หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1067 หอกอสูรตัดหัวปีศาจ

ตู้ม!

พร้อมกับเสียงคำรามของมู่เฉิน มหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตที่ปกคลุมท้องฟ้าเหนือแท่นบูชาก็พวยพุ่งขึ้นอย่างสมบูรณ์ ราวกับว่ามีน้ำหนักสิบล้านจิง เมื่อรัศมีจั้นยี่ม้วนตัวก็ทำให้มิตแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ทุกคนสัมผัสได้ถึงพลังที่แฝงอยู่ในรัศมีจั้นยี่น่าสะพรึงกลัว

“เขาทำสำเร็จ?!”

เมื่อได้เห็นมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ ผู้คนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ความสุขและตื่นตะลึงวูบไหวในดวงตาพร้อมกัน แม้ว่าสติจะบอกว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับมู่เฉินที่สามารถสั่งการกองทัพอสูรสวรรค์ได้ แต่ก็มีอารมณ์บางอย่างก่อความชั่วร้ายในจิตใจ ทำให้ความรู้สึกอิจฉาหนาแน่นพล่านในส่วนลึกของหัวใจ

นั่นเป็นเพราะพวกเขาเข้าใจว่าถ้าในอดีตพวกเขาแค่หวาดเกรงต่อมู่เฉิน งั้นตอนนี้มู่เฉินที่สั่งการกองทัพอสูรสวรรค์ได้ก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างแท้จริง

ความกลัวนี้คล้ายกับการเผชิญหน้าผู้อาวุโสทรงอำนาจในเผ่าพันธุ์ที่สามารถปราบปรามพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ด้วยการพลิกมือ

พวกเขายังเข้าใจด้วยว่าถ้าตอนนี้มู่เฉินออกกระบวนท่าใส่พวกเขา เพียงแค่คิดพวกเขาทั้งหมดที่นี่ก็จะตายโดยไม่มีการต่อต้านใดๆ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจรอดชีวิตไปได้

แม้แต่ไป๋หมิง ไป๋ปิงและจอมยุทธ์เผ่าหงส์ฟ้าก็เข้าใจในจุดนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่กลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วลดสายตาลง มากจนกระทั่งพวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองร่างมู่เฉิน กลัวว่าอาจจะไปยั่วยุเอาได้ ถ้ามู่เฉินเกิดบ้าคลั่งขึ้นมา ทุกคนที่นี่ได้ตายในอ่างเลือดแน่

มู่เฉินในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถยุแหย่ได้

“เขาทำสำเร็จ แต่…” จิ่วโยวไม่ได้รู้สึกโล่งใจกับความจริงที่มู่เฉินสามารถสั่งการกองทัพได้ สายตาของนางจับจ้องไปที่ร่างคลุมเครือที่ปรากฏในมหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ขนาดใหญ่ เส้นเลือดที่เต้นระริกอยู่บนท่อนแขนของมู่เฉินพล่านขึ้นไปบนใบหน้า หยดเลือดไหลลงมาจากหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่ามู่เฉินกำลังทรมานอย่างน่ากลัวในหัวสมอง

แม้ว่าราชินีวิหคอมตะจะมอบวัตถุป้องกันให้ แต่ก็ยังเป็นภาระหนักหนาสำหรับมู่เฉินที่จะสั่งรัศมีจั้นยี่ที่ทรงพลังเช่นนี้

ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้มู่เฉินต้องได้รับการตอบโต้จากรัศมีจั้นยี่

ฮา…

ภายใต้การจ้องมองอย่างกระวนกระวายของจิ่วโยว มู่เฉินก็สูดหายใจเข้าลึกสุดปอด ระงับความเจ็บปวดที่รุนแรงในศีรษะด้วยความยากลำบาก ขนนกแสงปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้ว เพราะมีสิ่งนี้ช่วยปกป้องสติไว้ได้ ไม่เช่นนั้นสมองของเขาคงถูกทำลายจากรัศมีจั้นยี่ที่น่ากลัวไปนานแล้ว

“ข้ามีโอกาสครั้งเดียวเท่านั้น…”

ภายใต้ความเจ็บปวดที่รุนแรง จิตใจของมู่เฉินกลับสงบนิ่งอย่างผิดปกติ เขาสัมผัสเจตจำนงรัศมีจั้นยี่ทรงพลังที่ล้อมรอบกาย เขารู้ว่าขนนกราชินีวิหคอมตะสามารถใช้ได้ครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดด้านเวลาอีกด้วย หากเขาไม่สามารถโจมตีปีศาจโดยกองทัพอสูรสวรรค์รวดเดียวจบ เขาก็ต้องยอมแพ้ในการสั่งการกองทัพ มิฉะนั้นเขาจะตายทันทีที่รัศมีจั้นยี่ตีกลับ

คิดถึงจุดนี้ก็ไม่มีคลื่นใดในหัวใจของมู่เฉินอีกต่อไป เขาเงยหน้าที่เส้นเลือดเต้นยุบยับขึ้น มองไปที่ใบหน้าปีศาจมหึมาที่ถูกพันธนาการโดยราชันทั้งสาม อึดใจมือของเขาก็ประสานกันก่อร่างตราประทับ ป้ายหินสั่นสะเทือนที่เบื้องหน้า

“กองทัพอสูรสวรรค์แสดงให้ข้าเห็นว่ารัศมีจั้นยี่ของพวกเจ้าทรงอำนาจแค่ไหน!”

ตู้ม!

เมื่อเสียงของมู่เฉินดังก้องในหัวใจ มหาสมุทรรัศมีจั้นยี่ที่เบื้องหน้าก็ระเบิดอย่างรุนแรง สายธารนับไม่ถ้วนพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนที่จะรวมตัวกัน

ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจรัศมีจั้นยี่ไร้ขอบเขตก็จางหาย หอกอสูรโบราณที่มีความยาวเกินคณนาก็ลอยอยู่ในอากาศ

หอกอสูรสลักด้วยลวดลายจั้นเหวินที่หนาแน่นคลุมเครือ ทว่าพลังที่ปล่อยออกมาจากหอกนั้นสามารถเปลี่ยนสีหน้าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนได้เลย

เมื่อเผชิญหน้ากับรัศมีจั้นยี่ยิ่งใหญ่ ก็เป็นไปไม่ได้ที่มู่เฉินจะควบคุมได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นเขาจึงได้แต่ควบรวมรัศมีจั้นยี่ไว้ด้วยกัน พยายามปลดปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

“หอกอสูร ปราบมาร!”

รัศมีจั้นยี่ไหลออกมาราวกับสสารจากดวงตาของมู่เฉิน อึดใจต่อมาหอกมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นจากรัศมีจั้นยี่ก็ทะลุผ่านมิติ เคลื่อนตัวออกไปปรากฏต่อหน้าใบหน้าปีศาจในพริบตา

โฮก! โฮก!

ใบหน้าปีศาจรับรู้ได้ถึงการโจมตีน่ากลัวที่เข้าร่วมในการต่อสู้ ทันใดนั้นร่างเงาปีศาจบนใบหน้านับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงคำรามราวกับสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามจากการทำลายล้างยิ่งใหญ่

ใบหน้าปีศาจไม่คิดว่านอกเหนือจากร่างดวงจิตสามราชัน จะยังมีการโจมตีที่น่ากลัวเข้าร่วมในสมรภูมิอีก

ตู้ม! ตู้ม!

รัศมีปีศาจน่าสยดสยองพุ่งพรวดออกมาจากใบหน้าปีศาจพยายามจะสะบัดให้หลุดพ้นจากพันธนาการของสามราชัน ทว่าทั้งสามจะปล่อยให้เป็นไปตามที่ใบหน้าปีศาจวางแผนไว้ได้อย่างไร? ทันใดนั้นพวกเขาก็หมุนเวียนคลื่นพลังทั้งหมด ทำให้โซ่ตรวนแข็งแรงขึ้น

ปัง! ปัง!

รัศมีปีศาจระเบิด ทำให้โซ่ตรวนสั่นสะเทือนไม่หยุดหย่อน แต่ใบหน้าปีศาจก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้

ฟิ้ว!

ขณะนี้เองหอกอสูรขนาดใหญ่ที่ควบแน่นจากรัศมีจั้นยี่ทรงพลังของกองทัพอสูรสวรรค์ก็กวาดออกไป พุ่งเข้าใส่กลางหว่างคิ้วของใบหน้าปีศาจโดยไม่ลังเล

ฮึ่ม!

รัศมีปีศาจป่าเถื่อนพุ่งออกจากหว่างคิ้วปีศาจรุนแรง ก่อร่างเป็นเงาปีศาจนับไม่ถ้วนที่ส่งเสียงหวีดหวิวพยายามกลืนกินหอกอสูร

ปัง! ปัง!

ทว่ารัศมีจั้นยี่ที่บรรจุแน่นอยู่ในหอกอสูรทรงพลังอย่างมาก ขณะที่ปีศาจนี้ไม่ใช่การดำรงอยู่แท้จริงของจอมพลปีศาจ เป็นเพียงสิ่งที่ก่อจากเจตจำนง ดังนั้นจึงแตกสลายทันทีที่สัมผัสกับรัศมีจั้นยี่น่าสะพรีงกลัว

ปุ!

เงาปีศาจระเบิดแล้วเหือดหายไป ส่วนหอกอสูรยังคงซัดไปที่หว่างคิ้วปีศาจ รัศมีจั้นยี่ที่ทรงประสิทธิภาพกวาดล้างออกไปทันที

โฮก!

ปากที่ดูน่ากลัวของปีศาจปลดปล่อยเสียงกรีดร้องสยองขวัญ หอกอสูรที่แทงลงตรงหว่างคิ้วทำให้รัศมีปีศาจของใบหน้าปีศาจปั่นป่วน การระเบิดเกิดขึ้นภายใน ทุกครั้งของการระเบิดรุนแรงจะทำให้ใบหน้าปีศาจหดขนาดลงอย่างรวดเร็ว

ปัง! ปัง!

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจขนาดของใบหน้าปีศาจหลายหมื่นจั้งก็ถูกย่อลงเหลือเพียงพันจั้งเห็นจะได้ รัศมีปีศาจเชี่ยวกรากก็ลดน้อยลงเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าการจู่โจมจากมู่เฉินซึ่งใช้ประโยชน์จากกองทัพอสูรสวรรค์ก่อให้เกิดภัยคุกคามครั้งใหญ่

“ฆ่ามัน!”

เมื่อราชันทั้งสามเห็นภาพนี้ ความสุขก็ฉาบบนดวงตา พวกเขาทั้งสามออกกระบวนท่าอย่างเต็มกำลังทันที โซ่ตรวนขนาดใหญ่ที่พันธนาการไว้กับใบหน้าปีศาจก็รัดแน่นไม่ปล่อยให้แม้แต่กลิ่นอายปีศาจเล็ดลอดออกมาได้

มองจากที่ไกลใบหน้าปีศาจดูราวกับลูกแสงที่ถูกรัดด้วยโซ่

อ็อก!

ราชันทั้งสามพ่นเลือดออกมาเต็มปาก เลือดเคลื่อนไหวยึกยือก่อร่างเป็นอักขระโบราณสามตัว ตกลงบนลูกแสงอย่างช้าๆ และรวมเข้ากันอย่างรวดเร็ว

โฮก!

เมื่ออักขระโลหิตโบราณรวมเข้าด้วยกัน เสียงคำรามของความสิ้นหวังก็ดังก้องจากใบหน้าปีศาจ

“ในเมื่อตายไปก็จงอยู่อย่างนั้นอย่าก่อให้เกิดหายนะใดๆ” ราชีนีวิหคอมตะเปล่งเสียงพูดเบาๆ ก่อนที่มือเรียวจะประสานกัน ริ้วแสงโลหิตมากมายพล่านออกมาจากในลูกแสงแล้วระเบิดดังสนั่น

คลื่นกระแทกน่าสยอดสยองครอบครองท้องฟ้า ปกคลุมรัศมีหลายหมื่นลี้ทำให้มิติพังทลาย มีรอยแตกร้าวมากมายนับไม่ถ้วนลึกราวกับเหวนรกพล่านไปบนพื้นดิน สร้างความวินาศสันตะโรให้กับสุสานสักการะเทพ

ทุกคนมองไปที่ท้องฟ้าพร้อมกับสีหน้ากังวลใจ เมื่อคลื่นกระแทกค่อยๆ จางหายไป ใบหน้าปีศาจก็บิดเบี้ยวอย่างรวดเร็วแล้วหายไปอย่างสมบูรณ์

“ปีศาจถูกจัดการแล้ว!”

เมื่อเห็นฉากนี้ ร่างกายที่ตึงเครียดของทุกคนก็คลายตัวลงพร้อมกับความสุขปกคลุมใบหน้า บางคนถึงขนาดนั่งแปะลงบนพื้น ชัดว่าการต่อสู้น่ากลัวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าทำให้พวกเขารู้สึกกดดันอย่างมาก

“สำเร็จจริงๆ…” จิ่วโยวและคนที่เหลือรู้สึกโล่งใจ ในใจยังไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่น่ากลัวจะถูกกวาดล้างเบื้องหน้าสายตา

“ต้องขอบคุณมู่เฉิน”

กลุ่มจิ่วโยวไม่ได้เป็นกลุ่มเดียวที่มีความคิดเช่นนี้ แม้แต่คนอื่นๆ ก็รู้สึกซาบซึ้งเมื่อมองไปที่มู่เฉินบนท้องฟ้า พวกเขาต้องยอมรับว่าเป็นหนี้บุญคุณมู่เฉินแล้ว

สีหน้าของกลุ่มไป๋หมิงสลับไปมาระหว่างขาวกับเขียว แต่ยามนี้พวกเขาไม่กล้าแสดงความไม่พอใจต่อมู่เฉินอีกแม้แต่น้อย เพราะถ้าพวกเขาทำ ก็จะต้องรับแรงโกรธคลั่งจากมวลชนลูกใหญ่แน่

มู่เฉินไม่สนใจสายตาซาบซึ้งเหล่านั้น เขามองปีศาจที่กำลังจางหายไป คลื่นจิตของเขาซึ่งตึงเครียดตลอดการต่อสู้ก็คลายลง หลังจากนั้นความเจ็บปวดที่น่ากลัวก็พล่านออกมาจากหัวสมองราวกับคลื่นยักษ์พยายามที่กลืนกินเขา

อ็อก!

เลือดสดกระอักเต็มปากมู่เฉิน ใบหน้าซีดเซียว ก่อนหน้าที่ฝืนสั่งการรัศมีจั้นยี่น่ากลัว เขาได้รับผลกระทบบางอย่าง แม้จะได้รับการปกป้องจากราชินีวิหคอมตะก็ตาม

ภายใต้การโต้กลับนี้ ศีรษะของเขาก็เหมือนกำลังจะระเบิด ภาพเบื้องหน้าสายตามืดลง ร่างกายก็ดิ่งลงจากท้องฟ้า

ร่างกายของเขาดิ่งลงอย่างไร้พลัง สายตาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เหลืออยู่ มู่เฉินก็อดยิ้มอย่างขมขื่นไม่ได้

“บ้าเอ๊ย… วันหลังจะไม่สั่งการกองทัพแบบนี้อีกแล้ว… เกือบกลายเป็นนักรบตายซากแล้ว…”

วาบ!

ราชินีวิหคอมตะปรากฏขึ้นกลางอากาศ นางเหยียดนิ้วออกมารองรับร่างกายของมู่เฉิน ก่อนที่จะแตะอีกครั้งที่หน้าผากของเขา แสงหลิงคลี่กระจาย ภายใต้แสงใบหน้าของมู่เฉินที่ปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดปูดโปนก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ

นางมองไปที่ใบหน้าอ่อนเยาว์ ระลอกตกตะลึงก็วูบไหวในดวงตา เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเรื่องคาดไม่ถึงสำหรับนางที่มู่เฉินสามารถสั่งการกองทัพอสูรสวรรค์เพื่อโจมตีรุนแรงใส่ใบหน้าปีศาจได้

นางยิ้มพรายพร้อมส่ายหน้าเล็กน้อย

“เจ้าหนูคนนี้… ข้าประเมินเขาต่ำไป…”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset