาของมู่เฉินก็กวาดไปทางด้านหลัง การเหลือบมองนี้ทำให้เขาโชกชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น เพราะเขาเห็นไอ้ตัวครึ่งแมงป่องครึ่งอสรพิษลึกลับพุ่งตัวผ่านลาวาไล่ตามมาติดๆ

ชัดว่ามันไม่คิดจะปล่อยเขาที่เป็นเหยื่อไป!

“นรกเอ๊ย!”

มู่เฉินสบถพลางขบฟันแน่น เขาไม่คิดเลยว่าการออกล่าอสรพิษเพลิงวิญญาณ กลับมากลายเป็นเหยื่อแทน…

วาบ!

มู่เฉินเร่งความเร็วถึงขีดสุด เริ่มหนีอย่างบ้าคลั่ง ที่เบื้องหลังมีตัวครึ่งแมงป่องครึ่งอสรพิษสีแดงที่มีพลังน่ากลัวไล่กวดมาติดๆ

รังสีสังหารแผ่ออกมาจากส่วนลึกของลาวา บทบาทระหว่างผู้ล่าและผู้ถูกล่าสลับกันอย่างเงียบๆ

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset