หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 866 ยืมหน่วยรบ

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 866 ยืมหน่วยรบ

“ผู้บัญชาการเสี่ยยิง ขอข้ายืมหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตหน่อย!

เมื่อเหล่าผู้บัญชาการได้ยินคำพูดของมู่เฉิน หัวใจพวกเขาก็อดสั่นไหวไม่ได้ สายตาจับจ้องไปยังคนพูดด้วยความตะลึง มู่เฉินต้องการบัญชาวิญญาณสงครามเหยี่ยวโลหิตตอนนี้รึ?

แต่เขาจะสามารถสั่งการรัศมีจั้นยี่เหยี่ยวโลหิตขณะที่ควบคุมหน่วยรบวิหคโลกันตร์ด้วยได้จริงหรือ? ทั้งสองมีรัศมีจั้นยี่ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเชียวนะ

แม้ว่าผู้บัญชาการคนอื่นๆ จะไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับรัศมีจั้นยี่ แต่พวกเขารู้ว่าหากพลังงานที่แตกต่างกันสองอย่างมารวมกัน แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างการควบคุม ก็จะส่งผลให้คลื่นพลังกัดกร่อนผู้ใช้อย่างสาหัสสากรรจ์

แม้ก่อนหน้ามู่เฉินจะช่วยพวกเขาสร้างวิญญาณสงครามแล้ว แต่นั่นก็ค่อยๆ ทำทีละขั้น ไม่ได้รวบยอดทั้งหมดไว้ในครั้งเดียว

“ได้เลย!”

ทว่าแม้พวกเขาจะงุนงงสับสนในหัวใจไปบ้าง แต่เสี่ยยิงก็ตัดสินใจตอบตกลงทันที เขาโบกมือ หน่วยรบเหยี่ยวโลหิตก็เคลื่อนออกมาราวกับหมู่เมฆโลหิตไปที่ด้านหลังของมู่เฉิน

“ขอบใจ”

มู่เฉินแสดงความขอบคุณ จากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ สายตาคมกริบจดจ้องไปที่หน่วยรบเหยี่ยวโลหิต ทันใดนั้นเสียงคำรณก็ดังกึกก้องจากหน่วยรบเหยี่ยวโลหิต รัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่กวาดออกมา

มู่เฉินแยกส่วนหนึ่งของกระแสจิตออกมาพุ่งเข้าไปในรัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่ของหน่วยรบเหยี่ยวโลหิต

“มู่เฉินคิดจะใช้รัศมีจั้นยี่หน่วยรบเหยี่ยวโลหิตเรอะ?!”

การกระทำของมู่เฉินทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั่ว สายตาสงสัยนับไม่ถ้วนมองไปที่มู่เฉิน ชัดว่าต่างรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“มู่เฉินนี่เป็นพวกป่วยหนักจึงหาหมอไปมั่ว” ฟังยี่ขมวดคิ้ว จากนั้นก็เค้นเสียงเย็น

“เขาไม่ได้ป่วยหนักจึงหาหมอไปมั่วหรอก” ที่เบื้องหน้า จินไถหลัวหลีส่ายหน้าเบาๆ ดวงตาของนางมองไปที่มู่เฉิน ริ้วความอัศจรรย์ใจก็ผุดขึ้น “ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมรัศมีจั้นยี่ที่แตกต่างกันในเวลาเดียวกัน แต่แค่ต้องใช้ระดับการควบคุมที่เข้มงวดมาก”

“หรือว่าเขาจะทำได้?” ใบหน้าฟังยี่เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขณะที่พูด

จินไถหลิวหลีส่ายหน้าตอบ “ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่เห็นได้ชัดว่ามู่เฉินเป็นคนใจเย็นมาก ดังนั้นเขาคงไม่ทำสิ่งที่ไร้ความหมายแน่ ในเมื่อเขาเลือกทำแบบนี้ก็แสดงว่ามีความมั่นใจในระดับหนึ่ง”

แววตาของฟังยี่เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม แต่ก็ไม่อาจแย้งคำพูดของนางได้ เพราะเขาเคยสู้กับมู่เฉิน จึงเข้าใจนิสัยของอีกฝ่ายในระดับหนึ่ง สิ่งใดที่ไม่มั่นใจ น้อยมากที่มู่เฉินจะทำ

ทว่าการจะให้ฟังยี่ยอมรับก็เป็นไปไม่ได้ เขายอมที่จะเชื่อว่าตอนนี้มู่เฉินแค่พยายามดิ้นรน แม้เขาจะไม่ได้หวังว่าเซียวเทียนจะฆ่ามู่เฉินได้ แต่เขาก็ยินดีที่ชื่อเสียงของศัตรูตัวฉกาจจะย่นยับไม่เหลือชิ้นดี

“ควบคุมรัศมีจั้นยี่สองกลุ่มเรอะ? อวดอ้างซะจริง” สายตาของเซียวเทียนเย็นชาลงขณะที่จ้องมองภาพเบื้องหน้า ดวงตาเขาวูบไหว ในฐานะเป็นอัจฉริยะรัศมีจั้นยี่ เขารู้ดีว่าการกระทำของมู่เฉินเป็นโอ้อวดเพียงใด นั่นเพราะกระทั่งเขายังต้องใช้เวลานานในการควบรวมรัศมีจั้นยี่ที่แตกต่างกัน แต่จากสถานการณ์ตอนนี้ชัดว่ามู่เฉินไม่มีความเข้ากันได้สูงกับหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตเลย

ทว่าถึงจะพูดเช่นนี้ แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็โหดเหี้ยมลงอีกหลายส่วน อสรพิษเริ่มปล่อยการโจมตีดุเดือด แม้ว่าวิญญาณวิหคโลกันตร์จะถอยร่นไป แต่ก็ยังไม่พ่ายแพ้

สายตานับไม่ถ้วนในบริเวณนี้จ้องมองการต่อสู้ของสองวิญญาณสงคราม แต่สายตาที่มากกว่านั้นกลับมองไปที่รัศมีจั้นยี่บนหน่วยรบเหยี่ยวโลหิต จุดนั้นรัศมีจั้นยี่พลุ่งพล่านราวกับทะเลโลหิต พวกเขาต่างกำลังรอคอย เนื่องจากต้องการที่จะเห็นว่ามู่เฉินมีความสามารถในการควบคุมรัศมีจั้นยี่สองกลุ่มจริงหรือไม่

ครืน!

การเผชิญหน้ากันอย่างดุเดือดระหว่างรัศมีจั้นยี่สร้างพายุกวาดล้างออกมา ทำให้ทั่วมิติสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น

แต่ถึงแม้จะสั่นสะท้านร่างมู่เฉินก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน เขาหลับตาลงตัดความวุ่นวายของภายนอกออก กระแสจิตเข้าควบคุมความมุ่งมั่นของตนหล่อหลอมเข้าไปในรัศมีจั้นยี่เหยี่ยวโลหิตอย่างรวดเร็ว

เขาหลับตาอยู่กว่าสิบลมหายใจ ก่อนจะค่อยๆ เปิดดวงตาขึ้นอย่างช้าๆ แสงสีแดงวูบไหวอยู่ในดวงตาส่วนลึก

ตู้ม!

จังหวะที่มู่เฉินลืมตากว้าง รัศมีจั้นยี่เหยี่ยวโลหิตก็ระเบิดออกพร้อมกับลำแสงสีโลหิตพวยพุ่งขึ้นสู่ขอบฟ้า เริ่มถักทอเข้าด้วยกัน

สายตาตะลึงงันนับไม่ถ้วนจ้องมองฉากนี้ แต่ไม่นานก็เปลี่ยนไปเป็นความตกตะลึง เพราะพวกเขาเห็นว่าเหยี่ยวโลหิตตัวมหึมากำลังสยายปีกออกจากจุดที่เสาแสงสีแดงประสานกัน บนร่างเหยี่ยวยักษ์มีลวดลายจั้นเหวินแผ่กระจายพร้อมกับเปล่งรัศมีจั้นยี่ที่น่าทึ่ง

กีด!!!

เสียงคมชัดสะท้อนออกไปทั่วบริเวณ ผู้คนจำนวนมากอดไม่ได้ที่จะอ้าปากตาค้างเมื่อเห็นภาพเหยี่ยวโลหิต ก่อนที่จะสูดลมหายใจเย็นสุดขั้วเข้าไปในปอด

ไม่เพียงแต่มู่เฉินจะบัญชารัศมีจั้นยี่เหยี่ยวโลหิตได้ เขายังสามารถสร้างวิญญาณสงครามของหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตขึ้นมาได้อีกด้วย!

นี่ไม่ได้หมายความว่ามู่เฉินสามารถควบคุมวิญญาณสงครามสองกองทัพในเวลาเดียวกันรึ?!

“ไอ้เวรนั่น เป็นไปได้อย่างไร?!” ใบหน้าของฟังยี่เขียวคล้ำ ขณะที่สายตาเคร่งเครียดลงหลายส่วน มู่เฉินเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่พบกันจริงๆ

“สร้างได้กระทั่งวิญญาณสงครามเหยี่ยวโลหิตเหรอ” ริ้วความอัศจรรย์ใจวูบไหวในดวงตาของจินไถหลิวหลี นางมองไปที่รัศมีจั้นยี่เหยี่ยวโลหิตแล้วพูดเสียงแผ่วเบา “มีลวดลายสามพันลายบนวิญญาณสงครามเหยี่ยวโลหิต แม้เทียบหน่วยรบวิหคโลกันตร์ไม่ได้ ดูท่ามู่เฉินจะควบคุมรัศมีจั้นยี่ของหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตได้ไม่เท่าหน่วยรบวิหคโลกันตร์”

“แต่ด้วยรัศมีจั้นยี่สองกองทัพก็เพียงพอที่เขาจะรับมือเซียวเทียนได้แล้ว”

ขณะที่วิญญาณสงครามเหยี่ยวโลหิตปรากฏขึ้น สีหน้าของเซียวเทียนก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขามองมู่เฉินพลางเอ่ยอย่างมืดมน “ไม่คิดว่าเจ้าจะมีกลยุทธ์ใช้ได้เลย!”

มู่เฉินมองอย่างไม่แยแส ไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลย ตราประทับในมือเปลี่ยนไป วิญญาณสงครามเหยี่ยวโลหิตก็คำราม ก่อนจะกระพือปีกทั้งสองแล้วไปปรากฏเหนือร่างเซียวเทียนในพริบตา เมื่อปีกสะบัดขนโลหิตนับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมา สร้างรอยยาวไว้บนมิติ

“บ้าเอ้ย!”

เผชิญหน้ากับการโจมตีของวิญญาณสงครามเหยี่ยวโลหิต สีหน้าของเซียวเทียนก็มืดครึ้ม เขาไม่กล้ารอช้า จิตใจเคลื่อนไหว อสรพิษก็หยุดปล่อยการโจมตีศัตรูแล้วกวาดหางทำลายขนโลหิตแตกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อวิญญาณสงครามอสรพิษหยุดโจมตี วิญญาณสงครามวิหคโลกันตร์ก็พุ่งออกมาทันที โดยเล็งเป้าไปที่อสรพิษยักษ์ร่วมแรงประสานกับเหยี่ยวโลหิตจากบนและล่าง

ตู้ม!

วิญญาณสงครามทั้งสามโรมรันพันตูกัน ไม่นานทั้งมู่เฉินและเซียวเทียนก็สาดไอเย็นยะเยือกในดวงตา วินาทีต่อมาวิญญาณสงครามทั้งสามก็พุ่งตัวออกพร้อมรัศมีจั้นยี่รุนแรงปะทะกันเปรี้ยงปร้าง

ไม่มีกลยุทธ์อะไรในการปะทะนี้ ทั้งสองฟาดฟันด้วยพลังรัศมีจั้นยี่ล้วนๆ ในตอนแรกอสรพิษแข็งแกร่งกว่าวิหคโลกันตร์อย่างชัดเจน แต่เมื่อมีเหยี่ยวโลหิตเข้าร่วมสมรภูมิ อสรพิษก็เริ่มถูกยับยั้งเอาไว้ ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ฝั่งตำหนักสุดนภา ใบหน้าของหลิ่วเหยียนน่าเกลียดอย่างยิ่ง เมื่อเห็นสถานการณ์กลับตาลปัตร เขาไม่คิดเลยว่าหลังจากเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตรายนี้ มู่เฉินยังมีไพ่ตายซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้ออีก

“ไอ้บ้านั่น!”

หลิ่วเหยียนกัดฟันด้วยความโกรธแค้นพลุ่งพล่านเต็มหัวใจ แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้

ครืน!

บนท้องฟ้า วิญญาณสงครามทั้งสามห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน การปะทะกันแต่ละครั้งทำให้เกิดความผันผวนไปทั่วมิติโดยรอบ ครั้งสุดท้ายที่วิญญาณสงครามทั้งสามปะทะกันเต็มกำลัง ก็ต่างโดนซัดจากคลื่นกระแทกจนแตกสลายเป็นจุดแสงเต็มฟ้าภายใต้สายตาประหลาดใจนับไม่ถ้วน

ทั้งสองฝ่ายสู้กันอย่างสูสีเลยทีเดียว!

“เป็นไปได้ยังไง?!”

ดวงตาของเซียวเทียนกลายเป็นสีแดงกับภาพนี้ แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเสมอกัน แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้ ตัวเขาควบคุมหน่วยรบชั้นยอดของตำหนักสุดนภา ขณะที่มู่เฉินมีเพียงหน่วยรบวิหคโลกันตร์ที่อ่อนแอ ถึงจะมีหน่วยรบเหยี่ยวโลหิตเข้ามาร่วมประสาน แต่ก็มีจำนวนพลแค่หมื่นกว่าคนเท่านั้น ซึ่งยังด้อยกว่าหน่วยรบสุดนภาของเขา ดังนั้นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดเอาไว้เลย

“กองทัพระดับนี้ตกอยู่ในมือแกเสียดายของชะมัด” มู่เฉินมองเซียวเทียนอย่างไม่แยแส น้ำเสียงราบเรียบของเขากลับทำให้อีกฝ่ายตาลุกเป็นไฟ

“รนหาที่ตาย!”

เซียวเทียนคำรามกำลังจะสั่งให้หน่วยรบสุดนภาเข้าโรมรันกับมู่เฉินอีกครั้ง ทว่าหลิ่วเหยียนกลับมาปรากฏตัวที่ด้านข้าง หยุดเขาไว้ด้วยสีหน้ามืดมน

ตำหนักสุดนภาได้รับคำสั่งจากบิดาเขาให้ตรวจสอบซากอารยธรรมความตาย ถ้าพวกเขาพ่ายแพ้ในการประลองระหว่างรอ พวกเขาก็ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายต่อไปได้

ในความคิดของหลิ่วเหยียน เขาแค่ต้องการใช้ความสามารถของเซียวเทียนในการทำลายความมั่นใจของมู่เฉินก่อนเข้าสู่ซากอารยธรรม เพื่อทำให้ชื่อเสียงอีกฝ่ายเสียหายย่อยยับ แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะเปิดศึกอย่างเต็มรูปแบบ

“ค่อยจัดการมันหลังจากเข้าไปในซากอารยธรรมความตาย” หลิ่วเหยียนหันมาพูดกับเซียวเทียน

เซียวเทียนฉายสีหน้าอำมหิตขณะที่จ้องมองมู่เฉินด้วยดวงตาแดงก่ำ ก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้อถอยไป

มู่เฉินเฝ้ามองฉากนี้อย่างสงบ เมื่อเห็นเซียวเทียนถอยออกไป แววตาเย็นชาก็กวาดมองไปที่ฟังยี่ ก่อนที่น้ำเสียงเยือกเย็นจะเปล่งออกมา “มีใครยังสงสัยคุณสมบัติของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ของข้าอีกไหม?”

โดยรอบเงียบสงัดไม่มีใครกล้าเปิดปากทักท้วงมู่เฉินสักคน กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกยังมีแววหวาดเกรงฉายในดวงตา

มู่เฉินได้แสดงพลังเป็นที่ประจักษ์ในครั้งนี้แล้ว!

สีหน้าของฟังยี่มืดครึ้ม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร

เมื่อรับรู้ถึงความเงียบงัน มู่เฉินก็ไม่พูดอะไรอีก เขาหันหลังเตรียมกลับไปรวมตัวกับพรรคพวก

ตึง!

ทว่าจังหวะที่มู่เฉินหันไปนั้น เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นก็ดังขึ้น นี่เป็นเสียงโห่ร้องที่ฟังเหมือนกับเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดของเหล่านักรบ จิตสังหารที่อัดแน่นในเสียงคำรามคั่งแค้นทำให้ฟ้าดินถึงกับมืดลง

การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ ทำเอาเหล่าจอมยุทธ์ถึงกับสะดุ้งโหยง ก่อนที่พวกเขาจะเงยหน้าขึ้นแววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงขณะที่มองไปยังซากโบราณที่อยู่ในความมืดมิด

เสียงร้องผิดแผกนั้นเปล่งออกมาจากซากอารยธรรมความตาย!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset