หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1254 ซูมู่และฉู่เหมิน

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1254 ซูมู่และฉู่เหมิน

จัตุรัสเมืองซีเทียนจั้น

ช่วงเวลาที่มู่เฉินทะยานขึ้นสู่ยอดบนสุด หน้าจอแสงโดยรอบก็สว่างวาบพร้อมกับอันดับในสนามรบระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายเปลี่ยนแปลง เมื่อทุกคนเห็นชื่อมู่เฉินครองอันดับหนึ่ง ความปั่นป่วนก็เกิดขึ้น

“สวรรค์เกิดอะไรขึ้น?! มู่เฉินกระโดดจากที่เจ็ดมาเป็นที่หนึ่งได้อย่างไร?”

“โอ้ หลิ่วซิงเฉิน! เขาหายไป! ดูเหมือนว่ามู่เฉินจะได้ป้ายสัประยุทธ์ของเขา!”

“คึๆ หยิบชิ้นปลามันโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ”

“มู่เฉินหลักแหลมแท้จริง หลิ่วซิงเฉินได้รับบาดเจ็บหนักจากการต่อสู้กับหลิงจั้นจื่อและความแข็งแกร่งก็ลดลงอย่างมากก่อนที่จะมาพบเขา!”

“แต่ข้าว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร การทำแบบนี้หลิงจั้นจื่อโกรธแน่นอน มู่เฉินเดือดร้อนในไม่ช้าแน่”

“…”

เสียงกระซิบดังก้องไปทั่ว ทว่าแทบทุกคนมองว่าการได้อันดับหนึ่งของมู่เฉินเป็นภัย เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของหลิงจั้นจื่อ แม้แต่จอมยุทธ์อย่างหลิ่วซิงเฉินก็ยังพ่ายแพ้

แม้ว่ามู่เฉินจะเป็นม้ามืด แต่เมื่อเทียบกับหลิงจั้นจื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชื่อเสียง รากฐานเขาก็ยังด้อยกว่า

ลั่วเทียนเสินมองดูตารางจัดอันดับด้วยคิ้วที่ขมวดกันยุ่ง ตอนแรกเขาคิดว่าด้วยนิสัยของมู่เฉินก็อาจจะรอจนกว่าทั้งหกต่อสู้กันก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนไหว

แต่การเปลี่ยนแปลงฉับพลันทำให้มู่เฉินขึ้นสู่จุดสูงสุด นี่จะดึงดูดความเป็นปฏิปักษ์ของหลิงจั้นจื่อทันที

ในฐานะทึ่รู้ว่าหลิงจั้นจื่อทรงพลังเพียงใด แม้ว่าลั่วเทียนเสินจะมีความมั่นใจในตัวมู่เฉิน แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

“ฮ่าๆ มู่เฉินขึ้นไปที่หนึ่งแล้ว ความประหลาดใจนี้เป็นเรื่องคาดไม่ถึงจริงๆ” เมื่อจักรพรรดิสัประยุทธ์เห็นสิ่งนี้เขาก็ยิ้มเยาะเย้ยให้เซียวเหยียน

บางทีคนอื่นอาจไม่รู้ แต่จักรพรรดิสัประยุทธ์และเทพจักรพรรดิอัคคีเป็นใคร? พวกเขารู้ดีว่ามู่เฉินไม่ได้สู้กับหลิ่วซิงเฉิน เหตุผลที่มู่เฉินได้รับป้ายสัประยุทธ์มาเพราะโชคดี

แต่บางครั้งการเลือกผลประโยชน์ในสนามรบอาจดึงดูดปัญหา

เมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ย เซียวเหยียนก็ยิ้ม “มู่เฉินตั้งใจจะเป็นที่หนึ่งตั้งแต่ต้น ดังนั้นเขาไม่มีทางปฏิเสธป้ายสัประยุทธ์ที่มาถึงมือ หากเป็นคนอื่นพวกเขาอาจไม่มีความกล้าที่จะหยิบขึ้นมาก็ได้”

จักรพรรดิสัประยุทธ์หัวเราะพูดด้วยน้ำเสียงขี้เล่น “หวังว่าเขาจะสามารถรักษาตำแหน่งนั้นไว้ได้”

พื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสนามรบระดับตี้จื้อจุนขั้นปลาย

ชายที่ดูธรรมดาเปิดหน้าจอก็เห็นชื่อมู่เฉินครอบครองป้ายสัประยุทธ์มากกว่าสี่สิบป้าย คิ้วของเขาขมวดขึ้นหัวเราะเสียงเบา

“น่าสนใจ… ไม่คิดว่าจะมีสักวันที่ข้าหลิงจั้นจื่อจะถูกแย่งผลประโยชน์จากคนอื่น”

ชื่อของหลิ่วซิงเฉินหายไปจากตารางจัดอันดับ ซึ่งหมายความว่าเขาออกจากสนามรบแล้ว ดังนั้นเมื่อครุ่นคิดสักเล็กน้อยก็จะสามารถเข้าใจได้ว่ามู่เฉินได้รับประโยชน์จากการต่อสู้ระหว่างเขากับหลิ่วซิงเฉินไป

“ฮ่าๆ ไม่คิดว่าเจ้าจะมีวันแบบนี้ด้วย”

เสียงหัวเราะดังขึ้นก่อนที่เงาร่างสองร่างจะทะยานเข้ามาหยุดอยู่ข้างเขา ทั้งสองก็คือเทพจอมยุทธ์ของตำหนักซีเทียน

หลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อ

หลิงจั้นจื่อเหลือบมองไปที่ทั้งสองก็ยิ้ม “ข้าได้ยินข่าวลือว่าหลิ่วซิงเฉิน ซูมู่และฉู่เหมินเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อจัดการกับพวกเรา ตอนนี้หลิ่วซิงเฉินถูกข้าจัดการแล้ว สองคนนั่นพวกเจ้าก็รับผิดชอบเองละกัน”

หลิงเจี้ยนจื่อตอบกลับอย่างสบายๆ ว่า “กระบี่เทพหมาป่า ข้าอยากพบเขามานานแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะมีสีหน้าแบบไหนหลังจากที่ถูกข้าหักกระบี่ทิ้ง”

หลิงหลงจื่อรูปร่างกำยำก็ยิ้มเผยฟันออกมา “ข้าก็อยากทดสอบดาบทรราชเช่นกัน”

หลิงจั้นจื่อหัวเราะ “สนามรบนี้ใกล้ปิดฉากแล้ว ข้าขอแนะนำให้เราจัดการแมลงตัวอื่นๆ ที่นี่ซะ ก่อนที่จะจัดการกับพวกเขาทั้งสามคน จากนั้นพวกเราก็มาสู้กันเพื่อตัดสินผู้ชนะ”

อีกสองคนพยักหน้า แม้ว่าจะเป็นคู่แข่งกัน พวกเขาก็ต้องช่วยกันกำจัดคนอื่นก่อน ไม่งั้นถ้าหากตำแหน่งตกเป็นของคนอื่นละก็ พวกเขาคงต้องรับแรงโกรธเกรี้ยวของจักรพรรดิสัประยุทธ์แน่

หลิงเจี้ยนจื่อและหลิงหลงจื่อดำเนินการอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ตัดสินใจร่างก็ทะยานหายไปในขอบฟ้า

เมื่อมองไปที่ร่างเงาที่หายไป หลิงจั้นจื่อก็มองชื่อบนสุดด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะปล่อยให้แกฝันหวานอีกสักครู่ เมื่อพวกแมลงหมดไป ข้าจะเหยียบเจ้าลงจากตำแหน่งด้วยตัวเองเลย”

พูดจบเขาก็โบกมือ หน้าจอหายไป จากนั้นร่างเขาก็หายไปอย่างช้าๆ

“ที่หนึ่งมาอย่างง่ายดาย…”

ขณะที่ด้านนอกปั่นป่วน มู่เฉินก็ยักไหล่พลางยิ้ม บางทีในสายตาของคนอื่นอันดับของเขาเป็นส้มหล่นแท้จริง

ทว่ามู่เฉินไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เพราะทุกอย่างจะถูกเปิดเผยว่าเขาพึ่งโชคหรือพลัง

“แบบนี้ข้าก็ไม่ต้องวิ่งยึดป้ายสัประยุทธ์แล้ว รอให้ถึงตอนสุดท้ายก็พอ”

มู่เฉินขยับตัวไปปรากฏบนภูเขาก่อนที่จะนั่งลงอย่างสงบ ช่วงเวลานี้เขาไม่ต้องหาป้ายสัประยุทธ์อีกต่อไป เขารู้ว่าตอนจบจะไม่เริ่มโดยไม่มีเขาไม่ได้

มู่เฉินหลับตาลงดำดิ่งศึกษาค่ายกลรบสามกำลังต่อไป ทว่าก็อยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากเขาสัมผัสถึงคลื่นหลิงสองสายที่พุ่งมาในทิศทางของเขา

เขาเปิดตามองไปในทิศทางนั้นก็เห็นร่างเงาสองร่างยืนอยู่บนท้องฟ้า

หนึ่งในนั้นสวมเสื้อคลุมสีฟ้าอมเขียวสะพายกระบี่ไว้บนหลัง เอิบอาบด้วยรัศมีคมกริบ กระทั่งทำให้ดวงตาต้องเจ็บปวดเมื่อจ้องมองไป

อีกคนรูปร่างกำยำปล่อยผมยาวพลิ้วไหว ท่าทางดูนักเลงและเผด็จการมาก

“กระบี่เทพหมาป่า—ซูมู่ ดาบทรราช—ฉู่เหมิน” มู่เฉินเงยหน้าขึ้นยิ้ม เขาไม่แปลกใจที่ทั้งสองมาหาเขา

“เจ้าเป็นคนที่เอาป้ายสัประยุทธ์ของพี่หลิ่วไปรึ?” ฉู่เหมินมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาคมกริบ

“ข้าบังเอิญพบกับเขามา” มู่เฉินยิ้มบาง

ฉู่เหมินชักรู้สึกหัวร้อนพูดว่า “พี่หลิ่วกำลังรอพวกข้าสองคนมาช่วยฟื้นฟูพลัง ในเวลานั้นพวกข้าจะสามารถต่อสู้กับเทพจอมยุทธ์สามคนของตำหนักซีเทียน แต่เจ้ากลับใช้ความได้เปรียบเรื่องอาการบาดเจ็บเตะเขาออกไป!”

มู่เฉินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนั่น “ทุกคนต่างเป็นศัตรูกันในสนามรบ ทำไมข้าต้องปล่อยหลิ่วซิงเฉินไป? ข้อตกลงของพวกเจ้ามาเกี่ยวอะไรกับข้า?”

เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว ดวงตาของซูมู่ก็วูบไหว “ดูเหมือนว่าพี่หลิ่วจะเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าฟังแล้ว”

กวาดมองทั้งสองอย่างรวดเร็ว มู่เฉินตอบว่า “หลิ่วซิงเฉินต่อสู้กับหลิงจั้นจื่อจนได้รับบาดเจ็บรุนแรง เขารู้ว่าตัวเองไม่สามารถเผชิญหน้ากับหลิงจั้นจื่อได้อีก ดังนั้นเขาจึงส่งป้ายสัประยุทธ์ให้กับข้า แต่เขาไม่ได้ทำด้วยความหวังดี เขาต้องการให้ข้าเผชิญหน้ากับหลิงจั้นจือ”

“ช่างโอ้อวดจริงๆ!”

ฉู่เหมินแสดงทัศนคติเผด็จการ ใบหน้ามืดครึ้มลง “จองหองจริง พูดแบบนี้จะบอกว่าตัวเองมีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับหลิงจั้นจื่อเรอะ!”

แม้แต่หลิ่วซิงเฉินยังพ่ายแพ้ แต่มู่เฉินมีขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้นคำพูดของเขาจึงดูตลกนัก

“เจ้าไม่ใช่คนที่จะมาตัดสินคุณสมบัติของข้า” มู่เฉินยิ้ม

“เจ้า!” ฉู่เหมินถึงกับเดือดขึ้นเลยทีเดียว

ซูมู่หันมาหยุดฉู่เหมินแล้วมองไปที่มู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พี่มู่ พวกข้าไม่ได้สนใจว่าพี่หลิ่วมอบป้ายให้กับเจ้าหรือเจ้าฉกมา ข้าแค่อยากบอกว่าถ้าพี่มู่ตั้งใจจะแลกเปลี่ยนสมบัติแล้วออกไป พวกข้าคงต้องขอป้ายคืน”

มู่เฉินตอบด้วยเสียงสงบเรียบว่า “เป้าหมายของข้าคือตำแหน่ง”

เมื่อได้ยินคำตอบของมู่เฉิน ซูมู่ก็รู้สึกโล่งใจและยิ้มแย้ม “ในเมื่อเป็นแบบนี้พี่มู่ทราบสถานการณ์ปัจจุบันของการแข่งขันหรือไม่?

“พวกเทพจอมยุทธ์กำลังกวาดล้างผู้คน ถ้าเป็นไปตามที่คาดไว้พวกเขาจะเป็นสามคนสุดท้ายในสนามรบ ถ้าพวกข้าถูกกวาดออกไปพี่มู่จะสามารถต่อสู้กับพวกเขาสามคนด้วยตัวเองหรือไม่? แล้วจะชิงตำแหน่งมาได้ไหม?

ดวงตามู่เฉินวูบไหว “เจ้ากำลังพยายามจะพูดอะไร?”

ซูมู่ยิ้ม “ข้าแค่หวังว่าพี่มู่จะสามารถแทนที่พี่หลิ่ว พวกเราสามคนจะร่วมมือกันเผชิญหน้ากับเทพจอมยุทธ์ ไม่เช่นนั้นเราคงไม่มีโอกาสในตำแหน่งแน่”

“ได้” มู่เฉินพยักหน้าตกลงทันที เนื่องจากเขาต้องการผู้ช่วยเพื่อหยุดเทพจอมยุทธ์อีกสองคนอยู่แล้ว มิฉะนั้นถึงเขาจะใช้วิชาสามพิสุทธิ์ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้กับทั้งสามคน

ซูมู่ไม่แปลกใจที่มู่เฉินเห็นด้วย ตราบใดที่มู่เฉินต้องการรั้งอันดับหนึ่ง เขาก็ต้องการผู้ช่วยเหลืออย่างแน่นอน และในสนามรบตอนนี้มีเพียงเขาและฉู่เหมินเท่านั้นที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตามต้องการ

ทันใดนั้นซูมู่ก็ยิ้ม “ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็เยี่ยมมาก… แต่เราจำเป็นต้องยืนยันบางสิ่งก่อน”

“อะไร?” มู่เฉินเงยหน้าขึ้น

ซูมู่ยิ้มกระชับด้ามกระบี่ก่อนที่รัศมีน่าสะพรึงจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ากวาดล้างไปทั่วบริเวณ

“ตรวจสอบว่า… พี่มู่มีคุณสมบัติที่จะทำงานร่วมกับพวกเราได้หรือไม่”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset