หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1238 หนึ่งหมัด
“รับกำปั้นโดยไม่หลบ…”
เสียงของมู่เฉินดังก้องทำให้หลายคนต้องแลกเปลี่ยนสายตากัน จากนั้นก็ฉายแววเยาะเย้ย เนื่องจากคำตอบนั้นเกินความคาดหมายของทุกคน
เขาไม่เพียงแต่ยอมรับการท้านี้เท่านั้น ซ้ำยังบอกอีกด้วยว่าจะไม่หลบและจะรับกำปั้นตรงๆ
ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอนสำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นที่จะรับการโจมตีของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย…
บนชั้นสามสายตาของหลิงเฟยจื่อก็กะพริบวูบไหว ก่อนที่ริมฝีปากจะโค้งขึ้น นางหัวเราะเบาๆ “ไม่คิดว่าจะพบวีรบุรุษผู้กล้า ข้าคงต้องมองเจ้าใหม่ ราชาหมีในเมื่อเขาขอ เจ้าก็ทำให้ความปรารถนาเขาเป็นจริงที”
หลายคนแอบหัวเราะเยาะในใจ เวลาผู้หญิงโหดขึ้นมานี่น่ากลัวแท้จริง คำพูดของนางปิดกั้นทุกทางถอยสำหรับมู่เฉิน ตอนนี้ต่อให้ไม่ยินยอม มู่เฉินก็ต้องกลืนคำพูดเข้าไปทางเดียว
หากมู่เฉินพูดด้วยความอวดดี ตอนนี้เขาต้องทุกข์แล้ว
ทว่าที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจคือท่าทางของมู่เฉินไม่ได้เปลี่ยนไปจากคำพูดของหลิงเฟยจื่อ เขายังคงสงบซึ่งทำให้ทุกคนสงสัยว่าเขามีไพ่ตายซ่อนอยู่จริงหรือ?
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นที่จะเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายเลยนะ
ใบหน้าของสงป้าปกคลุมไปด้วยรังสีน่ากลัวก่อนที่จะมองมู่เฉินอย่างดุดัน เขาไม่คิดว่าตนเองจะถูกมู่เฉินดูถูกเพียงนี้
เจ้าโง่นี่ไม่รู้หรือไงว่าสงป้าเป็นจอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ซึ่งหน้า? แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายบางคนยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับพลังป่าเถื่อนแบบจังๆ
“ไอ้หนู ดูเหมือนว่าแกเหนื่อยกับการมีชีวิตนะ!” ดวงตาแดงก่ำของสงป้ามองมู่เฉินราวกับอสูรร้าย
มู่เฉินขมวดคิ้ว “เลิกพล่ามไร้สาระซะที ตกลงเจ้าจะเอารึเปล่า?”
สงป้ารู้สึกคัวนออกหู แต่สุดท้ายก็กัดฟันระงับเอาไว้ “ดี ข้าจะสนองความต้องการของแกวันนี้เอง!”
ตู้ม!
ร่างกายของสงป้าลั่นเปรียะด้วยรัศมีรุนแรง ทำให้เกิดรอยแตกในมิติโดยรอบ
คลื่นหลิงของเขาอัดแน่นด้วยความป่าเถื่อน เหมือนจะสะท้อนเสียงคำรามของหมีอย่างเลือนรางออกมาด้วย
ร่างของเขาพองตัวเป็นยักษ์ทันที ใบหน้าก็บิดเบี้ยวไป เขาดูเหมือนมนุษย์ครึ่งหมีที่ดิบเถื่อนในขณะนี้
ในอาคารผู้คนมากมายหรี่ตาแคบลงกับฉากนี้
“ว่ากันว่าทักษะที่สงป้าฝึกฝนต้องใช้เลือดหมีโลหิตแตกฟ้าซึ่งเป็นเทพอสูรโบราณ ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องหลอมรวมกับคลื่นหลิงของเขา ทำให้คลื่นหลิงของเขามีความรุนแรงอย่างมากพร้อมกับพลังที่ทำลายสวรรค์ได้” มีคนอุทานออกมา
แม้แต่ท่าทางของลั่วเทียนเสินก็เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม เขาอดไม่ได้ที่จะกังวลว่าสงป้าอาจฆ่ามู่เฉินตายในหมัดเดียว
มู่เฉินหรี่ตาแคบลง ท่ามกลางเสียงร้องของฝูงชน เขาสัมผัสถึงคลื่นหลิงรุนแรงที่ระเบิดออกมาจากร่างสงป้า ดวงตาก็วูบไหว
โฮก!
คลื่นหลิงในร่างสงป้ากวาดออกมาเป็นลอน วินาทีต่อมาเขาก็หมุนวนคลื่นหลิงไปยังจุดสูงสุด คำรามก้องฟ้า คลื่นเสียงกระเพื่อมจากเสียงคำรามของเขาทำให้มิติแตกสลาย
ปัง!
คลื่นหลิงเชี่ยวกรากผันผวนภายในร่างกาย สายตาเขาก็จับจ้องมู่เฉิน อึดใจเขาก็กระแทกฝ่าเท้า ระเบิดพื้นที่แข็งแกร่งใต้ฝ่าเท้าให้กลายเป็นฝุ่น
ร่างกลายเป็นลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกไป ขณะเดียวกันก็เหวี่ยงกำปั้นขวาออกไปอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นหมีตัวใหญ่ตัวหนึ่งก็ปรากฏอยู่ข้างหลัง อุ้งตีนหมีซ้อนทับรวมกันกับกำปั้นของสงป้า
ปัง ปัง!
พายุสีแดงกวาดออกทำให้มิติรอบด้านแตกเป็นเสี่ยงๆ ประกายไฟแล่นแปลบปลาบเมื่อสัมผัสกับหมัด
“กำปั้นปีศาจแยกฟ้า!”
สงป้าคำรามขณะที่เหวี่ยงหมัดออกไป ภาพนี้ทำให้ใบหน้าผู้คนเปลี่ยนแปลงไปมาก พวกเขาตกใจกับการเคลื่อนไหวของสงป้า
กำปั้นนี้เค้นพลังทั้งหมดของสงป้า แม้ว่าชายคนนี้จะดูเหมือนพวกสมองกล้ามเนื้อ แต่ก็ยังมีไหวพริบ เขากลัวว่ามู่เฉินจะมีทักษะบางอย่างในแขนเสื้อ ดังนั้นเขาจึงเลือกใช้วิธีการที่ตรงที่สุดเพื่อเอาชนะมู่เฉิน ด้วยพลังหลิงยิ่งใหญ่ของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย
การโจมตีนี้อาจดูงุ่มง่าม แต่เป็นเส้นทางพลังยิ่งใหญ่แท้จริง
ต่อให้แกมีทักษะมาก ข้าก็สามารถทำลายสิ่งกีดขวางให้หมดสิ้น!
ถึงยังไงมู่เฉินก็มีขุมพลังเท่านี้ ดังนั้นคลื่นหลิงไร้ขอบเขตของสงป้าในฐานะจอมยุทธ์อีกขั้นก็สามารถทำลายการป้องกันของจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นนี้ได้
ดังนั้นเมื่อสงป้าชกหมัดออกไป หลายคนก็ชื่นชม เพราะสิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำเมื่อเผชิญกับการโจมตีครั้งนี้คือการหลบ ทว่ามู่เฉินบอกไว้แล้วว่าจะไม่หลบ นี่ก็เท่ากับบีบตัวเองให้ต้องตายนั่นเอง
มุมปากของหลิงเฟยจื่อเพิ่มโค้งเยาะเย้ยมากขึ้น เนื่องจากนางรู้ว่ามู่เฉินต้องจ่ายราคาแพงระยับสำหรับความเย่อหยิ่งของตนเอง
ขณะที่ทุกคนกำลังเฝ้าดูฉากนี้ด้วยความดีใจกับความทุกข์คนอื่น มู่เฉินก็หายใจลึกสุดปอดกางขาออกเล็กน้อย จากนั้นก็เหยียดฝ่ามือออก ตั้งท่าจะรับกำปั้นอีกฝ่าย
ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นการวูบไหวของแสงอัญมณีที่กะพริบในส่วนลึกของดวงตามู่เฉิน คลื่นหลิงของเขาหลั่งไหลลงในเจดีย์ผลึกใส เปลี่ยนเป็นคลื่นหลิงแก้วใส…
เมื่อแสงอัญมณีบางจางก็เริ่มกำจายทั่วร่างมู่เฉิน จังหวะนั้นกำปั้นรุนแรงของสงป้าก็มาถึง
“ตาย!”
สงป้าคำรามด้วยท่าทางน่ากลัว รัศมีร้ายกาจห่อหุ้มเขาไว้ จากนั้นก็ชกไปที่ฝ่ามือของมู่เฉินภายใต้สายตาที่จ้องมองมานับไม่ถ้วน
ตู้ม!
เมื่อกำปั้นและฝ่ามือปะทะกัน เสียงดังกึกก้องก็กระจายไปทั่ว ทุกคนเห็นเสื้อผ้าของมู่เฉินกระพืออย่างรุนแรง
ขณะนี้ฝ่ามือมู่เฉินเปลี่ยนเป็นสีแดง เหมือนมีหยดเลือดซึมออกมาด้วย เนื่องจากคลื่นหลิงรุนแรงของสงป้า
คลื่นหลิงสีแดงกวนตัวเป็นพายุเฮอริเคนห่อหุ้มทั้งสองไว้
“ข้าจะฉีกร่างแกเป็นชิ้นๆ!” สงป้าหัวเราะร่วน อึดใจต่อมาคลื่นหลิงสีแดงเข้มก็พลุ่งพล่านเข้าสู่ร่างกายของมู่เฉินอย่างป่าเถื่อน เขาตั้งใจจะทำลายร่างมู่เฉินจากภายในสู่ภายนอก
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้กระบวนท่าที่โหดร้าย เขาเคยทำสิ่งนี้กับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นสองคนให้กลายเป็นแอ่งเลือด
ตู้ม!
ทว่าเมื่อคลื่นหลิงสีแดงเข้มเทลงไปในร่างกายมู่เฉิน สงป้าก็เห็นรอยยิ้มเย้ยบนใบหน้าของอีกฝ่าย
“จะตายอยู่แล้วยังเสแสร้งอีกเรอะ?!” สายตาสงป้าเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม คิดจะจุดประกายพลังงานรุนแรงภายในร่างของมู่เฉิน
แต่ทันใดนั้นรูม่านตาของเขาก็หดลงด้วยความหวาดผวา เมื่อพบว่าตนเองสูญเสียการเชื่อมต่อกับคลื่นหลิงที่กระแทกใส่ร่างกายของมู่เฉินไป
นี่ให้ความรู้สึกราวกับว่าร่างกายของมู่เฉินเป็นหลุมดำที่สามารถกลืนกินและย่อยสลายพลังงานทุกชนิดที่เข้าไป
“เป็นไปได้ยังไง?” ใบหน้าของสงป้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
ตรงกันข้ามมู่เฉินกลับยิ้มเย็นชา แท้จริงแล้วคลื่นหลิงของสงป้ารุนแรงมาก แต่น่าเสียดายที่มู่เฉินไม่กลัวคลื่นหลิงที่บุกเข้ามาในร่างกายของเขา
เนื่องจากตอนนี้คลื่นหลิงแก้วใสคำรามอยู่ภายในร่างกาย เมื่อคลื่นหลิงสีแดงที่บุกเข้ามาสัมผัสกับมันก็เงียบลงทันที ถูกผนึกอย่างสมบูรณ์…
ยามนี้ทุกคนรู้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำให้ใบหน้าถึงกับเปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกได้ว่าไม่ว่าสงป้าจะพยายามจุดชนวนคลื่นหลิงของเขาในร่างกายของมู่เฉินเท่าไร ก็ไม่มีอาการปั่นป่วนสักเล็กน้อยออกมาจากร่างกายของอีกฝ่าย แม้แต่เท้าก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?!” ทุกคนมีท่าทางเคร่งเครียดลงหลายส่วน ความตกใจผุดขึ้นในใจของพวกเขา
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงไป มู่เฉินก็ยิ้มให้สงป้า “อยากได้คลื่นหลิงกลับไปเหรอ? งั้นเอาคืนไปเลย”
เขากำมืออีกข้างหนึ่ง คลื่นหลิงสีแดงก็พุ่งออกมาก่อตัวเป็นลูกแสงสีแดงกว้างเกือบร้อยจั้ง
ภายในบรรจุคลื่นหลิงที่มีความรุนแรง
มู่เฉินถือลูกแสงจากนั้นก็ขว้างใส่สงป้า
เผชิญหน้ากับการกระทำของมู่เฉิน สงป้าก็หัวเราะเสียงดัง เพราะเมื่อวงแสงคลื่นหลิงสีแดงเข้มสัมผัสกับร่างเขาก็รวมเข้าสู่ร่างอย่างรวดเร็วราวกับว่าน้ำไหลลงทะเล
“ฮ่าๆ เจ้าโง่ คิดจะใช้คลื่นหลิงของข้าเพื่อโจมตีข้าเนี่ยนะ? เพ้อฝันจริงๆ!” สงป้าระเบิดเสียงหัวเราะ
“งั้นเหรอ?” มู่เฉินตอบด้วยรอยยิ้มแปลกประหลาด
เมื่อพูดจบใบหน้าของสงป้าก็เปลี่ยนไปรุนแรง เพราะเขาตระหนักว่าคลื่นพลังงานที่ดูดซึมเข้าไปส่งผลกระทบต่อคลื่นหลิงในร่างทั้งหมดของเขา ทำให้เขาสูญเสียการควบคุมทันที…
ในช่วงเวลาไม่กี่ลมหายใจคลื่นหลิงที่หนาแน่นรอบตัวเขาก็อันตรธานหายไป
“คลื่นหลิงของข้า?!” ดวงตาของสงป้ากะพริบด้วยความหวาดผวาเข้มข้นกับสถานการณ์นี้
“แกก็ลองรับหมัดข้าหน่อยละกัน”
ทว่าก่อนที่เขาจะได้ทันตรวจสอบร่างกาย มู่เฉินยิ้มพลางก้าวออกไป หมัดกระทุ้งเข้าไปที่หน้าอกของสงป้าที่สูญเสียพลังงานทั้งหมดไปแล้ว
ปัง!
สงป้ารับผลกระทบหนักหน่วง ร่างบินออกไปสร้างรอยครูดยาวบนพื้น ก่อนที่เลือดจะกบปาก หน้าอกยุบตัวลง
ทั่วบริเวณตกอยู่ในความเงียบงัน แม้จะมีจอมยุทธ์มากมายที่นี่ แต่ทุกคนก็ต่างอ้าปากตาค้างไปหมด เนื่องจากพวกเขาไม่คิดว่าไม่เพียงแต่กำปั้นของสงป้าจะไม่ทำอันตรายให้กับมู่เฉิน เขายังสูญเสียการควบคุมคลื่นหลิงทั้งหมดไปและถูกมู่เฉินซัดจนมีสภาพน่าอนาถเช่นนี้
มู่เฉินถอนกำปั้นออก ภายใต้สายตาที่จ้องมาก็คลี่ยิ้ม จากนั้นก็เงยหน้ามองหลิงเฟยจื่อที่หน้าเขียวคล้ำ
“ขอบใจสำหรับของเหลวจื้อจุนแปดสิบล้านหยดนะ…”