หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1112 ประตูมังกรทะยานสวรรค์

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1112 ประตูมังกรทะยานสวรรค์

ภูมิภาคแห่งนี้เต็มไปด้วยอากาศแห้งแล้ง

ท้องฟ้ามืดครึ้ม มิติไม่มั่นคง โดยมีรอยแตกมิติปรากฏบนท้องฟ้าเป็นครั้งคราว

พวกมู่เฉินยืนอยู่บนเนินเขามองพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล

มิติทอดยาวออกไปไกลจากเนินเขาและสามารถมองเห็นภูเขาได้ในระยะไกลพร้อมกับตำหนักโบราณบางแห่งตั้งอยู่

เมื่อมองไกลออกไปอีกก็จะเห็นเกาะหินลอยรกร้างอยู่บนท้องฟ้า ทว่าสถานที่แห่งนั้นถูกทิ้งร้าง

มิตินี้ราวกับหลับไหลมานับหมื่นปี

มู่เฉินสูดหายใจเบาๆ แลกเปลี่ยนสายตากับจิ่วโยวและหลินจิ้ง สีหน้าทั้งสามก็เคร่งเครียดลง นั่นเป็นเพราะพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงรัศมีที่หลงเหลืออยู่ระหว่างสวรรค์และโลก

รัศมีเหล่านั้นละเอียดอ่อนและยากที่จะตรวจจับมีเพียงผู้ที่มีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้อย่างคลุมเครือ แม้ว่ารัศมีเหล่านั้นจะเบาบาง แต่ก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกกดดันจนบรรยายไม่ได้

สามารถจินตนาการได้ว่ามีจอมยุทธ์ทรงพลังกี่คนที่สามารถเคลื่อนภูเขาได้ด้วยความคิดครั้งเดียวอยู่ที่นี่ มากจนแม้แต่รัศมีที่หลงเหลืออยู่หลังจากผ่านไปหลายหมื่นปียังทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน

“สมฐานะวังสวรรค์บรรพกาลแท้จริง”

มู่เฉินถอนหายใจในใจก่อนจะมองไปที่เฉวียนหมิงพลางยิ้มบาง “ไม่ทราบว่าใครมีข้อเสนอแนะบ้าง? ถ้าไม่มีเราเดินหน้าไปก่อนไหม? ตามการคาดการณ์ของข้า เราน่าจะอยู่ในชั้นนอกของวังสวรรค์บรรพกาล”

เฉวียนหมิงมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับวังสวรรค์บรรพกาล เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินคำถามของมู่เฉินก็รู้สึกอึดอัดเสไอแห้งๆ พลางพยักหน้า

คนอื่นๆ ก็ไม่มีการคัดค้านพยักหน้ารับกัน

เมื่อเห็นข้อตกลงนี้ มู่เฉินก็ไม่ได้พูดต่อกำหนดทิศทางคร่าวๆ จากนั้นก็เดินทางไปยังตำหนักที่อยู่ไกลออกไป

คนอื่นๆ ก็รีบตามมาที่ด้านหลัง

ระหว่างทางบนท้องฟ้าพวกมู่เฉินก็ก้มสำรวจไปรอบๆ ก่อนที่อากัปกิริยาจะสั่นสะท้าน พวกเขาเห็นเหวนรกมากมายบนพื้นดินซึ่งดูน่าหวดผวานัก

เหวนรกเหล่านั้นไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากการสู้รบเขย่าโลกในสมัยโบราณ

บางช่วงพบเห็นซากปรักหักพังของเมืองเก่าแต่ทั้งหมดก็พังพินาศ ดังนั้นพวกมู่เฉินจึงไม่ได้ลงมาตรวจดูเมืองเหล่านั้น

เมื่อพวกมู่เฉินไปถึงจุดหมาย เวลาก็ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ขณะที่พลิ้วตัวลงบนยอดเขาพวกเขาก็สังเกตเห็นเงาทอดลงบนยอดเขาอื่นๆ เช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าภาพเงาเหล่านั้นมาจากสำนักอื่น

แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเคลื่อนไหวก่อนที่จะสอบสวนสถานการณ์อย่างละเอียด ดังนั้นทุกคนจึงต่างตั้งระวังจากที่ไกลขณะที่สำรวจไปรอบๆ

มู่เฉินถอนสายตามองไปที่ตำหนักพังทลาย เขามองเห็นโครงกระดูกบางส่วนเกลื่อนกลาดอยู่ด้านนอก พวกเขาทั้งหมดอยู่ในท่าทางมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาสามารถเห็นความน่ากลัวบนใบหน้าโครงกระดูกเหล่านั้นราวกับว่าเห็นบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวหล่นลงมาจากท้องฟ้า

“นี่น่าจะเป็นกองกำลังป้องกันชั้นนอกของวังสวรรค์บรรพกาล”

มู่เฉินยืนอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ถ้าเขาเดาไม่ผิดเผ่าปีศาจน่าจะปรากฏตัวจากที่นี่และเริ่มการโจมตีเข้าไปในวังสวรรค์บรรพกาลและทวีปเทียนหลัว…

กองกำลังป้องกันชั้นนอกของวังสวรรค์บรรพกาลน่าจะถูกทำลายลงในทันทีจนถึงจุดที่ผู้พิทักษ์เหล่านั้นไม่สามารถหลบหลีกได้ก่อนจะจบชีวิตลง

มู่เฉินมองไปรอบๆ ก่อนจะย่อตัวลงเห็นริ้วแสงที่สะท้อนออกมาจากมือของโครงกระดูก เมื่อแกะมือออกก็เผยให้เห็นป้ายทองแดง

หยิบป้ายขึ้นมาก็เห็นรูปสลักโบราณหมาป่าสีฟ้าอมเขียวบนนั้น

“ป้ายหมาป่าเขียว?”

ขณะที่มู่เฉินพิจารณาอยู่ป้ายก็สลายกลายเป็นขี้เถ้าปลิวหายไป

มู่เฉินตกตะลึงเมื่อมองไปที่โครงกระดูกอื่นก็เห็นว่าถือป้ายทองแดงเช่นกัน แต่ภาพแกะสลักบนป้ายเป็นรูปหมาป่าสีขาว

“นี่น่าจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงฐานะตัวตน” จิ่วโยวพูดจากด้านข้าง

มู่เฉินพยักหน้า เห็นได้ว่าเจ้าของป้ายหมาป่าเขียวน่าจะแข็งแกร่งกว่าเจ้าของป้ายหมาป่าขาว

เนื่องจากเบาะแสมีจำกัด ทุกคนจึงตรวจดูแบบสั้นๆ ก่อนที่จะส่ายหัว แสดงว่าไม่ได้มีผลการเก็บเกี่ยวอะไรเช่นกัน

แต่มู่เฉินก็ไม่ได้ผิดหวังกับเรื่องนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองไปในระยะไกล “ดูเหมือนว่าเราเดินทางมาถูกทางแล้ว”

เขามองไปยังเทือกเขาที่ไม่เห็นจุดสิ้นสุด แต่สามารถมองเห็นภาพวังโบราณขนาดใหญ่อยู่ได้อย่างเลือนราง

“ไป”

มู่เฉินไม่ได้เสียเวลาในการตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาทันที เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของคลื่นหลิงที่มาจากทิศทางนั้น

พวกเขาเพิ่มความเร็วทะยานผ่านเทือกเขา จากนั้นก็เริ่มเห็นเกาะหินลอยบนท้องฟ้าไกลโพ้น

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าใกล้วังสวรรค์บรรพกาลแล้ว

ฟิ้ว!

พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะก้าวสู่พื้นที่บริเวณหนึ่ง มู่เฉินก็หดดวงตาพร้อมกับอาการสั่นสะท้านกระดูกสันหลัง เขาหยุดคำรามออกมาทันที “หยุด!”

จิ่วโยว หลินจิ้งและคนอื่นๆ หยุดลงทันที มีเพียงจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะต้นคนหนึ่งตอบสนองได้ไม่ทันท่วงทีทะยานตัวเข้าไป

ปัง!

มือของมู่เฉินพุ่งออกไปราวกับสายฟ้าฟาด คว้าเข้าที่ไหล่ของจอมยุทธ์นั้นกระชากร่างอย่างแรง

จอมยุทธ์คนนั้นตัวแข็งทื่อ หยุดตัวลงมองไปข้างหน้าที่ห่างออกไปครึ่งชุ่นด้วยความกลัว ตรงนั้นมีเส้นสายคลื่นหลิงจำนวนมากอยู่ แม้จะเหมือนไม่เป็นจริง แต่ถ้ามองให้ละเอียดก็จะพบว่ามันปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

เส้นนั้นไม่ได้ดูโดดเด่น แต่ไม่รู้ทำไมกลับทำให้ทุกคนสั่นเทิ้มในใจ ราวกับว่าพวกเขาจะถูกทำลายทันทีที่ได้สัมผัส

มู่เฉินดึงร่างจอมยุทธ์คนนั้นกลับมาก่อนที่จะครุ่นคิดสั้นๆ จากนั้นก็หยิบหอกซัดออกไป

ชี่!

ทันทีที่หอกสัมผัสกับเส้นเหล่านั้นก็ถูกหั่นออกเป็นหลายส่วนและสลายกลายเป็นจุดแสงหายไป

ซื้ด

ทุกคนสูดอากาศเย็นเข้าปอด เห็นได้ชัดว่าหอกนั้นเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นกลาง แต่ก็ถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย

หากพวกเขาพุ่งเข้าใส่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความตายได้

“น่ากลัวจริงๆ…” หลินจิ้งอุทานด้วยความหวาดเกรง

ร่างจอมยุทธ์ที่ถูกช่วยไว้ร่างก็ปกคลุมไปด้วยเหงื่อเย็นขณะมองไปที่มู่เฉินด้วยความรู้สึกขอบคุณในสายตา ถ้ามู่เฉินช้ากว่านี้ก้าวเดียว เขาก็คงเป็นเหมือนหอกที่สลายกลายเป็นอากาศธาตุ

“นี่เป็นค่ายกล…”

มู่เฉินมองไปที่เส้นผลึกทึบบนท้องฟ้าพลางพูดด้วยความอัศจรรย์ใจ

เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนที่คุ้นเคยซึ่งทำให้หนังศีรษะของตนเองถึงกับชาหนึบไปหมด

ค่ายกลนี้อยู่ในระดับจงซือเป็นอย่างน้อยแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนก็ยังเดือดร้อนกับมัน

“ทำยังไงดี?” เฉวียนหมิงถามด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะมู่เฉินตอนนี้พวกเขาคงบาดเจ็บล้มตายกันแล้ว

“ค้นหาทางเข้า”

มู่เฉินพูดอย่างใจเย็น ตามการคาดการณ์ของเขานี่น่าจะเป็นค่ายกลป้องกันที่อยู่ชั้นนอกวัง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะมีทางเข้าสำหรับสมาชิกอยู่

ทุกคนพยักหน้ามองไปที่ค่ายกลขนาดใหญ่ที่ดูไร้ขอบเขต หากหาทางเข้าไม่พบการเดินทางของพวกเขาก็ไปต่อไม่ได้แม้แต่ครึ่งก้าว

เมื่อมีเป้าหมายทุกคนจึงเริ่มค้นหาอย่างรอบคอบ

ขณะที่พวกเขาค้นหา สถานที่แห่งนี้ก็เริ่มเกิดความคึกคัก เสียงลมแหวดอากาศดังก้องขณะที่ร่างแสงหลายร่างเข้ามาใกล้

ทว่าเมื่อร่างแสงเหล่านั้นเข้ามา พวกเขาก็ส่งเสียงร้องโหยหวนเนื่องจากมีคนประมาทบางคนกระแทกเข้ากับค่ายกลจนสลายหายไป ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องดังทั่วไปหมด

บริเวณนี้กลายความโกลาหลย่อมๆ แต่พวกเขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง จึงถอยออกไปในทันทีไม่กล้าเข้าใกล้ค่ายกลและพยายามค้นหาทางเข้า

ด้วยผู้คนจำนวนมากที่ช่วยกันค้นหาในเวลาเดียวกัน พวกมู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งในหนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขารีบพุ่งไปอย่างรวดเร็วจากนั้นก็พลิ้วตัวลงบนก้อนหินมหึมา

บริเวณนี้มีผู้คนมากมายมาออรวมกัน ชัดว่าต่างได้ยินเสียงความวุ่นวาย

ในเวลาเพียงสิบนาทีบริเวณนี้ก็เต็มไปด้วยจอมยุทธ์มากมาย

มู่เฉินกวาดสายตามองไป ดวงตาก็หดลงเล็กน้อย เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงความผันผวนของคลื่นหลิงทรงพลังหลายสาย ซึ่งแข็งแกร่งกว่าเซี่ยหงเลยทีเดียว

เห็นได้ชัดว่านี่ถือป็นการรวมตัวของจอมยุทธ์อัจฉริยะ

ขณะที่คิดสิ่งนี้ในใจ มู่เฉินก็มองขึ้นไปข้างหน้าเห็นประตูขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน ประตูนั้นเก่าแก่มีอักษรลวดลายลึกซึ้งนับไม่ถ้วนสลักอยู่ ตัวอักษรโบราณที่ไม่ชัดเจนสลักอยู่ด้านบน

“นั่นคือ…”

มู่เฉินมองไปที่ตัวอักษรโบราณก็หรี่ตาลง

ประตูมังกรทะยานสวรรค์?

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset