หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 817 การพบกันของสองจอมยุทธ์

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 817 การพบกันของสองจอมยุทธ์

ปกติจัตุรัสต้าหลัวจะถูกปิดไว้

จะเปิดในโอกาสสำคัญเท่านั้น พิธีมอบยศราชันนับเป็นงานยิ่งใหญ่ ดังนั้นในวันนี้สถานที่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงคึกคัก

จัตุรัสแห่งนี้กว้างใหญ่จนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด ยามนี้เต็มไปด้วยคนจำนวนมากและเสียงอื้ออึงของที่นี่ก็ดังทะลุถึงชั้นเมฆแลยทีเดียว ก่อนจะกระจายออกไปสามารถได้ยินในทุกที่ภายในเขตต้าหลัวเทียน

ไม่เพียงแต่ที่นี่จะเป็นสถานที่คึกคักที่สุดในเขตต้าหลัวเทียน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่คึกคักที่สุดในอาณาเขตกงเวทสวรรค์อีกด้วย

ที่ใจกลางจัตุรัสมีลานหินขนาดใหญ่ ซึ่งในอาณาเขตกงเวทสวรรค์มีชื่อเรียกว่าลานพิธีมอบยศราชัน

เพราะทุกการอวยยศใหม่ของจอมยุทธ์ชั้นยอดในอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะเกิดขึ้นที่นี่

เสียงอึกทึกครอบคลุมทั่วบริเวณ นอกจากนี้ก็ยังมีร่างแสงหลายร่างเหาะเหินมาจากสถานที่ไกลออกไป ริ้วแสงเคลื่อนผ่านก่อนจะพลิ้วลงท่ามกลางสายตาเหล่าผู้ชม

ที่ด้านหน้าของจัตุรัสมีบัลลังก์ตั้งตระหง่านหลายที่ถูกจัดลดหลั่นกันลงไป บัลลังก์ที่สูงสุดก็คือบัลลังก์สีทองมลังเมลืองรองภายใต้แสงตะวัน กำจายแรงกดดันบางจางออกมาจากบัลลังก์

เมื่อมู่เฉินกับจิ่วโยวปรากฏตัว ทั้งสองก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้หอวิหคโลกันตร์ไม่เหมือนเมื่อในอดีต ทุกคนรู้ว่าหอที่เคยอ่อนแอที่สุดในหมู่ผู้บัญชาการกำลังทะยานขึ้นมาด้านบน ดังนั้นเมื่อเหล่าจอมยุทธ์ในอาณาเขตกงเวทสวรรค์เห็นการมาถึงของจิ่วโยวและมู่เฉิน สายตาของพวกเขาก็ดูเคร่งเครียดลงหลายส่วนเมื่อเทียบกับอดีต

ช่วงปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของหอวิหคโลกันตร์เติบโตขึ้นทุกวันในอาณาเขตกงเวทสวรรค์

สายตาเหล่านั้นหยุดอยู่ที่จิ่วโยวครู่หนึ่ง ก่อนจะเบนไปทางมู่เฉินที่อยู่ด้านข้างกาย สายตาเหล่านั้นจ้องตรงไปที่เขา เพราะช่วงนี้ชื่อเสียงของชายหนุ่มได้ดังก้องไปทั่วภูมิภาคทางเหนือแล้ว

ความสำเร็จของเขาในศึกมังกรหงส์ ทำให้แม้แต่จอมยุทธ์ที่มีฝีมือบางคนในอาณาเขตกงเวทสวรรค์ยังรู้สึกแอบตะลึงในใจ นอกจากนี้พวกเขายังรู้ชัดว่ามู่เฉินเพิ่งจะเข้าร่วมอาณาเขตกงเวทสวรรค์ได้ไม่ถึงปีเท่านั้น

หากให้เวลาเขามากกว่านี้ เขาคงจะโดดเด่นในชื่อจอมยุท์ชั้นสูงของอาณาเขตกงเวทสวรรค์แน่นอน

จิ่วโยวและมู่เฉินไม่ได้ให้ความสนใจสายตาเหล่านั้น ทั้งสองพลิ้วตัวลงตรงกลุ่มคนของหอวิหคโลกันตร์ รอคอยพิธีมอบยศราชันที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

มู่เฉินยืนอยู่ด้านข้างจิ่วโยว สายตาของก็กวาดออกไปทั่วจัตุรัส ตอนนี้ผู้บัญชาการอีกแปดคนก็เดินทางมาถึงแล้ว จากภาพนี้บอกได้ว่าพิธีมอบยศราชันมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

ขณะที่มู่เฉินกวาดสายตาไปรอบๆ สายตาของผู้บัญชาการทั้งแปดก็หยุดอยู่ที่เขาครู่หนึ่ง ซิวหลัวและเลี่ยซันมีริ้วความชื่นชมในดวงตา เห็นชัดว่าการแสดงฝีมือในศึกมังกรหงส์ ไม่เพียงแต่เอาชนะใจจอมยุทธ์รุ่นใหม่ในภูมิภาคทางเหนือได้ แม้กระทั่งจอมยุทธ์รุ่นเก่าอย่างพวกเขายังต้องอุทานด้วยความชื่นชม

ส่วนเสี่ยยิงที่หมายหัวมู่เฉินกับจิ่วโยวมาตั้งแต่แรกก็ได้แต่ขบฟันกรอด ตอนนั้นที่มู่เฉินเพิ่งเข้าร่วมอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เขาเป็นแค่มดตัวหนึ่งที่สามารถบดบี้ได้อย่างง่ายดาย แต่มดตัวนี้กลับสร้างความอับอายขายหน้าให้กับหอเหยี่ยวโลหิตอย่างใหญ่หลวง

นับถึงตอนนี้ยังไม่ถึงปี มดในสายตาของเขาก็เติบใหญ่จนแม้แต่เขายังตกใจ แม้ว่าเสี่ยยิงจะยังสามารถสยบมู่เฉินได้ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าตนเองต้องจ่ายราคาแพงลิ่วเพื่อที่จะทำให้สำเร็จ ชายหนุ่มตรงหน้าเขาไม่ใช่มดเหมือนในอดีตอีกแล้ว

การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนั้น ทำให้เสี่ยยิงไม่เป็นสุขในหัวใจเลย แต่ไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร เขาก็ไม่กล้าท้าทายอะไรกับมู่เฉินทั้งนั้น นั่นเพราะทุกคนในอาณาเขตกงเวทสวรรค์รู้ว่าอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์บางอย่างกับประมุข การมีประมุขคอยดูแล ไม่ต้องพูดถึงเขาเลย ต่อให้จอมพลหลิงถงที่หนุนเขาอยู่ก็ไม่กล้าทำอะไรกับมู่เฉิน

ดังนั้นเขาจึงได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ทั้งหมดไว้

“ฟิ้ว!”

ขณะที่เหล่าผู้บัญชาการลอบมองมู่เฉิน เสียงลมรุนแรงก็ดังขึ้นพร้อมกับความผันผวนของคลื่นหลิงอันทรงพลังซึ่งดึงดูดความสนใจเป็นอย่างมาก

“ฉินจง…ในที่สุดเขาก็มาถึงที่นี่แล้ว!”

“ฮ่าๆ ข้าว่าแล้วเขาไม่ปล่อยโอกาสนี้ผ่านไปอย่างแน่นอน!”

“ไม่รู้ว่าครั้งนี้เขาจะชิงตำแหน่งสำเร็จไหม?”

“…”

เมื่อเสียงแหวกอากาศนั้นดังขึ้น ก็สร้างความโกลาหลขึ้นในจัตุรัสต้าหลัว เห็นชัดว่าเขาเป็นที่รู้จักดี

“เจ้าเมืองเทียนหลัว—ฉินจง?” สายตาของมู่เฉินวูบไหวไปด้วยเช่นกัน

ภายใต้สายตาจำนวนมาก ร่างแสงนั่นก็มาปรากฏบนท้องฟ้าเหนือจัตุรัสในพริบตา ก่อนที่เขาจะยกมือคำนับทุกคน

มู่เฉินมองตรงไปก็เห็นชายวัยกลางคนรูปร่างแข็งแรงล่ำสันกำลังหัวเราะเสียงใส ภาพลักษณ์ที่เผยออกมานี้ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดีด้วยได้ง่าย

ความผันผวนของคลื่นหลิงทรงพลังมองเห็นได้เลือนรางรอบกายเขา จากการประเมินของมู่เฉิน พลังของฉินจงไม่ได้ด้อยกว่าโยวหมิงเลย

“ผ่านมาหลายปี ไอ้นั่นก็ไม่ได้มีพัฒนาการอะไรมาก” จิ่วโยวปรายตามองฉินจงพลางจือปาก

มู่เฉินมองจิ่วโยวอย่างประหลาดใจ ฟังจากน้ำเสียงนั่น ดูเหมือนนางจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับฉินจง

ทว่าก่อนที่เขาจะทันถาม ฉินจงก็เดินตรงมายังฝั่งหอวิหคโลกันตร์ของพวกเขาพร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่น “ฮ่าๆ จิ่วโยวน้อย ไม่เจอกันตั้งนาน หายหน้าไปนานหลายปี ข้าคิดว่าเจ้าล้มเหลวในการวิวัฒนาร่างซะอีก”

“ผ่านมาหลายปี เจ้าก็ยังไม่บรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ด้วยอัตราฝึกนี้…เจ้ายังมีหน้ามาเข้าร่วมพิธีมอบยศราชันอีกหรือ?” จิ่วโยวเอ่ยเสียงเนิบด้วยท่าทางไม่ไว้หน้าใดๆ

ฉินจงถึงกับกรามค้าง “ยังไงข้าก็เคยช่วยเจ้าอยู่ในอดีตนะ อย่าจี้จุดมากได้ไหม”

มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาข้างๆ ฉินจงก็เป็นคนที่น่าสนใจแฮะ

พอได้ยินเสียงหัวเราะ สายตาของฉินจงก็เบนมาที่มู่เฉินพลางยิ้มหยีตา “เจ้าคงจะเป็นมู่เฉินที่ชื่อเสียงดังเป็นพลุแตกในภูมิภาคทางเหนือช่วงนี้ใช่ไหม? คลื่นลูกใหม่แซงหน้าคลื่นลูกเก่า ประสบความสำเร็จทั้งที่ยังอายุน้อยเท่านี้”

“เจ้าเมืองฉินจงชมข้าเกินไปแล้ว”

มู่เฉินประสานมือคำนับด้วยรอยยิ้ม จากปฏิสัมพันธ์ขั้นต้นกับฉินจง เขาก็รู้สึกชอบใจอีกฝ่าย นั่นเพราะเขารู้สึกว่าบุคลิกตรงไปตรงมาของฉินจงไม่ใช่การเสแสร้ง ยิ่งกว่านั้นเมื่อดูจากสายตารอบด้านที่พุ่งมายังฉินจง ท่าทางคงจะมีมุนษย์สัมพันธ์อันดีต่อกันกับคนในอาณาเขตกงเวทสวรรค์

“อย่ามาอ้างเรื่องอาวุโสเลย เจ้าอาจหมดสิทธ์ในพิธีมอบยศราชันนี้ก็ได้” จิ่วโยวเอ่ยเบาๆ

ฉินจงชะงักไปก่อนจะเหลือบมองมู่เฉินอย่างครุ่นคิดแล้วยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรหรอก ในเมื่อข้าล้มเหลวมาหลายครั้ง อีกสักรอบจะเป็นไรไป แต่ถ้าเราต้องสู้กัน ข้าจะปล่อยพลังทั้งหมดที่มี ถึงตอนนั้นข้าขอดูว่าจอมยุทธ์หนุ่มอันดับสามของบันทึกมังกรหงส์น่าสะพรึงขนาดไหน”

พอได้ยิน ขณะที่มู่เฉินกำลังจะพูด ดวงตาก็หดเกร็ง ในเวลาเดียวกันฉินจงกับจิ่วโยวก็เงยหน้าขึ้น บนขอบฟ้าสีฟ้าคราม กลุ่มควันดำพวยพุ่งมาราวกับอุกกาบาตที่แฝงรังสีเย็นเยือกที่ต้องการแช่แข็งเลือดของคนอื่นๆ

จอมยุทธ์จำนวนมากเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มควันดำที่พุ่งผ่านขอบฟ้า เมื่อควันดำกวาดออก ก็เปลี่ยนเป็นพายุทอร์นาโดสีดำพลิ้วลงบนจัตุรัส ควันดำจางหายไป ร่างในชุดดำก็ปรากฏแก่สายตาทุกคน

คนผู้นั้นมีใบหน้าหล่อเหลา เว้นแต่สายตาที่ดูเย็นชาและริมฝีปากบางราวใบมีด ทำให้คนมองรู้สึกหนาวสะท้าน

ยามนี้เขาปั้นหน้ายิ้มมองทุกคนในจัตุรัสพลางยกมือคำนับ “ชิวไท่ยิงจากสำนักภูตจันทราทักทายทุกคน”

เสียงตอบรับดังจากจอมยุทธ์ในจัตุรัสบ้าง ชิวไท่ยิงเป็นจอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงในหมู่จอมยุทธ์มากประสบการณ์ของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ หลายปีที่ผ่านมานี้เขาเป็นที่รู้กันว่าเป็นจอมยุทธ์ที่จ่ออันดับผู้บัญชาการอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ในพิธีมอบยศราชันครั้งนี้ เขาเป็นคนเหมาะสมที่สุดที่จะได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับสิบ

ชิวไท่ยิงพลิ้วตัวลงด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นก็มีจอมยุทธ์อาณาเขตกงเวทสวรรค์เข้าหาเขาไม่น้อย ทำให้ดูมีกำหลังหนุนมากนัก

ฉิงจงเหลือบมองชิวไท่ยิงอย่างเฉยเมย นิ้วทั้งสิบไขว้กันเบื้องหน้าลำตัว ทว่ามู่เฉินกลับสัมผัสได้ว่าคลื่นหลิงในร่างเขาเหมือนจะผันผวนขึ้นในเวลานี้

นี่คือการพบกันของจอมยุทธ์แก่กล้าสองคน

“เขาคือเจ้าสำนักภูตจันทรา—ชิวไท่ยิงรึ?” สายตาของมู่เฉินมองชิวไท่ยิงพร้อมกับขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ถึงอันตรายเบาบางที่มาจากอีกฝ่าย

ชิวไท่ยิงสมกับมีชื่อเสียงในอาณาเขตกงเวทสวรรค์นัก ดูเหมือนว่าพิธีมอบยศราชันครั้งนี้ การจะขัดขวางชายคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ตึ้ง!

ขณะที่สายตาของมู่เฉินเปล่งประกาย เสียงกังวานของระฆังก็ดังทั่วบริเวณ อึดใจหัวใจของทุกคนก็กระตุกพลางเงยหน้าขึ้น บนบัลลังก์ทองเหนือจัตุรัสกว้างใหญ่ มิติบิดเบี้ยวปรากฏร่างเล็กร่างหนึ่งขึ้นช้าๆ

ใต้บัลลังก์ทอง สามจอมพลก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน สายตามองเหล่าจอมยุทธ์อาณาเขตกงเวทสวรรค์ในจัตุรัสนิ่ง

“คารวะท่านประมุข!”

ทุกคนประสานมือคำนับ เอ่ยน้ำเสียงเคารพดังก้องไปทั่ว

มั่นถัวหลัวโบกมือเบาๆ ม่านตาสีทองคำกวาดมองผ่านๆ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่ฉินจงกับชิวไท่ยิง ก่อนจะหยุดอยู่ที่มู่เฉินครู่หนึ่ง น้ำเสียงเยาว์วัยดังออกมาพร้อมรังสีมีอำนาจ

“พิธีมอบยศราชันครั้งนี้ มีสามคนที่มีสิทธิ์จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการ”

สรรพเสียงทั่วบริเวณหยุดนิ่ง โดยมีเพียงเสียงของมั่นถัวหลัวดังก้อง ทุกคนตัวแข็งเกร็ง เนื่องจากมีเพียงผู้ที่ได้รับอนุมัติจากมั่นถัวหลัวเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งผู้บัญชาการลำดับสิบ!

“เจ้าเมืองเทียนหลัว—ฉินจง”

“เจ้าสำนักภูตจันทรา—ชิวไท่ยิง”

เสียงเสียดายดังขึ้นในจัตุรัสต้าหลัว เนื่องจากนี่เป็นเรื่องที่คาดคิดไว้แล้ว ทั้งสองคนต่างเป็นจอมยุทธ์ที่มีคุณสมบัติและความสามารถมากที่สุดในการชิงตำแหน่งผู้บัญชาการ

ขณะที่พวกเขารู้สึกเสียดาย เสียงของมั่นถัวหลัวก็หยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปล่งออกมา

“หอวิหคโลกันตร์—มู่เฉิน”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset