หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1212 พบกัน

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1212 พบกัน

หยาดฝนโปรยปรายทั่วบริเวณ

ลั่วหลีจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ

นางโหยหาใบหน้าคุ้นเคยนี้มาหลายปี แต่เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้านางจริงๆ ก็รู้สึกว่าราวกับภาพฝัน

นางกลัวว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงภาพลวงตา ถ้าเป็นเช่นนั้นก็โหดร้ายเกินไป

ดังนั้นหลังจากจ้องมองชายหนุ่มครู่หนึ่ง เสียงสั่นพร่าของนางก็ดังขึ้น “ใช่เจ้าจริงๆ หรือ…มู่เฉิน?”

ขณะที่พูดนางก็เอื้อมมือออกไปช้าๆ นางต้องการสัมผัสใบหน้าเขา แต่มือของนางกลับชะงักลงเมื่อกำลังจะเคลื่อนเข้าไป

เมื่อมองด้านอ่อนแอที่นางไม่ค่อยแสดงให้เห็น มู่เฉินก็รู้สึกว่าหัวใจฉีกขาดเป็นริ้วๆ เขารู้ว่านี่เป็นความปรารถนาที่ลึกที่สุดในใจ มิฉะนั้นด้วยนิสัยนางไม่มีทางทำตัวอ่อนไหวเช่นนี้

ดังนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าเขายิ่งอุ่นมากขึ้น ขณะที่ใบหน้าโน้มออกมาให้มือสั่นเทาของลั่วหลีได้สัมผัส

“ลั่วหลี ข้าเอง”

เขายิ้มพูดต่อด้วยเสียงหนักแน่น “ข้ามาหาเจ้าแล้ว”

สัมผัสความอบอุ่นที่ซ่านในมือตนเองก็สามารถยืนยันได้ว่านี่คือมู่เฉินจริงๆ ลั่วหลีกัดริมฝีปากขณะที่น้ำตาคลอคลองหน่วยตา

ตั้งแต่กลับมาที่ตระกูล ไม่ว่านางจะเผชิญสถานการณ์แบบไหน นางก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งเสมอ แต่เมื่อนางได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยในวันนี้หัวใจของนางก็อ่อนยวบลง

เขาเติบโตขึ้นมากจากรูปลักษณ์เดิมที่เคยเห็น เมื่อคิดถึงสถานการณ์ความเป็นตายที่เขาต้องเผชิญเพื่อฝึกตนเองในวิถียอดยุทธ์ น้ำตาของลั่วหลีก็เริ่มร่วงหล่น

เขายังคงมีสายตาที่สดใสและมั่นใจ แต่ถึงจะซ่อนบางอย่างแนบเนียน ลั่วหลีก็เห็นความเหนื่อยล้าที่ซ่อนอยู่

สำหรับคนที่ฉลาดแบบนางก็คิดได้ในทันที เห็นได้ชัดว่าหลังจากมู่เฉินทราบสถานการณ์ของนางแล้ว เขาก็เร่งรุดเดินทางเพื่อมาปรากฏตัวช่วยเหลือนางในตอนนี้

“มู่เฉิน”

ลั่วหลียิ้มบางเรียกชื่อของเขา ในเวลานี้การรอคอยที่ยากลำบากตลอดหลายปีได้กลายเป็นความหวานซึ้งที่ตราตรึงอยู่ในส่วนลึกของหัวใจนาง เป็นสิ่งที่นางไม่อาจจะลืมเลือนแม้ว่าความตายมาพรากจาก

รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้านางที่เปื้อนน้ำตา ทำให้แม้แต่พายุฝนยังดูไม่โดดเด่น มู่เฉินที่เบื้องหน้านางก็ไม่อาจรอดจากความงดงามนี้ เขาอึ้งไปเมื่อมองนาง

ยามนี้ทุกสายตามารวมกันที่ร่างหนุ่มสาวทั้งสอง…

“เขาคือใคร?”

ผู้คนกระซิบด้วยความตกตะลึงในสายตา มู่เฉินแสดงพลังตั้งแต่มาถึงโดยการซัดจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนของตระกูลเสี่ยเสินจนหมอบราบ แม้จะมีส่วนตรงอีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของเขา

คนที่ไม่รู้ข้อมูลตระกูลลั่วเสินดีก็เดาว่าชายหนุ่มคนนี้น่าจะเป็นจอมยุทธ์เงาของตระกูลลั่วเสิน

มีเพียงลั่วเทียนเสินและลั่วเทียนหลงเท่านั้นที่เกิดความสงสัยในหัวใจ พวกเขารู้ดีว่าตระกูลลั่วเสินนอกเหนือจากพวกเขาสองคนและตระกูลสาขาก็ไม่มีจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนคนไหนอีก

ลั่วเทียนเสินจ้องมองแผ่นหลังร่างเงานั้น จากนั้นก็เห็นสีหน้าของลั่วหลี เขาดูเหมือนจะจำบางสิ่งได้ ก่อนที่ความไม่เชื่อและตกตะลึงจะกระจายในดวงตา

“ไม่หรอกมั้ง? ไม่…ไม่…เป็นไปไม่ได้!” ลั่วเทียนเสินพึมพำ จากนั้นก็ปฏิเสธการคาดเดาของตนเอง

เขาส่ายหัว ทันใดนั้นก็เห็นจอมยุทธ์ขุมพลังที่ตี้จุนที่ถูกเหยียบ สายตาหดลงพลางคำราม “ระวัง!”

ตู้ม!

ทันทีที่สิ้นเสียงลั่วเทียนเสิน คลื่นหลิงสีแดงเข้มทรงพลังก็ระเบิดออกมาจากร่างจอมยุทธ์ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมู่เฉิน ร่างบิดตัวเหมือนงูและหลุดไปได้ พริบตาก็มาปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังมู่เฉินพร้อมกับซัดฝ่ามือออกมา แสงสีแดงเข้มรวมอยู่ในฝ่ามือ กลิ่นคาวเลือดเข้มข้น รัศมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงแผ่ซ่าน

“ข้าจะฉีกแกเป็นชิ้นๆ!”

จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินคำรามอย่างดุเดือด การโจมตีก่อนหน้าทำให้เขาอับอายขายขี้หน้าอย่างที่สุด ดังนั้นเขาจะต้องฆ่าชายคนนี้เพื่อระบายความโกรธในใจ

เขาถึงกับสลบเหมือดทันทีที่ถูกมู่เฉินโจมตี แต่ด้วยพลังยิ่งใหญ่ของระตับตี้จื้อจุน เขาจึงไม่ถูกฆ่าตายง่ายๆ

เขาไม่คิดว่าตนเองจะสู้กับมู่เฉินไม่ได้ เขาพลาดบาดเจ็บหนักไปเพราะการแอบโจมตีของมู่เฉินเท่านั้น

ตู้ม!

ฝ่ามือพุ่งมาถึงด้านหลังของมู่เฉิน ทว่าเมื่อเข้าใกล้มือเรียวข้างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากที่ไหนไม่รู้คว้าจับมือเขาไว้

มือนั้นทำให้ฝ่ามือเขาที่มีพลังทำลายล้างขยับไม่ได้เลยสักนิดเดียว

“เป็นไปได้ยังไง?!” จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินตกตะลึงด้วยความหวาดผวา

ปัง!

ทว่าก่อนที่เขาจะฟื้นคืนสติ ร่างนั้นก็เหวี่ยงขาโจมตี เงาซับซ้อนและคลื่นหลิงที่น่ากลัวที่อยู่เบื้องหลังถึงกับทำให้มิติแตกเป็นเสี่ยงๆ เศษชิ้นส่วนมิตินับไม่ถ้วนบินว่อนพุ่งไปที่หน้าอกของจอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสิน

อ็อก!

เลือดสดพุ่งออกมาจากปากหน้าอกยุบลง หมอกเลือดระเบิดออกมาจากร่างขณะที่เขาปลิวออกไปราวกับกระสุนหลายหมื่นจั้งบนแม่น้ำลั่วก่อนที่จะหยุดลง จังหวะนั้นเลือดก็พ่นเต็มปากอีกครั้ง ใบหน้าของเขาซีดขาว เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บร้ายแรง

เสียงอุทานดังก้องในฟ้าดิน

ครั้งนี้แม้แต่เสี่ยหลิงจื่อก็หดตาลง ถ้าก่อนหน้านี้จอมยุทธ์ตระกูลเสี่ยเสินเสียเปรียบเพราะตั้งตัวไม่ทัน งั้นครั้งนี้เขาก็เป็นคนออกกระบวนท่าก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงถูกร่างในชุดดำนั้นจัดการอย่างสิ้นซาก

ชายคนนี้คือใคร?

ภายใต้สายตาตื่นตะลึง มู่เฉินก็มองลั่วหลีพลางเช็ดคราบน้ำตาบนดวงหน้าสะคราญโฉม “เจ้าทำพิธีเทพธิดาลั่วให้เสร็จก่อนเถอะ”

เมื่อพูดจบเขากก็หันกลับมาอย่างช้าๆ ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน

ซี้ด!

เมื่อทุกคนเห็นรูปลักษณ์ของเขาก็ต้องสูดหายใจเย็นเข้าปอด เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครคิดว่าคนที่สามารถซัดจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนกระเด็นเป็นถ้วยบินจะอายุน้อยเพียงนี้

มีเพียงใบหน้าของลั่วเทียนเสินที่แข็งทื่อทันที เมื่อเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์นี้ แม้ว่าจะไม่ใช่ใบหน้าที่อ่อนเยาว์เหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่เขาก็จำได้ทันที จอมยุทธ์ลึกลับคนนี้ก็คือเจ้าหนูอ่อนแอที่เขาพบในสำนักศึกษาเป่ยชาง

“ใช่…เขาจริงๆ!”

ลั่วเทียนเสินมองด้วยความไม่เชื่อ นี่ผ่านไปแค่กี่ปี? มู่เฉินในตอนนั้นยังไม่บรรลุขุมพลังจื้อจุนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับพัฒนาจนก้าวเข้าสู่ระดับตี้จื้อจุนแล้ว!

ต้องรู้ว่าแม้แต่ลั่วหลีที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศบวกกับทรัพยากรมหาศาลที่ตระกูลทุ่มเทให้ถึงสะสมได้จนจุดนี้และเริ่มการพัฒนา!

ทว่ามู่เฉินที่ไม่ได้มีภูมิหลังยิ่งใหญ่กลับสามารถพัฒนาได้ถึงขั้นนี้ในเวลาเพียงไม่กี่ปี เขาน่ากลัวขนาดไหนกัน?

ทันใดนั้นลั่วเทียนเสินก็จำได้ว่าตอนที่อยู่สำนักศึกษาเป่ยชาง มู่เฉินเคยพูดเมื่อตนเองพยายามข่มขู่เขาด้วยความโดดเด่นของลั่วซิวและลั่วชิงหยา เมื่อไรที่เขามีอายุเท่ากับพวกเขาก็จะแซงหน้าไปแบบไม่เห็นฝุ่นไปเลย

ตอนนั้นเขาเพียงสบประมาทคำพูดของเด็กน้อย โดยคิดว่าช่างเป็นเด็กที่ไม่รู้จักขีดจำกัดของตนเอง แต่ตอนนี้…ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเป็นตนเองที่ทำเรื่องตลก

ลั่วเทียนเสินมองชายหนุ่มด้วยสายตาซับซ้อนก่อนจะส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น ลั่วหลีดูเหมือนว่าสายตาของหลานจะดีกว่าปู่จริงๆ ทุกคนคิดว่าเขาเป็นเพียงหินกรวดธรรมดา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่เชื่อมั่นเสมอว่าเขาคือเพชรแท้

ลั่วซิวและลั่วชิงหยาก็อึ้งไปเช่นกันเมื่อจ้องมองไปที่มู่เฉิน พวกเขาจำอีกฝ่ายได้ ย้อนกลับไปเมื่อพวกเขาติดตามลั่วเทียนเสินไปที่สำนักศึกษาเป่ยชาง ตอนนั้นมู่เฉินยังอ่อนแอและธรรมดาสามัญมาก

ใครจะคิดว่าเยาวชนที่พวกเขาเคยดูถูกจะแซงหน้าไปแบบไม่เห็นฝุ่น ทั้งคู่มีความรู้สึกที่ดีต่อลั่วหลี จึงมองมู่เฉินเป็นคู่แข่ง แต่ในเวลานี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าการแข่งขันนั้นดูตลกเพียงใด

ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากันและยิ้มอย่างขมขื่น เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกแห้วไปไม่น้อย

“ไอ้เด็กเวร แกเป็นใคร?!”

ขณะที่ผู้คนกำลังตกตะลึงกับความอ่อนวัยของมู่เฉิน เสียงคำรามก็ดังขึ้น เสี่ยหลิงจื่อมองมู่เฉินด้วยสายตาโกรธเกลียด หากไม่ใช่มู่เฉิน พวกเขาคงหยุดพิธีเทพธิดาลั่วในตอนนี้ได้แล้ว

ทว่ามู่เฉินไม่สนใจอีกฝ่ายสักนิด เขามองไปที่ลั่วเทียนเสินประสานมือให้ “คารวะท่านประมุขลั่ว”

เสียงสดใสดังก้องขณะที่เขายืนนิ่ง ความแวววาวเบื้องหลังดวงตา ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความเป็นอัจฉริยะที่อยู่ภายใน

ลั่วเทียนเสินมองไปที่มู่เฉินก็ยิ้มฝืด ใบหน้าของเขาดูเคอะเขิน เพราะไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับคนเบื้องหน้าอย่างไรดี เพราะเมื่อก่อนเขาเป็นปู่ที่ใจร้ายที่แยกคู่รักคู่นี้ไปหลายปี

เมื่อเสี่ยหลิงจื่อเห็นว่าตนเองถูกเพิกเฉย ไอสังหารในดวงตาก็เพิ่มขึ้น ริ้วเลือดกระจายออกมาจากร่าง

เขามองมู่เฉินอย่างเฉยเมย แต่ทุกคนรู้สึกได้ถึงความตั้งใจฆ่าหนาแน่นในสายตาเขา

“ไอ้หนู แกกล้าบอกชื่อตัวเองไหม?!”

แรงสั่นสะเทือนที่น่ากลัวของระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายหลั่งออกมาพร้อมกับพื้นดินโยกคลอน

ทว่าภายใต้แรงกดดันอันน่าสะพรึง ชายหนุ่มกลับยิ้มบางขณะก้าวออกไปปกป้องลั่วหลีไว้เบื้องหลัง

ภายใต้รัศมีเลือดเดือดดาลคำรามลั่น เสียงที่สาดไอสังหารก็กระจายไปทั่วบริเวณนี้

“ทวีปเทียนหลัว ภูมิภาคทางเหนือ ประมุขตำหนักมู่…มู่เฉิน”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset