หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 722

รัศมีจั้นยี่ปีศาจสายฟ้า

ครืน

ฟ้าร้องดังสะท้อนก้องในฟ้าดิน ขณะที่ร่างของฉิงเทียนกังเปลี่ยนเป็นสายฟ้าทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับความผันผวนของคลื่นหลิงรุนแรงกำจายไปทั่วบริเวณ

จิ่วโยวเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับดวงตาหงส์กำจายแสงเย็นเยือก อึดใจนางก็หันหน้าไปทางมู่เฉินพูดว่า “ข้าจะจัดการฉิงเทียนกังเอง ส่วนหน่วยรบปีศาจสายฟ้าเป็นหน้าที่เจ้านะ”

ตอนนี้กองทัพที่สามารถยืนต้านไหวก็มีเพียงหน่วยรบวิหคโลกันตร์เท่านั้น ส่วนกองทัพอื่นห่างไกลเป็นโยชน์เมื่อเทียบกับหน่วยรบปีศาจสายฟ้า

“ปล่อยเป็นหน้าที่ข้าเอง” มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ แม้ฉิงหลิงจะอยู่ในขุมพลังจื้อจุนขั้นสาม แต่ตัวเขาก็โชคดีที่บรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นสองไม่นานมานี้แล้ว นอกจากนี้ฝีมือในการควบคุมรัศมีจั้นยี่ มู่เฉินมั่นใจว่าเขาไม่เป็นรองฉิงหลิงแน่

“ข้าจะรีบจัดการโดยเร็ว” จิ่วโยวพยักหน้าไม่พูดมากความ นางส่งแรงไปที่ฝ่าเท้าปรากฏตัวบนหลังวิหคดำ มันส่งเสียงร้องยาวพลางกระพือปีก ลมสลาตันป่าเถื่อนกวาดออกระหว่างสวรรค์และโลก ร่างมหึมาเปลี่ยนเป็นลำแสงสีดำทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ฉิงเทียนกังยืนอยู่บนท้องฟ้าที่ระดับสูงจากพื้นดินหลายหมื่นจั้ง มวลลมรุนแรงเย็นเยือกกัดเซาะผิว มีเพียงจอมยุทธ์ระดับพลังเดียวกับเขาเท่านั้นถึงกล้าขึ้นมาสู้ที่ระดับความสูงนี้

เขากอดอกมองนกยักษ์ที่ปรากฏตรงหน้าที่กระพือปีกวูบไหว จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปยังร่างระหงบนนั้นพลางยิ้มบางออกมา กำปั้นทั้งคู่กำแน่นขณะที่สายฟ้าสีเทาดำที่ราวกับอสรพิษแล่นเปรียะบนพื้นผิวกาย

ชี่! ชี่!

สายฟ้ากะพริบวูบไหว ร่างของฉิงเทียนกังก็เหมือนจะขยายตัวขึ้นอีกเท่าหนึ่ง พูดโดยทั่วไปแล้วผู้ที่ฝึกฝนคลื่นหลิงที่มีส่วนผสมของสายฟ้าจะมีพลังกายที่แข็งแกร่ง ชัดว่าฉิงเทียนกังก็เคยฝึกทักษะพลังกายเหมือนกับมู่เฉิน

“เจ้าคงต้องโทษตัวเองที่ตาบอดเล็งเป้ามาที่สำนักสายฟ้าปีศาจของข้า” ฉิงเทียนกังเอ่ยเยาะขณะมองจิ่วโยว

พอได้ยินคำพูดนั่น จิ่วโยวก็ไม่พูดอะไรเพียงแค่แตะปลายเท้าเบาๆ บนอากาศ วิหคยักษ์ส่งเสียงร้องยาวพร้อมกับกระพือปีก คลื่นหลิงมหาศาลกวาดออกมา ก่อตัวเป็นขนนกสีดำกระหน่ำใส่ฉิงเทียนกังราวกับห่าฝน

“กลยุทธ์จิ๊บจ้อย”

ฉิงเทียนกังกำหมัด สายฟ้าสีเทาดำระเบิดออกมาทันที ก่อร่างเป็นม่านสายฟ้าปกคลุมรอบกาย เมื่อขนนกสีดำสัมผัสกับม่านสายฟ้า ก็แตกตัวออกเป็นประกายแสงจางหายไป

“งั้นหรือ?”

ริมฝีปากสีแดงชาดของจิ่วโยวโค้งขึ้นขณะชี้นิ้วออกไป ทันใดนั้นท่ามกลางขนนกสีดำที่ปกคลุมท้องฟ้า ขนนกที่มีเพลิงสีม่วงลุกโชนก็ปรากฏขึ้นแล้วพุ่งชนกับม่านสายฟ้าจังใหญ่ ครั้งนี้เพลิงสีม่วงที่ลุกโชนแผดเผาม่านสายฟ้ากลายเป็นอากาศธาตุ ขนนกที่ราวกับกระบี่คมกริบก็พุ่งเข้าใส่จุดตายตรงหว่างคิ้วของฉิงเทียนกังทันที

การโจมตีกะทันหันทำให้สีหน้าของฉิงเทียนกังเปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ทันใดนั้นฝ่ามือก็ฟาดออกไปพร้อมกับสายฟ้าปะทุขึ้นตรงกลางฝ่ามือ

ตู้ม!

ฝ่ามือกับขนนกเพลิงสีม่วงปะทะกัน ชั่วขณะนั้นคลื่นหลิงรุนแรงก็พัดอาละวาด ร่างของฉิงเทียนกังหายวับไปปรากฏตัวห่างออกไปหลายร้อยจั้ง เขาก้มหน้าลงมองตรงกลางฝ่ามือที่ไหม้เกรียมพร้อมกับสีหน้ามืดครึ้มลง

“เจ้าคิดหรือว่าพลังงานสายฟ้าแค่นั้นจะต้านทานเพลิงอมตะของข้าได้?” ริมฝีปากของจิ่วโยวโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ

“หึ”

ฉิงเทียนกังแค่นเสียงเย็น จากนั้นก็กระทืบเท้า สายฟ้าสีเทาดำที่ราวกับมหาสมุทรระเบิดออกจากร่าง ไม่กี่อึดใจกลุ่มเมฆในบริเวณนี้ก็เปลี่ยนเป็นเมฆพายุสีดำพร้อมกับคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัวผันผวนออกมาจน แม้แต่คนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าหมื่นจั้งยังรู้สึกถึงได้

เมื่อจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระเบิดความเกรี้ยวกราด อำนาจที่เผยออกมาก็สามารถสั่นสะเทือนฟ้าดินได้เลยทีเดียว

จิ่วโยววาดฝ่ามือออกขณะที่คลื่นหลิงสีดำมืดพวยพุ่งออกมาจากร่างกาย ภายในคลื่นสีดำเชี่ยวกรากมีเพลิงสีม่วงพลุ่งพล่าน ทำให้แม้แต่มิติยังบิดตัวรุนแรง

พลังยิ่งใหญ่น่ากลัวสองสายปกคลุมท้องฟ้าคนละครึ่ง การประจัญบานกันเช่นนี้ดูราวกับว่าอุกกาบาตสองลูกกำลังชนกัน

สายตาเย็นชาสองคู่ฟาดฟันกันบนท้องฟ้า อึดใจต่อมาร่างทั้งสองก็เปลี่ยนเป็นร่างแสงทะยานเข้าหากัน เบื้องหลังคลื่นหลิงเชี่ยวกรากกวนตัวราวกับคลื่นยักษ์ขณะที่ทั้งสองปะทะกัน

ตู้ม!

พายุคลื่นหลิงที่น่าตกใจสร้างหายนะไปทั่วชั้นฟ้า แม้แต่มวลลมเย็นเยือกยังแตกกระจายออก พื้นที่ในรัศมีหลายหมื่นจั้งปกคลุมไปด้วยคลื่นหลิงของทั้งสอง

นี่เป็นการต่อสู้ที่สั่นสะเทือนไปถึงขั้ววิญญาณเลยทีเดียว

สายตานับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปที่ความปั่นป่วนบนฟ้า แต่ละคนแอบเดาะลิ้น ทว่าจากนั้นผู้คนก็เบนสายตาลงมา จิ่วโยวและฉิงเทียนกังมีพลังที่น่ากลัว ดังนั้นผลลัพธ์ของการปะทะกันระดับนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่จะตัดสินได้ง่ายๆ

และในเมื่อผลการต่อสู้สมรภูมิบนพื้นฟ้ายากที่จะตัดสิน การต่อสู้บนพื้นดินจึงมีความสำคัญมากอย่างเห็นได้ชัด ผลลัพธ์ของสมรภูมินี้จะส่งผลต่อทั้งจิ่วโยวและฉิงเทียนกัง ทันทีที่การต่อสู้ในระดับนั้นถูกเบี่ยงความสนใจ ความผิดพลาดย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย

สายตานับไม่ถ้วนเริ่มพุ่งตรงไปที่ชายสองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าหน่วยรบ

ภายใต้สายตาเหล่านั้น ฉิงหลิงก็ส่งยิ้มให้มู่เฉิน “ในเมื่อเจ้าสำนักออกคำสั่งแล้ว วันนี้ข้าก็ปล่อยพวกเจ้าไปไม่ได้จริงๆ”

เห็นชัดว่าเขามีความมั่นใจในตัวเองไม่น้อย หน่วยรบปีศาจสายฟ้าได้เปรียบในเรื่องของจำนวนเมื่อเทียบกับหน่วยรบวิหคโลกันตร์ ยิ่งกว่านั้นระหว่างผู้นำทัพทั้งสอง ตัวเขาที่มีขุมพลังจื้อจุนขั้นสามก็เป็นฝ่ายได้เปรียบมู่เฉินอยู่อีกส่วน

บวกกับความสำเร็จน่าทึ่งในการนำหน่วยรบปีศาจสายฟ้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ดังนั้นเขาจึงมีความมั่นใจว่าจะสามารถกำจัดแม่ทัพคนใหม่ของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ที่เพิ่งสร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้

“กลัวว่าผลการต่อสู้ที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้ผู้บัญชาการฉิงหลิงผิดหวังก็ได้นะ” แต่เมื่อเผชิญกับความมั่นหน้าของฉิงหลิง มู่เฉินก็คลี่รอยยิ้มเรียบเฉยให้

“ฮ่าๆ กล้าหาญจริงๆ” ฉิงหลิงยกนิ้วหัวแม่มือขึ้น จากนั้นรอยยิ้มเย็นก็ผุดที่มุมปาก “แต่ต้องแบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ ข้าเกลียดคนที่ดีแต่ปากนัก!”

“ตู้ม!”

เมื่อพูดจบฉิงหลิงก็กระทืบเท้าทะยานตัวไปข้างหน้า สายฟ้าดังก้องทั่วท้องฟ้าเบื้องหลังเขา หน่วยรบปีศาจสายฟ้าเปลี่ยนเป็นเสาแสงสายฟ้าทะยานขึ้นสู่ขอบฟ้าทันที

เมื่อเห็นดังนี้ มู่เฉินก็ยกฝ่ามือขึ้น

“มู่เฉินระวังตัวด้วย”

ถังปิงเอ่ยเสียงเบา เนื่องจากฉิงหลิงเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสามแล้ว ซึ่งแข็งแกร่งกว่าแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่ในอาณาเขตกงเวทสวรรค์เสียอีก แม้ว่าความสามารถในการต่อสู้ของกองทัพไม่สามารถตัดสินด้วยพลังของคนคนเดียว แต่ก็ยังมีอิทธิพลไม่น้อย

“งั้นข้าจะปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่เจ้า” มู่เฉินพยักหน้า ตอนนี้สนามรบถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน คู่แรกคือจิ่วโยวกับฉิงเทียนกัง คู่สองคือหน่วยรบวิหคโลกันตร์กับหน่วยรบปีศาจสายฟ้า ท่ามกลางความโกลาหลนี้ กองทัพทั้งสองฝ่ายจะต้องพุ่งโรมรันกันเพื่อขัดขวางอีกฝ่ายแน่นอน

“วางใจเถอะ พวกเขาจะไม่มีทางขัดขวางการต่อสู้ของเจ้าได้แน่นอน” ถังปิงยิ้มอ่อน รอยยิ้มของนางดูสงบเยือกเย็น เนื่องจากนางได้สื่อสารไว้กับกองทัพต่างๆ ในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ไว้แล้วว่าเมื่อไรที่เกิดการต่อสู้ขึ้น นางก็จะเป็นคนควบคุมการสั่งการชั่วคราว

เมื่อเห็นรอยยิ้มมั่นใจของหญิงสาวตรงหน้า มู่เฉินก็ไม่พูดมาก มือที่ยกขึ้นสะบัดลงทันที สายตาเปลี่ยนเป็นคมกริบ

“หน่วยรบวิหคโลกันตร์ ลุย!”

“รับทราบ!”

เสียงคำรามกึกก้องอย่างพร้อมเพรียงดังขึ้น หน่วยรบวิหคโลกันตร์พุ่งขึ้นจากพื้นดินฉับพลัน เปลี่ยนเป็นกลุ่มเมฆดำเคลื่อนตัวไปที่เส้นขอบฟ้า ปรากฏตัวตรงหน้าหน่วยรบปีศาจสายฟ้าพร้อมรัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตกระจายออก

มู่เฉินเคลื่อนตัวไปปรากฏเหนือหน่วยรบวิหคโลกันตร์ รัศมีจั้นยี่วิหคโลกันตร์ยิ่งใหญ่ราวกับมหาสมุทรสีดำรายล้อมรอบตัวเขา

สีหน้าของฉิงหลิงเรียบนิ่งเมื่อมองมู่เฉิน จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นพร้อมกับเสียงเรียบเฉยดังก้อง

“รัศมีจั้นยี่ปีศาจสายฟ้า!”

เบื้องหลังภายใต้เกราะโลหะสีดำของหน่วยรบปีศาจสายฟ้า ราวกับมีสายตาจำนวนมากที่อัดแน่นด้วยความรุนแรง อึดใจเสียงระเบิดต่ำก็ดังกึกก้อง

ตู้ม!

สายฟ้าในบริเวณนี้แล่นแปลบปลาบ รัศมีจั้นยี่สีเทาดำนับไม่ถ้วนที่ดูราวกับอสรพิษพุ่งขึ้นสู่ขอบฟ้าและรวมตัวกันเบื้องหลังฉิงหลิง ช่างเป็นภาพยิ่งใหญ่ตระการตานัก

“ข้าขอดูสิว่าแม่ทัพวิหคโลกันตร์ที่ชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ในช่วงนี้มีจุดที่น่ายกย่องอะไรบ้างกันแน่!” ฉิงหลิงยิ้มพลางเหยียดนิ้วสองนิ้วออกมา ก่อนจะชี้เบาๆ ไปที่มู่เฉินที่อยู่ห่างออกไป

ปัง!

รัศมีจั้นยี่สายฟ้าที่มีขนาดประมาณหนึ่งร้อยจั้งระเบิดออกมาราวกับมังกรเกรี้ยวกราด แสงเจิดจ้าที่ระเบิดออกฉับพลัน ทำให้สายตาจ้องมองนับไม่ถ้วนพุ่งมายังบริเวณนี้

รัศมีจั้นยี่สายฟ้ากวาดออก ปรากฏตรงหน้าหน่วยรบวิหคโลกันตร์ในพริบตา ทว่าขณะที่กำลังจะโถมลงมา รัศมีจั้นยี่สีดำก็กวาดตัวออกก่อตัวกลายเป็นเกราะขนนก

ตู้ม!

พลังงานสองกลุ่มปะทะกันพร้อมกับความผันผวนรุนแรงสร้างหายนะ แต่เกราะขนนกที่ดูบอบบางกลับไม่แตกสลาย กระทั่งรัศมีจั้นยี่สายฟ้าระลอกสุดท้ายอ่อนกำลังลงมันถึงค่อยสลายตัวตามไป

ภาพนี้ทำให้จอมยุทธ์นับไม่ถ้วนจากทั้งสองฝ่ายต้องดวงตาหดเกร็ง เพราะเมื่อตัดสินจากขนาดแล้ว หน่วยรบปีศาจสายฟ้าเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด รัศมีจั้นยี่ของพวกเขาก็ดูดุดันมากกว่าหลายส่วนเลยทีเดียว

ทว่าการโจมตีที่พวกเขาปลดปล่อยออกมากลับถูกหน่วยรบวิหคโลกันตร์ต้านทานไว้ได้อย่างง่ายดาย

“น่าสะพรึงมาก ข้าได้ยินว่าแม่ทัพมู่เฉินเอาชนะหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตที่มีจอมยุทธ์ถึงห้าพันคนได้ด้วยหน่วยรบวิหคโลกันตร์ที่มีจอมยุทธ์เพียงหนึ่งพันคนมานานแล้ว พอได้เห็นวันนี้ ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็นจริงแล้วสิ”

“ดูเหมือนการควบคุมรัศมีจั้นยี่ของแม่ทัพมู่เฉินจะเหนือกว่าผู้นำทัพคนอื่นๆ หลายขุมทีเดียว”

“…”

ฝ่ายอาณาเขตกงเวทสวรรค์ จอมยุทธ์จำนวนมากอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา หัวใจแต่ละคนที่บีบรัดก็คลายตัวลง เพราะพวกเขาเป็นกังวลว่าจิ่วโยวจะถูกเบี่ยงความสนใจจากความพ่ายแพ้ของมู่เฉิน แล้วหากจิ่วโยวพลาด ฝ่ายของพวกเขาจะต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ใหญ่หลวงโดยไม่ต้องสงสัย

ตู้ม!

มู่เฉินมองสายฟ้าบนท้องฟ้าที่จางหายไปตรงหน้าด้วยท่าทางเรียบเฉยพลางเงยหน้าขึ้น ม่านตาสีดำจ้องมองฉิงหลิงด้วยแววคมกริบราวใบมีดที่ค่อยๆ ฉายออกมาในส่วนลึกของดวงตาช้าๆ

“วันนี้ข้าจะดูว่าใครกันที่จะถูกทำลาย!”

เขาวาดตราประทับสองมือขึ้นมาฉับพลัน วินาทีต่อมารัศมีจั้นยี่วิหคโลกันตร์ไร้ขอบเขตก็พวยพุ่งบ้าคลั่งอย่างรวดเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นมืดมิด มากจนแม้แต่เสียงฟ้าคำรนป่าเถื่อนยังถูกสยบไว้

ในที่สุดชายหนุ่มที่นิ่งเฉยและเยือกเย็นมาตลอดก็เริ่มเผยเขี้ยวเล็บออกมาแล้ว

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset