หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1108 ดอกไม้ดอกหนึ่ง

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1108 ดอกไม้ดอกหนึ่ง

เมื่อเวลาผ่านไป

ดินแดนสุดขอบตะวันตกของทวีปเทียนหลัวก็คึกคักยิ่งขึ้น ทุกเมืองที่อยู่รอบดินแดนอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มาจากขั้วอำนาจต่างๆ บางครั้งเห็นกระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนที่ปกติพบตัวได้ยาก ซึ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนอย่างมาก

ภายใต้บรรยากาศนี้ มู่เฉินก็ได้รับข่าวว่ากองพันธมิตรภูมิภาคทางเหนือออกเดินทางมาถึงแล้ว

กองพันธมิตรภูมิภาคทางเหนือไม่ได้มาที่เมืองซี แต่มุ่งหน้าไปทางสุดขอบตะวันตกซึ่งเป็นสถานที่ที่วังสวรรค์บรรพกาลปรากฏขึ้น

ว่ากันว่าตอนนี้ขั้วอำนาจชั้นนำทั้งหมดได้กระจายตัวอยู่ในพื้นที่โดยรอบแล้ว

ดังนั้นเมื่อมู่เฉินได้ข่าวก็ออกเดินทางพร้อมกับพรรคพวกเพื่อไปรวมกลุ่มกับกองทัพพันธมิตร หลินจิ้งก็ติดตามมาด้วย เนื่องจากนางชอบสถานที่คึกคัก ยิ่งวังสวรรค์บรรพกาลใกล้จะเปิดออก นางก็ไม่คิดจะพลาดโอกาสนี้

เมื่อกลุ่มของมู่เฉินมาถึง เวลาก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงไปครึ่งหนึ่ง แสงส่องไปที่ภูเขารกร้างที่กองทัพพันธมิตรตั้งอยู่

เมื่อพวกมู่เฉินเข้ามาใกล้ก็สังเกตเห็นสายตาแหลมคมสิบกว่าคู่ก็พุ่งตรงมาจากหน่วยสอดแนมที่อยู่ใกล้ๆ พวกเขาทั้งหมดมีขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดและแปดเลยทีเดียว

รู้สึกถึงการจ้องมองเหล่านั้น มู่เฉินก็ประหลาดใจไปเล็กน้อย ดูเหมือนพันธมิตรภูมิภาคทางเหนือจะส่งจอมยุทธ์ชั้นสูงออกมาทั้งหมดแล้ว

จอมยุทธ์ชั้นสูงเหล่านั้นชัดว่าจำมู่เฉินได้ ดังนั้นจึงละสายตาปล่อยให้พวกเขาขึ้นไปบนยอดเขาโดดเดี่ยว

มู่เฉินเห็นร่างเล็กของมั่นถัวหลัวที่ยอดเขา ดูเหมือนว่านางจะสัมผัสได้ถึงเขานานแล้ว ดังนั้นจึงรอเขาอยู่ที่นี่

“ไม่คิดว่าเพียงไม่กี่วันชื่อของเจ้าจะกระจายไปทั่วทวีปเทียนหลัว” เมื่อมั่นถัวหลัวเห็นมู่เฉิน ก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ

ท่าทางนางจะได้ยินข่าวการต่อสู้ระหว่างมู่เฉินและเซี่ยหงแล้ว

“กลัวว่าแคว้นเซี่ยจะไม่พอใจที่ข้าทำร้ายเซี่ยหงจนเจ็บหนัก” มู่เฉินเบ้ริมฝีปากออก

“ช่างมันเถอะ ถ้าฮ่องเต้เซี่ยกล้าก็มาที่อาณากงเวทสวรรค์ของข้าได้เลย” มั่นถัวหลัวไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้เพราะด้วยพลังในปัจจุบันนางไม่กลัวฮ่องเต้เซี่ยสักนิด

“แต่ด้วยสถานะของฮ่องเต้เซี่ย เขาอาจจะไม่ทำอะไรเจ้า แต่องค์ชายใหญ่ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่ายๆ ดังนั้นเจ้าต้องระวังถ้าพบเขา” มั่นถัวหลัวเอ่ยเตือน หากฮ่องเต้เซี่ยไม่ทำอะไรกับมู่เฉิน นางก็ไม่มีเหตุที่จะทำต่อเซี่ยหยู่ หากนางเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของเด็กรุ่นใหม่ก็จะไปเปลี่ยนบางอย่างได้

“ตราบใดที่องค์ชายใหญ่ยังไม่บรรลุระดับตี้จื้อจุน ข้าก็ไม่กลัวเขา” มู่เฉินยิ้มเอ่ยคำพูดมั่นใจ แม้ว่าตอนนี้เขามีขุมพลังอีกครึ่งก้าวจะบรรลุระดับจื้อจุนขั้นเก้า ส่วนองค์ชายใหญ่อาจอยู่ในขั้นเก้าระยะเต็ม ทว่าหากพวกเขาปะทะกัน เซี่ยหยู่ก็ใช่ว่าจะได้เปรียบ

“ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะมากันเยอะนะ?” มู่เฉินมองไปที่ยอดเขาก็เห็นกระโจมกลุ่มหนึ่ง ความผันผวนของคลื่นหลิงที่น่ากลัวถูกปล่อยออกมา ทำให้มิติสั่นสะเทือน

มั่นถัวหลัวพยักหน้า “นอกจากข้าก็ยังมีระดับตี้จื้อจุนระยะต้นอีกห้าคน”

มู่เฉินแอบเดาะลิ้น ด้วยจำนวนดังกล่าวบอกได้ว่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนทั้งหมดในภูมิภาคทางเหนือมาอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าแต่ละขั้วอำนาจจะถูกล่อลวงหนักจากวังสวรรค์บรรพกาล

หากพวกเขารวมตัวกันรูปแบบนี้ อาจจะเผชิญหน้ากับขั้วอำนาจระดับสูงของทวีปเทียนหลัวได้ แม้แต่แคว้นเซี่ยก็ไม่มีจอมยุทธ์ระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายหนึ่งกับกับขั้นต้นห้าคนหรอก

ทว่าสิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือการรวมตัวนี้ไม่ได้เป็นของอาณาเขตกงเวทสวรรค์ ดังนั้นพลังในการต่อสู้จะลดลงเนื่องจากทุกคนมีความคิดของตัวเอง แต่อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็จะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเมื่อเผชิญกับความท้าทายจากภายนอกซึ่งทำให้ได้ประโยชน์ไม่น้อย

“ใช่แล้ว นี่คือเพื่อนข้า—หลินจิ้ง”

มู่เฉินแนะนำหลินจิ้งที่ยืนอยู่ข้างหลังให้มั่วถัวหลัวรู้จัก

ที่จริงมั่นถัวหลัวสังเกตเห็นหลินจิงตั้งแต่ต้น แต่สิ่งที่ทำให้นางตกใจอยู่บ้างก็คือตอนนางตรวจสอบคลื่นหลิงของอีกฝ่ายก็สัมผัสได้ถึงแรงปฏิเสธ แรงบนพื้นผิวหน้าคลุมเครือมาก แต่ก็ทำให้นางรู้สึกกดดันเล็กน้อย

จะต้องมีตราประทับโดยผู้เชี่ยวชาญทรงพลังสถิตในร่างนางเพื่อปกป้อง

มั่นถัวหลัวพยักหน้าให้หลินจิ้งก่อนที่ม่านตาสีทองคำจะกะพริบ ดูเหมือนว่าเบื้องหลังของหญิงสาวคนนี้จะไม่ธรรมดา ตราประทับนั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มเท่านั้นที่สามารถทำได้

หลินจิ้งหัวเราะเบาๆ พลางทักทายมั่นถัวหลัว นอกจากนี้นางยังมองอีกฝ่ายด้วยความอยากรู้เนื่องจากนางไม่คิดว่าประมุขอาณาเขตกงเวทสวรรค์จะเป็นสาวน้อยน่ารัก

“เราจะเข้าไปในวังสวรรค์บรรพกาลได้เมื่อไร?” มู่เฉินถาม ในเมื่อผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกันพวกเขาก็ควรหาวิธีเข้าไปในวังโบราณ

มั่นถัวหลัวส่ายหัวพามู่เฉินไปที่ชายขอบภูเขานชี้ไปที่ไกล

เมื่อมองไปในทิศทางนั้นสีหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นดินแดนรกร้างไร้ขอบเขตอยู่เบื้องหลังภูเขา แต่ห้วงมิติในส่วนลึกถูกทำลายลงพร้อมกับสะเก็ดมิติบินว่อน สะเก็ดมีความแหลมคมมาก ใครก็ตามที่อยู่ภายใต้ระดับตี้จื้อจุนอาจถูกผ่าออกเป็นสองท่อนทันทีที่สัมผัสกับพวกมัน

ช่างเหมือนกับสัตว์อสูรดึกดำบรรพ์เกรี้ยวกราดที่ต้องการจะกัดกินทุกคนที่เข้าใกล้

มู่เฉินสามารถมองเห็นตำหนักโบราณในมิติแตกสลายได้อย่างคลุมเครือ แฝงด้วยกลิ่นอายลึกลับและอ้างว้าง

“ตอนนี้ดินแดนรกร้างนั้นเป็นเส้นแบ่ง โดยรอบเต็มไปด้วยขั้วอำนาจชั้นยอด แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไป” มั่นถัวหลัวมองไปที่มิติที่แปรปรวน

“ทำไม?” มู่เฉินประหลาดใจ บางทีชิ้นส่วนมิติเหล่านั้นอาจเป็นอันตรายต่อคนอย่างพวกเขาที่ไม่ได้ก้าวเข้าสู่ระดับตี้จื้อจุน แต่ด้วยพลังของมั่นถัวหลัวและคนอื่นน่าจะเข้าไปได้ไม่ใช่เหรอ?

“มิติตรงนั้นกำลังจะแตกสลายโดยวังสวรรค์บรรพกาล ดังนั้นเมื่อจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนก้าวเข้าไปก็จะเกินขีดจำกัด มิติจะแตกออกทันที พลังทำลายล้างเป็นสิ่งที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายยังไม่อาจทนได้ ถ้าโชคร้ายอาจติดแหง็กในนั้นหลงทิศทางในความปั่นป่วนของมิติ คนโชคดีอาจได้พบกับพิภพเขตล่างรอดชีวิตไปได้ แต่คนโชคร้ายตายคาที่แน่นอน” มั่นถัวหลัวพูดด้วยสีหน้าหนักใจ

เมื่อมู่เฉินได้ยินก็แอบเดาะลิ้น กลายเป็นว่าสถานที่แห่งนี้อันตราย แต่ก็ดูค่อนข้างคล้ายกับดินแดนเสินโซ่ ซึ่งไม่อนุญาตให้จอมยุทธ์ทรงพลังเข้าไปได้

“งั้นตอนนี้”

“มีสถานที่แห่งเดียวในวังสวรรค์บรรพกาลที่สามารถให้จอมยุท์ขุมพลังตี้จื้อจุนเข้าไปได้ นอกจากนี้ยังไม่ทำให้มิติแตกสลายด้วย” มั่นถัวหลัวพูดต่ออย่างช้าๆ

“ที่ไหน?” มู่เฉินอึ้งไป

“สุ-สาน-จักรพรรดิ-ฟ้า” มั่นถัวหลัวพูดย้ำทีละคำ

เมื่อได้ยินมู่เฉินก็ตกใจ เขาสามารถเดาได้จากคำพูด “สถานที่ที่จักรพรรดิฟ้าละสังขารรึ?”

มั่นถัวหลัวพยักหน้า “สุสานจักรพรรดิฟ้าสร้างขึ้นโดยท่านจักรพรรดิเอง ที่นั่นราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง ถ้าจักรพรรดิฟ้าละสังขารก็จะต้องอยู่ที่นั่นแน่นอน”

มู่เฉินพยักหน้าเบาๆ สำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย สิ่งที่สามารถล่อลวงพวกเขาได้อาจไม่ใช่อาวุธมหสวรรค์ทรงพลัง แต่เป็นวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดในตำนานที่จักรพรรดิฝึกฝน…วิชาสามพิสุทธิ์

ซึ่งชัดว่าหากต้องการรับวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดก็ต้องลองเสี่ยงโชคในสุสานจักรพรรดิฟ้าเท่านั้น

“ดังนั้นตอนนี้วิธีที่เป็นไปได้มากที่สุดคือให้จอมยุทธ์ทรงพลังเปิดเส้นทางชั่วคราว ส่งคนที่ทนได้เข้าไปข้างใน” มั่นถัวหลัวจ้องไปที่มู่เฉินขณะพูดต่อ “อย่างเจ้า หากเจ้าสามารถไปถึงสุสานจักรพรรดิฟ้าก็ทำลายสิ่งนี้ซะ เราก็จะสามารถใช้เป็นจุดระบุตำแหน่งเพื่อฉีกมิติเข้าไปได้โดยตรง”

ขณะที่พูดมั่นถัวหลัวก็เปิดฝ่ามือ ชิ้นหยกวูบไหวด้วยแสงหลิงปรากฏขึ้น เปล่งคลื่นมิติออกมา

มู่เฉินรับไปก็รู้สึกโล่งใจ หากไม่มีจอมยุทธ์ตี้จื้อจุน การเดินทางในวังโบราณก็จะสะดวกขึ้นอย่างแน่นอน

“เจ้าสนใจวิชาสามพิสุทธิ์ด้วยหรือ? แต่ข้ากลัวว่าการแข่งขันจะหนักอยู่” มู่เฉินลูบหยกขณะพูด

หากวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดปรากฏขึ้น เหล่าจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนอาจจะดวงตาแดงก่ำและแข่งขันกันเพื่อเอาชนะ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนในกองทัพพันธมิตรกันเองก็อาจจะขัดขากันและกัน เพราะหากพวกเขาได้มาก็คุ้มค่า แม้ว่าพวกเขาจะต้องละทิ้งรากฐานในภูมิภาคทางเหนือก็ตาม

มั่นถัวหลัวส่ายหัวไม่ได้เป็นไปตามความคาดหมายของมู่เฉิน นางมองไปที่มิติแตกสลาย “วิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้รับและฝึกได้…”

มั่นถัวหลัวหลุบตาลงพูดเบาๆ “การเดินทางมายังวังสวรรค์บรรพกาลครั้งนี้ เป้าหมายสำคัญที่สุดคือค้นหาร่างหลักของข้า”

ทันใดนั้นม่านตาของมู่เฉินก็หดลงขณะที่มองมั่นถัวหลัวด้วยความหวาดผวา “นี่…นี่ไม่ใช่ร่างหลักของเจ้า?”

ถ้านี่ไม่ใช่ร่างหลัก งั้นทำไมมั่นถัวหลัวในปัจจุบันถึงดูสมจริงขนาดนี้ ไม่เหมือนร่างที่สร้างมาจากคลื่นหลิงเลย?

“ร่างหลักของเจ้าคืออะไร?”

มั่นถัวหลัวมองไปที่มู่เฉินเผยรอยยิ้ม “ข้าคือดอกไม้ที่จักรพรรดิสวรรค์ปลูกไว้ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่…”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset