หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1232 รัศมีตกทอดจากบรรพบุรุษ
หัวใจของมู่เฉินสั่นสะท้าน
จากนั้นก็ค่อยๆ สงบลงหลังจากผ่านอาการตกตะลึงพรึงเพริด เขาเริ่มเดาเหตุผลบางอย่างได้อย่างคลุมเครือ
ก่อนหน้านี้เขาทำความเข้าใจเชิงลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับวิชามหาเจดีย์ โดยใช้พลังจากการทำลายเจดีย์ของตนเพื่อมาถึงที่นี่ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จะต้องเกี่ยวข้องอย่างยิ่งกับเผ่าฝูถู
“ถึงแม้ว่าวิชามหาเจดีย์ในอดีตจะพิเศษแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับระดับตี้จื้อจุน แต่ในเมื่อวิชานี้เป็นทักษะการวางรากฐานของเผ่าฝูถูดังนั้นจึงต้องมีเคล็ดลับสำคัญ ซึ่งจะต้องมีระดับเข้าใจและวิวัฒนาการที่สูงขึ้น”
วิวัฒนาการที่ว่าอาจเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้หรือพูดให้ถูกต้องคือเกี่ยวกับเจดีย์โบราณนี้
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ สายตาของมู่เฉินก็จดจ่อที่เจดีย์โบราณ เขาลังเลสั้นๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้
ยิ่งเมื่อเดินเข้าไปใกล้ เขาก็ต้องตกใจเมื่อตระหนักถึงขนาดที่แท้จริงของเจดีย์โบราณนี้ที่มีความสูงหลายแสนจั้ง ทำให้คนคล้ายกับมดเมื่อเปรียบเทียบกัน ดังนั้นผลกระทบที่เขาได้รับก็น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
“ช่างเป็นเจดีย์ที่น่าสะพรึงอะไรอย่างนี้”
มู่เฉินพึมพำในใจ เขารู้สึกได้ว่าแรงกดดันคลุมเครือที่เปล่งออกจากเจดีย์นั้นแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิสัประยุทธ์เสียอีก
ความกดดันเต็มไปด้วยกลิ่นอายเก่าแก่ ราวกับมีร่องรอยของกาลเวลา ภายใต้แรงกดดันดังกล่าวไม่ต้องสงสัยว่าแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิสัประยุทธ์เพียงใด
ด้วยการรับรู้ของมู่เฉิน เมื่อเทียบกับแรงกดดันของเจดีย์โบราณนี้อาจมีเพียงเทพจักรพรรดิอัคคีและเทพจักรพรรดิสงครามที่ต่อกรได้
ขณะนี้มู่เฉินรู้อย่างลึกซึ้งมากว่าการเป็นหนึ่งในเผ่าโบราณแห่งมหาพันภพน่ากลัวเพียงใด
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ขณะที่มู่เฉินตกตะลึง เจดีย์ก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของเขา มันส่งเสียงครางกระหึ่ม
มู่เฉินตกใจกับการเคลื่อนไหวฉับพลัน เกือบจะดึงแบบร่างดวงจิตกลับ เพราะสุดท้ายเจดีย์ลึกลับนี้ก็น่าสะพรึงเกินไป ถ้าเกิดการเคลื่อนไหวก็อาจเป็นหายนะครั้งใหญ่สำหรับเขาเลย
ลำแสงสีดำส่องลงมาจากเจดีย์โบราณ ห่อตัวมู่เฉินไว้ภายใน
ช่วงเวลานั้นมู่เฉินสัมผัสได้ถึงความผันผวนอย่างลึกซึ้งกวาดผ่านร่างดวงจิต… ซึ่งมากเกินพรรณนาจนทำให้มู่เฉินรู้สึกว่ามันกำลังสำรวจตรวจสอบร่างกายของเขาที่นั่งนิ่งในภูเขาด้านหลังวังลั่วเสินด้วย
หัวใจของเขาสั่นเบาๆ เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้นกับร่าง
แต่โชคดีที่แสงจางลงหลังจากการตรวจสอบ ทันใดนั้นมู่เฉินก็รู้สึกว่ามิตินี้เหมือนจะให้การยอมรับตัวเขาแล้ว
เขาอึ้งไปแต่ในไม่ช้าก็คิดออก การตรวจสอบจากเจดีย์เมื่อสักครู่น่าจะเพื่อดูว่าเขามีสายเลือดของเผ่าฝูถูหรือไม่
หากเป็นคนที่ไม่มีสายเลือดอาจถูกกำจัดโดยเจดีย์โบราณทันที
โชคดี… มารดาของเขาเป็นสมาชิกเผ่าฝูถู ดังนั้นเขาจึงมีสายเลือดโบราณไหลเวียนอยู่ในร่างกายเช่นกัน!
“เกือบซวยไหมล่ะ…”
มู่เฉินรู้สึกโล่งอกจากอันตรายที่มาเยือน โชคดีที่เขาผ่านการตรวจสอบไม่เช่นนั้นผลลัพธ์คงจะตกที่นั่งลำบาก
ขณะที่หัวใจของมู่เฉินยังอบอวลด้วยความหวาดกลัว รัศมียิ่งใหญ่ก็พุ่งออกมาจากด้านบนของเจดีย์โบราณ ห่อหุ้มมู่เฉินไว้อีกครั้ง
รัศมีลึกลับดูเหมือนว่ามาจากยุคโบราณที่เก่าแก่มาก แต่มู่เฉินรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่มาจากมัน
ให้ความรู้สึกราวกับว่าพวกเขามาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน
“นี่คือรัศมีตกทอดจากบรรพบุรุษ?!”
ทันใดนั้นมู่เฉินก็เข้าใจอะไรบางอย่าง บางทีรัศมีลึกลับนี้อาจเป็นรัศมีตกทอดที่บทสวดของเผ่าฝูถูพูดถึง!
“กลั่นรัศมีตกทอดเพื่อเจดีย์อันเป็นนิรันดร์!”
เสียงท่องไหลเวียนอยู่ในหัวใจของมู่เฉินอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ประสานมือเข้าด้วยกัน แสงเข้มข้นระเบิดออกจากร่างกาย ตัวเขาก็ราวกับวาฬกินเหยื่อ ดูดซับรัศมีตกทอดบรรพบุรุษเอาไว้
ขณะที่ดูดซับรัศมี มู่เฉินก็รู้สึกว่าร่างกายสั่นสะเทือน กระแสเลือดเดือดพล่าน แม้แต่พลังในสายเลือดที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของร่างกายก็ถูกกระตุ้นขึ้นมา
ฮึ่ม ฮึ่ม!
ยามนี้แสงสีดำระเบิดออกจากร่างดวงจิตมู่เฉินคล้ายกับหลุมดำ ดูดซับรัศมีตกทอดจากเจดีย์โบราณอย่างเมามัน
ภายใต้การกลืนกินรัศมี เจดีย์ที่มีขนาดสิบกว่าจั้งก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในแสงสีดำ
นี่เป็นเจดีย์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับที่เคยชำระไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากม้นเป็นสีขาวปลอด นอกจากนี้เมื่อรัศมีตกทอดไหลหลั่งเข้ามาที่ตัวเขามากขึ้น เจดีย์ก็เริ่มโปร่งใสราวกับว่ากำลังชำระล้างสิ่งสกปรกออก
ฟู่ ฟู่!
เมื่อเจดีย์สีขาวปรากฏขึ้น มู่เฉินไม่ได้สังเกตว่าเลือดในร่างกายเริ่มเผาไหม้จนกลายเป็นเปลวไฟสีดำห่อหุ้มร่างกายไว้
นี่เป็นเหตุจากสายเลือดเผ่าฝูถูถูกกระตุ้น
ชี่!
เมื่อเปลวไฟปรากฏขึ้นบนร่างมู่เฉิน เพลิงสีดำก็เริ่มลุกไหม้บนเจดีย์สีขาว ทำให้โปร่งใสมากขึ้นเรื่อยๆ
มู่เฉินให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด แม้จะไม่คุ้นเคยกับเจดีย์สีขาวนั้น แต่สัญชาตญาณก็บอกว่ายิ่งเจดีย์โปร่งใสมากขึ้นก็ยิ่งเป็นเรื่องดีสำหรับเขา
เมื่อมีความคิดนี้เขาก็ไม่ลังเล ปล่อยร่างดวงจิตควบคุมเพลิงสีดำให้ลุกโชติช่วงยิ่งขึ้น ดูดซับรัศมีตกทอดมากยิ่งขึ้น
นั่นเป็นเพราะเขาพบว่ารัศมีตกทอดลึกลับนี้เป็นส่วนผสมหลักในการปรับแต่งเจดีย์สีขาวนี้
เจดีย์โบราณก็เหมือนถูกกระตุ้น ปลดปล่อยรัศมีล้ำค่าออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดช่วยมู่เฉินในการปรับแต่งเจดีย์สีขาวของเขา
ภายใต้เพลิงสีดำเจดีย์สีขาวมีความโปร่งใสและบริสุทธิ์มากขึ้น ด้วยความเร็วนี้อีกไม่นานเจดีย์ก็จะกำจัดสิ่งสกปรกทั้งหมดออกไป
เผ่าฝูถู
ร่างสูงวัยสองร่างนั่งอยู่บนแท่นบูชา กำจายรัศมีสูงวัย
ทว่ามิติรอบด้านก็ถึงกับแตกเป็นเสี่ยงๆ จากลมหายใจของทั้งสอง แสดงให้เห็นว่าร่างสูงวัยทั้งสองน่ากลัวเพียงใด
ดวงตาพวกเขาปิดลงราวกับว่ากำลังนอนหลับอยู่
แต่ทันใดนั้นเมื่อทั้งสองรู้สึกอะไรบางอย่าง ดวงตาก็เบิกโพลงพร้อมกับริ้วความสงสัยกระจายเต็มใบหน้า นั่นเป็นเพราะในขณะนี้พวกเขารู้สึกถึงความผันผวนที่แปลกประหลาดที่มาจากดินแดนโบราณ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ทั้งสองแลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อคลื่นหลิงรวมตัวที่เบื้องหน้าก่อร่างเป็นกระจกฉายภาพในดินแดนโบราณ
กระจกกะพริบวูบวาบ ฉากพุ่งไปที่เจดีย์โบราณ
พวกเขากวาดสายตาก็เห็นเจดีย์โปร่งใสราวกับว่าสร้างจากแก้วผลึกลอยอยู่นอกเจดีย์โบราณ
เมื่อเห็นเจดีย์โปร่งใสที่มีความผันผวนของไอศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองคนก็อึ้งไปก่อนที่จะร้องอุทาน “นี่…นี่คือเจดีย์พุทธะหรือ? เรามีสมาชิกที่สามารถปรับแต่งเจดีย์พุทธะได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน? ไม่ธรรมดาจริงๆ”
ทว่าทันใดนั้นพวกเขาก็นึกถึงบางสิ่งใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปรุนแรง
นั่นเป็นเพราะพวกเขาเป็นผู้พิทักษ์ดินแดนโบราณ ดังนั้นหากใครต้องการเข้าไปในดินแดนโบราณเพื่อกลั่นรัศมีตกทอดปรับปรุงเจดีย์ก็จะต้องทำการเปิดโดยพวกเขา
แต่…พวกเขาไม่ได้เปิดทางเข้าสู่ดินแดนโบราณ แล้วเขาคนนั้นเข้าไปได้ยังไง?!
เผชิญกับสถานการณ์นี้ กระทั่งคนสูงวัยอย่างพวกเขาก็ยังสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาคำรามขึ้นทันที “เร็วเข้า เปิดดินแดนโบราณ!”
ความสนใจของมู่เฉินจมจ่อมอยู่ในเจดีย์ใส
ขณะนี้กระบวนการกำลังค่อยๆ มาถึงความสมบูรณ์แบบโดยรัศมีตกทอด
ตอนนี้มันช่างโปร่งใสราวกับเพชร ในเวลาเดียวกันก็ส่งผลให้เกิดความลึกซึ้งอย่างไม่อาจบรรยายได้
มู่เฉินมีความรู้สึกว่าเจดีย์ผลึกใสนี้ไม่ธรรมดา เจดีย์ที่เขาเคยชำระไว้ก่อนหน้าไม่สามารถเทียบได้กับสิ่งนี้เลย
ทว่าขณะที่มู่เฉินกำลังยินดีปรีดาในหัวใจ พายุรุนแรงก็พัดเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ จากนั้นเขาก็เห็นกรงเล็บทอดยาวมาในทิศทางของเขา
ในเวลาเดียวกันเสียงกรี้ยวกราดก็ดังก้องทั่วมิติ
“ใครบังอาจเข้ามาขโมยรัศมีรัศมีตกทอดในดินแดนโบราณของเผ่าฝูถู!”