หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1142 จิตทะเลสาบสวรรค์
วาบ! วาบ!
ขณะที่เสียงลมสั่นคลอน ร่างแสงนับไม่ถ้วนก็ลอยตัวขึ้นรอบทะเลสาบสวรรค์ แล้วพุ่งเข้ารอยแตกด้วยดวงตาแดงก่ำ
เมื่อผนึกถูกฉีกออก ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลในทะเลสาบสวรรค์ นอกจากนี้คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่ก็ไม่ธรรมดา พวกเขารู้ดีว่าทะเลสาบแห่งนี้มีความสำคัญต่อวังสวรรค์บรรพกาลเพียงใด มากจนแม้แต่ในสมัยโบราณก็มีเพียงศิษย์ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับสิทธิ์เข้าสู่ทะเลสาบแห่งนี้
ทว่าตอนนี้วังสวรรค์บรรพกาลล่มสลายแล้ว มีเพียงทะเลสาบสวรรค์ที่เหลืออยู่ หากพวกเขาสามารถคว้าโอกาสนี้ได้ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาลในการเพาะบ่มพลังในอนาคต อาจทะยานผ่านประตูสวรรค์ในก้าวเดียว กลายเป็นจอมยุทธ์รุ่นใหม่ที่โดดเด่นของทวีปเทียนหลัว
ดังนั้นในขณะนี้จึงไม่มีใครสามารถคงสติไว้ได้ ทุกคนพุ่งไปที่ทะเลสาบสวรรค์เหมือนเอาชีวิตเป็นเดิมพัน…
หากเป็นไปตามกฎเฉพาะคนที่ได้รับคำป้ายยินยอมตำหนักทั้งเก้าเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ทว่า ณ เวลานี้ไม่มีผู้พิทักษ์สายน้ำแห่งนี้อีกต่อไป ดังนั้นเมื่อผนึกถูกทำลายลงคนที่มามือเปล่าก็แอบเข้าไปโดยใช้รอยต่อของช่วงจังหวะนี้
เมื่อทุกคนพุ่งเข้าไป มู่เฉินก็ไม่ลังเลเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลสาบสวรรค์มากที่สุด พวกมู่เฉินจึงเป็นกลุ่มแรกที่มาถึงตรงรอยแตก ก่อนที่ทั้งหมดจะแลกเปลี่ยนสายตากันแล้วทะยานเข้าไป
ฮา!
เมื่อพวกเขาก้าวข้ามรอยแตก รัศมีโบราณก็กวาดเข้ามา ราวกับว่าคงอยู่มานับหมื่นปีพัดผ่านพวกเขา ทำให้ทั้งสี่คนเหม่อลอยไปเล็กน้อย หมอกควบแน่นก่อร่างเป็นทิวทัศน์โบราณ…
ฉากเคลื่อนไหวพร้อมกับร่างทรงพลังเข้าสู่ทะเลสาบ ร่างกายของพวกเขาเอิบอาบไปด้วยรัศมีปกป้องตนเอง ขณะไล่ตามดวงดาวในทะเลสาบ
ฉากนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งสี่คนก็ตื่นจากภวังค์ พวกเขาก้มหน้าลงก็สามารถมองเห็นทะเลสาบสวรรค์ระยิบระยับเป็นประกาย ราวกับว่าบรรจุด้วยพลังงานไร้ขอบเขตซึ่งทำให้มิติถึงกับบิดเบี้ยวเมื่อมหาสุมทรกลิ้งตัว น้ำทุกหยดเหมือนจะมีน้ำหนักสักพันชั่ง
ที่ด้านหลังก็มีคนพุ่งเข้ามามากขึ้น เมื่อเห็นทะเลสาบเบื้องหน้า ดวงตาก็ขึ้นริ้วแดงฉานความโลภกระจายเต็มใบหน้า
วาบ!
มีบางคนต่อต้านการล่อลวงไม่ได้ กระโดดตูมลงไปไม่ยั้งคิด
อ้าก!
แต่ทันทีที่คนคนนั้นเข้าไป เสียงกรีดร้องคร่ำครวญก็ดังโหยหวน คลื่นกวาดขึ้นจากทะเลสาบ บดขยี้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะปลายสุดให้กลายเป็นแอ่งเลือด
เสียงร้องดังกึกก้อง ทำให้ใบหน้าทุกคนเปลี่ยนไปก่อนที่จะถอยกันจ้าละหวั่นมองไปที่ทะเลสาบด้วยอาการขนพองสยองเกล้า
ไม่มีใครคิดว่าทะเลสาบสวรรค์จะอันตรายขนาดนี้!
“เกิดอะไรขึ้น?” แม้แต่หลินจิ้งยังสะดุ้ง ถ้านางพุ่งไปไม่ยั้งคิดก็คงได้อยู่ในสภาพน่าสมเพชไปแล้ว
“ทะเลสาบสวรรค์บรรจุไปด้วยพลังน่าสะพรึง ถ้าการกระโดดลงโดยไม่คิดหน้าคิดหลังก็เท่ากับฆ่าตัวตาย” มู่เฉินยังคงนิ่งสงบ ราวกับภาพเบื้องหน้าถูกคาดการณ์เอาไว้แล้ว
“แล้วเราควรทำยังไงดี?” เซียวเซียวมองไปที่มู่เฉิน
มู่เฉินยิ้ม จากนั้นกำมือป้ายมังกรทองคำก็ปรากฏขึ้นในมือ
เขาโยนป้ายลงไปในทะเลสาบ ประกายสีทองก็เบ่งบาน ป้ายขยายขนาดอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเรือที่ห่อหุ้มไปม่านแสงสีทอง
มู่เฉินเหยียบลงบนเรือ เคลื่อนไหวอย่างอิสระบนผิวน้ำ
“อา ป้ายนี่ใช้แบบนี้ได้ด้วย” เมื่อทุกคนเห็นภาพนี้ดวงตาก็สว่างวาบ แต่ละคนเลียนแบบมู่เฉินทันที ป้ายขยายอย่างรวดเร็วปกคลุมไปด้วยม่านแสงกลายเป็นเรือลำน้อย
แต่เนื่องจากความแตกต่างในระดับชั้น เรือแต่ละลำจึงมีสีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ระดับการป้องกันก็เห็นได้ชัดต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเรือมังกรทองคำของมู่เฉิน
ทะเลสาบบรรจุไปด้วยพลังที่น่ากลัว หากร่างกายสัมผัสโดยตรงก็ตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีเพียงการป้องกันจากป้ายทำให้พวกเขาสามารถอยู่ในทะเลสาบได้ แต่เนื่องจากความแตกต่างในระดับความแข็งแกร่ง ยิ่งระดับสูงเท่าไรก็ยิ่งสามารถเข้าไปในจุดลึกได้
มู่เฉินยืนบนเรือ พรรคพวกสามคนก็ทำตามแบบเดียวกัน พวกนางสงสัยชัดเจนเกี่ยวกับเรือที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า โดยเฉพาะหลินจิ้งที่จับโน้นจับนี่พลางเอานิ้วจิ้มม่านแสงเบาๆ
“เราจะทำอะไรต่อ?” หลินจิ้งถามด้วยความตื่นเต้น
“ที่จริงตราบใดที่เราอยู่ในทะเลสาบสวรรค์ก็ไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่การฝึกฝนที่นี่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว” มู่เฉินยิ้ม ด้วยคลื่นหลิงไร้ขอบเขตของทะเลสาบ ประสิทธิภาพการฝึกฝนในหนึ่งวันจะมีค่าเท่ากับหนึ่งเดือนที่ด้านนอก
แต่เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่พอใจแค่นี้ ดังนั้นหลังจากหยุดไปชั่วครู่ มู่เฉินก็พูดต่อ “ถ้าต้องการได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ก็ต้องเข้าไปในจุดลึกของทะเลสาบ”
“แล้วการชำระล้างล่ะ?” เซียวเซียวถาม จากมุมมองของนางเป็นธรรมดาที่จะไม่สนใจกับผลประโยชน์ทั่วไปที่มู่เฉินบอก มีเพียงวิธีชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ที่ทำให้นางสนใจได้
“ตามกฎเราต้องค้นหาจิตทะเลสาบสวรรค์เพื่อรับการชำระล้าง ต้องรวบรวมให้ได้เพียงพอถึงจะได้รับการชำระล้างที่สมบูรณ์แบบ” มู่เฉินยิ้ม
“จิตทะเลสาบสวรรค์? คืออะไร?” หลินจิ้งรู้สึกเซ็ง ไม่คิดว่าพิธีชำระล้างทะเลสาบสวรรค์จะยุ่งยากขนาดนี้
มู่เฉินยื่นนิ้วชี้ไปที่ส่วนลึกของทะเลสาบ บางครั้งจะมีแสงตะคุ่มราวกับดาวหางพาดผ่าน แม้จะอยู่ในระยะไกลก็ยังสามารถสัมผัสถึงพลังน่ากลัวที่เปล่งออกมาดาวหางเหล่านั้น
“นั่นคือจิตทะเลสาบสวรรค์ แต่ละดวงบรรจุด้วยพลังงานบริสุทธิ์และเป็นแหล่งที่มาของพลังงานในพิธีการชำระล้าง ซึ่งกระบวนการก็แบ่งเป็นสามขั้นคือ ต่ำ-สูง-สมบูรณ์ การชำระล้างขั้นสมบูรณ์ต้องการใช้พลังของจิตทะเลสาบสวรรค์ร้อยดวงน่ะ”
พูดถึงตรงนี้มู่เฉินก็ยักไหล่ “แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับการชำระล้างขั้นสมบูรณ์ ว่ากันว่าแม้ในสมัยโบราณศิษย์ที่ได้รับการชำระล้างขั้นสมบูรณ์ก็ยังมีน้อยมาก”
“ถ้างั้นข้าจะลองดู” เมื่อได้ยินคำอธิบายของมู่เฉิน เซียวเซียวกลับรู้สึกสนใจพลางแย้มยิ้ม ด้วยความมั่นใจในตัวเอง นางต้องการผลที่ดีที่สุด
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ลุยกันเลย” มู่เฉินยิ้มกระแทกฝ่าเท้า เรือมังกรทองคำใต้เท้าก็เปล่งแสงระยับ เคลื่อนไปข้างหน้าเข้าไปในส่วนลึกอย่างรวดเร็ว
จิตทะเลสาบสวรรค์อยู่กันอย่างกระจัดกระจาย ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแบ่งกันได้ง่ายๆ หากทำงานร่วมกัน ดังนั้นทั้งสี่คนจึงแยกกันไปชั่วคราว
เมื่อพวกเขาเคลื่อนไหว เสียงสาดกระเซ็นก็ดังก้องไปทั่วทะเลสาบอย่างต่อเนื่อง มีจอมยุทธ์จำนวนมากพลิ้วตัวลงบนเรือ แล้วมุ่งหน้าไปหาจิตทะเลสาบสวรรค์ที่ราวกับดวงดาว
ฟิ้ว!
มู่เฉินยืนบนเรือมังกรทองคำตัดผ่านสายน้ำ ม่านแสงสีทองน่าพิศวงนัก ไม่ว่าน้ำในทะเลสาบสวรรค์จะซัดเข้ามามากแค่ไหน ก็ไม่สามารถสั่นคลอนม่านแสงได้แม้แต่น้อย
แต่เมื่อเดินทางเข้าไปในจุดลึกมากขึ้นเรื่อยๆ มู่เฉินก็ค่อยๆ รู้สึกถึงแรงกดดันแม้จะมีม่านแสงปกป้องก็ตามซึ่งทำให้เขาแอบตกใจ หากไม่มีป้ายช่วยปกป้อง ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเข้าสู่ทะเลสาบสวรรค์ส่วนลึกด้วยพละกำลังที่มี
ขณะที่มู่เฉินอึ้งทึ่ง แสงแวววาวก็ผลิบานที่เบื้องหน้าสายตา เขาเงยหน้าขึ้นมองเห็นดวงดาวที่ล่องลอยอยู่พร้อมกับรัศมีพร่างพราวเล็ดลอดออกมา ความผันผวนของคลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตทำให้ผิวทะเลสาบกระเพื่อมไหว
นั่นคือจิตทะเลสาบสวรรค์ดวงหนึ่ง
มู่เฉินมองไปก็เคลื่อนเข้าหาด้วยความสนใจ แต่ในเวลาเดียวกันก็ตื่นระวังขั้นสุดไว้ เขารู้สึกได้อย่างเลือนรางถึงภัยคุกคามที่มาจากดวงดาวดวงนี้
ฮึ่ม ฮึ่ม
เมื่อมู่เฉินเข้ามาใกล้ จิตทะเลสาบดวงนี้ก็เหมือนสัมผัสได้ถึงการเข้าใกล้ของเขา มันสั่นแล้วกระโจนใส่มู่เฉินอย่างแรง
มู่เฉินตกใจกับภาพเบื้องหน้า ไม่กล้ารอช้า ร่างกายพรั่งพรูด้วยแสงสีทอง คลื่นหลิงไร้ขอบเขตกลายเป็นกำปั้นพุ่งผ่านม่านแสงสีทองซัดใส่จิตทะเลสาบ
ภายในทะเลสาบคลื่นหลิงดูเหมือนเดินทางได้อย่างอิสระ ดังนั้นเมื่อการโจมตีของมู่เฉินทะลุผ่านม่านแสง มันก็ไม่ได้ถูกยับยั้งกลับพุ่งออกไปเร็วกว่าเดิม
ตู้ม!
กำปั้นปะทะกับจิตทะเลสาบ ทว่าการโจมตีที่ทรงประสิทธิภาพเช่นนี้ยับยั้งจิตทะเลสาบได้เพียงแวบหนึ่งก่อนจะระเบิดออก
วาบ!
จิตทะเลสาบครางกระหึ่มกวาดเข้ามา กระแทกเข้ากับม่านแสงพลัง
ปัง!
ทั่วทั้งม่านแสงสั่นสะเทือนรุนแรงส่งระลอกคลื่นเป็นวงกว้าง แรงการปะทะทำให้เรือถอยกลับไปหลายร้อยจั้ง
ซื้ด
มู่เฉินมองม่านแสงที่สั่นสะเทือนก็อัดอากาศเย็นเต็มปอด เนื่องจากเขารู้สึกได้ว่าเรือมังกรทองคำใต้ฝ่าเท้าสั่นไหวไปหมด เห็นได้ชัดว่าแม้จะใช้ป้ายมังกรทองคำก็ไม่สามารถทนต่อการโจมตีได้มาก ยิ่งกว่านั้นเมื่อไรที่เรือแตกการเดินทางในทะเลสาบสวรรค์ของมู่เฉินก็จะสิ้นสุดลง
การโจมตีของจิตทะเลสาบน่ากลัวมากจนสามารถเทียบเท่าจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มเลยทีเดียว!
ฟิ้ว!
ขณะที่มู่เฉินตกตะลึง จิตทะเลสาบที่ราวกับดวงดาวก็พุ่งโจมตีเข้ามาอีกครั้ง
“นรกล่ะ!”
เผชิญหน้ากับการจู่โจมของจิตทะเลสาบสวรรค์ กระทั่งมู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง ใบหน้าเขาขึงเกร็ง ขณะนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการได้รับพิธีชำระล้างในทะเลสาบสวรรค์ยากเข็ญเพียงใด
ซึ่งยากยิ่งกว่าถ้าเขาต้องการได้รับการชำระล้างสมบูรณ์แบบ จะทุกข์ทนยิ่งกว่าก้าวขึ้นสวรรค์ซะอีก