หลังจากซื้อลูกผลึกแสงสามลูกมาแล้ว
มู่เฉินก็ไม่คิดที่จะเปิดทันที เพราะกลัวว่าเมื่อสมบัติเปิดออกมาจะไปดึงดูดความสนใจผู้คนอีก แม้ว่าเขาจะไม่กลัว แต่การมีปัญหาก็น่าปวดหัวไม่น้อย
นอกจากนี้เขาก็ไม่อยากให้คนขายรู้ว่าตัวเขามีวิธีพิเศษในการเปิดผนึก กลัวว่าอีกฝ่ายจะเกิดความคิดไม่ดีจนทำให้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นเขาจึงเก็บลูกผลึกแสงไปก่อน เขากวักมือให้หานซันและจิ่วโยวจากนั้นทั้งกลุ่มก็จากไปอย่างว่องไว ภายใต้สายตาเศร้าสลดของคนขายร่างผอม
“เราซื้อของที่ต้องการครบแล้ว… ต้องใช้เวลาอีกสองวันกว่าจะเดินทางไปถึงสุสานหมื่นอสูร นี่ก็เย็นมากแล้วข้าแนะนำให้พักที่นี่สักวันแล้วพรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ” เมื่อทั้งสองกลุ่มมารวมตัวกัน หานซันก็เอ่ยแนะนำ
มู่เฉินไม่ได้คัดค้านเพราะเขาต้องการสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อเปิดผนึกลูกผลึกแสงทั้งสามอยู่พอดี แม้ว่าตลาดเสรีจะเต็มไปด้วยผู้คน แต่ก็ยังปลอดภัยกว่าในป่า
เมื่อหานซันเห็นว่าไม่มีใครคัดค้านก็มุ่งหน้าไปทางตะวันตกของตลาดเสรี มีเจดีย์หินซึ่งบางส่วนถูกคนจองไว้แล้ว เห็นได้ชัดว่าที่นี่เป็นที่พักผ่อนของจอมยุทธ์เผ่าต่างๆ
พวกมู่เฉินมองหาเจดีย์ว่างแล้วเข้าไปพักที่ภายใน ทุกคนหลับตาเพื่อเข้าสู่สมาธิ ขณะที่มู่เฉินนั่งลงตรงมุมก็สะบัดแขนเสื้อ ลูกผลึกแสงสามลูกลอยคว้างอยู่ที่เบื้องหน้า
ลูกผลึกแสงทั้งสามถูกปกคลุมด้วยอักขระจางๆ ซึ่งน่าจะเป็นอักขระผนึก
ที่มุมหนึ่งจิ่วโยว มั่วเฟิงและมั่วหลิงก็มองลูกผลึกแสงทั้งสามด้วยความสนใจ พวกเขาอยากรู้เหมือนกันว่ามู่เฉินจะได้อะไรจากลูกผลึกแสงทั้งสามนี้?
ในเจดีย์หิน เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของมู่เฉิน แม้แต่หานซันก็มองมาด้วยความอยากรู้เช่นกัน เขารู้ว่าก่อนหน้ามู่เฉินเปิดผนึกชิ้นหนึ่งได้ทำให้ได้รับแก่นเพลิงหงส์ฟ้าจนไปดึงความสนใจจากฉื้อหงหวู่เข้า เขารู้สึกอิจฉาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากราคาของแก่นเพลิงหงส์ฟ้าเกินกว่าของเหลวจื้อจุนห้าแสนหยดที่จ่ายไปมากเลยทีเดียว
มู่เฉินไม่สนใจสายตาคนอื่น เขาหยิบลูกผลึกแสงมาลูกหนึ่ง จากนั้นก็บีบจนแตก ลูกแสงเย็นเยือกตกลงมาในมือ เขาเห็นว่าบนพื้นผิวมีอักขระสีแดงเข้มชัดเจน ความผันผวนที่ปล่อยออกมายังเหมือนกับลูกก่อนหน้า เห็นได้ชัดว่าถูกประทับไว้ด้วยอักขระของมหาเทพอสูรเช่นกัน
มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ จากนั้นก็เริ่มทำงานจากด้านในอีกครั้ง เขาสร้างค่ายกลขนาดเล็กอันประณีตก่อนที่จะเทคลื่นพลังของมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงลงไปภายใน ค่อยๆ กัดกร่อนผนึกที่สมบูรณ์แบบเพื่อจะแหวกช่องโหว่ออก
มู่เฉินหลับตาครู่หนึ่งก่อนที่จะเปิดขึ้น นั่นเพราะเขารู้สึกได้ถึงผนึกบนพื้นผิวของลูกผลึกแสงเริ่มมีช่องโหว่ให้เห็นแล้ว
เขาไม่ลังเลกำหมัดขึ้นทันใดนั้นก็ควบคุมคลื่นหลิงอัดเข้าไป ขณะเดียวกันพลังงานก็ระเบิดตัวผลึกจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ประกายแสงระยิบระยับกระจายออกไป
เมื่อแสงสลายลง ทุกคนหันไปมองก็เห็นแสงสีม่วงเข้มรวมตัวกันในฝ่ามือของมู่เฉิน แสงสีม่วงเข้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว พริบตาก็เปลี่ยนเป็นชุดเกราะสีม่วงเข้มเพรียวบาง
ชุดเกราะะถูกแกะสลักด้วยลวดลายโบราณที่มีเงาภาพนูนสูงต่ำมากมาย กระจายด้วยความผันผวนที่ลึกซึ้ง มิหนำซ้ำยังปลดปล่อยคลื่นพลังน่าอัศจรรย์ออกมาเลือนรางด้วย
ชุดเกราะเพรียวบางพร้อมกับรูปร่างโค้งเว้าเห็นได้ชัดว่าเป็นของสตรี
มู่เฉินประหลาดใจไปเมื่อมองชุดเกราะสีม่วงเข้ม หลังจากเทคลื่นหลิงลงไป ระลอกคลื่นทรงพลังก็ระเบิดออก ก่อตัวเป็นชั้นป้องกันรอบตัวเกราะ
ตู้ม!
มู่เฉินกำหมัดชกลงบนเกราะอย่างหนักหน่วง ชั้นการป้องกันพังทลายลงทีละชั้น แต่ขณะเดียวกันพลังงานบนกำปั้นของมู่เฉินก็หมดลงเร็วเช่นกัน เมื่อกำปั้นแตะลงบนเกราะก็เพียงสร้างรอยตื้นเอาไว้แล้วก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว
“ช่างเป็นการป้องกันที่ทรงพลัง!”
เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ก็หดดวงตาลง กำปั้นของเขาอาจดูบอบบาง แต่พลังที่ใส่ลงไปแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ตอนนี้ชุดเกราะกลับป้องกันการโจมตีของเขาได้อย่างสมบูรณ์
“ของดี นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพคลื่นหลิงด้วย…”
มู่เฉินอดไม่ได้ที่จะชื่นชม ไม่เพียงแต่ชุดเกราะนี้มีความสามารถในการป้องกันที่ทรงพลัง แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพคลื่นหลิงจนทำให้ความแข็งแกร่งในการต่อสู้เพิ่มขึ้นด้วย
แค่สองอย่างนี้ก็ทำให้ชุดเกราะนี้เปรียบได้กับอาวุธพบสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นวัตถุโดดเด่น ราคาสูงเกินกว่าของเหลวจื้อจุนห้าแสนหยดเช่นกัน
“ของดี!”
เมื่อหานซันเห็นสิ่งนี้ ดวงตาก็อดโชนแสงไม่ได้
มู่เฉินยิ้มแล้วสะบัดนิ้ว ชุดเกราะก็บินไปหาจิ่วโยว ในเมื่อชุดเกราะเป็นของสตรี ถ้าจิ่วโยวครอบครองละก็พลังในการต่อสู้ของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย
มองไปที่ชุดเกราะที่พุ่งมายังทิศที่นางอยู่ จิ่วโยวก็ตกตะลึงก่อนที่จะยิ้ม นางไม่ได้ปฏิเสธกลับเรียกเข้ามาด้วยการสะบัดมือก่อนที่ชุดเกราะจะลอยคว้างอยู่เบื้องหน้า นางเปิดริมฝีปากสีแดงชาดเล็กน้อย คลื่นหลิงก็พรั่งพรูออกมาชำระชุดเกราะอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถูกดึงเข้าสู่ร่างกายของนาง
มอบชุดเกราะให้แก่จิ่วโยวแล้ว มู่เฉินก็หันความสนใจไปที่ลูกผลึกแสงอีกสองลูก สุดท้ายผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาด มู่เฉินจัดการกับผนึกโบราณได้สำเร็จ
เมื่อเปิดผนึกเสร็จเรียบร้อย สมบัติที่ปรากฏขึ้นก็ดึงดูดความสนใจของทุกคน
มีสมบัติสองอย่าง หนึ่งในนั้นเป็นเขาสีดำ รูปร่างโค้งเหมือนธนูที่เต็มไปด้วยรอยกะดำกะด่าง มิหนำซ้ำยังมีรัศมีเหี้ยมหาญน่าอัศจรรย์เปล่งออกมาอย่างคลุมเครือ
เมื่อมู่เฉินมองไปก็ต้องอึ้ง เพราะเขาพบว่าวัตถุนี้คล้ายคลึงกับเขาที่ปรากฏบนร่างเทพอสูรของหานซัน
ดังนั้นเขาจึงมองไปหานซันก็เห็นว่าจอมยุทธ์เผ่าแรดอสูรจ้องมองมาด้วยดวงตาแดงก่ำ… สายตาตกอยู่ที่เขาดำในมือ
“นี่คือเขาของเผ่าแรดอสูรเหรอ?” มู่เฉินค่อนข้างประหลาดใจขณะเอ่ยปากถาม
สายตาของหานซันยังยึดติดอยู่ที่เขาสีดำขณะหายใจหนักหน่วง “น่าจะเป็นของบรรพบุรุษของเผ่าแรดอสูร เขาทรพีของเผ่าพันธุ์ข้าเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดพร้อมด้วยรัศมีร้ายกาจที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเพาะบ่มของเผ่า แม้ว่าเขาชิ้นนี้จะสึกกร่อนจากกาลเวลา แต่ถ้านำติดตัวไปกับพวกข้าก็จะเร่งวิทยายุทธที่ฝึกฝนได้”
มู่เฉินเข้าใจแล้วว่าทำไมดวงตาของจอมยุทธ์เผ่าแรดอสูรถึงเปลี่ยนเป็นสีแดง ทว่าแม้วัตถุนี้จะช่วยในการเพาะบ่มพลังสำหรับเผ่าแรดอสูร แต่มันกลับไม่เป็นประโยชน์กับพวกมู่เฉินมากนัก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการรัศมีที่น่ากลัวแบบนี้
“พี่มู่…”
ลมหายใจของหานซันสงบลงพลางมองมาที่มู่เฉินอย่างกระอักกระอ่วน “ไม่รู้ว่าเจ้าขายของนี่ให้พวกข้าได้ไหม?”
มู่เฉินเหลือบมองจิ่วโยวและมั่วเฟิง ทั้งคู่ต่างยักไหล่ วัตถุนี้เป็นสมบัติของเผ่าแรดอสูร แต่กลับไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงสำหรับพวกเขา ดังนั้นหากหานซันเสนอราคาที่เหมาะสม ขายให้พวกเขาก็ดี
เมื่อเห็นการตอบสนองของพวกเขา มู่เฉินก็ยิ้มโยนเขาสีดำไปทางหานซัน “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พี่หานก็ให้ตามความเหมาะสมเถอะ”
เขาไม่ได้ยกให้เปล่าๆ เพราะหานซันเทียบกับความสัมพันธ์ของเขากับจิ่วโยวและมั่วเฟิงไม่ได้ ถ้าเขาให้ไปโดยไม่คิดราคาก็คงไม่เหมาะเท่าไร เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในการแบ่งผลเก็บเกี่ยวที่ร่วมมือในอนาคต
หานซันรับเขาไปอย่างระมัดระวังและลูบราวกับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า ก่อนที่จะเผยสีหน้าลึกซึ้ง เขาหันหลังกลับกระซิบกระซาบกับสหายข้างหลัง สุดท้ายก็โยนขวดหยกไปให้มู่เฉิน
“พี่มู่ เขาทรพีนี้ไร้ประโยชน์ต่อผู้อื่น แต่กลับเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับพวกข้า หากวางไว้ในโรงประมูลในมหาพันภพราคาอาจจะเกินสองล้านหยดของเหลวจื้อจุน”
หานซันทำท่าอายเล็กน้อยขณะที่พูดต่อ “แต่ตอนนี้พวกข้ามีของเหลวจื้อจุนที่ใช้ได้เพียงสองล้านหยด ซึ่งบรรจุอยู่ในขวดนี้ แบบนี้ที่จริงพวกข้าจะได้เปรียบไป…”
“สองล้านหยด?”
มู่เฉินอดตะลึงงันไม่ได้ จากนั้นเขาก็แอบเดาะลิ้น ตอนแรกเขาคิดว่าหากวัตถุนี้สามารถขายได้สักล้านหยดก็ดีเกินพออยู่แล้ว ไม่คิดว่าเขายังประเมินความสำคัญของสิ่งนี้ต่อเผ่าแรดอสูรต่ำไป
ของเหลวจื้อจุนสองล้านหยด ชดเชยค่าซื้อลูกผลึกแสงทั้งหมดของเขาเลยทีเดียว
“งั้นก็สองล้านหยดตามนี้”
มู่เฉินรับขวดหยกพลางยิ้มเรียบง่าย ราคาดังกล่าวเกินคาดเขาไปมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องต่อรองราคาที่เหลือให้มาก เพราะทั้งสองฝ่ายยังต้องร่วมมือกันอีก
หานซันพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง จอมยุทธ์เผ่าแรดอสูรก็จ้องมองด้วยความปรารถนาดี เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความรู้สึกที่ดีต่อมู่เฉินเพิ่มขึ้นมาก
หลังจากมู่เฉินเห็นพวกหานซันลูบเขาทรพีราวกับสมบัติล้ำค่า เขาก็ไม่ใส่ใจหันไปมองวัตถุชิ้นสุดท้าย…
วัตถุนี้มีสีเงินขนาดประมาณเท่ากำปั้นผิวหยาบ มองดูราวกับหัวใจ สามารถได้ยินเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องอย่างเลือนราง
มู่เฉินจ้องมองวัตถุนี้ สายตาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ว่าวัตถุนี้ดูเหมือนจะบรรจุพลังงานที่น่ากลัวและรุนแรง หากพลังงานระเบิดออกมาแม้แต่เขาก็อาจทนไม่ได้
“นี่คืออะไร?”
มู่เฉินมองไปที่พวกจิ่วโยวด้วยท่าทางสงสัย เห็นชัดว่าเขาไม่สามารถระบุได้ว่าวัตถุนี้คืออะไร
จิ่วโยวกับมั่วเฟิงขมวดคิ้วขณะที่ไตร่ตรองเกี่ยวกับสิ่งนี้ ไม่นานก็เป็นหานซันที่เงยหน้าขึ้นจากเขาทรพีอย่างอ้อยอิ่ง เขามองที่หัวใจสีเงินด้วยความประหลาดใจครุ่นคิดอยู่สั้นๆ ก่อนที่จะพูดว่า “ถ้าข้าเดาได้ถูกต้องวัตถุนี้น่าจะเป็นหัวใจพาฬกินสายฟ้า เป็นของหายากมากแม้แต่ในสมัยโบราณ…”
เมื่อได้ยินคำพูดนี่ ดวงตาของมู่เฉินก็หดลงประกายแสงวูบไหวในดวงตา
“หัวใจพาฬกินสายฟ้ารึ?”