หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 778

ขึ้นบนยอดเขา

ฟิ้ว!

เสียงแหวกอากาศดังจากทุกทิศเมื่อจอมยุทธ์นับพันพุ่งผ่านเส้นขอบฟ้า ทุกคนมีคลื่นหลิงพวยพุ่งรอบตัว สร้างภาพน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

คร่อกๆๆๆ!

ฝูงวานรขาวสัมผัสได้ถึงอันตรายด้านนอกก็ส่งเสียงโหยหวนขึ้นทันควัน น้ำเสียงอัดแน่นด้วยความกระหายเลือดเกรี้ยวกราด

ทั้งสองฝ่ายเข้าใกล้กันอย่างรวดเร็ว ไม่มีการหยุดยั้งและปะทะกันจังใหญ่ ทันใดนั้นเองคลื่นหลิงป่าเถื่อนก็กวาดอาละวาดบนท้องฟ้า

คลื่นหลิงปั่นป่วนไปทั่ว วานรขาวก็ถูกสังหารอย่างต่อเนื่อง ทว่าเนื่องจากจำนวนมหาศาล เมื่อตัวหนึ่งร่วงลงอีกตัวหนึ่งก็จะเข้าแทนที่ จึงทำให้เริ่มเกิดการบาดเจ็บล้มตายทางฝั่งมนุษย์ที่โจมตีเข้าใส่ภูเขากระดูกขาว

บริเวณนี้กลายเป็นเครื่องจัรกบดเนื้อ กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นคละคลุ้งไปทั่ว

ทว่าแม้วานรขาวจะได้เปรียบทางด้านจำนวน แต่เนื่องจากสมองมีน้อยนิด ดังนั้นเมื่อจอมยุทธ์จำนวนมากวางแผนร่วมมือกัน ความได้เปรียบของพวกมันก็เริ่มลดลงและถูกโต้กลับ

ปัง!

เสาปีศาจในมือมู่เฉินหวดออกพร้อมกับภาพเงา โบกเหล่าวานรขาวที่พุ่งเข้ามาจนระเบิดออก จากนั้นเขาก็หรี่ตาลงมองภูเขากระดูกขาวเลือนรางที่ถูกวานรขาวนับไม่ถ้วนปกป้องอยู่

ด้วยจอมยุทธ์จำนวนมากปล่อยการโจมตี ก็เกิดช่องโหว่ในปราการป้องกันของเหล่าวานรขาว

มู่เฉินหันหน้าไปมองด้านข้าง ไฉ่เซียวหายตัวไปตั้งแต่ตอนเริ่มการต่อสู้ ทว่ามู่เฉินไม่ได้เป็นกังวลนัก เนื่องจากพลังของนางอยู่เหนือความคาดหมายของเขาไปไกล คนที่สามารถทำอันตรายนางได้ในเขตหลงเฟิ่งคงมีเพียงน้อยนิด

“น่าจะพอแล้ว”

มู่เฉินมองท้องฟ้าวุ่นวาย ม่านตาสีดำก็คมปลาบขึ้นทีละน้อย อึดใจร่างเขาก็หายไป มิติห่างออกไปหลายร้อยจั้งบิดเบี้ยว ร่างมังกรปรากฏในพริบตา โผทะยานผ่านชั้นแนวป้องกันของวานรขาวขึ้นไปบนภูเขากระดูกขาว

ขณะที่มู่เฉินผ่านวานรขาวมาและกำลังเคลื่อนตัวขึ้นภูเขากระดูกขาว ก็เกิดความผันผวนของคลื่นหลิงทรงพลังบางส่วนตรงตำแหน่งอื่น จอมยุทธ์สิบกว่าคนต่างใช้ทักษะของตนผ่านด่านป้องกันขึ้นมา

จอมยุทธ์เหล่านี้ต่างมีพลังแข็งแกร่งนัก นอกจากนี้ก็ชัดว่ากำลังรอคอยโอกาสเหมือนกัน อย่างที่ไฉ่เซียวพูดไว้ก่อนหน้า มู่เฉินไม่ใช่คนเดียวที่คิดจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์

ทว่ามู่เฉินก็ไม่ได้ใส่ใจคนที่คิดจะคว้าผลประโยชน์เหมือนเขา เพราะหลังจากผ่านด่านวานรขาวแล้ว ภูเขากระดูกขาวยิ่งใหญ่ก็เผยตรงหน้า เขาพุ่งตัวเปลี่ยนร่างเป็นลำแสงทะยานตรงสู่ยอดเขา

แม้ว่ามู่เฉินจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด แต่ร่างกายก็อยู่ในภาวะตึงเครียดตลอดเวลาขณะที่หมุนเวียนคลื่นหลิงภายใน เพราะเขารู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าถึงสระมังกรหงส์

ตึง!

ขณะที่มู่เฉินกำลังตื่นระวังสุดขีด รอยร้าวขนาดใหญ่ก็ปรากฏบนภูเขากระดูกขาวตรงหน้า จากนั้นกรงเล็บขนาดใหญ่ที่มีเกล็ดปกคลุมก็พุ่งออกจากใต้ดิน ปิดล้อมมู่เฉินไว้ด้วยลมจากกรงเล็บแหลมคม

ดวงตามู่เฉินหดเกร็ง เสาปีศาจในมือก็ฟาดใส่กรงเล็บอย่างหนักหน่วงพร้อมกับคลื่นหลิงยิ่งใหญ่

ตู้ม!

คลื่นหลิงรุนแรงระเบิดออกมาราวกับพายุ รอยร้าวจำนวนมากปรากฏบนผืนกระดูกจากคลื่นกระแทก ส่วนร่างของมู่เฉินก็ถอยหลังไปสิบกว่าก้าวเช่นกัน

มู่เฉินยืนกลางอากาศขณะมองไปข้างหน้าพลางขมวดคิ้ว เบื้องล่างในกองกระดูกเสาแสงสีแดงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ร่างยักษ์ประหลาดปรากฏขึ้นช้าๆ

สัตว์ประหลาดตัวนี้คล้ายคลึงกับวานรขาว แต่ทั่วร่างกลับเป็นสีแดงและดูดุร้ายอย่างยิ่ง มันปกคลุมไปด้วยเกล็ดที่สะท้อนประกายเย็นเยือกเมื่อต้องแสงตะวัน

นี่คือคือวานรปีศาจที่มีสายเลือดมังกรแท้จริงอยู่

คลื่นหลิงรุนแรงผันผวนออกมาจากร่างของมัน ทำให้มู่เฉินแอบตกตะลึงอยู่ในใจ การจัดการเจ้ายักษ์ตัวนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่ยังต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการลงมือเลย

เห็นชัดว่าเจ้านี่ต้องเป็นหนึ่งในคลื่นหลิงอันตรายที่มู่เฉินสัมผัสได้

“โฮก!”

วานรปีศาจแดงจ้องมองมู่เฉินอย่างดุร้าย น้ำลายไหลยืดจากปากดูน่ากลัว จากนั้นมันก็ร้องคำราม แขนยาวคว้าท่อนกระดูกขาวชิ้นใหญ่มาไว้ในกรงเล็บก่อนจะกระโจนเข้ามา

ความเร็วของวานรปีศาจรวดเร็วมาก พลองกระดูกใหญ่ก็เปลี่ยนเป็นภาพเงาปกคลุมทั่วท้องฟ้า กวาดตรงไปหามู่เฉิน เส้นทางที่ท่อนกระดูกตัดไป แม้แต่มิติยังบิดเบี้ยว

มิติเบื้องหลังมู่เฉินบิดเบี้ยว จุดจื้อจุนไห่ปรากฏขึ้นเบาบาง คลื่นหลิงมหาศาลโถมซัด เสาปีศาจก็ครางกระหึ่มออกมาเช่นกัน

ปัง! ปัง! ปัง!

เงาพลองกระดูกนับไม่ถ้วนส่งเสียงหวีดหวิว จากนั้นก็ปะทะเข้าใส่กันอย่างรวดเร็ว พายุคลื่นหลิงระเบิดจากการปะทะพัดอาละวาดในบริเวณนี้

ขณะที่มู่เฉินกับวานรปีศาจกำลังโรมรันพันตูกันอยู่นั้น ความวุ่นวายก็เกิดที่จุดอื่นของภูเขาเช่นกัน คลื่นหลิงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าจอมยุทธ์คนอื่นๆ ที่เข้าสู่ภูเขากระดูกขาวก็เผชิญหน้ากับการขัดขวางจากสัตว์อสูรทรงพลังอื่นเช่นกัน

ตึง!

คลื่นกระแทกหลิงที่มองเห็นด้วยตาเปล่าระเบิดออก ขณะที่มู่เฉินกับวานรปีศาจถอยหลัง มู่เฉินมองวานรปีศาจที่กำลังคำรามก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

เนื่องจากสติปัญญาของมันไม่สูง ทำให้วานรปีศาจไม่เกรงกลัวต่อความตาย การโจมตีบ้าคลั่งของมันทำให้แม้แต่มู่เฉินยังขยาดขึ้นมา หากเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสามคนอื่น คงถูกฟาดเละกลายเป็นกองเนื้อด้วยฝีมือของวานรปีศาจนี่ไปนานแล้ว

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น มู่เฉินก็ยังปวดกะโหลกจากการถูกพัวพันเอาไว้กับมัน เนื่องจากเขาไม่อยากเสียพลังโดยเปล่าประโยชน์กับสัตว์อสูรที่ไร้สมองเหล่านี้

“เคร้ง!”

เสาปีศาจและพลองกระดูกปะทะกันอีกชุด ร่างของมู่เฉินทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า สายตาเย็นเยือกลงขณะมองวานรปีศาจที่แผดคำรามพุ่งเข้าใส่ จากนั้นดวงตาของเขาก็กลายเป็นเวิ้งสีดำอย่างรวดเร็ว หมุนคว้างราวกับหลุมดำ

“ตู้ม! ตู้ม!”

เสียงกรีดแหลมสายฟ้าดังกึกก้องในส่วนลึกของหัวใจวานรปีศาจโดยไม่มีสัญญาณเตือน เมื่อเสียงสายฟ้าดังขึ้น ร่างวานรปีศาจก็แข็งค้าง คลื่นหลิงป่าเถื่อนในร่างที่เสียการควบคุม ทำให้ตัวมันสั่นเทิ้มอย่างต่อเนื่อง

เห็นชัดว่าสายฟ้าฤทัยปีศาจดำมีประสิทธิภาพอย่างมากกับสัตว์อสูรสมองกลวงเหล่านี้

ทว่าวานรปีศาจตัวนี้ก็ไม่ธรรมดา มันร้องโหยหวนฉับพลัน ทุบกำปั้นเข้ากับอกฟังดูราวกับเสียงรัวกลอง เมื่อเสียงเหล่านั้นสะท้อนเข้าไปในร่าง ก็ข่มเสียงสายฟ้าคำรามได้ทีละน้อย…ละน้อย

วาบ!

ทว่าขณะที่วานรปีศาจข่มเสียงสายฟ้าได้ มู่เฉินก็ปล่อยการโจมตีอย่างรวดเร็ว พริบตาเขาก็ปรากฏตัวเหนือร่างวานรปีศาจงอนิ้วทั้งสอง สายฟ้าแล่นแปลบปลาบราวกับเป็นหอกยาวก่อตัวจากคลื่นหลิงพุ่งเจาะดวงตาของวานรปีศาจอย่างแม่นยำ

บึ้ม!

ดวงตาข้างหนึ่งของวานรปีศาจระเบิดพร้อมกับเลือดสดพุ่งกระฉูด มากจนแม้แต่ใบหน้าเกือบครึ่งก็ระเบิดด้วย

โฮก!

ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้มันคำรามด้วยความโกรธ แต่ก่อนที่มันจะได้คลั่ง เสาปีศาจก็ซัดลงไปบนหัวมันที่ดูราวกับทำจากโลหะเต็มแรง

แต่ครั้งนี้มู่เฉินใส่พลังทั้งหมดลงไป เสาปีศาจก็เคลื่อนลงพร้อมกับมวลลมใหญ่ฉีกผ่านมิติ ดังนั้นต่อให้หัวของวานรปีศาจทำมาจากเหล็กไหล ก็ระเบิดกระจุยกระจายเป็นแตงโมในตอนนี้

ตู้ม!

ร่างใหญ่โตของวานรปีศาจทรุดลงด้วยเสียงดังลั่น ทำเอาพื้นดินเลื่อนลั่นไปหมด

มู่เฉินถือเสาปีศาจในมือพลางพลิ้วตัวลง เลือดไหลลงจากเสาอย่างต่อเนื่อง เขามองวานรปีศาจที่สูญเสียพลังชีวิตก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจ โชคดีที่สายฟ้าฤทัยปีศาจดำสามารถทำให้มันเสียสมาธิได้ ไม่อย่างนั้นคงเป็นปัญหาสำหรับเขาในการกำจัดวานรปีศาจตัวนี้

เขาเงยหน้าขึ้นกวาดมองทิศอื่นๆ ของภูเขากระดูกขาว คลื่นหลิงน่าตกใจผันผวนออกมา ชัดว่ายังมีการต่อสู้ใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่เหล่านั้น

สายตาของมู่เฉินวูบไหว จากนั้นเขาก็คว้าศพวานรปีศาจทะยานมุ่งหน้าไปยังยอดเขาของสระมังกรหงส์

เส้นทางต่อจากนั้นก็เป็นไปอย่างราบรื่น คิดว่าสัตว์อสูรทรงพลังที่เหลือคงถูกจอมยุทธ์คนอื่นๆ ล่อไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีสัตว์อสูรตัวใดมาขัดขวางเขาอีก

ภายใต้ความเร็วสูงสุด มู่เฉินก็ผ่านชั้นเมฆบนยอดเขาในเวลาไม่กี่นาที เขาตบเท้าพลิ้วตัวออกจากชั้นเมฆ ตรงสู่ยอดเขากระดูกขาว

เขายืนบนอากาศสายตาเพ่งตรงไปข้างหน้าแล้วดวงตาก็หดเกร็งลง

บนยอดเขา มีกองกระดูกขาวมากมาย ซึ่งตรงกลางมีกระดูกชิ้นมหึมาสองชิ้น ทั้งสองชิ้นราวกับก้อนหินหนักหมื่นตัน เห็นชัดว่าพวกมันไม่ได้มาจากร่างเดียวกัน แต่ก็ล้วนมีแรงกดดันน่ากลัวแผ่ออกมาจากกระดูกสองชิ้น ภายใต้แรงกดดันนั้นแม้แต่อากาศรอบด้านยังหยุดนิ่ง

กระดูกโบราณทั้งสองเชื่อมต่อกัน สร้างสระขนาดร้อยจั้งที่เต็มไปด้วยลวดลายโบราณ เมื่อแสงสะท้อนประกาย ก็ดูเหมือนมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งกำลังหายใจอย่างต่อเนื่อง

พลังงานไร้รูปแบบและแปลกประหลาดผันผวนในสระน้ำ

ชัดว่าสระแห่งนี้คือเป้าหมายของจอมยุทธ์ที่เข้ามาในเขตหลงเฟิ่ง นี่ก็คือสระมังกรหงส์!

มู่เฉินมองสระกระดูกด้วยสายตาร้อนแรง แต่ขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าไปข้างหน้า สายตาก็เปลี่ยนไปฉับพลัน เพราะมีคลื่นหลิงทรงพลังสองสายพวยพุ่งมาจากท้องฟ้าสามทิศทาง

คลื่นหลิงทรงพลังสองสายกรูเข้ามายังยอดเขา ซ้ายหนึ่งขวาหนึ่งประกบข้างมู่เฉิน ทั้งคู่พุ่งเป้าไปที่มู่เฉินอย่างเห็นได้ชัด

แต่เมื่อมู่เฉินสัมผัสถึงหนึ่งในนั้น สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาลงหลายส่วน เนื่องจากเขาคุ้นเคยกับคลื่นหลิงสายนั้นดี

วาบ!

บนท้องฟ้า ร่างแสงปรากฏขึ้นในพริบตา หลิ่วเหยียนในชุดสีขาวเผยตัวออกมา เขาจ้องมองมู่เฉินด้วยความไม่แยแส จากนั้นก็เหวี่ยงศพสัตว์อสูรตัวหนึ่งในมือออกไป

“ข้าบอกไว้แล้ว แกหนีจากเงื้อมมือข้าไม่พ้นหรอก”

หลิ่วเหยียนปัดมือพูดอย่างไม่ใส่ใจ ในน้ำเสียงอัดแน่นด้วยความเยาะเย้ย ราวกับแมวหยอกหนู

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset