หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1158 หอคัมภีร์เทพซ่อน

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1158 หอคัมภีร์เทพซ่อน

ฟิ้ว!

ร่างแสงหลายร่างทะยานออกจากทะเลสาบสวรรค์ จากนั้นก็ไปหยุดลงบนยอดเขา เผยให้เห็นร่างเงาของพวกมู่เฉิน

ทั้งสี่ปรากฏตัวที่ด้านหลังทะเลสาบสวรรค์ มองไปที่ทิวทัศน์กว้างที่มู่เฉินยังรู้สึกถึงแรงกดดันเล็กน้อย

ซึ่งไม่ใช่แค่ความกดดันเดียว ทั้งหมดนี้ทำให้มู่เฉินรู้สึกกดดันอย่างมาก

“ถ้าเราไปต่อก็น่าจะเข้าสู่บริเวณหอทั้งห้า” มู่เฉินชี้ไปข้างหน้าพลางบอกหญิงสาวทั้งสาม นอกเหนือจากจักรพรรดิฟ้าพลังในวังสวรรค์บรรพกาลจะแบ่งออกเป็นหอและตำหนักต่างๆ ตอนนี้พวกเขาผ่านอาณาบริเวณตำหนักทั้งหมดแล้ว ดังนั้นเป้าหมายต่อไปก็คือเข้าสู่อาณาบริเวณหอต่างๆ

สีหน้าหญิงทั้งสามก็ตึงเกร็ง ว่ากันว่าจอมพลทั้งห้าได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้ช่วยมือฉมังของจักรพรรดิฟ้า ทุกคนมีขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มพร้อมกับคุณสมบัติในการบรรลุขุมพลังเทียนจื้อจุนได้

หากคนเหล่านี้ยังอยู่ในมหาพันภพก็จะเป็นผู้นำขั้วอำนาจต่างๆ แน่นอน

“ในบรรดาจอมพลทั้งห้า… จอมพลสี่สละชีวิตปกป้องภูมิภาคทางเหนือไม่ได้กลับมายังสำนักอีก ส่วนจอมพลอีกสี่คนน่าจะอยู่ปกปักที่วังโบราณแห่งนี้” มู่เฉินกล่าว

จิ่วโยวพยักหน้าพูดว่า “นั่นหมายความว่าสมบัตของจอมพลสี่จะได้รับง่ายที่สุด”

แม้ว่าจอมพลทุกคนจะสิ้นชีพแล้ว แต่พวกเขาน่าจะมีวีธีตั้งแนวป้องกันเพื่อปกป้องหอของตนเองด้วยความแข็งแกร่งที่มี ซึ่งนับเป็นเรื่องยากสำหรับพวกมู่เฉินที่จะรับมือ

“แล้วหอคัมภีร์เทพซ่อนอยู่ที่ไหน?” จู่ๆ หลินจิ้งก็ตั้งคำถามขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านางรู้ชัดเจนเกี่ยวกับหอคัมภีร์เทพซ่อนและรู้ว่าที่นั่นสำคัญเพียงใด เพราะถ้าทะเลสาบสวรรค์เป็นรากฐานของวังสวรรค์บรรพกาล หอคัมภีร์เทพซ่อนก็เป็นหนึ่งในรากฐานที่ทำให้วังสวรรค์บรรพกาลเติบโตอย่างมั่นคง

ซึ่งรากฐานนี้กระทั่งแคว้นหวูก็ไม่กล้าที่จะประเมินค่าต่ำได้

มู่เฉินยักไหล่พูดว่า “แผนที่ที่ได้มาก่อนหน้าไม่ช่วยอะไรตอนนี้แล้ว ข้อมูลหอคัมภีร์เทพซ่อนก็ยิ่งไม่มีเลย”

พูดถึงจุดนี้เขาก็รู้สึกจนใจเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่ในวังสวรรค์บรรพกาลเต็มไปด้วยค่ายกลขาดรุ่งริ่ง มีบางส่วนถูกทำลายขณะบางส่วนยังคงอยู่พร้อมกับคลื่นหลิงมหาศาลในวังโบราณ ค่ายกลทั้งหมดที่วางไว้อยู่ในระดับจงซือ แม้ว่าจะได้รับความเสียหายพวกเขาก็คงต้องทนทุกข์หากวิ่งทะเล่อทะล่าเข้าไป

ช่างยากในการค้นหาหอคัมภีร์เทพซ่อนภายใต้อันตรายที่ซ่อนอยู่รอบตัว

หลินจิ้งส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดของมู่เฉิน นางรู้ว่ายากแต่ไหนที่จะพบ

“ข้ารู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับหอคัมภีร์เทพซ่อนน่ะ” ขณะที่กำลังรู้สึกหมดหนทางกัน ทันใดนั้นเซียวเซียวก็พูดขึ้น

“โอ้?” ทั้งสามหันขวับไปมองด้วยความตื่นเต้นและประหลาดใจ

เซียวเซียวเผยยิ้มทรงเสน่ห์ “ข้าได้ยินเรื่องนี้มาจากท่านพ่อ ร่ำลือกันว่าหอคัมภีร์เทพซ่อนของวังสวรรค์บรรพกาลแปลกประหลาดมาก ต่อให้เป็นสมาชิกวังสวรรค์บรรพกาลก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้”

“เนื่องจากหอคัมภีร์นี้เป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นสูง”

หัวใจของทั้งสามคนสั่นสะท้าน ดวงตาก็เบิกกว้าง หอคัมภีร์เทพซ่อนเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นสูง? นี่แปลกเกินไป กระทั่งมู่เฉินก็ยังไม่เคยเห็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นสูงมาก่อนในชีวิต

ต้องรู้ว่าแม้แต่พีระมิดแสงดาวปราบปีศาจของจอมพลสี่ก็เป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นกลาง สำหรับขั้นสูงแม้แต่จอมยุทธ์ตี้จื้อจุนขั้นเต็มก็ถูกดึงดูดอย่างยิ่ง

“ถ้างั้นเราควรทำยังไงกันดี? ถ้าหอคัมภีร์เทพซ่อนเป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นสูงและตั้งใจซ่อนตัว ข้าว่าเราคงจะไม่สามารถค้นพบได้ ต่อให้ค้นพบก็ไม่ง่ายที่จะเข้าไป” จิ่วโยวอดถามออกมาไม่ได้

ความทรงพลังของอาวุธมหสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่พวกนางจะสามารถต่อกรได้

เซียวเซียวยิ้ม “หอคัมภีร์เทพนั่นไม่ได้มีทักษะการโจมตีใดๆ แต่ไม่มีใครเทียบได้ในแง่ของการซ่อนตัว หากตั้งใจจะซ่อนตัวแล้วแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนก็ไม่สามารถค้นพบได้”

เปลือกตาของทั้งสามคนกระตุก หอคัมภีร์เทพซ่อนลึกลับแท้จริง ในแง่ของการซ่อนตัวคงเหนือกว่าจอมยุทธ์ระดับเทียนจื้อจุนบางส่วนไปแล้ว

หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าไม่มีพลังในการโจมตี ก็คงไม่ได้หยุดอยู่แค่อาวุธมหสวรรค์ขั้นสูงเช่นนี้

“ถ้าความสามารถซ่อนตัวเป็นอย่างที่เจ้าว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะค้นพบมัน” มู่เฉินถอนหายใจ ดูเหมือนว่าการค้นหาวิธีวิวัฒนาการร่างเทพสุริยะไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว

เมื่อได้ยินเซียวเซียวก็ส่ายหัวพลางเอ่ย “แม้ว่าหอคัมภีร์เทพซ่อนจะยากค้นหา แต่ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้ เพราะจักรพรรดิฟ้าไม่ได้ทิ้งมันไว้ในวังสวรรค์บรรพกาลเพื่อเก็บสมบัติอย่างเดียว”

มู่เฉินโล่งใจขึ้นมา ตราบใดที่มีทางก็ถือว่าดี เขามาที่นี่เพื่อวิธีวิวัฒนาการ ความพยายามทั้งหมดของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เพื่อวันนี้ ดังนั้นไม่ว่าจะยังไงไม่มีทางที่เขาจะยอมแพ้

“งั้นเราจะหามันได้ยังไง?” จิ่วโยวมองไปที่เซียวเซียวด้วยความคาดหวัง

เซียวเซียวยิ้ม “ง่ายมากก็แค่ต้องผ่านการทดสอบของหอคัมภีร์”

“การทดสอบ?” คนอื่นๆ อึ้งไปจากนั้นก็ถามต่อ “ทดสอบอะไร?”

เซียวเซียวส่ายหัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการทดสอบคืออะไร แต่ข้ากลัวว่าคงได้เริ่มตั้งแต่ตอนที่เราเข้ามาในวังสวรรค์บรรพกาลแล้ว”

ทั้งสามคนตกตะลึงไปอีกครั้ง

“หอคัมภีร์เทพซ่อนมีสติปัญญา ดังนั้นมันน่าจะสัมผัสได้ตั้งแต่เราก้าวเข้ามาสู่วังสวรรค์บรรพกาล ไม่แน่บางทีตอนนี้มันอาจจะกำลังสังเกตพวกเราอยู่ก็ได้” เซียวเซียวเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า

ทั้งสามรู้สึกเย็นเยือกที่ผิวกายขณะมองไปรอบๆ แม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสไม่ได้ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินคำพูดของเซียวเซียวราวกับว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองมาที่พวกเขาตลอดเวลา

“ในวังสวรรค์บรรพกาล จู่ๆ ก็จะมีศิษย์บางคนที่โดดเด่นได้รับการยอมรับจากหอคัมภีร์เทพซ่อนและได้รับโอกาสให้เข้าไป” เซียวเซียวยิ้ม

“นั่นหมายความว่าเราต้องแสดงศักยภาพให้มันดูเหรอ? แต่จะแสดงอย่างไร?” หลินจิ้งสนใจมากขณะที่พูด

“ข้าก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับปัจจัยนี้ ศิษย์ที่ได้รับการยอมรับ บางคนเป็นเพราะเข้าใจบางสิ่งในการฝึกฝน ขณะที่บางคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะระดับเสินทงบางอย่างหรือแสดงศักยภาพที่น่าทึ่งในการต่อสู้… มีหลายวิธีน่ะ แต่คนที่มีสถานะสูงจะต้องการประสิทธิภาพมากกว่า แน่นอนว่าสิทธิพิเศษของพวกเขาก็จะสูงขึ้นเมื่อเข้าไป”

ทั้งสามแลกเปลี่ยนสายตากัน ไม่มีใครคิดว่าหอคัมภีร์เทพซ่อนจะแปลกประหลาดขนาดนี้

“พูดไปพูดมาที่จริงทั้งหมดก็อยู่ที่โชคชะตา ถ้าชะตาต้องกันก็เข้าไปได้ แต่ถ้าไม่เช่นนั้นข้ากลัวว่าคงต้องเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนที่เชี่ยวชาญในด้านมิติถึงจะหามันเจอ” เซียวเซียวแบมือออกขณะที่ตอบ

มู่เฉินยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่มีความสามารถในการเชิญจอมยุทธ์ระดับนั้นมาหรอก ดังนั้นตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะต้องพยายามด้วยตัวเอง

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเราก็มุ่งหน้าไปที่หอทั้งห้าก่อน ดูสิว่าเราจะได้รับโอกาสอื่นๆ อีกหรือไม่” มู่เฉินมีความเด็ดขาด เมื่อรู้ว่าการเข้าไปในหอคัมภีร์เทพซ่อนไม่ใช่เรื่องง่าย เขาจึงวางเรื่องนี้ไว้ในใจชั่วคราว เพราะหากหอคัมภีร์ตั้งใจจะตัดสินประสิทธิภาพกัน พวกเขาก็ต้องทำอะไรบางอย่างแทนที่จะรออยู่เฉยๆ

หญิงสาวทั้งสามไม่ได้คัดค้าน เพราะการรอที่นี่ไม่มีทางให้หอคัมภีร์ยอมรับอย่างแน่นอน

“ไปกันเถอะ”

เมื่อเห็นการตอบสนองของพรรคพวก มู่เฉินก็แตะปลายเท้าส่งแรงทะยานปยังส่วนลึกของวังโบราณ โดยมีหญิงสาวทั้งสามคนติดตามอย่างใกล้ชิด

ทั้งสี่คนเดินทางอย่างรวดเร็ว บางครั้งได้เจอกับค่ายกลที่เสียหาย ซึ่งก็สามารถหลีกเลี่ยงไปได้ภายใต้การนำของมู่เฉิน ประมาณสิบกว่านาทีต่อมามู่เฉินก็รู้สึกได้ว่าความสลัวรางรอบบริเวณนี้หนาแน่นขึ้น

ซึ่งได้ส่งผลต่อประสาทสัมผัสของเขาด้วย

“ข้างหน้ามีค่ายกลอยู่ แต่ไม่มีอันตรายถ้าข้าเดาไม่ผิดอาจเป็นทางเข้าของอาณาเขตหอทั้งห้าแล้ว” แม้ว่าประสาทสัมผัสของเขาจะถูกรบกวน แต่เขาก็ยังรับรู้ได้ถึงความผันผวนจึงบอกให้หญิงทั้งสามรับรู้

หญิงสาวทั้งสามพยักหน้า

วาบ!

ทั้งสี่คนทะยานไปโดยไม่ลดความเร็ว จากนั้นก็รู้สึกราวกับว่าผ่านเยื่อน้ำและพื้นที่เชิงมิติรอบตัวเริ่มบิดเบี้ยว

มู่เฉินไม่ได้ตื่นตระหนกเมื่อรู้สึกได้ถึงระลอกคลื่นมิติที่บิดเบี้ยว เขาเหลือบมองไปข้างหลังก็สังเกตเห็นว่าพรรคพวกแยกจากกันไปแล้ว

ความผันผวนของมิติรอบตัวทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นพร้อมกับแสงเบ่งบาน ภาพนับไม่ถ้วนวูบวาบไปมาที่เบื้องหน้า

ทิวทัศน์เหล่านั้นเป็นหอสูงตระหง่านพร้อมกับแรงกดดันไหลออกมา

มู่เฉินเข้าใจทันทีว่าหอเหล่านี้ต้องเป็นหอทั้งห้าแน่นอน

มู่เฉินสงบจิตใจขณะมองไปที่ภาพวูบวาบเบื้องหน้าครรลองสายตาพลางจดบันทึกเอาไว้ในใจ ภาพเหล่านั้นมาจากห้าหออย่างชัดเจน ถ้าเขาได้รับข้อมูลบางอย่างก็จะช่วยได้มาก

ภายใต้การสังเกตอย่างตั้งใจของมู่เฉิน แสงก็กะพริบวิบวาบเบื้องหน้าไม่หยุด ทันใดนั้นมู่เฉินก็ต้องหดดวงตากับภาพภาพหนึ่ง

ที่นั่นเป็นห้องโถงวินาศสันตะโรที่ยังคงมีเค้าความสง่างามแม้จะถูกทำลาย

ทว่าความสนใจของมู่เฉินไม่ได้อยู่ที่โถง แต่สายตาจับจ้องไปยังส่วนลึก แท่นดอกบัวหยกสีแดงเข้มที่มีดอกไม้ทรงเสน่ห์สูงสิบจั้งวางอยู่เงียบๆ

มู่เฉินมองไปที่ดอกไม้สีดำพร้อมกับความสุขในใจ นั่นเป็นเพราะเขารู้ว่านี่คืออะไรตั้งแต่แวบแรกที่เห็น…

ดอกไม้นั่นคือร่างหลักของมั่นถัวหลัว—ดอกแมนดาลาโบราณ!

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset