หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1116 สามศิษย์ระดับมังกรทองคำ
แสงสีทองพร่างพราวเปล่งออกมาจากป้ายเจียวทองคำ
ทำให้หลิ่วกุยและหวังทงเสียนที่ได้รับป้ายเจียวขาวดูหม่นหมองเมื่อเทียบกัน
“สวรรค์! นั่นคือป้ายเจียวทองคำ!”
“ฉินจิงเจ๋อน่าเกรงขามอย่างแท้จริง ได้รับเลือกเป็นศิษย์ระดับเจียวทองคำ!”
“สุดยอดจริงๆ”
“…”
ความโกลาหลสะท้อนไปทั่ว หลายคนก็ชื่นชมเขาพร้อมกับความอิจฉาพล่านในดวงตา ภายใต้สถานการณ์ที่มีแต่ป้ายหมาป่าและนกอินทรีออกมานับไม่ถ้วน การปรากฏของป้ายเจียวทองคำล้ำค่านี้ชัดว่าเด่นกว่าสิ่งใด
ทว่าสีหน้าฉินจิงเจ๋อกลับไม่ดีเท่าไรตรงข้ามกับสายตาที่มองมาแบบอึ้งทึ่ง เขาจ้องมองป้ายเจียวทองคำโดยไม่มีความยินดี แต่เป็นความไม่พอใจ
เขาฉินจิงเอ๋อเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของสำนักกระบี่บัวเขียวในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาไม่เคยมีใครเอาชนะเขาได้ เขามีศักยภาพสูงที่จะบรรลุระดับตี้จื้อจุนทั้งที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสำนัก แต่เบื้องหน้าประตูมังกรทะยานสวรรค์แห่งนี้ ศักยภาพของเขาได้รับการจัดอันดับศิษย์ระดับเจียวทองคำเท่านั้น
แม้ว่าจะสูงและโดดเด่นในสายตาหลายคน แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา
แต่ไม่ว่าจะไม่ยอมรับแค่ไหน เขาก็ทำอะไรไม่ได้กับผลลัพธ์นี้ เขาทำได้เพียงสายหัวพร้อมกับแววตามืดมน
หลิ่วกุยและหวังตงเสียนค่อนข้างสงบนิ่ง เนื่องจากผลลัพธ์นี้อยู่ในการคาดเดาของพวกเขา นอกจากนี้บวกกับข้อเท็จจริงที่ว่าฉินจิงเจ๋อได้เพียงรับป้ายเจียวทองคำ ก็ถือว่าปลอบขวัญพวกเขาแล้ว
เพราะอันดับของพวกเขาต่ำกว่าฉินจิงเจ๋อมาก
ทั้งสามยืนอยู่บนท้องฟ้า แต่ยังไม่ได้เข้าไปในวังโบราณทันที แต่เลือกที่จะยืนรออยู่ก่อน
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยากดูว่าจะมีใครได้รับการประเมินว่าเป็นศิษย์ระดับมังกรบ้าง!
ในเวลาเดียวกันสายตาของพวกเขาก็เลื่อนไปที่ซูชิงหยิง ถ้าดูจากจอมยุทธ์ที่อยู่ที่นี่ คนที่มีคุณสมบัติจะได้รับป้ายมังกรมากที่สุดก็คือนาง
เมื่อทั้งสามเลื่อนสายตาไป ทุกคนก็มีอาการไม่ต่างกัน ทั้งหมดมีความคิดเดียวกัน
แม้แต่มู่เฉิน จิ่วโยวและพรรคพวกก็มองหาที่ซูชิงหยิงเช่นกัน!
“ซูชิงหยิงจะต้องได้เป็นศิษย์ระดับมังกรแน่นอน” จิ่วโยวพูดเสียงต่ำ แม้ว่านางจะหมั่นไส้ซูชิงหยิง แต่พลังของอีกฝ่ายก็ไม่มีข้อกังขา
มู่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย คำถามข้อเดียวคือนางจะได้ป้ายมังกรขาว เขียวหรือว่าทองคำกัน?
ภายใต้สายตาที่จ้องมองมา ซูชิงหยิงก็มองไปที่ประตูพร้อมความสงสัยวูบไหวในดวงตา
เห็นได้ชัดว่านางก็มีความคิดแบบเดียวกัน!
ดังนั้นนางจึงคลี่ยิ้มบางเคาะฝ่าเท้าเบาๆ โดยไม่ลังเลก็กลายเป็นริ้วแสงสีดำปรากฏตัวที่เบื้องหน้าประตูแล้วพุ่งเข้าไป
ร่างซูชิงหยิงหายไปทั่วฟ้าดินก็เงียบกริบลง ทุกคนเบิกตากว้างมองไปที่ประตู พวกเขามีลางสังหรณ์ว่าซูชิงหยิงจะสร้างสถิติทรงพลังที่ยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
“ไม่รู้ว่าการทดสอบของประตูมังกรทะยานสวรรค์คืออะไร?” จิ่วโยวมองไปที่ประตูพลางพูด
มู่เฉินส่ายหัว “ประตูมังกรทะยานสวรรค์เป็นอาวุธมหสวรรค์โบราณ ดังนั้นการทดสอบไม่ง่ายแน่”
จิ่วโยวพยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ แต่ประตูก็ได้รับความเสียหายรุนแรงตอนที่วังสวรรค์บรรพกาลถูกทำลาย มิฉะนั้นคงไม่ได้มีแค่ประสิทธิภาพในการประเมินผลหรอก
“ต่อไปก็รอดูกันเถอะ”
มู่เฉินมองไปที่ประตูหินโบราณอย่างเงียบๆ
ความเงียบนี้ดำเนินไปสิบกว่านาที เวลาที่นางใช้เกินกว่าทุกคนก่อนหน้า
ทันใดนั้นประตูที่สงบนิ่งก็สั่นไหว หัวใจของทุกคนโลดขึ้นก่อนที่สายตาจะมุ่งเน้นไปประตู
ฮึ่ม! ฮึ่ม!
เกลียวแสงพุ่งออกมา ก่อนที่ประตูปิดแน่นจะเปิดออกอย่างช้าๆ เกลียวไร้ขอบเขตกวาดออกมา
ความหนาแน่นของแสงแข็งแกร่งกว่าทุกคนที่ทดสอบมาก่อนหน้า
โฮก!
เสาแสงพร่างพราวทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับมังกรพันธนาการรอบเสาแผดเสียงคำรามลั่น ซึ่งดังก้องไปมาระหว่างสวรรค์และโลก
ทุกคนหดดวงตาลงกับฉากนี้ ซูชิงหยิงได้รับตำแหน่งศิษย์ระดับมังกรแท้จริง!
แสงสุกใสควบแน่นอย่างรวดเร็ว ร่างซูชิงหยิงปรากฏขึ้นกลางอากาศ ดวงตาจับจ้องไปที่เบื้องหน้า รังสีพราวรวมตัวกันเป็นป้ายโบราณที่มีมังกรเขียวเข้มขดอยู่ สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ป้ายมังกรเขียว?!
ทุกคนหดดวงตาลงหายใจเข้าลึกก่อนจะยกย่องนางในใจ ไม่คิดว่าซูชิงหยิงไม่เพียงจะได้รับการประเมินเป็นศิษย์ระดับมังกร แต่ยังเป็นป้ายมังกรเขียวด้วย!
ความสำเร็จนี้อาจโดดเด่นแม้แต่ในวังสวรรค์บรรพกาล
ซูชิงหยิงสมกับเป็นจอมยุทธ์อันดับสองในทำเนียบ
ฉินจิงเอ๋อ หลิ่วกุยและคนอื่นๆ มองดูป้ายมังกรสีเขียวเจิดจ้าก็ถอนหายใจ ดูท่าจะมีช่องว่างพลังขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขากับซูชิงหยิงจริงๆ
“ป้ายมังกรเขียวเรอะ?” มู่เฉินเพ่งความสนใจไปที่นาง แต่เขาไม่ได้แปลกใจ เพราะตัวเขาได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
“แต่ถึงจะเป็นนางก็ยังไม่สามารถได้รับป้ายมังกรทองรึ?” มู่เฉินถอนหายใจ ไม่รู้จริงๆ ว่าการทดสอบในประตูมังกรทะยานสวรรค์ยากแค่ไหนกัน
ซูชิงหยิงที่ถูกมองด้วยสายตายกย่องนับไม่ถ้วน กลับมองป้ายมังกรเขียวตรงหน้าแล้วมุ่นคิ้วบาง ขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปากพูดสีหน้าก็เปลี่ยนไป นางเงยหน้าขึ้นมองไปที่ขอบฟ้าไกลออกไป
มู่เฉินและคนอื่นๆ ก็สัมผัสได้ถึงบางอย่างก็มองตามไปที่นั่น เสาแสงสีทองทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยมีมังกรทองคำพันธนาการอยู่รอบๆ
“ป้ายมังกรทองคำ!”
เสียงอุทานดังขึ้น มีบางคนได้รับการประเมินเป็นศิษย์ระดับมังกรทองคำที่ประตูมังกรทะยานสวรรค์อีกบานเรอะ?
“ต้องเป็นจู้เยี่ยนแน่!” มีคนโพล่งออกมาโดยไม่ลังเล ในบรรดาจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของทวีปเทียนหลัว จู้เยี่ยนที่เป็นเจ้าทำเนียบมีคุณสมบัติเช่นนั้น
“ช่างเป็นคนที่น่าเกรงขาม” ใบหน้ามู่เฉินเคร่งเครียดลงหลายส่วน นี่อาจเป็นศิษย์ระดับมังกรทองคำคนแรกหลังจากวังสวรรค์บรรพกาลถูกทำลาย
ทันทีที่คำพูดของมู่เฉินจบลง เสาแสงสีทองอีกเสาก็ทะยานไปสู่ชั้นฟ้าในอีกทิศทางหนึ่ง สามารถมองเห็นได้เลือนรางในระยะไกล
ทุกคนตกตะลึงก่อนจะเกิดความโกลาหลอีกครั้ง ศิษย์ระดับมังกรทองคำอีกคนหรือ?
ถ้าคนก่อนหน้านี้คือจู้เยี่ยน แล้วนี่เป็นใครกัน? แม้แต่ซูชิงหยิงก็เป็นศิษย์ระดับมังกรเขียวเท่านั้น!
มู่เฉินจ้องเขม็งไปที่เสาแสงสีทองเสาที่สอง สัญชาตญาณบอกเขาว่านี่น่าจะเป็นจาโหลหลัว
แม้ว่าอีกฝ่านจะเป็นจอมยุทธ์อันดับสาม แต่มู่เฉินไม่เชื่อว่าผู้ที่ครอบครองร่างเทพสุริยะจะด้อยกว่าซูชิงหยิง
ตามการคาดการณ์ของเขาความแข็งแกร่งของจาโหลหลัวไม่ได้อ่อนด้อยกว่าจู้เยี่ยน
ตู้ม!
ขณะที่ความคิดวนเวียนอยู่ในใจ ดวงตาผู้คนก็หดแคบลง เนื่องจากทุกคนได้เห็นเสาแสงมังกรทองคำอีกเสาปรากฏขึ้น
เสามังกรทองคำเสาที่สาม!
สามศิษย์ระดับมังกรทองคำ!
ในช่วงเวลาไม่กี่สิบลมหายใจ มีศิษย์ระดับมังกรทองคำปรากฏขึ้นถึงสามคน!
ทั่วบริเวณเงียบงันไปด้วยความไม่เชื่อกระจายบนใบหน้า แม้แต่สีหน้าของซูชิงหยิงก็ดูไม่ดีนัก นี่หมายความว่ามีจอมยุทธ์สามคนที่เหนือชั้นกว่านาง แล้วอันดับสองบนทำเนียบคืออะไร?
แม้ว่านางจะเสียเปรียบไปบ้างเนื่องจากต้องพึ่งพาแมลงวิญญาณ แต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นผลลัพธ์ นางเป็นศิษย์ระดับมังกรเขียวเท่านั้น
มู่เฉินและจิ่วโยวแลกเปลี่ยนสายตากัน ถ้าเสาแสงมังกรทองคำเสาที่สองเป็นจาโหลหลัว แล้วคนที่สามเป็นใคร? เซี่ยหยู่เรอะ?
มู่เฉินได้ประมือกับเซี่ยหยู่ไปสั้นๆ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ง่ายๆ แต่น่าจะยังไม่เพียงพอสำหรับเซี่ยหยู่ที่จะได้เป็นศิษย์ระดับมังกรทองคำ
แล้วใครคือศิษย์ระดับมังกรทองคำคนที่สาม?
ซูชิงหยิงถอนสายตาจากนั้นก็มองไปที่ประตูอย่างเกลียดชังและสาปแช่ง “ไอ้ประตูเส็งเคร็ง!”
แม้ว่านางจะไม่พอใจ แต่นางก็ไม่ได้หดหู่อะไร ถ้าไม่ใช่เพราะแมลงวิญญาณได้รับบาดเจ็บ การทดสอบของนางก็อาจจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ก็ได้
ตอนนี้ประตูมังกรทะยานสวรรค์สองแห่งปรากฏศิษย์ระดับมังกรทองคำแล้ว มีเพียงที่นี่ที่ยังไม่มีซึ่งดูไม่ดีเลย หากเป็นเช่นนั้นไม่ได้หมายความว่าคุณภาพของพวกเขาต่ำเหรอ?
เรื่องนี้ทุกคนที่นี่ไม่เห็นด้วยแน่นอน
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ซูชิงหยิงก็เลื่อนสายตาไปที่กลุ่มมู่เฉินก่อนจะยิ้มอ่อน “พี่มู่ พวกเจ้ายืนดูมานานแล้ว ถึงตาที่จะต้องเคลื่อนไหวมั่งแล้วนะ”
แม้ว่าคำพูดจะพุ่งไปกระทบมู่เฉิน แต่สายตากลับจดจ้องอยู่ที่หลินจิ้ง ในสายตานางคนที่มีโอกาสจะเป็นศิษย์ระดับมังกรทองคำน่าจะเป็นหลินจิ้งผู้ลึกลับคนนี้
สำหรับมู่เฉินชัดว่าอยู่นอกสายตานาง