หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 774

สระมังกรหงส์

ภายในหอหลงเฟิ่ง

เมื่อเสียงกระจ่างใสของไฉ่เซียวดังขึ้น สายตานับไม่ถ้วนก็พุ่งตรงไปที่มู่เฉินราวกับลูกศร ท่าทางราวกับจะยิงร่างเขาให้พรุนไปเลยทีเดียว

หญิงสาวทั้งสามคนจัดว่าเป็นหญิงงามปานล่มเมือง พวกนางพูดเรื่องเกี่ยวกับเขา การปฏิบัติเช่นนี้เป็นสิ่งที่ชายทุกคนล้วนรู้สึกอิจฉาอยู่ในใจ

มู่เฉินรู้สึกหนาวเยือกขึ้นในหัวใจเมื่อสายตานับไม่ถ้วนประหนึ่งห่าศรซัดเข้าใส่ เขามองไฉ่เซียวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็ประสานมือให้ซูปี้เยี่ยและหงหยู “ข้าขอบคุณสำหรับข้อเสนอ แต่บนนั้นสูงเกินไปนัก ข้ากลัวว่าจะมีบางคนรับเรื่องนี้ไม่ได้ ดังนั้นข้าขอปฏิเสธ”

ในประโยคของเขาแฝงแววเย้ยหยันเบาๆ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเขากระแทกใส่ใคร ทันใดนั้นสายตาบางส่วนก็มองไปที่หลิ่วเหยียนที่มีท่าทางไม่แยแส

พอเห็นการปฏิเสธของมู่เฉิน ซูปี้เยี่ยและหงหยูก็ยิ้ม ไม่ได้ยืนกรานอะไร ทว่าสายตาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไฉ่เซียวอีกครั้ง หญิงสาวมักมีสัมผัสที่ไวต่อกัน เมื่อมองหญิงสาวคนนี้แล้ว พวกนางก็รู้สึกได้ถึงอันตรายเบาบาง

สัมผัสอันตรายนี้ทำให้หญิงสาวทั้งสองประหลาดบางเบา ด้วยพลังของพวกนาง คนที่ทำให้พวกนางรู้สึกเป็นอันตรายได้ในภูมิภาคทางเหนือมีจำนวนนับได้ในมือเดียว แล้วโฉมงามอ่อนวัยคนนี้มาจากไหนกัน?

ดวงตาของทั้งสองวูบไหวบางจาง จากนั้นพวกนางก็หันหลังกลับไปยังที่นั่งของตน

มู่เฉินกลับไปยังที่นั่งเช่นเดียวกัน เขายกถ้วยชาขึ้นอดไม่ได้ที่จะปรายตามองไฉ่เซียวที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เจ้าอยากให้ข้าตายเรอะ?”

ไฉ่เซียวเท้าคางด้วยสองมือคลี่ยิ้มบาง “ผู้หญิงสองคนนั่นทั้งสวยและอันตรายเกินไป ข้าช่วยเจ้าอยู่นะเนี่ย เผื่อว่าความหื่นจะนำความคิดของเจ้า”

“คนที่อันตรายที่สุดคือเจ้าต่างหาก”

มู่เฉินเหน็บแรง เขาพูดไม่ผิด แม้ซูปี้เยี่ยกับหงหยูจะไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆ แต่คนตรงหน้าเขาคือคนที่อันตรายมากกว่าในทุกทางแน่นอน

“เพื่อนเนรคุณ” ไฉ่เซียวส่ายหน้าไปมาพลางเหลือบมองไปยังชั้นบนของหอหลงเฟิ่ง “จอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือ มีบางคนใช้ได้อยู่นะเนี่ย”

ดวงตามู่เฉินหดเกร็งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของนาง สายตาพุ่งตรงไปที่ชั้นบน นอกจากซูปี้เยี่ย หงหยูและหลิ่วเหยียนแล้ว เขายังสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงซ่อนเร้นจำนวนหนึ่ง หนึ่งในคลื่นเหล่านั้นทำให้เขารู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาราวกับมีชิ้นส่วนน้ำแข็งพันปีซ่อนอยู่ในใต้พิภพ

เมื่อมู่เฉินสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงเย็นเยือกนั้น อีกฝ่ายก็เหมือนจะสังเกตเห็นเขาด้วยเช่นกัน ไอเย็นสุดขั้วใต้พิภพพุ่งเข้ามาราวกับอสรพิษร้ายกัดกร่อน ไอเย็นนั้นหากสัมผัสแม้เพียงนิดเดียวก็ทำให้เขาถูกกัดได้

เห็นชัดว่ามู่เฉินไม่คิดว่าคนคนนี้จะก้าวร้าวขนาดนี้ เขาทำแค่ตรวจสอบก็ถูกโจมตีกลับ ทันใดนั้นเขาจึงขมวดคิ้วถอนคลื่นหลิงกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อคลื่นหลิงถอยกลับ ก็นำพาไอหนาวเหน็บถึงกระดูกตามมา

เปลวเพลิงปะทุในนัยน์ตาของมู่เฉินขณะที่เพลิงอมตะพวยพุ่ง เผาไหม้รัศมีเยือกเย็นก่อนจะดึงคลื่นหลิงเข้ามาในร่างกาย ภายใต้การปกป้องของเพลิงอมตะ

“เย็นเยือกสุดขั้วอะไรแบบนี้” มู่เฉินมองมุมมืดของชั้นบน น้ำเสียงก็เคร่งเครียดลงหลายส่วน ตอนที่พวกเขาปะคลื่นพลังเงียบๆ เขาก็เดาตัวตนของอีกฝ่ายได้แล้ว

ชายคนนี้คงเป็นอันดับสองของบันทึกมังกรหงส์องค์ชายโยวหมิงจากจวนยมโลก

“อันดับหนึ่งฟังยี่ยังไม่แสดงตัวรึ?” มู่เฉินพึมพำในใจเนื่องจากสัมผัสไม่ได้ถึงคลื่นหลิงอีกกลุ่มที่ทรงพลังมากกว่าโยวหมิงเลย มีสองเหตุผลในเรื่องนี้เท่านั้น หนึ่งฟังยี่ยังมาไม่ถึง หรือสองเขาก็เก็บคลื่นหลิงไว้หมดจดกับตัวจนถึงจุดที่มู่เฉินสัมผัสเขาไม่ได้

ถ้าเป็นข้อหลัง ฟังยี่จะต้องมีฝีมือน่าสะพรึงมากแน่นอน

สายตาของมู่เฉินเคร่งเครียดลงหลายส่วน จอมยุทธ์ที่มีอันดับในบันทึกมังกรหงส์ไม่อาจประมาทได้จริง นอกจากนี้การจัดอันดับก็เป็นเรื่องสร้างขึ้น จึงไม่น่าเชื่อถือมากนัก ใครจะรู้ว่าจอมยุทธ์ที่มีนอันดับต่ำกว่าหลิ่วเหยียนอาจเป็นคู่ต่อสู้ที่โค่นยากยิ่งกว่าก็ได้

ดูท่าแม้แต่เขายังไม่มั่นใจว่าจะสามารถยกตัวขึ้นให้โดดเด่นในศึกครั้งนี้ได้หรือไม่แล้ว

บรรยากาศในหอหลงเฟิ่งกลับคืนสู่ปกติ แต่ครั้งนี้สายตาที่พุ่งมาทางมู่เฉินด้วยแววดูถูกในตอนแรกกลับปรากฏแววหวาดกลัวเล็กน้อย จากการปะทะพลังสั้นๆ ระหว่างมู่เฉินกับหลิ่วเหยียนเมื่อสักครู่ก็ทำให้พวกเขารู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่จะสามารถท้าทายได้

สายตาเหล่านั้นทำให้มู่เฉินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แม้เขาจะเผยพลังส่วนหนึ่งตอนที่สู้กับหลิ่วเหยียน แต่ก็คุ้มค่ากับราคาหากสามารถช่วยป้องกันปัญหาไม่จำเป็นที่จะเข้ามาหาเขาได้

ขณะที่มู่เฉินกำลังประเมินว่าจอมยุทธ์ที่เข้าร่วมศึกมังกรหงส์ครั้งนี้แข็งแกร่งเพียงใด เสียงระฆังดังกังวานก็สะท้อนในหอ ทันใดนั้นบรรยากาศในหอหลงเฟิ่งก็เงียบไป

สายตาร้อนใจจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งไปที่ชั้นบน ร่างชราร่างหนึ่งเดินออกมา เมื่อเขาปรากฏตัว ทุกสายตาก็พุล่งพล่าน

“ฮ่าๆ ดูเหมือนศึกมังกรหงส์ครั้งนี้คึกคักน่าดูนะนี่…”

ชายชรามองคนรุ่นเยาว์ที่มีท่าทางดุดันก็คลี่ยิ้ม “ทุกคน ตาแก่คนนี้คือประมุขหอหลงเฟิ่ง—มู่ฉิว”

“คารวะประมุขมู่”

แม้ว่าจอมยุทธ์ที่มาที่นี่เป็นชนชั้นสูงในภูมิภาคทางเหนือ พวกเขาก็ยังแสดงความเคารพด้วยมารยาทสูง มู่ฉิวไม่ใช่จอมยุทธ์ธรรมดาในภูมิภาคทางเหนือ แม้หอหลงเฟิ่งจะเป็นแค่ขั้วอำนาจชั้นรองเนื่องจากมีสมาชิกน้อย แต่ระยะเวลาการมีอยู่ของหอหลงเฟิ่งก็เป็นสิ่งที่สำนักไม่กี่แห่งจะสามารถเทียบได้

หอหลงเฟิ่งปกป้องเมืองหลงเฟิ่งเท่านั้น ไม่มีความคิดที่จะขยายอาณาเขต พวกเขาจึงมีศัตรูไม่มาก ดังนั้นจึงมีคนไม่มากนักที่คิดจะรุกรานพวกเขาง่ายๆ

“ผู้อาวุโสมู่ โปรดให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์ในเขตหลงเฟิ่งตอนนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ” ซูปี้เยี่ยแห่งยอดเขาหมื่นเทพถาม

จากที่ร่ำลือวิยายุทธของหอหลงเฟิ่งมีต้นกำเนิดมาจากเขตหลงเฟิ่ง ดังนั้นพวกเขาสามารถตรวจสอบได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างภายใน ทุกครั้งที่เขตหลงเฟิ่งเปิดออก พวกเขาก็จะให้ข้อมูลว่าพบเจออะไรบ้าง

“ฮ่าๆ นั่นก็แน่นอน”

มู่ฉิวยิ้มอบอุ่นเอ่ยต่อ “ทุกคนเข้าไปในเขตหลงเฟิ่งคงเพื่อตามหาเลือดมังกรแท้จริงกับหงส์ฟ้าแท้จริงสินะ แต่สถานการณ์ภายในสุสานมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นทุกครั้งที่เปิดตัว สถานการณ์ภายในก็จะแตกต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง”

“ข้ามีข่าวไม่ดีนักมาจะบอกกับพวกเจ้า นั่นก็คือมีสระมังกรหงส์ห้าบ่อในเขตหลงเฟิ่งครั้งนี้เท่านั้น”

“อะไร? สระมังกรหงส์ปรากฏแค่ห้าบ่อเรอะ?” เสียงอุทานดังขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว สีหน้าทุกคนดูน่าเกลียดไป

“อะไรคือสระมังกรหงส์?” ไฉ่เซียวมองมู่เฉินกระซิบถามเสียงต่ำ

“ตามตำนานเล่าว่าในยุคโบราณ กระดูกของมังกรแท้จริงกับหงส์ฟ้าแท้จริงกระจัดกระจายไปทั่วเขตหลงเฟิ่งตอนที่พวกมันตาย เพราะสาเหตุนี้กระดูกบางส่วนของเทพอสูรทั้งสองจึงเกิดการปะทะกัน ก่อตัวเป็นสระมังกรหงส์ที่แปลกประหลาดขึ้น สัตว์อสูรทุกชนิดอยู่ในเขตหลงเฟิ่งล้วนมีเลือดของมังกรแท้จริงกับหงส์ฟ้าแท้จริงผสมอยู่น้อยนิด เมื่อเทเลือดของพวกมันลงในสระมังกรหงส์ และยืมพลังที่อยู่ในกระดูกของมังกรแท้จริงกับหงส์ฟ้าแท้จริง คนคนนั้นก็จะสามารถชำระกายามังกรพรางหรือกายาหงส์ฟ้าพรางได้” มู่เฉินอธิบาย

“กายามังกรพรางและกายาหงส์ฟ้าพราง?” แพขนตายาวของไฉ่เซียวกะพริบวิบวับ

“ใช่ เพราะสถานที่สำคัญของเขตหลงเฟิ่งคือจัตุรัสมังกรหงส์ที่อยู่ลึกลงไป คนที่มีคุณสมบัติขึ้นสู่จัตุรัสมังกรหงส์ได้จะต้องครอบครองกายามังกรพรางหรือกายาหงส์ฟ้าพราง… นั่นก็หมายความว่าหากคนคนนั้นต้องการได้รับสมบัติที่แท้จริง พวกเขาก็จะต้องชำระร่างในสระมังกรหงส์วิธีเดียวเท่านั้น” มู่เฉินพยักหน้า

“ว่ากันว่าครั้งที่แล้วมีสระมังกรหงส์เก้าสระ ไม่คิดว่าครั้งนี้จะมีจำนวนน้อยลงเหลือแค่ห้าสระ” มู่เฉินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ นี่เท่ากับว่าเป็นการราดน้ำมันบนกองไฟ ดูเหมือนการแข่งขันในเขตหลงเฟิ่งครั้งนี้จะโหดร้ายยิ่งกว่าเดิมเสียแล้ว

ไฉ่เซียวพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน มู่ฉิวก็โบกมือสยบความวุ่นวายภายในหอหลงเฟิ่งไว้ จากนั้นก็สะบัดมือเหี่ยวย่นเบาๆ หน้าจอแสงเผยออกมาตรงหน้า เค้าร่างดูเหมือนจะเป็นแผนที่ที่มีจุดแสงห้าจุดปรากฏอยู่เลือนราง

“นี่คือตำแหน่งของสระมังกรหงส์ทั้งห้าที่ทางเราสำรวจเจอ” มู่ฉิวเอ่ย สายตาทุกคนก็หดเกร็ง แสงหลิงเปล่งประกายในดวงตา ทุกคนรีบสลักภาพแผนที่ไว้ในใจ

มู่เฉินจ้องไปที่หน้าจอแสงเช่นเดียวกันและรีบจดจำเอาไว้ แม้ว่าแผนที่นี้จะเลือนรางมาก แต่ก็ยังดีกว่าตาบอดคลำทางไปทั่ว

ไฉ่เซียวมองแผนที่พลางครุ่นคิด จากนั้นก็ถามขึ้น “พวกเขาใช้วิธีไหนสำรวจตำแหน่งของสระมังกรหงส์กันน่ะ?”

มู่เฉินอึ้งไป จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “ว่ากันว่าทักษะที่หอหลงเฟิ่งได้มาจากเขตหลงเฟิ่ง ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถสำรวจคร่าวๆ ผ่านมิติได้”

“นั่นหมายความว่าอาจจะไม่ได้มีสระมังกรหงส์แค่ห้าสระถูกไหม? หากข้าเดาถูก ระหว่างสระมังกรหงส์พวกนั้นยังมีระดับพลังแตกต่างกันด้วย…” ไฉ่เซียวยิ้มบาง

มู่เฉินตะลึงไปเมื่อได้ยินคำพูดของนางจากนั้นพยักหน้าอย่างจริงจัง “ที่เจ้าพูดมาก็ถูก แต่อันตรายมีอยู่ทั่วเขตหลงเฟิ่ง มีสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนที่ทรงพลังเนื่องจากได้มรดกจากมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง พวกมันอาจมีสติปัญญาไม่สูง แต่พลังน่ากลัวอย่างยิ่ง การเดินไปดุ่มโดยไม่ระมัดระวังเป็นเรื่องเสี่ยงอันตรายมาก ดังนั้นโดยทั่วไปจึงไม่มีใครกล้าออกสำรวจมากกว่านั้น”

ไฉ่เซียวจับปอยผมเบาๆ รอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ผุดบนใบหน้าน่าหลงใหล นางจ้องมองมู่เฉินพลางเอ่ย “ข้ามีวิธีที่จะมองหาสระมังกรหงส์ที่ทรงพลังมากกว่านี้ เจ้าอยากลองดูไหม?”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset