หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 844 สูป้า

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 844 สูป้า

บนยอดเขาโดดเดี่ยวนอกหุบเขา

มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมือไพล่หลัง รอบยอดเขานี้มีคนนับไม่ถ้วนยืนอยู่บนอากาศ รัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตกวาดออกราวกับมหาสมุทรแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ

เมื่อมองจำนวนคนคร่าวๆ ร่างเงาเหล่านั้นมีจำนวนเกือบหมื่นเลยทีเดียว กระทั่งในบรรดาผู้บัญชาการของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ นี่ถือว่าเป็นกองทัพที่มีขนาดใหญ่อยู่ในลำดับต้นเลยทีเดียว

ด้วยขนาดดังกล่าว รัศมีจั้นยี่ที่ปลดปล่อยออกมาอยู่ในระดับที่น่าทึ่ง เมื่อรัศมีจั้นยี่กระจายออกไปก็โอบล้อมหุบเขาทั้งหมดดูราวกับกรงนกดักจับสิ่งที่อยู่ภายใน แม้แต่แมลงวันสักตัวก็เล็ดลอดออกไปไม่ได้

“นายท่าน พวกหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตติดอยู่ในกับดักเรียบร้อย รอเพียงคำสั่งโจมตีก็จะกำจัดพวกมันได้สิ้นซาก” ร่างร่างหนึ่งทะยานขึ้นมาบนยอดเขา จากนั้นก็คุกเข่าลงข้างหนึ่ง เขาประสานมือรายงานสถานการณ์ด้วยความเคารพ

บนยอดเขามีคนสองคนยืนอยู่ หนึ่งในนั้นไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับมู่เฉิน เขาก็คือคนที่ถูกบีบให้หนีไปอย่างน่าสมเพชจากฝีมือของไฉ่เซียว แต่ก็ยังคงรั้งตำแหน่งที่หนึ่งบนบันทึกมังกรหงส์ได้—ฟังยี่

ยามนี้ฟังยี่สวมชุดสีขาวและยังมีความสงบนิ่งเช่นเดิม ไม่มีร่องรอยความเศร้าใจจากการพ่ายแพ้หมดท่าในวันนั้น สายตาของเขากลับกระจ่างใสมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าแข็งแกร่งขึ้นมากจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้น เพราะจอมยุทธ์ที่ได้รับความคาดหวังยิ่งใหญ่จากหมู่ตึกเทวะจะต้องเป็นคนที่มีจิตใจตั้งมั่น ไม่มีทางท้อแท้จากการพ่ายแพ้เพียงครั้งเดียว มิฉะนั้นเขาคงจะถูกหมู่ตึกเทวะทิ้งไปในไม่นาน

ฟังยี่ยืนมือไพล่หลังข้างเดียวท่าทางราวกับบัณฑิตทรงภูมิ ภาพลักษณ์เช่นนี้คงไม่มีใครมองออกว่าเขาเป็นจอมยุทธ์รุ่นใหม่จอมโหดที่ครอบครองที่หนึ่งบนบันทึกมังกรหงส์

ที่ข้างๆ ฟังยี่เป็นจอมยุทธ์วัยฉกรรจ์ที่ฉายรัศมีน่าทึ่ง ซึ่งตรงกันข้ามกับลักษณะสง่างามของฟังยี่ เขาเปล่งความดุร้ายเย็นชา ขณะที่กวาดสายตามองก็ประหนึ่งสัตว์อสูรร้ายที่ปลดปล่อยความโหดร้ายเต็มที่ ซึ่งสร้างความกลัวให้กับผู้ที่พบเห็นนัก

เขาสวมชุดเกราะสีดำที่สลักภาพจระเข้โบราณเอาไว้ จระเข้ยืนอยู่บนภูเขาพร้อมกับแผ่รังสีที่น่ากลัว

ชายคนนี้ก็คือหนึ่งในสิบเจ้าภูเขา…เจ้าภูเขาเอ่อ—สูป้า

เมื่อได้ยินรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชา สูป้าก็พยักหน้าจ้องมองเข้าไปในหุบเขาพร้อมกับแววดุร้ายวูบไหวในดวงตา รอยยิ้มที่น่าสะพรึงแขวนอยู่ที่มุมปาก “หอเหยี่ยวโลหิตกล้าชิงซากอารยธรรมโบราณกับกองทัพจระเข้สวรรค์ของข้าเรอะ ความคิดนี้ช่างเพ้อฝันจริงๆ แค่หน่วยรบเหยี่ยวโลหิตยังคิดมาท้าทายกองทัพข้า ยโสโอหังแท้จริง”

ฟังยี่ยิ้มพลางมองไปรอบๆ ขณะนี้มีจอมยุทธ์นับไม่ถ้วนกำลังเหาะเหินมาจากที่ไกล ทั้งหมดต่างถูกดึงดูดจากข่าวการปะทะกันระหว่าหมู่ตึกเทวะและอาณาเขตกงเวทสวรรค์ เพราะนี่คือสงครามระหว่างสองสุดยอดขั้วอำนาจ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็จะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่แน่นอน

“ถ้าท่านสูสามารถล้างบางหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตได้ ข้าเชื่อว่านี่ถือเป็นความสำเร็จที่ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้ชื่อของท่านจะขจรขจายไปทั่วสงครามล่าครั้งนี้ด้วย” ฟังยี่ยิ้มบาง

พอได้ยินคำพูดของฟังยี่ สูป้าก็แสยะยิ้ม ในรอยยิ้มอัดแน่นไปด้วยความดุร้ายขณะที่พูดต่อ “ข้าต้องขอบคุณเจ้ามากในครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า พวกเราก็คงหาหนูที่แอบมาขโมยไม่พบหรอก”

“แต่แม้ว่าหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตจะเป็นนกในกรงแล้ว ท่านสูก็ยังคงต้องระวัง ผู้บัญชาการเสี่ยยิงเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระยะปลายสุด ถ้าเขาคิดสู้ตายก็น่าจะลำบากเอาการ” ฟังยี่เตือน

“ระดับจื้อจุนขั้นห้าระยะปลายสุดรึ?” ริ้วรอยเหยียดหยามโค้งขึ้นที่มุมปากสูป้าขณะที่พูดต่อว่า “ในกลุ่มเจ้าภูเขาทั้งสิบ ขุมพลังนี้ได้แค่รั้งท้ายเท่านั้น เสี่ยยิงยังไม่สามารถหนีไปจากเงื้อมมือข้าได้หรอก”

แม้จะพูดด้วยคำโอ้อวด แต่สูป้าก็ไม่คิดจะปล่อยให้การต่อสู้นี้ยืดเยื้อออกไป เขาสะบัดมือเตรียมพร้อมออกคำสั่งโจมตีเพื่อทำลายล้างหน่วยรบเหยี่ยวโลหิต

ฮึ่ม!

แต่จังหวะที่มือกำลังจะกดลง สีหน้าของเขาและฟังยี่ก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขารีบหันไปมองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ขณะนี้ท้องฟ้าทิศนั้นเคลื่อนไหวบ้าคลั่ง รัศมีจั้นยี่ที่น่าทึ่งกวาดพัดออกมาราวกับพายุ

พวกกองทัพต่างๆ ที่แอบมองอยู่ที่นี่ก็รู้สึกได้เช่นกัน พวกเขามองตรงไปอย่างตกใจ นี่เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดอย่างชัดเจน เพราะทุกคนรู้ว่าตอนนี้เป็นศึกระหว่างหมู่ตึกเทวะกับอาณาเขตกงเวทสวรรค์ พวกกองทัพธรรมดาไม่กล้าเข้ามาแทรกแซงหรอก เนื่องจากกลัวไฟจะลามมาถึงตัว

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ขณะที่ทุกคนให้ความสนใจ ม่านสีดำมืดก็ปรากฏบนขอบฟ้าไกลโพ้น ร่างเงาดำนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานจนสามารถมองเห็นรัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตแผ่กระจายออกมาจากร่างพวกเขา ราวกับว่าพวกเขานำพาพายุสายฟ้าที่น่าสะพรึงมา ขู่ขวัญทุกคนเมื่อมาถึงที่นี่

“ใครกล้ามาแส่เรื่องของหมู่ตึกเทวะกัน!” สูป้าจ้องมองกองทัพสีดำที่ใกล้เข้ามาด้วยดวงตาที่หดลง เขาสัมผัสได้ถึงรัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่ จึงแผดเสียงดังสะท้อนไปทั่วบริเวณราวกับฟ้าคำรนเลยทีเดียว

“ใครกัน?!”

บนท้องฟ้านอกหุบเขา กองทัพจระเข้สวรรค์ที่มีนักรบนับหมื่นก็คำรามอย่างพร้อมเพรียง ทันใดนั้นรัศมีจั้นยี่ที่น่าสะพรึงกลัวก็พวยพุ่งขึ้นเบื้องบน ทำให้ฟ้าดินถึงกับสั่นสะเทือนเลยทีเดียว

ภายใต้รัศมีจั้นยี่นี้ กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกยังต้องเลี่ยงไปก่อน!

ทว่ากองทัพที่เข้ามาใหม่กลับไม่ได้แตกขบวนแถวแต่อย่างใด ร่างสูงโปร่งปรากฏตัวด้านหน้าสุดของกองทัพในพริบตา เสียงหัวเราะคมชัดของชายวัยหนุ่มดังขึ้น “อาณาเขตกงเวทสวรรค์ หอวิหคโลกันตร์!”

“หอวิหคโลกันตร์!”

นักรบวิหคโลกันตร์สาดประกายแสงจ้าออกมาจากดวงตา รัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่ดันตัวขึ้นราวกับคลื่น เสียงคำรามก็ราวกับฟ้าคำรามที่สะท้อนไปมาไม่หยุดยั้ง ทำลายรัศมีจั้นยี่ที่กดดันของกองทัพจระเข้สวรรค์ทั้งหมด

พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยรัศมีจั้นยี่น่ากลัวสองสาย ซึ่งครอบครองท้องฟ้าคนละครึ่ง บริเวณที่รัศมีประจันหน้ากัน กระทั่งท้องฟ้ายังเกิดรอยแตกกระจายออกไป

“หอวิหคโลกันตร์?” พอได้ยินคำประกาศ ดวงตาของสูป้าก็วูบไหวด้วยความประหลาดใจ จากที่เขารู้มาหอวิหคโลกันตร์อยู่อันดับท้ายสุดของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ แต่เมื่อตัดสินจากหน่วยก้านตอนนี้ ทำไมถึงดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตอีก?

ที่ด้านข้างสูป้า ฟังยี่ที่สงบและเยือกเย็นก็เริ่มขมวดคิ้ว เขาจ้องเขม็งที่ร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าของกองทัพก็พูดเบาๆ ว่า “ท่านสู ข้อมูลล้าสมัยไปแล้ว ชายคนนี้คือผู้บัญชาการลำดับสิบของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ชื่อว่ามู่เฉิน ตอนนี้หอวิหคโลกันตร์มีผู้บัญชาการสองคน ถือเป็นเอกลักษณ์ในอาณาเขตกงเวทสวรรค์”

“มู่เฉิน?”

สูป้าอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะหัวเราะออกมา “จอมยุทธ์หนุ่มที่ดังไปทั่วภูมิภาคทางเหนือในช่วงนี้น่ะรึ…”

ทันทีที่พูดจบดวงตาของเขาก็สาดแววเหี้ยมเกรียมขณะจ้องมองมู่เฉินอย่างน่ากลัวพลางแสยะยิ้มชั่วร้าย “ไอ้เด็กเวรที่ยังไม่หย่านมกล้าที่จะช่วยเหลือคนอื่นรึ? ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจริงๆ!”

เสียงของสูป้าดังกึกก้องขึ้น ดึงดูดสายตาของกองทัพอื่นๆ พุ่งไปมองมู่เฉิน มีความอยากรู้อยากเห็นพล่านในดวงตา ชัดว่าช่วงนี้พวกเขาได้ยินกิตติศัพท์ของชื่อนี้มาบ่อยครั้ง

มู่เฉินและจิ่วโยวยืนผ่าเผยบนท้องฟ้า เมื่อหญิงสาวได้ยินคำพูดของสูป้า สายตาก็เย็นชาลงหลายส่วน ขณะที่คลื่นหลิงไร้ขอบเขตพวยพุ่งในฝ่ามือ

“เจ้าคงเป็นเจ้าภูเขาเอ่อสินะ?” มู่เฉินยิ้มอ่อนขณะมองสูป้าที่เหี้ยมหาญ ก่อนจะมองไปที่ฟังยี่ ยิ้มเอ่ยพลางประสานมือให้

“ไอ้หนูอย่ามาทำตีเนียนนับเพื่อนกับข้า รีบไสหัวไปซะ ไม่งั้นข้าจะจัดการแกด้วยเลย” ทว่าสูป้าไม่มีความเกรงใจเลย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยและดุร้าย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เห็นมู่เฉินและหอวิหคโลกันตร์อยู่ในสายตา

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น มู่เฉินก็ได้แต่ลูบจมูกพลางยิ้ม “ดูท่าจะคุยอะไรกันไม่ได้แล้วสินะ”

“รนหาที่ตาย!” สูป้าตะเบ็งเสียงน่าขนลุก จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นนักรบจระเข้สวรรค์ห้าพันคนก็แยกออกมาจากกองทัพ รัศมีจั้นยี่ดุร้ายทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

ในมุมมองของสูป้า การใช้นักรบห้าพันคนก็เพียงพอที่จะจัดการกับหน่วยรบวิหคโลกันตร์ที่มีจำนวนไม่ถึงห้าพันแล้ว เพราะก่อนหน้าหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตใช้เวลาเพียงครึ่งก้านธูปก็พ่ายแพ้หมดท่าแล้ว

ตอนนี้เขาต้องจัดการกับหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตที่แอบอยู่ในหุบเขาก่อน จากนั้นค่อยหันกลับมาจัดการหน่วยรบวิหคโลกันตร์ตามไป

ตู้ม! ตู้ม!

กองทัพจระเข้สวรรค์พุ่งผ่านขอบฟ้าขณะที่รัศมีจั้นยี่สีแดงเข้มกวาดออกไปโดยรอบราวกับทะเลโลหิต เมื่อรัศมีพวยพุ่งก็ก่อร่างเป็นเงาหอกนับสิบล้านเล่ม ซัดไปยังทิศทางของหน่วยรบวิหคโลกันตร์

การโจมตีดังกล่าวสามารถฆ่าจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าคาที่เลยทีเดียว

มู่เฉินเงยหน้ามองดงหอกครางกระหึ่มที่พุ่งเข้ามาด้วยอาการสงบ จากนั้นก็ยิ้มบางพูดว่า “รู้สึกจะดูถูกหน่วยรบข้าอยู่นะเนี่ย…”

เขายกมือขึ้น แล้วโบกลงเบาๆ

ตู้ม!

กระแสสีดำพุ่งออกมาราวกับภูเขาไฟระเบิดจากหน่วยรบวิหคโลกันตร์ ขณะที่รัศมีจั้นยี่วิหคโลกันตร์ก่อตัวก็ถักทอเป็นปีกมหึมาสีดำคู่หนึ่ง ปลายขอบปีกแหลมคนจนสามารถฉีกมิติออกจากกันได้…

วาบ!

มู่เฉินดีดนิ้ว ปีกสีดำก็หายวับไป ไม่มีใครเห็นได้ชัดเจน พวกเขาเห็นได้แต่แสงพุ่งทะลุผ่านขอบฟ้าทำลายดงหอกที่พุ่งตามเส้นทางจนแตกออกเป็นจุดแสงกระจายทั่วฟ้า…

ช่างเป็นการทำลายล้างที่ทรงพลังจริงๆ

ฟิ้ว!

ภายใต้สายตาตกตะลึงนับไม่ถ้วน แสงก็บินข้ามขอบฟ้าพุ่งเข้าปะทะกับม่านรัศมีจั้นยี่ที่ล้อมรอบหุบเขาเอาไว้

แคร็ก!

จังหวะที่ปะทะกัน ม่านแสงที่สร้างจากรัศมีจั้นยี่ของกองทัพจระเข้สวรรค์ก็แตกสลายราวกับแก้ว

ด้วยการทำลายล้างนี้ หน่วยรบเหยี่ยวโลหิตที่อยู่ในหุบเขาก็เผยตัวให้เห็น แต่ขณะนี้พวกเขาต่างมองภาพนี้อย่างตกตะลึง ชัดว่าคงเห็นการโจมตีที่น่าทึ่งของหน่วยรบวิหคโลกันตร์ด้วยเช่นกัน

สีหน้าของสูป้าเปลี่ยนไปรุนแรง แม้แต่ม่านตาของฟังยี่ที่ยืนอยู่ด้านข้างยังต้องหดลง ทั้งสองตื่นตะลึงกับการโจมตีด้วยรัศมีจั้นยี่ของหน่วยรบวิหคโลกันตร์

ใครจะคิดว่าหน่วยรบวิหคโลกันตร์ที่มีนักรบเพียงห้าพันคนจะมีรัศมีจั้นยี่ที่น่าสะพรึงขนาดนี้?!

ภายใต้สายตาตกตะลึงทั่วฟ้าดิน มู่เฉินก็ยิ้มบางมองไปที่สูป้าที่สีหน้าเขียวคล้ำ เสียงหัวเราะของเขาสะท้อนไปทั่วบริเวณ แต่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าดูถูกอีกแล้ว

“ไม่รู้ว่าตอนนี้คุยกันดีๆ ได้หรือยัง?”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset