หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1144 เก็บเกี่ยวยิ่งใหญ่
มู่เฉินยืนอยู่บนเรือมังกรทองคำ
ขณะสายตามองทะเลสาบสวรรค์ที่มีชีวิตชีวา ทว่าเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่เดียวแต่หัวเรือกลับเคลื่อนเข้าไปในส่วนลึก
เขาต้องการทดสอบว่าความคิดของตนเองถูกต้องไหม
เนื่องจากคลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขต ทะเลสาบสวรรค์จึงเต็มไปด้วยแรงกดดันที่น่ากลัว ยิ่งลึกลงไปแรงกดดันก็จะหนาแน่นมากขึ้น ป้ายศิษย์ธรรมดาไม่สามารถเข้ามาลึกมากได้ แต่โชคดีที่มู่เฉินมีป้ายมังกรทองคำซึ่งทำให้เขาเดินทางได้อย่างอิสระในทะเลสาบสวรรค์
ขณะที่เขามุ่งหน้าไปลึกขึ้น จำนวนผู้คนก็ลดลงเช่นกันก่อนที่เขาจะเลือกสถานที่เงียบสงบปักหลัก
เขานั่งลงบนเรือนิ้วทั้งสิบขยับเบาๆ สัญลักษณ์หลิงยิ่งพวยพุ่งออกจากปลายนิ้วยิงออกไปรวมเข้ากับชั้นบรรยากาศอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาสิบกว่าลมหายใจค่ายกลก็ก่อร่างขึ้นที่เบื้องหน้าแล้ว
ค่ายกลนี้ไม่ได้มีความสามารถในการโจมตี เนื่องจากเป็นค่ายกลบรรจบจิต
นี่เป็นเหยื่อล่อที่เขาสร้างขึ้นจับปลาจิตทะเลสาบ
จากการสังเกตเมื่อสักครู่มู่เฉินตระหนักว่าการปรากฏตัวทุกครั้งของจิตทะเลสาบจะเป็นสถานที่ที่มีคลื่นหลิงหนาแน่นมาก เห็นได้ชัดว่าจิตเหล่านั้นมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่มีคลื่นหลิงหนาแน่นโดยสัญชาตญาณเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของมัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้มู่เฉินก็ไม่ต้องออกค้นหาพวกมันอย่างขมขื่น เพราะเขาสามารถตั้งค่ายกลที่มีพลังงานหลิงหนาแน่นเพื่อล่อจิตทะเลสาบเข้ามาในกับดัก
แน่นอนว่าเมื่อมีเหยื่อก็ต้องมีอวน
มู่เฉินมองไปที่ค่ายกลบรรจบจิตก็คลี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนที่เส้นสายผนึกจะบินฉวัดเฉวียนออกมารวมเข้ากับชั้นบรรยากาศอีกครั้ง
เมื่อสัญลักษณ์หลิงยิ่งบินออกไปอย่างต่อเนื่อง ค่ายกลก็ถักทอขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทว่ามู่เฉินไม่ได้เปิดใช้งานทันที กลับซ่อนไว้ก่อนที่จะสร้างค่ายกลขึ้นอีกหลายชั้น
ค่ายกลเหล่านี้อยู่ในระดับเทียนเท่านั้น ดังนั้นมู่เฉินต้องชดเชยคุณภาพด้วยปริมาณ แน่นอนว่าหากต้องการจัดการกับจิตทะเลสาบที่เทียบเท่ากับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มแค่ค่ายกลระดับนี้อย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ
ดังนั้นหลังจากสร้างค่ายกลระดับเทียนสิบกว่าค่ายกล มู่เฉินก็หายใจเข้าลึกใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
สัญลักษณ์หลิงยิ่งนับไม่ถ้วนพรั่งพรูออกจากมือ เต้นระริกบนท้องฟ้าก่อนที่จะรวมเข้ากับชั้นบรรยากาศด้านนอกค่ายกลค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
ค่ายกลนี้ทำให้มู่เฉินเสียเวลาไปพอสมควร เพราะนี่คือค่ายกลระดับจงซือที่ไม่สมบูรณ์—ค่ายกลย์เก้าเทพมังกรประหาร
เมื่อสัญลักษณ์หลิงยิ่งผนึกสุดท้ายรวมเข้ากับชั้นบรรยากาศ มู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าพวกมันเริ่มเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน
เขามองขึ้นไปข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก แม้ว่าสถานที่จะดูสงบ แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่ามีถ้ำมังกรซึ่งแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความตายได้
“ตอนนี้ก็มาดูกันว่าจะได้ผลหรือไม่”
ดวงตาของมู่เฉินเป็นประกายด้วยความคาดหวัง จากนั้นก็สะบัดนิ้ว แสงเบ่งบานจากค่ายกลบรรจบจิตที่อยู่ชั้นในสุดก่อนที่แรงดูดจะระเบิดออกมา
ซ่า ซ่า
น้ำในทะเลสาบโดยรอบเริ่มกระเพื่อม คลื่นหลิงที่มองเห็นได้พุ่งไปรวมตัวกันในค่ายกลบรรจบจิตอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากคลื่นหลิงในทะเลสาบสวรรค์มีมหาศาลผลของค่ายกลบรรจบจิตจึงดีมากเช่นกัน ในช่วงเวลาสิบกว่าลมหายใจน้ำทะเลสาบภายในค่ายกลก็ถึงขนาดรวมตัวเป็นผลึกพร้อมกับปล่อยหมอกหลิงออกมา
คลื่นหลิงบริเวณนี้บริสุทธิ์และหนาแน่นกว่าสถานที่อื่นๆ ในทะเลสาบสวรรค์
มู่เฉินพยักหน้ากับภาพนี้ เหยื่อถูกตั้งเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาดูว่าปลาจะมาติดอวนไหม หากไม่ได้ผลเขาก็ต้องกลับไปใช้วิธีดั้งเดิมในการไล่จับจิตทะเลสาบสวรรค์ซึ่งมีประสิทธิภาพต่ำ
มู่เฉินนั่งรอบนเรือเงียบๆ ก่อนที่จะหลับตาลงช้าๆ สร้างค่ายกลปกปิดคลื่นพลังของตัวเองไว้จากรอบตัว เพื่อที่จิตทะเลสาบสวรรค์จะไม่ค้นพบ
ในส่วนลึกของทะเลสาบสวรรค์ช่างเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นเป็นครั้งคราว
ขณะที่เวลาผ่านไป ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มู่เฉินเริ่มขมวดคิ้วกับภาพนี้ หรือว่าเขาคิดผิด?
“รออีกหน่อยแล้วกัน”
ทว่ามู่เฉินก็ระงับความกังวลในใจและรอต่อไป
สิบนาทีผ่านไป แต่สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบก็ทำเอาเขาเริ่มผิดหวัง ขณะที่มู่เฉินกำลังจะยอมแพ้ท่าทางก็เปลี่ยนไปเมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวจากน้ำในทะเลสาบที่เบื้องหน้า
ซ่า ซ่า
ริ้วแสงปรากฏขึ้นในระยะไกล พุ่งใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ความปีติแล่นพล่านในดวงตาของมู่เฉิน เนื่องจากเขารู้ว่านี่คือจิตทะเลสาบสวรรค์
จิตทะเลสาบบินเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับแสงเอิบอาบ ดูเหมือนจะอดทนไม่ได้ขณะพุ่งไปที่ค่ายกล
มู่เฉินดีใจมากในหัวใจ ความคิดของเขาได้ผลจริงด้วย
จิตทะเลสาบบินเข้ามาปรากฏที่นอกค่ายกล แต่ทันใดนั้นมันก็ช้าลงราวกับว่าสัมผัสได้ถึงบางอย่าง
เวลาเดียวกันหัวใจของมู่เฉินก็โลดมาที่คอหอย จิตทะเลสาบดวงนี้เหมือนจะสัมผัสได้ถึงความผันผวนแปลกประหลาดรอบๆ น้ำในทะเลสาบ
มันบินวนไปรอบๆ ค่ายกลด้วยอาการลังเล คลื่นหลิงหนาแน่นที่ปล่อยออกมาจากค่ายกลบรรจบจิตคล้ายกับอาหารอันโอชะที่ยั่วยวน
มันยึกยักอยู่รอบค่ายกลพักหนึ่ง สุดท้ายสติปัญญาน้อยนิดที่มีก็ไม่สามารถละทิ้งสิ่งล่อใจเบื้องหน้า พุ่งเข้าสู่ค่ายกลทันที
ฮึ่ม ฮึ่ม
เมื่อมันเข้ามาได้ก็กลืนกินคลื่นหลิงแข็งแกร่งพร้อมกับเสียงฮึมฮัมเปล่งออกมาราวกับว่ามีความสุข
ขณะที่จิตทะเลสาบกำลังกลืนกินพลังงานอย่างเพลิดเพลิน รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้ามู่เฉิน ในที่สุดปลาก็ติดกับดัก ตอนนี้ได้เวลาเก็บแหแล้ว!
ตู้ม!
เพียงแค่คิดค่ายกลจำนวนมากรอบๆ ค่ายกลบรรจบจิตก็ถูกกระตุ้น ทันใดนั้นลวดลายหลิงก็ปรากฏขึ้นห่อหุ้มค่ายกลบรรจบจิตเอาไว้
การระเบิดของคลื่นหลิงกะทันหันทำให้จิตทะเลสาบตกใจ มันกลายเป็นริ้วแสงพยายามหลบหนี
ทว่าตอนนี้สายเกินไปที่มันจะหนีแล้ว
จิตทะเลสาบชนกับชั้นแรก ค่ายกลระดับเทียนแตกเป็นเสี่ยงๆ ทันที ชั้นที่สอง… ชั้นที่สาม… ก็ตามมา
เมื่อมู่เฉินเห็นสิ่งนี้ก็แอบเดาะลิ้น โชคดีที่เขาเตรียมตัวดี ไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถดักจิตทะเลสาบสวรรค์ได้
ปัง! ปัง!
ชั้นของค่ายกลแตกสลายภายใต้ผลกระทบ ทว่าความเร็วของจิตทะเลสาบก็ค่อยๆ ช้าลงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่ามันเหนื่อยล้าจากค่ายกลระดับเทียน
เพียงหนึ่งนาทีค่ายกลระดับเทียนทั้งหมดก็พังทลายลง
ทว่ามู่เฉินไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไพ่ตายของเขาคือค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารที่สร้างไว้ชั้นนอกสุด
โฮก!
เมื่อจิตทะเลสาบมาถึงชั้นนอกสุด ค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารก็ถูกกระตุ้น คลื่นหลิงไร้ขอบเขตกลายเป็นมังกรพุ่งเข้าปะทะ
ปัง!
คลื่นถาโถมจากการปะทะ จิตทะเลสาบได้รับความเสียหายอย่างหนักก่อนที่จะถูกผลักกลับ แม้แต่แสงมันวาวโดยรอบก็จางลง
เห็นได้ชัดว่าค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารแข็งแกร่งกว่าค่ายกลก่อนหน้ามาก
หัวใจของมู่เฉินสงบลงเมื่อเห็นภาพนี้ ตอนนี้จิตทะเลสาบเป็นลูกไก่ในกำมือแล้ว ไม่อาจหนีไปได้อีก
ตู้ม! ตู้ม!
ในเวลาต่อไป มันยังคงโจมตีไม่หยุด แต่ก็ไม่สามารถแข่งกับค่ายกลเก้าเทพมังกรประหารได้และถูกผลักกลับไปหลายครั้งพร้อมกับแสงมันวาวรอบตัวจืดจางลง
เมื่อการปะทะครั้งสุดท้ายเสร็จสิ้น จิตทะเลสาบก็หดตัวลงครึ่งหนึ่ง
มู่เฉินลุกขึ้นยืนไปปรากฏตัวขึ้นเหนือจิตทะเลสาบ ด้วยการตบคลื่นหลิงไร้ขอบเขตก็ระเบิดออก ผูกจิตทะเลสาบก่อนที่เขาจะกำหมัดแน่นบีบอัดลงย่างรวดเร็ว กลายเป็นก้อนอัญมณี
ก้อนอัญมณีพลิ้วลงในมือมู่เฉินก่อนที่เขาจะโยนมันขึ้นลงด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ จากนั้นสัญลักษณ์หลิงยิ่งนับไม่ถ้วนก็พวยพุ่งออกมา สร้างค่ายกลที่ถูกทำลายไปก่อนหน้าออกมาใหม่
นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีจิตทะเลสาบเข้ามาตามเส้นทางนี้อีกครั้งแล้ว
หนึ่งชั่วโมงถัดมา
จุดที่มู่เฉินอยู่ก็เริ่มคึกคักยิ่งขึ้น จิตทะเลสาบทีละดวง…ทีละดวงถูกล่อลวงและตกหลุมพราง
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับกับดัก จิตทะเลสาบที่ไม่ได้มีสติปัญญามากนักก็ตกหลุมพรางด้วยตัวเอง
ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงมู่เฉินก็ได้ก้อนอัญมณีมาสิบสามดวงแล้ว!
แม้แต่มู่เฉินที่มีจิตใจสงบยังอดยิ้มแย้มไม่ได้ ด้วยความเร็วนี้การรวบรวมจิตทะเลสาบสวรรค์สามสิบดวงก็ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ขณะที่มู่เฉินกำลังตั้งใจเก็บเกี่ยวจิตทะเลสาบจำนวนมาก ความผันผวนของค่ายกลก็กระจายออกไป ซึ่งดึงดูดความสนใจของหลายคนเข้ามา
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามู่เฉินจับจิตทะเลสาบได้อย่างง่ายดายด้วยการใช้ค่ายกล ดวงตาแต่ละคนก็แทบหลุดออกจากเบ้า ความตกใจและความโลภก็กะพริบในดวงตาพวกเขา
ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้สูญเสียสติเพราะความโลภ พวกเขาสามารถสัมผัสได้ว่าค่ายกลเหล่านั้นน่ากลัวเพียงใด แม้แต่จิตทะเลสาบสวรรค์ที่อยู่ในระดับจื้อจุนขั้นเก้าระยะเต็มยังไม่สามารถหนีออกมาได้ ไม่ต้องพูดถึงพวกเขาให้เมื่อยปาก
ดังนั้นแม้ว่าดวงตาของพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่ก็ทำได้เพียงมองดูและไม่กล้าที่จะก้าวเข้าไป
แต่ชัดว่านี่ไม่ได้เป็นกับทุกคน
ตู้ม!
มู่เฉินที่ได้รับจิตทะเลบสาบอีกดวงก็สะบัดมือเก็บเข้ามา ทว่าเขาไม่ได้เคลื่อนไหวแต่ยืนขึ้นมองไปที่พื้นที่ห่างไกลด้วยความเฉยเมย
ร่างแสงสีทองพาดผ่านเข้ามาปรากฏที่เบื้องหน้าเขาในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
คนคนนั้นยืนอยู่บนเรือมังกรทองคำ ซึ่งเป็นคนหน้าตาคุ้นเคยยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนนั้น
นั่นคือเซี่ยหยู่
เซี่ยหยู่ยืนอยู่บนเรือมองไปที่มู่เฉินด้วยรอยยิ้มพลางปรบมือเบาๆ “ไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถจับจิตทะเลสาบสวรรค์ด้วยวิธีนี้ เปิดหูเปิดตาจริงๆ”
มู่เฉินมองเซี่ยหยู่โดยไม่มีสีหน้าใดๆ และไม่ตอบคำพูดของเขา
เซี่ยหยู่ไม่โกรธมู่เฉินกลับยิ้มอ่อนโยน “มอบก้อนจิตทะเลสาบครึ่งหนึ่งที่เจ้าได้ให้ข้าซะ ไม่งั้นข้าจะทำลายค่ายกล แล้วเจ้าจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างราบรื่นอีก”
เมื่อมู่เฉินได้ยินคำพูดรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าพลางเงยหน้าขึ้นชี้ไปทางอื่น
“ไสหัวไป”
เผชิญหน้ากับการคุกคามของเซี่ยหยู่ มู่เฉินเอ่ยคำตอบแบบตรงและแรงอย่างที่สุด