หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 764

สภาวะฤทัยปีศาจขั้นต้น

ร่างของมู่เฉินยืนนิ่งอยู่ในส่วนลึกของลาวา

ตอนนี้ม่านตาสีดำราวกับหลุมดำ ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าถูกดูดเข้าไป นอกจากนี้ผมสีดำของเขายังงอกยาวอย่างรวดเร็ว ปลิวไสวไปกับสายลม

การเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดนี้ดึงดูดความสนใจของจอมยุทธ์จำนวนมาก กระทั่งมั่นถัวหลัวยังมีแววสงสัยวาบผ่านนันย์ตา เนื่องจากนางยังไม่เคยเห็นมู่เฉินใช้วิธีการแปลกประหลาดนี้มาก่อน

“แต่คลื่นหลิงรอบตัวเขาไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น” เบื้องหลังมั่นถัวหลัว เทียนจิ้วหนึ่งในสามจอมพลก็ขมวดคิ้ว ความผันผวนของคลื่นหลิงรอบตัวมู่เฉินไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น มิหนำซ้ำยังดูอ่อนกำลังลง

แต่ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้มู่เฉินถึงดูอันตรายมากกว่าเดิม ความเปลี่ยนแปลงประหลาดนี้ทำให้แม้แต่เทียนจิ้วกับคนอื่นก็ยังงุนงงไป

คนที่เข้าใจเรื่องนี้มีเพียงคนเดียวก็คือจิ่วโยว นั่นเป็นเพราะนางพบคัมภีร์หวูซังซินหมัวพร้อมกับมู่เฉิน ทว่าที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือความจริงที่มู่เฉินสามารถทำความเข้าใจวิธีฝึกฝนคัมภีร์หวูซังซินหมัวในแวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

ดูจากภาพที่เห็นตอนนี้แล้ว ท่าทางเขาจะก้าวสู่ขั้นต้นได้แล้ว

พรสวรรค์เช่นนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่จิ่วโยวก็อดชื่นชมในหัวใจไม่ได้ เจ้านี่ศักยภาพไร้ที่สิ้นสุดจริงๆ

เสียงอุทานจากภายนอกไม่สร้างแรงรบกวนกับมู่เฉินแม้แต่น้อย ดวงตาสีดำเมื่อมของเขาจ้องมองหยดเลือดที่ห่อหุ้มด้วยกลุ่มแสงเงียบๆ สีหน้าสงบนิ่งไม่อาจอธิบายได้ ความสงบนิ่งดูราวกับว่าไม่มีอะไรในโลกนี้สามารถรบกวนเขาได้ แม้ชั้นฟ้าจะถล่มชั้นดินจะทลายก็ตาม

ความสงบนิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงสมาธิลึกซึ้งที่ไม่สามารถสั่นคลอนจากการรบกวนใดๆ

นี่คือสภาวะฤทัยปีศาจ!

มู่เฉินแนบฝ่ามือบนอก ไข่มุกสีดำขนาดเท่าเมล็ดถั่วก่อตัวช้าๆ อยู่ในหัวใจที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้

นี่คือเมล็ดฤทัยปีศาจ!

หลังจากหลายเดือนในการฟาดหัวใจตนเองด้วยสายฟ้าฤทัยปีศาจดำนับครั้งไม่ถ้วน พลังของสายฟ้าฤทัยปีศาจที่พล่านเข้าสู่หัวใจก็กลั่นเป็นเมล็ดฤทัยปีศาจได้ในที่สุด!

เมล็ดฤทัยปีศาจไม่ได้ทำให้พลังของมู่เฉินเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ทำให้มู่เฉินมีสมาธิสมบูรณ์แบบ ภายใต้สมาธิ ทำให้พลังงานในร่างของเขาเข้าสู่สภาวะเกือบสมบูรณ์

นอกจากนี้จิตใจของเขาก็ยังไม่ถูกรบกวนด้วยสิ่งใดภายใต้สภาวะนี้ บวกกับเมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เป็นตาย เขายังสามารถมองหาหนทางเอาชีวิตรอดด้วยสภาพสมาธิสมบูรณ์

ตอนนี้มู่เฉินเพิ่งสร้างเมล็ดฤทัยปีศาจได้ เรียกว่าเกือบเข้าสู่สภาวะแรกจากหนึ่งในสามขั้น ซึ่งก็คือสภาวะฤทัยปีศาจขั้นต้น ไม่รู้จริงๆ ว่าตนเองจะทรงพลังขนาดไหนหากสามารถเข้าสู่สภาวะฤทัยปีศาจขั้นปลายในวันหนึ่ง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าตำหนักเทพสายฟ้าถึงต่อกรกับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้ด้วยสภาวะฤทัยปีศาจขั้นเต็ม

มู่เฉินเหยียดนิ้วมือทั้งห้าออกก่อนจะกำลงช้าๆ ความรู้สึกของการควบคุมพลังทั่วสรรพางค์กาย ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนเมา

ตู้ม!

ทันใดนั้นความผันแปรของคลื่นหลิงป่าเถื่อนก็พุ่งมาจากด้านนอกลาวา ขณะที่มังกรเก้าตัวบินตรงมาพยายามทำลายการขัดขวางของร่างเทพสุริยะและผลักดันมู่เฉินออกไป

“พวกเจ้าก็รู้สึกถึงอันตรายงั้นหรือ?” รอยยิ้มเผยบนใบหน้านิ่งสงบของมู่เฉิน จากนั้นเขาก็ชี้นิ้วทั้งห้าไปยังหยดเลือดมังกรไฟโบราณทั้งเก้า

โฮก!

ทันทีที่มู่เฉินเหยียดนิ้วออกไป หยดเลือดมังกรไฟโบราณทั้งเก้าก็เปล่งเสียงคำรามเกรี้ยวกราด เลือดกลั่นหมุนคว้าง มีร่างมังกรไฟโบราณตัวจิ๋วเก้าตัวเลือนราง แม้แต่เกล็ดมังกรสีแดงก็ปล่อยแสงสีแดงออกมา

ครืน!

ลาวาในบริเวณนี้เริ่มปั่นป่วน แสดงสัญญาณเบาบางว่ามังกรลาวาควบแน่นขึ้นอีกครั้ง…

ที่ด้านนอกค่ายกล ทุกสายตาจ้องมองภาพนี้อย่างใกล้ชิด พวกเขาอยากรู้ว่ามู่เฉินจะคว้าหยดเลือดที่มีการปกป้องของเกล็ดมังกรมาได้โดยที่มีขุมพลังจื้อจุนขั้นสามได้หรือไม่?

ภายใต้สายตาจำนวนมาก มู่เฉินก็พลิกนิ้วทั้งห้าเบาๆ

มิติเหมือนจะกระเพื่อมพร้อมกับบางสิ่งไร้รูปร่างไหลออกมา จากนั้นเสียงฟ้าคำรามกึกก้องก็ตามมา

รอยฉีกขาดทั้งเก้าปรากฏขึ้นในลาวาเกิดจากพลังงานที่มองไม่เห็นพุ่งใส่หยดเลือดมังกรไฟโบราณทั้งหมดราวกับสายฟ้าแลบ

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

เกล็ดมังกรที่ปกป้องหยดเลือดส่งเสียงครางกระหึ่ม พลางระเบิดแสงสีแดงออกมา อักขระมังกรพล่านในแสง กลายเป็นปราการป้องกันแข็งแกร่งที่สุดปกป้องหยดเลือดภายในไว้

วาบ!

ทว่าเสียงสายฟ้าไร้รูปลักษณ์เก้าสายก็ยังคงซัดเข้ากับแสงเกล็ดมังกรทันทีท่ามกลางสายตาของทุกคน

ปัง!

ทั้งสองปะทะกัน ทว่าที่ทำให้ทุกคนตะลึงใจคือไม่มีระลอกคลื่นใดๆ บนปราการแสงเกล็ดมังกร กลับเป็นเลือดมังกรไฟโบราณภายในกระเพื่อมไหวรุนแรง เหมือนจะมีเสียงร้องโหยหวนอันเจ็บปวดดังก้อง

แสงสีแดงพวยพุ่งบ้าคลั่งจากเลือดมังกรไฟโบราณทั้งเก้าหยด ราวกับว่ากำลังต่อต้านการโจมตีบางอย่าง แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนงวยงงก็คือไม่มีการโจมตีใดผ่านปราการป้องกันจากเกล็ดมังกรไปได้เลย

ม่านตาสีดำสนิทของมู่เฉินมองเงียบๆ ที่เลือดมังกรไฟโบราณที่สั่นสะท้านรุนแรง จากนั้นก็เหยียดนิ้วออกสะบัดอีกครั้ง

เสียงฟ้าคำรามลั่นดังกึกก้อง

ปัง!

หยดเลือดมังกรไฟโบราณเก้าหยดไม่สามารถทนได้ไหวอีกต่อไป พวกมันก็กระเด็นออกจากปราการป้องกันของเกล็ดมังกร ภายใต้สายตาไม่อยากเชื่อจำนวนมาก

วาบ!

ร่างของมู่เฉินหายจากจุดเดิมไปปรากฏที่เบื้องหลังหยดเลือดมังกรไฟโบราณทั้งเก้า อึดใจเขาก็งอฝ่ามือ แรงดึงดูดระเบิดออก หยดเลือดมังกรไฟโบราณทั้งเก้าหยดก็ถูกดูดเข้ามาในมือของเขา

โฮก!

หยดเลือดส่งเสียงคำรามต่อเนื่องราวกับกำลังพยายามดิ้นรนให้หลุดออกไป ทว่าคลื่นหลิงสองสายก็ไหลออกจากฝ่ามือของมู่เฉินอย่างรวดเร็ว หนึ่งลุกโชนด้วยเพลิงสีม่วง หนึ่งร้อนระอุด้วยสายฟ้าล่องหน

พลังหลิงแตกต่างกันสองสายเข้าสู่สภาวะสมดุลที่สุดในตอนนี้ มันส่งเสริมซึ่งกันและกันขณะที่ก่อเป็นม่านแสงขังเลือดมังกรไฟโบราณเก้าหยดไว้ภายใน

การควบคุมคลื่นหลิงทั้งสองสมบูรณ์ขึ้นมากชัดเจนเทียบกับตอนที่มู่เฉินควบคุมมาก่อนหน้า อย่างน้อยตอนนี้มู่เฉินยังไม่สามารถหลอมรวมคลื่นหลิงทั้งสองเข้าด้วยกันในสภาวะปกติได้

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ขณะที่หยดเลือดถูกคว้าไว้ เกล็ดมังกรทั้งเก้าก็ระเบิดออกด้วยแสงสีแดงหมื่นจั้งพุ่งใส่มู่เฉินด้วยความเร็วปานสายฟ้า ทิ้งรอยฉีกบางจางไว้บนมิติ

ความเร็วของเกล็ดมังกรเร็วเสียจนยากที่จะหลบทัน

ครืน!

แต่เมื่อเกล็ดมังกรเหล่านั้นกำลังจะกระแทกร่างมู่เฉิน ลาวาก็แหวกตัวออกจากกัน มือสีทองยื่นออกมาคว้ามู่เฉินไว้

ปัง! ปัง!

เกล็ดมังกรพุ่งใส่มือสีทองก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ในทันทีที่มือแตกสลาย ร่างหนึ่งก็ทะยานออกจากทะเลลาวาในไม่กี่อึดใจ

ขณะนี้สถานการณ์บนพื้นผิวลาวาโกลาหลไปหมด หลังจากสูญเสียหยดเลือดไป มังกรลาวาทั้งเก้าก็เสียพลังงานสนับสนุนเปลี่ยนเป็นลาวาไหลลงเบื้องล่าง

การสูญเสียพลังงานหลัก ทำให้ค่ายกลเก้าทบมังกรเพลิงแสดงสัญญาณยุบลงและทำทีจะแตกสลายทุกเมื่อ

มู่เฉินยืนบนอากาศเรือนผมสีดำพลิ้วไหวไปกับสายลม ม่านตาสีดำประหลาดเบนมองไปทางกลุ่มของมั่นถัวหลัว แม้แต่ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาก็ไม่มีอารมณ์ใดๆ

“เป็นไปได้ยังไง…” จอมยุทธ์จำนวนมากอึ้งทึ่งไปเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหั่วเม่ยเอ๋อ ปิงซินและแม่ทัพคนอื่นๆ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกะพริบตาปริบๆ ใบหน้าอัดแน่นด้วยความตกตะลึง

มู่เฉินคว้าเลือดมังกรไฟโบราณได้หมดทั้งเก้าหยดเลยหรือ? แม้แต่หั่วเม่ยเอ๋อยังคว้ามาได้แค่สี่หยดตอนที่จะเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพใหญ่… หรือว่ามู่เฉินแข็งแกร่งกว่าหั่วเม่ยเอ๋อ?

แต่ชัดว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!

“นั่น…” มั่นถัวหลัวมองมู่เฉินขณะที่เอ่ยออกมาช้าๆ “นั่นมันสายฟ้าฤทัยปีศาจดำงั้นหรือ? มิน่าล่ะถึงสามารถฝ่าปราการป้องกันเกล็ดมังกรและโจมตีเลือดที่อัดแน่นด้วยรัศมีมังกรไฟได้”

“สายฟ้าฤทัยปีศาจดำ?”

ทุกคนที่ด้านหลังอึ้งไปหมดแล้ว ก่อนจะเข้าใจว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น สายฟ้าฤทัยปีศาจดำเป็นวัตถุที่สามารถทะลวงผ่านปราการป้องกันทางร่างกาย โจมตีส่วนลึกของหัวใจจอมยุทธ์โดยตรง วิธีการเล่นงานนี้แปลกประหลาดอย่างยิ่ง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่ามู่เฉินจะใช้มันต่อกรกับเลือดมังกรไฟโบราณ

“เลือดมังกรไฟโบราณมีเศษเสี้ยววิญญาณของมังกรไฟโบราณอยู่ จิตวิญญาณนี้หวาดกลัวเสียงฟ้าร้องมากที่สุด ครั้งนี้ใช้กลอุบายใหญ่แล้ว” มั่นถัวหลัวเอ่ยเบาๆ

ถึงตรงนี้ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ โชคดีที่เป็นเพียงกลอุบาย ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงรู้สึกอับอายจนตาย นี่เป็นบางสิ่งที่แม้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสามกลับทำสำเร็จ นี่เป็นการตบหน้ากันชัดๆ

“แล้วนี่จะถือเป็นยังไง?” จิ่วโยวถาม

รอยยิ้มเผยบนใบหน้างดงามของมั่นถัวหลัวขณะที่เอ่ยขึ้น “เขาชนะแน่นอน ไม่มีกลอุบายใดต้องพูดตราบเท่าที่ชนะ ไม่ว่าวิธีใดกระทั่งโชคดีก็นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพลังเจ้า”

“เขาหาวิธีทำลายค่ายกลได้ในเวลาสั้นๆ และยังสามารถควบคุมสายฟ้าฤทัยปีศาจดำถึงระดับนี้ นั่นไม่นับว่าเป็นอุบายหรอก”

ครืน!

เมื่อมั่นถัวหลัวพูดจบ ทะเลลาวาขนาดใหญ่ก็แตกตัวออก น้ำตกลาวาไหลบ่าลงไปในบ่อเพลิงข่ายฟ้า

บนท้องฟ้า ร่างของมู่เฉินสั่นเทิ้มขณะที่ม่านตาดำมืดหดกลับอย่างรวดเร็ว ผมยาวก็หดกลับเช่นกัน เขากลับเข้าสู่สภาพปกติภายในเวลาไม่กี่อึดใจ

เมื่อสภาวะฤทัยปีศาจหายไป ใบหน้าของมู่เฉินก็มีสีเลือด ตอนนี้เขาดูสดชื่นอย่างที่ควรเป็นแล้ว

“จากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าคือแม่ทัพลำดับหกของหน่วยรบกงเวทสวรรค์”

เมื่อความมีชีวิตชีวากลับคืนในนัยน์ตามู่เฉิน เสียงอ่อนวัยของมั่นถัวหลัวก็ดังก้องอย่างไม่รีบร้อน

เบื้องล่าง นักรบกงเวทสวรรค์ก็แลกเปลี่ยนสายตากัน ก่อนจะประสานมือคำนับด้วยความเคารพ เสียงทุ้มต่ำดังออกมาอย่างพร้อมเพรียง

“ผู้ใต้บังคับบัญชาขอคารวะแม่ทัพหก!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset