หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1154 ประชันร่างเทห์สวรรค์

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1154 ประชันร่างเทห์สวรรค์

ในส่วนลึกของทะเลสาบสวรรค์

การเคลื่อนไหวแปลกประหลาดส่งผลให้ความปลื้มปีติฉายบนใบหน้าของมู่เฉิน เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงรอยประทับที่ปรากฏในห้วงแห่งจิต

แต่คราวนี้ความผันผวนจากรอยประทับเหล่านั้นดูเหมือนจะแตกต่างกับก่อนหน้านี้

นั่นเป็นเพราะไม่ได้มีจิตทะเลสาบเก้าสิบเก้าดวง แต่มีเพียงหนึ่งเดียว!

แต่ความผันผวนที่เปล่งออกมาก็ทำให้หัวใจของมู่เฉินสั่นสะท้าน หากจิตทะเลสาบสวรรค์ทั้งเก้าสิบเก้าดวงมีลักษณะคล้ายกับดวงดาวบนท้องฟ้า ความผันผวนหนึ่งเดียวนี้ก็เสมือนดวงอาทิตย์ส่องแสงมายังโลก

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดรอยยิ้มที่มุมปากของมู่เฉิน นั่นหมายความว่าการคาดเดาของเขาถูกต้องแล้ว

สิ่งที่เรียกว่า ‘จิตทะเลสาบสวรรค์ดวงที่ร้อย’ นั้นไม่สามารถได้รับโดยวิธีทั่วไป

ครืน!

ขณะที่มู่เฉินรู้สึกมีความสุขในหัวใจ ทะเลสาบเหนือจู้เยี่ยน จาโหลหลัว เซียวเซียวและหลินจิ้งก็สั่นสะเทือนรุนแรงก่อนที่จะเทลงมาล้อมรอบพวกเขาราวกับน้ำตก

น้ำตกมีพลังงานบริสุทธิ์มาก หนาแน่นจนถึงจุดที่สามารถมองเห็นสะเก็ดระยิบระยับ

สะเก็ดถูกสร้างขึ้นจากคลื่นหลิงที่ควบแน่นอย่างมาก เพียงแค่เศษละอองก็เทียบเท่ากับของเหลวจื้อจุนพิสุทธิ์หลายหมื่นหยด

เมื่อน้ำตกไหลลงมาทั้งสี่คนก็เร้าร่างเทห์สวรรค์ออกมาเพื่อรับการชำระล้าง

จู้เยี่ยนเป็นคนแรกที่เปิดเผยร่างเทห์สวรรค์ เปลวไฟไร้ขอบเขตรวมตัวอยู่ข้างหลังเขากลายเป็นเงาเพลิงขนาดใหญ่ในอึดใจ แรงครอบงำของเปลวไฟทำให้มิติบิดเบี้ยว ร่างนั้นราวกับเทพอัคคีอย่างไรอย่างนั้น

“นั่นคือร่างเทพอัคคีของจู้เยี่ยนเหรอ? ลือกันว่านี่เป็นหนึ่งในร่างเทห์สวรรค์ล้ำค่าเผ่าเทพอัคคี อยู่อันดับที่สามสิบสี่ของทำเนียบร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง!” เมื่อจู้เยี่ยนนำร่างเทห์สวรรค์ออกมา ความโกลาหลก็กวนตัวทันที ทุกคนฉายความโลภในดวงตา ร่างเทห์สวรรค์อันดับแบบนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่ขั้วอำนาจอย่างแคว้นเซี่ยก็ยังไม่มี

มู่เฉินจ้องไปที่ร่างเทห์สวรรค์ร่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจชื่นชม ตามการคาดการณ์นี่อาจเทียบได้กับร่างเทพสุริยะของเขาเลยก็ว่าได้

ท้ายที่สุดแล้วร่างเทพสุริยะน่ากลัวในแง่ของศักยภาพ แต่เวลานี้ยังอยู่ในสถานะร่างต้น ดังนั้นในแง่ของการจัดอันดับอาจอยู่ในอันดับสามสิบเท่านั้น ซึ่งใกล้เคียงกับร่างเทพอัคคี

ในอดีตตอนที่มู่เฉินยังอ่อนแอ เขาเจอเหล่าจอมยุทธ์ที่ไม่ได้มีรากฐานแข็งแกร่งจึงสามารถผงาดเหนือกว่าได้ด้วยร่างเทพสุริยะ แต่ในขณะนี้เขาปะทะกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ร่างเทห์สวรรค์ที่เจอก็แข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน ดังนั้นสามารถจินตนาการได้ว่าบางทีวันหนึ่งเขาอาจต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่มีร่างเทห์สวรรค์ที่เหนือกว่าตัวเอง

ถึงเวลานั้นก็ถึงคราวของเขาต้องกระอักบ้าง

ดังนั้นก่อนที่สถานการณ์ดังกล่าวจะปรากฏขึ้นเขาต้องพัฒนาร่างเทพสุริยะให้ได้ในวังโบราณแห่งนี้ ด้วยวิวัฒนาการเขาจะสามารถรักษาความได้เปรียบที่แท้จริงของตนเองเอาไว้ได้

ขณะที่มู่เฉินครุ่นคิด ด้านหลังของหลินจิ้งก็เกิดแสงพรั่งพรูออกมาอย่างอ่อนโยนราวกับว่าสามารถยอมรับและหลอมรวมกับทุกสรรพสิ่งได้

แสงก่อร่างเป็นเงาขนาดใหญ่และสง่างามเปล่งประกายแวววาวราวกับหยกดูเหมือนว่าสามารถรวมเข้ากับอะไรก็ได้ ในมือถือขวดหยกซึ่งตรงปากขวดมีความผันผวนที่น่าอัศจรรย์คลุมเครือเล็ดลอดออกมาราวกับว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวได้รับการหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน

เมื่อนางเร้าร่างเทห์สวรรค์ของตัวเองออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนที่พวกเขาจะตระหนักถึงบางอย่างจนต้องหายใจเข้าลึกๆ

“คัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์ที่หลินจิ้งฝึกฝนคือร่างเทพหยก ซึ่งอยู่ในอันดับที่ยี่สิบแปดในทำเนียบ!” หัวใจของมู่เฉินก็สั่นสะท้านพร้อมกับความตกใจบนใบหน้า

ร่างเทพหยกไม่ได้มีชื่อเสียงนักในมหาพันภพ แต่ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ เป็นเพราะเงื่อนไขในการฝึกฝนโหดเหี้ยมเกินไปและทรัพยากรที่ต้องการก็เป็นสิ่งที่ต่อให้คั้นขั้วอำนาจระดับสูงยังอาจไม่สามารถฝึกได้สำเร็จ

เรื่องที่มีชื่อเสียงที่สุดของร่างเทพหยกไม่ใช่เรื่องการจัดอันดับ แต่เป็นความสามารถในการรวมเข้ากับทุกสรรพสิ่ง ตราบใดที่ผู้ฝึกสามารถฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์นี้ได้ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้นหากตัดสินใจที่จะฝึกร่างเทห์สวรรค์ที่สูงขึ้นในอนาคต พวกเขาใช้ร่างเทพหยกเป็นรากฐานได้ ด้วยวิธีนี้ก็จะสามารถฝึกร่างเทห์สวรรค์ร่างใหม่ได้เร็วมากขึ้น พลังก็จะมีข้อดีของทั้งสองร่างรวมไว้เช่นกัน ช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน

ดังนั้นแม้ว่าร่างเทพหยกจะอยู่ในอันดับที่ยี่สิบแปด แต่ความเก่งกาจก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าสิบอันดับแรก!

“มีพ่อที่ดีก็เยี่ยมแบบนี้แหละ”

กระทั่งมู่เฉินก็อดถอนหายใจไม่ได้ อาจมีเพียงยอดยุทธ์ทรงพลังอย่างเทพจักรพรรดิสงครามเท่านั้นที่สามารถจัดหาทรัพยากรให้กับบุตรสาวเพื่อฝึกฝนร่างเทพหยกได้

จู้เยี่ยนตกใจไปเล็กน้อยเมื่อร่างเทพหยกปรากฏตัวเบื้องหน้า เขามองไปที่หลินจิ้งรากฐานที่ปรากฏของหญิงสาวทำให้เขาชักหวั่นใจ เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวคนนี้ต้องมีภูมิหลังที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งไม่อ่อนแอไปกว่าเซียวเซียว

แววตาของจาโหลหลัวมืดครึ้มโดยไม่มีการแสดงออกใดๆ บนใบหน้า ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

“ไม่รู้ว่าร่างเทห์สวรรค์ของเซียวเซียวคือร่างอะไร?” ขณะที่รู้สึกถึงความผันผวนในส่วนลึกของทะเลสาบสวรรค์มู่เฉินก็มองไปที่เซียวเซียวอีกครั้ง บิดาของนางคือเทพจักรพรรดิอัคคีที่มีชื่อเสียง ดังนั้นร่างเทห์สวรรค์ที่เขาเตรียมไว้ต้องไม่ธรรมดาเช่นกัน

แม้ว่าเทพจักรพรรดิสงครามและเทพจักรพรรดิอัคคีจะไม่เคยพบปะกัน แต่บุตรสาวของพวกเขาก็ต้องมีจิตวิญญาณการแข่งขันของสตรีอยู่ในใจ

เซียวเซียวหลับตาลง ประกายสีรุ้งพวยพุ่งออกมาที่ด้านหลัง กลั่นตัวเป็นเงาขนาดใหญ่ซึ่งเป็นรูปร่างที่สง่างามนัก ทว่าร่างนี้มีส่วนล่างเป็นงูที่มีเกล็ดระยิบระยับทำให้ดวงตาของคนมองละลานไปหมด

“นั่นคือร่างอะไร?” เมื่อมู่เฉินเห็นร่างเทห์สวรรค์นั่นก็ตะลึงงัน นั่นเป็นเพราะตามความรู้ที่มีดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีร่างเทห์สวรรค์ดังกล่าวอยู่ในทำเนียบคัมภีร์ร่างเทห์สวรรค์เก้าสิบเก้าร่าง

เห็นได้ชัดว่าเซียวเซียวฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์ลึกลับซึ่งไม่ได้อยู่ในการจัดอันดับ แต่จากความผันผวนที่เปล่งออกมาแม้แต่มู่เฉินก็รู้สึกได้ถึงร่องรอยอันตรายที่มาจากมัน

เขารู้สึกได้ว่าร่างเทห์สวรรค์ลึกลับนี้อาจไม่ด้อยไปกว่าร่างเทพสุริยะ

“หรือว่าจะเป็นร่างเทห์สวรรค์ที่เทพจักรพรรดิอัคคีเป็นผู้คิดค้นขึ้นเอง? หากเป็นเช่นนั้นเขาก็น่ากลัวเกินไปแล้ว” มู่เฉินแอบเดาะลิ้น

ความปั่นป่วนยังคงดำเนินต่อไป มีหลายคนมองไปที่ร่างเทห์สวรรค์ลึกลับของเซียวเซียวด้วยความสงสัย ทว่าเนื่องจากพวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับสถานะของเซียวเซียว พวกเขาจึงไม่สามารถคาดเดาได้

ขณะนี้มู่เฉินมองไปที่จาโหลหลัวด้วยสายตาเฉียบคม

อีกฝ่ายก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยไอสังหารที่กะพริบอยู่ในดวงตา ก่อนที่เขาจะยกมุมปาก มือวาดตราประทับขึ้น ทันใดนั้นคลื่นหลิงไร้ขอบเขตก็ควบแน่นอยู่ข้างหลังพร้อมกับความผันผวนที่ทำให้แผ่นดินร้าวกระจายออกไป มิติถึงกับโยกคลอน

ทุกคนมองเห็นดวงอาทิตย์มหึมาลอยขึ้นพร้อมกับภาพเงาขนาดใหญ่นั่งอยู่กวาดมองโลก

ระลอกทรงพลังแผ่ไปในมิติ

มู่เฉินมองไปที่ร่างเทพสุริยะของจาโหลหลัว ม่านตาก็หดตัวลงอย่างไม่สามารถควบคุมได้

เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกร่างเทพสุริยะของจาโหลหลัวคล้ายกับของเขามาก แต่ร่างเทห์สวรรค์ของเขาเป็นสีทองขณะที่ของจาโหลหลัวเป็นสีดำ

นอกจากนี้ดวงตะวันที่อยู่ด้านหลังร่างเทพสุริยะของจาโหลหลัวยังเป็นดวงตะวันสีดำหมุนรอบตัวเองคล้ายกับหลุมดำที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งในโลกได้

ถ้าเปรียบร่างเทพสุริยะที่มู่เฉินฝึกฝนเป็นความรุ่งโรจน์สง่างาม งั้นร่างเทพสุริยะของจาโหลหลัวก็คล้ายกับหลุมดำที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้อื่นที่มอง

ทั้งสองร่างมีความคล้ายคลึง แต่ก็เดินสองเส้นทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

แต่เมื่อจาโหลหลัวเร้าร่างเทพสุริยะออกมาคลื่นหลิงรอบๆ ตัวมู่เฉินก็เดือดพล่านรุนแรงพร้อมกับความมันวาวกลั่นข้างหลัง ร่างเทพสุริยะของเขากำลังจะถูกเรียกออกมา แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม

แต่สุดท้ายก็ถูกระงับลงไป ก่อนที่เขาจะเหลือบมองไปที่จาโหลหลัว ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาถึงมีความรู้สึกว่าระหว่างพวกเขาจะต้องมีคนถูกทำลาย

หนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถคงอยู่!

จาโหลหลัวมองไปที่มู่เฉินอย่างไม่แยแส จากนั้นก็ยิ้มบาง “หลังจากการชำระนี้ร่างเทพสุริยะของข้าจะไปถึงจุดสูงสุด ในเวลานั้นร่างเทพสุริยะของแกจะถูกข้าทำลาย”

มู่เฉินยกเปลือกตาขึ้นพูดว่า “ข้ารู้สึกว่าร่างเทพสุริยะของแกจะกลายเป็นหินลับมีดให้ข้ามากกว่ามั้ง”

“โอ้? ด้วยอะไร? คนที่สูญเสียการชำระล้างเหรอ?” จาโหลหลัวยิ้มไม่เชิงยิ้ม

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของมู่เฉินขณะมองไปที่จาโหลหลัว “แกคิดว่าข้าเสียการชำระล้างไปแล้วเหรอ?”

เมื่อพูดจบมู่เฉินก็ค่อยๆ กางแขนออก

ดวงตาของจาโหลหลัวหรี่ลง แต่ขณะกำลังจะพูดม่านตาก็หดแคบลง เนื่องจากเขาเห็นเวิ้งน้ำที่อยู่ใต้เท้าของมู่เฉินระเบิดออกมาด้วยเกลียวแสงแวววาวมากมาย

ราวกับว่ามีดวงอาทิตย์ลุกโชนขึ้นอย่างรวดเร็วจากภายในทะเลสาบสวรรค์!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset