หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 776

ทะเลแมลง

วันต่อมา

เมื่อแสงแรกของดวงตะวันแทรกผ่านท้องฟ้ามืดมิดฉายลงบนเทือกเขาหลงเฟิ่ง คลื่นหลิงทั่วสารทิศก็เริ่มปะทุขึ้น

เสียงลมแหวกอากาศนับไม่ถ้วนดังขึ้นจากนอกเทือกเขา จากนั้นจอมยุทธ์จำนวนมากก็เหาะเหินผ่านขอบฟ้าราวกับฝูงตั๊กแตน มุ่งหน้าไปยังเมืองโบราณหลงเฟิ่งจากทุกทิศทาง

เห็นชัดว่าข่าวที่เขตหลงเฟิ่งจะเปิดตัวในวันนี้แพร่กระจายเป็นไฟลามทุ่งภายในเวลาแค่คืนเดียว

มู่เฉินกับไฉ่เซียวยืนอยู่บนหลังคามองไปยังทะเลมนุษย์ที่ดูราวกับเมฆพายุก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา แรงดึงดูดของเขตหลงเฟิ่งมีมากเกินไป ตอนนี้จอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือที่มีพลังแก่กล้าคงมารวมตัวกันที่นี่หมดแล้ว ขนาดที่เห็นทำเอาหมดคำพูดไปเลย

เมื่อแสงดวงตะวันยามเช้าส่องลงมาจากขอบฟ้า ทุกคนก็มีสายตาร้อนแรงเมื่อมองออกไปไกล เกิดระลอกกระเพื่อมอย่างต่อเนื่องในมิติบนเทือกเขาซึ่งกำลังปลดปล่อยรัศมีคลุมเครือกว้างใหญ่แพร่กระจายไปทั่วทุกหัวระแหง

นั่นก็คือทางเข้าของเขตหลงเฟิ่ง

เวลาผ่านไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อดวงอาทิตย์ลอยเด่นบนท้องฟ้า บรรยากาศ ณ ที่นี้ก็มาถึงจุดที่น่ากลัว ระลอกคลื่นหลิงผันผวนออกมา ทำให้กระทั่งมิติบริเวณนี้ยังบิดเบี้ยวเล็กน้อย

ฮึ่ม!

ทันใดนั้นคลื่นหลิงในบริเวณนี้ก็เดือดพล่านราวกับน้ำขณะที่โหมกระหน่ำ คลื่นหลิงกว้างใหญ่รวมตัวบนอากาศภายในเทือกเขาโบราณ คลื่นหลิงเหมือนจะขยายตัวออกไปเลือนรางโถมลูกคลื่นขึ้น

ภายใต้กระแสคลื่นหลิง มิติก็บิดเบี้ยวรุนแรงมากขึ้น…มากขึ้น

ผู้คนนับไม่ถ้วนสาดสายตาร้อนแรงเมื่อมองภาพตรงด้วยหัวใจเต้นแรง

เมื่อการบิดเบือนของมิติไปถึงขีดสุด ลำแสงขนาดใหญ่ก็ปรากฏก่อนจะฉีกมิติออกจากกันทีละน้อย…ละน้อย

แสงไม่มีที่สิ้นสุดเทลงฉีกขาดมิติพร้อมกับเสียงคำรามของมังกรและหงส์ฟ้าหงส์ที่ดูเหมือนจะมีต้นกำเนิดมาจากยุคดึกดำบรรพ์ดังขึ้นอย่างชัดเจนสะท้อนก้องไปทั่ว

เสียงมังกรคำรามนี้เป็นสิ่งที่มู่เฉินไม่เคยได้ยินมาก่อน เสียงคำรามเหมือนมีพลังอำนาจที่เหนือกว่าสวรรค์ ทำให้ผู้คนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

“เขตหลงเฟิ่งเปิดแล้ว!”

เสียงหัวเราะบ้าคลั่งดังขึ้นฉับพลันไปทั่วพื้นที่ที่กำลังเดือดจัด ระเบิดบรรยากาศออกทันที

วาบ! วาบ!

สายตาจอมยุทธ์นับไม่ถ้วนเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานขณะคลื่นหลิงมากมายระเบิดออกในอึดใจต่อมา ร่างแสงที่มองเห็นได้พุ่งผ่านท้องฟ้า เสียงลมหวีดหวิวเปลี่ยนเป็นเสียงอัดอากาศดังกึกก้อง จากนั้นร่างคนจำนวนมากราวกับฝูงตั๊กแตนก็พุ่งตรงไปที่มิติที่ฉีกตัวออกจากกัน

เห็นชัดว่าทั่วพื้นที่เกิดความโกลาหลไปหมดแล้ว

มองเห็นภาพตระการตานี้ มู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาก่อนจะมองไปที่ไฉ่เซียว “เราก็ไปกันเถอะ”

ไฉ่เซียวพยักหน้า

ทั้งคู่ขยับตัวเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน รวมกับกระแสแสงขนาดใหญ่ สุดท้ายก็พุ่งเข้าไปในมิติที่มีเสียงคำรามของเทพอสูรดังสะท้อน

จังหวะที่ทั้งสองพุ่งตัวเข้าไปในเขตหลงเฟิ่ง ไฉ่เซียวก็คว้ามือมู่เฉินเอาไว้ สัมผัสเย็นฉ่ำทำเอามู่เฉินอึ้งไป แต่ก่อนที่จะพูดอะไร ความผันผวนของมิติรอบตัวก็สับสนอลหม่าน มิติบิดตัวสุดขีด

แต่ความเลือนรางที่เกิดจากมิติผิดเพี้ยนก็ได้หายไปอย่างรวดเร็ว ส่วนมู่เฉินก็รู้สึกว่าฝ่าเท้าแตะลงบนพื้นดิน ภาพรอบด้านที่ดูเลือนรางกลับมาแจ่มชัดอย่างรวดเร็ว

มู่เฉินลืมตาขึ้นแล้วก็อึ้งไป เพราะทิวทัศน์รอบด้านเปลี่ยนไปใหญ่หลวง เทือกเขาหายไปแทนที่ด้วยทุ่งหญ้าสีแดงเข้ม

และพวกเขาก็ยืนอยู่บนเนินเขาของทุ่งหญ้าแห่งนี้

สายลมพัดผ่านนำพากลิ่นอายโบราณโชยเข้ามา ทุ่งหญ้าสีแดงลู่ลมราวกับทะเลโลหิตแกว่งไกวดูแล้วช่างน่ากลัวยิ่งนัก

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ตอนนี้คลื่นมิติกระเพื่อมบนทุ่งหญ้าอย่างต่อเนื่อง ร่างคนจำนวนมากปรากฏขึ้น พวกเขาก็คือเหล่าจอมยุทธ์ที่ผ่านรอยแตกเข้ามาในเขตหลงเฟิ่ง

แต่ดูจากภาพนี้ แต่ละคนถูกโยนมาอย่างสุ่มๆ เมื่อเดินทางผ่านรอยแยกมิติออกมา ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมไฉ่เซียวถึงคว้ามือเขาไปจับไว้ นั่นก็เพื่อป้องกันไม่ให้ต้องแยกกลุ่มกัน

เมื่อร่างคนจำนวนมากปรากฏตัว ทุ่งหญ้าสีแดงเข้มที่เคยสงบเงียบก็คึกคักอย่างรวดเร็ว ผู้คนนับไม่ถ้วนมีสายตาใคร่รู้และร้อนผ่าวขณะมองไปรอบๆ พื้นดินแปลกประหลาดนี้ จากนั้นก็มีคนจำนวนหนึ่งอดรนทนไม่ไหวพุ่งตัวออกไปที่ไกล

มู่เฉินมองทุ่งหญ้าสีแดงเข้มกลับขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาเหมือนจะรู้สึกถึงความไม่สบายใจเบาบาง

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

เมื่อความรู้สึกไม่สบายใจตีกวนขึ้นในหัวใจของมู่เฉิน หญ้าสีแดงเข้มก็บินฉวัดเฉวียนขึ้นมาบนทุ่งหญ้าแล้วสลายตัวในอากาศเปลี่ยนเป็นหมอกเลือดสีแดงเข้มพุ่งใส่จอมยุทธ์หลายสิบคนที่ออกตัวไปก่อนอย่างรวดเร็ว

ตู้ม!

แต่จอมยุทธ์เหล่านั้นก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว คลื่นหลิงระเบิดออกจากร่างทันทีพยายามจะแหวกหมอกเลือดสีแดงเข้มออกไป แต่เมื่อคลื่นหลิงของพวกเขาสัมผัสกับหมอกเลือดก็ไม่มีผลในการป้องกันใดๆ เมื่อหมอกเลือดสีแดงเข้มกวาดผ่าน แต่ละร่างก็กลายเป็นโครงกระดูกสีขาวร่วงลงก่อนจะทันได้ส่งเสียงร้องออกมา

เสียงในทุ่งหญ้าเงียบกริบลงทันที จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนมีสีหน้าเปลี่ยนไปรุนแรงขณะมองภาพนี้

“นั่นอะไรน่ะ?” บางคนอุทานอย่างหวาดผวา

มู่เฉินจ้องมองหมอกเลือดสีแดงเข้ม ม่านตาก็หดเกร็ง เพราะเขาพบว่าหมอกเลือดนั่นไม่ใช่หมอกแท้จริง แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากแมลงประหลาดสีแดงเข้มนับไม่ถ้วน

แมลงพวกนั้นมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ แต่จำนวนมากจนน่าตกใจ ทุกบริเวณที่พวกมันเคลื่อนผ่านแม้แต่คลื่นหลิงก็ถูกดูดกินไว้

ทันใดนั้นมู่เฉินก็นึกอะไรบางอย่างได้ เขาสะบัดมือ คลื่นหลิงกวาดไปทั่วทั้งทุ่งหญ้าจากนั้นเหล่าหญ้าสีแดงก็ลอยขึ้นเปลี่ยนเป็นฝูงแมลงที่รวมตัวกันราวกับหมอกเลือด

มู่เฉินขนลุกเกรียวกับภาพดังกล่าว นี่เป็นทุ่งหญ้าซะที่ไหนล่ะ มันเป็นทุ่งหญ้าที่เกิดจากทะเลแมลงต่างหาก!

“หนีเร็ว!”

มู่เฉินคว้าข้อมือไฉ่เซียวเหาะเหินขึ้นไป อันตรายที่อยู่ในเขตหลงเฟิ่งช่างเหนือความคาดหมายของเขานัก ในสถานที่อันตรายเช่นนี้ หากพวกเขาประมาทแม้แต่น้อย ก็จะกลายเป็นกองกระดูกได้

ขณะที่มู่เฉินพุ่งตัวออก เหล่าจอมยุทธ์ที่รวมตัวกันในบริเวณนี้ก็หนีเอาชีวิตรอดไปเช่นกัน เห็นชัดว่าพวกเขารู้แล้วว่าดันโชคร้ายถูกส่งมายังดินแดนแห่งความตายเข้าให้

ฮึ่มๆ!

ความผันผวนที่เกิดจากการหนีของคนจำนวนนับไม่ถ้วนทำให้แมลงประหลาดพวกนี้สั่นสะเทือน อึดใจทุ่งหญ้าทั้งผืนก็ราวกับมีชีวิต พายุทอร์นาโดสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น กวาดใส่ร่างคนที่กำลังเหาะหนี

ฮึ่ม!

พายุทอร์นาโดลูกหนึ่งที่ก่อจากทะเลแมลงสีแดงเข้มก็กวาดตัวไปยังมู่เฉินอย่างรวดเร็ว ภาพน่าตกตะลึงนี้ทำให้ใบหน้าของมู่เฉินเปลี่ยนไป เขารีบสะบัดมือ ส่งคลื่นหลิงไร้ขอบเขตกวาดตัวออกไป

บึ้ม!

พลังงานสองสายปะทะกัน แต่คลื่นหลิงส่วนใหญ่ของเขาถูกแมลงประหลาดดูดกลืนไว้ แต่หลังจากพวกมันดูดคลื่นเข้าไป พวกมันจำนวนมากก็ถูกแผดเผาจากเพลิงสีม่วงที่มองเห็นได้เลือนราง

เห็นภาพนี้แล้ว ดวงตาของมู่เฉินก็วาวแสง

“คลื่นหลิงของเจ้าหลอมรวมกับเพลิงทรงพลังไม่น้อย เร้าออกมาเลย แม้แมลงพวกนั้นจะกลืนคลื่นหลิงได้ แต่ยังไงพวกมันก็กลัวไฟอยู่ดี” ไฉ่เซียวเอ่ยกระตุ้น

มู่เฉินพยักหน้าพร้อมกับเพลิงสีม่วงเริ่มกวาดตัวออกมาจากร่างเพียงแค่คิด จากนั้นก็ก่อตัวเป็นลูกไฟห่อหุ้มร่างพวกเขาไว้

วาบ!

การใช้เพลิงอมตะเป็นเกราะกำบัง ทำให้มู่เฉินพุ่งตัวออกจากทะเลแมลงที่ขวางทางได้ แมลงที่โดนเพลิงสีม่วงก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน เสียงฉ่าๆ แสบแก้วหูดังอย่างต่อเนื่อง

มู่เฉินทะยานด้วยความเร็วสูงสุด ส่วนทางด้านหลังก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอยู่เรื่อย ไม่รู้ว่ามีจอมยุทธ์จำนวนเท่าไรถูกแมลงดูดกลืนจนเหลือแต่กระดูก แต่ตอนนี้มู่เฉินไม่มีพลังมาช่วยพวกเขา การเข้ามาในทะเลแมลง แม้จะมีการปกป้องจากเพลิงอมตะ เขาก็จะยังอ่อนแรงจนตายได้เหมือนกัน

ฟิ้ว!

ภายใต้ความเร็วเต็มพิกัด มู่เฉินใช้เวลาสิบกว่านาที ก่อนที่เขาจะพุ่งออกจากทุ่งหญ้าสีแดงเข้มพลิ้วตัวลงบนภูเขาหัวโล้นลูกหนึ่ง เมื่อหันกลับไปก็เห็นทุ่งหญ้าสีแดงเข้มปกคลุมด้วยหมอกเลือดราวกับวันอวสานโลก

ทว่านอกจากทั้งสองแล้วก็มีร่างสะบักสะบอมส่วนหนึ่งหนีตายออกมาได้ คนเหล่านั้นก็เหมือนกับมู่เฉินที่มีพลังของไฟรวมอยู่ในคลื่นหลิง พวกเขาสามารถฝ่าออกจากทะเลแมลงด้วยพลังนี้

“ช่างเป็นความตายที่น่าสยดสยอง”

มู่เฉินมีสีหน้าเคร่งขรึมลง มีจอมยุทธ์พันคนอยู่ในทุ่งหญ้าเมื่อครู่นี้ แต่ตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงร้อยคนที่รอดออกมาได้ จำนวนการล้มตายเช่นนี้ทำให้แม้แต่มู่เฉินยังขนลุกซู่

อันตรายในเขตหลงเฟิ่งเกินความคาดหมายของเขาจริงๆ

มู่เฉินส่ายหน้าขณะยับยั้งอาการตกใจ ก่อนจะพลิกนิ้ว คลื่นหลิงพุ่งออกมาถักทอเป็นแผนที่ตรงหน้า นี่เป็นแผนที่ที่เขาได้รับมาจากหอหลงเฟิ่ง

แต่แผนที่ผืนนี้ดูคลุมเครือเกินไป ทั้งสองต้องสำรวจเป็นเวลานานก่อนจะสามารถยืนยันตำแหน่งคร่าวๆในปัจจุบันได้

“เราน่าจะอยู่ตรงนี้แหละ”

เรียวนิ้วของไฉ่เซียวชี้ไปที่มุมซ้ายด้านล่างของแผนที่ ก่อนจะเคลื่อนนิ้วช้าๆ ไปตรงจุดแสงที่อยู่ใกล้ที่สุด “สระมังกรหงส์อยู่ที่นี่ เราไปที่นั่นกันก่อนเถอะ”

เมื่อใดที่พวกเขาหาสระมังกรหงส์เจอ ไฉ่เซียวก็จะสามารถใช้พลังของมันเพื่อตามหาสระมังกรหงส์อื่นๆ ได้

มู่เฉินพยักหน้าโบกมืออย่างไม่ลังเลเก็บแผนที่ไว้ก่อนจะมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เขาสูดหายใจลึก แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาร่วมศึกมังกรหงส์ แต่เขาก็จินตนาการได้ว่ารอบสระมังกรหงส์จะต้องเต็มไปด้วยอันตรายยิ่งกว่าที่พวกเขาเพิ่งเจอเมื่อครู่เสียอีก

ทว่าอันตรายเหล่านั้นก็ไม่อาจสร้างความหวาดกลัวและหยุดการก้าวเดินของเขาได้

“ไป!”

มู่เฉินเอ่ยเบาๆ จากนั้นก็ออกนำไปเป็นคนแรก ตรงไปทางสระมังกรหงส์ที่เพิ่งทราบตำแหน่งโดยมีไฉ่เซียวตามไปติดๆ

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset