หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1194 นี่คือ…ระดับตี้จื้อจุน
ทะเลสาบสวรรค์โหมกระหน่ำด้วยคลื่นเชี่ยวกราก
เสียงดังกึกก้อง ขณะเดียวกันยังมีหมอกหลิงหนาแน่นปกคลุมไปทั่วจนปิดกั้นแสงอาทิตย์
ขณะที่คลื่นหลิงหนาแน่นปกคลุมฟ้าดิน เสาแสงขนาดใหญ่ก็ตั้งตะหง่าน สามารถมองเห็นภาพเงานั่งอยู่ข้างใต้ได้
ร่างนั้นถูกเจาะด้วยรัศมีกระบี่คมกริบที่มีอำนาจครอบงำอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้เขามีบาดแผลทั่วตัว
นี่ก็คือมู่เฉิน
เขานั่งอยู่ที่นั่นมากกว่าครึ่งเดือนแล้ว ทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา
ภายใต้การชำระ เนื้อกระดูกแต่ละชิ้นถูกเจาะทะลุหลายหมื่นครั้ง แต่หลังจากถูกทำลาย เขาก็ฟื้นฟูบาดแผลด้วยความช่วยเหลือของกายามังกรหงส์ จากนั้นก็วนซ้ำไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ทุกข์ทรมานเช่นนี้ถ้าเป็นคนที่มิจิตใจไม่มั่นคง คงอดทนไม่ไหวไปนานแล้ว นอกจากนี้จิตใจก็จะพังทลายจนเสียโอกาสยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิฟ้าไป
โชคดีที่มู่เฉินฝึกฝนอย่างมุ่งมั่นมายาวนานตลอดเส้นทางที่ผ่านมา เขามีประสบการณ์เป็นตายเดินผ่านปากประตูนรกมาหลายครั้ง
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างมู่เฉินจะยอมแพ้
นอกจากนี้มู่เฉินยังปรับตัวให้เข้ากับความเจ็บปวดอย่างค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ได้รับบาดเจ็บ
ตอนนี้พื้นผิวหนังของมู่เฉินไม่ได้ปะทุขึ้นอีกต่อไป มีเพียงบาดแผลลึกจากกระบี่ที่ถูกทิ้งไว้ ซึ่งนี่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเขา
ตามการประเมินความแข็งแกร่งของมู่เฉิน พลังกายของเขาเพิ่มขึ้นหลายเท่ามากกว่าเมื่อครึ่งเดือนก่อน
เขารู้สึกยินดีอย่างมากเพราะไม่ง่ายที่จะฝึกพลังกาย การฝึกฝนจะต้องรุนแรงและต้องหยุดพักเป็นช่วง ถ้ารุนแรงเกินไปก็จะเป็นอันตรายแทนได้
แต่การชำระล้างนี้สมบูรณ์แบบและสมดุลในการเสริมสร้างร่างกาย มันอยู่ในระดับที่สามารถชำระร่างให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้รุนแรงจนจะทำลายให้สิ้นซาก
ดังนั้นแม้ว่ามู่เฉินจะต้องแบกรับความเจ็บปวด แต่ก็ยังยึดมั่นกัดฟันทน หลังจากได้ชิมรสหวานหอมของมัน
นอกจากนี้การเสริมสร้างพลังกายของเขายังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด แต่เป็นคลื่นหลิง
ยามนี้จุดจื้อจุนไห่ขยายขนาดไปจนถึงระดับน่าอัศจรรย์ บางครั้งจะมีคลื่นใหญ่หมื่นจั้งซัดเป็นครั้งคราว ซึ่งภายในอัดแน่นด้วยคลื่นหลิงทรงพลัง
นอกจากนี้เหนือจุดจื้อจุนไห่ รัศมีกระบี่ก็กวาดเข้ามาหล่อเลี้ยงคลื่นหลิงของเขาอย่างต่อเนื่อง
ยามนี้คลื่นหลิงในจุดจื้อจุนไห่เติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับครึ่งเดือนที่ผ่านมา จากการประเมินถ้าเขาต้องต่อสู้กับตัวเองเมื่อครึ่งเดือนก่อน เขาคงสามารถใช้คลื่นหลิงทำให้ตัวเองหมดแรงได้เลย
หากเขาต้องพึ่งพาตัวเองให้ถึงระดับนั้น อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสะสมหนึ่งปีเต็มๆ
แต่ตอนนี้กลับสามารถทำได้สำเร็จได้ในครึ่งเดือน
“แต่คลื่นหลิงหนาแน่นเกินไป หากยังดำเนินต่อไปจุดจื้อจุนไห่ของข้าจะไม่สามารถรับไหว” มู่เฉินเริ่มกังวลเนื่องจากจุดจื้อจุนไห่ของเขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว หากยังขยายตัวต่ออาจแตกเป็นเสี่ยงๆ ก็ได้
“หรือว่าข้าต้องเติมจุดจื้อจุนจนเต็มถึงจะเข้าสู่ระดับตี้จื้อจุนได้?”
คำตอบนี้เป็นสิ่งที่ตัวเขาไม่สามารถยืนยันได้
แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่หยุด นอกจากนี้เขาก็ไม่สามารถหยุดได้เพราะทุกสิ่งถูกควบคุมโดยจักรพรรดิฟ้า ดังนั้นหากจักรพรรดิฟ้าไม่หยุด เขาก็ต้องรับไว้ เว้นแต่จะล้มลงก่อน
มู่เฉินเก็บงำความคิดระงับความกังวลในใจ รับรู้ถึงพัฒนาการร่างกายและคลื่นหลิง
การชำระยังดำเนินผ่านไปอีกสิบวัน
ในที่สุดคลื่นหลิงในจุดจื้อจุนไห่ของเขาก็มาถึงขีดสุด
คลื่นหลิงในจุดจื้อจุนไห่ผันผวนรุนแรง ความรู้สึกอัดแน่นที่เหมือนกำลังจะระเบิดถูกส่งออกมา นี่ทำให้หัวใจของมู่เฉินเต้นระรัว
เขาไม่สงสัยเลยว่าหากยังดำเนินต่อไป จุดจื้อจุนไห่ของเขาก็จะแตกได้จากกระบวนการนี้
ทว่าจักรพรรดิฟ้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“หรือว่าจะต้องทำลายจุดจื้อจุนไห่จริงๆ?”
ความคิดบ้าคลั่งพุ่งผ่านหัวใจ แต่สุดท้ายเขาก็ระงับเอาไว้
จักรพรรดิฟ้าไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายกัน เขาไม่จำเป็นต้องทำ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นมหาอำนาจสูงสุดของมหาพันภพ แม้ว่าเขาจะสิ้นชีพไปแล้วก็ยังเป็นเรื่องง่ายที่จะฆ่ามู่เฉินเหมือนกับจัดการลู่หยวน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ดังนั้นจักรพรรดิฟ้าต้องมีเหตุผลเรื่องนี้
มู่เฉินเลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวอาจารย์หลังจากลังเลชั่วครู่
เขาหายใจลึกๆ รวบรวมสมาธิปล่อยให้รัศมีกระบี่หลั่งไหลไปในสู่จุดจื้อจุนไห่จนกระทั่งถึงขีดเต็ม
เมื่อช่องว่างสุดท้ายของจุดจื้อจุนไห่เติมเต็ม มู่เฉินก็รู้สึกว่าทั่วฟ้าดินเงียบลงกะทันหัน
แกร็ก
รอยแตกเริ่มปรากฏในจุดจื้อจุนไห่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ดังที่มู่เฉินคาดไว้จุดจื้อจุนไห่ของเขาเริ่มปริแตกหลังจากมาถึงขีดจำกัด
สำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนทุกคนฉากนี้อาจทำให้กลัวจนบ้าตาย เพราะทุกคนรู้ดีว่าจุดจื้อจุนไห่สำคัญเพียงใด เมื่อไรที่จุดจื้อจุนไห่แตกออก ความพยายามที่ทำมาทั้งหมดชั่วชีวิตก็จะสลายหายไปกลายเป็นอากาศธาตุ
เม็ดเหงื่อท่วมหน้าผากของมู่เฉิน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหวั่นไหว
“ตั้งใจให้มั่นคง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีธรรมชาติ”
ขณะที่มู่เฉินรู้สึกกระสับกระส่ายในใจ เสียงของจักรพรรดิฟ้าก็ดังก้องในใจ
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น มู่เฉินก็โล่งใจขึ้นมา เขาตั้งสมาธิปกป้องจิตใจ ปล่อยให้จุดจื้อจุนไห่เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีทางแห่งยุทธ์
ปัง!
รอยแตกเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดจุดจื้อจุนไห่ก็ไม่สามารถบรรจุคลื่นหลิงไร้ขอบเขตลงไปได้อีกแล้วเกิดการแตกออกในที่สุด
แสงกำจายออกมาจากหน้าอกของมู่เฉิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของจุดจื้อจุนไห่ ยามนี้แสงขยายออกไปพร้อมกับการแตกร้าวของจุดจื้อจุนไห่ ห่อหุ้มเขาไว้
ปัง! ปัง !ปัง!
คลื่นหลิงเหนือคำบรรยายกวาดออกจากร่าง ฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ ทีละนิ้ว…ละนิ้ว
การพังทลายนี้เริ่มจากภายในสู่ภายนอก ดังนั้นเพียงอึดใจร่างเขาก็ระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด
แสงสีทองกะพริบเบื้องหน้าละอองเลือดก็ควบแน่นเป็นร่างหนึ่งอย่างรวดเร็ว มู่เฉินกำลังควบคุมกายามังกรหงส์อย่างบ้าคลั่ง เพื่อซ่อมแซมร่างกายทั้งหมด
ปัง! ปัง!
แต่เมื่อการซ่อมแซมเพิ่งจะก่อตัว คลื่นความรุนแรงอีกระลอกก็ระเบิดทำลายร่างกายอีกครั้ง กลายเป็นหมอกเลือดฟุ้งกระจาย
มู่เฉินเร้าเต็มพลังพยายามซ่อมแซมร่างกายต่อ!
ปัง!
ซ่อมแซม!
ปัง!
กระบวนการนี้ดำเนินเป็นวงจร ซึ่งทำให้มู่เฉินรู้สึกดีใจเล็กน้อย โชคดีที่พลังกายของเขาแข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้นการซ่อมแซมจะไม่สามารถติดตามความเร็วของการทำลายได้
มู่เฉินค่อยๆ รู้สึกถึงความแปลกประหลาดเล็ดลอดออกมาจากร่างกาย หลังจากการซ่อมแซมทุกครั้ง
นั่นเป็นความรู้สึกของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง
หากในอดีตพลังกายของมู่เฉินได้รับความแข็งแกร่งเพียงแค่พื้นผิว ถ้างั้นครั้งนี้การเปลี่ยนแปลงก็สมบูรณ์แบบโดยเริ่มตั้งแต่ภายในร่างกายจนสู่ภายนอก!
หมอกเลือดฟุ้งไปทั่ว ร่างมู่เฉินยังคงถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง
ทว่ายามนี้ความตื่นตระหนกและความกลัวจางหายไป แทนที่ด้วยความรู้แจ้งที่เบาบาง เขารู้สึกได้ว่าถึงแม้จุดจื้อจุนไห่จะถูกทำลาย เขาก็ไม่ได้รู้สึกอ่อนแอลงเลยแต่กลับทรงพลังมากกว่าเดิม
ความรู้สึกนั้นราวกับว่าสามารถฆ่าตนเองก่อนหน้านี้ด้วยหมัดเดียว
จุดจื้อจุนไห่เดิมหายไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้หายไปอย่างแท้จริง มันอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง
หากมู่เฉินมีเพียงจุดจื้อจุนไห่เดียวในอดีต งั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายตอนนี้เต็มไปด้วยทะเลพลัง ราวกับว่าทุกตารางนิ้วบนร่างกายถูกเปลี่ยนเป็นทะเลพลังทั้งหมดแล้ว
“จากหนึ่งกลายเป็นทุกหนทุกแห่ง นี่คือระดับตี้จื้อจุน!”