หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1275 นายน้อย

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 1275 นายน้อย

ในวังลั่วเสิน

ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางนั่งบนเก้าอี้โดยไม่มีอารมณ์ใดๆ ร่างกายไม่เคลื่อนไหว แม้แต่การหายใจก็แผ่วเบาจนไม่ได้ยิน หากไม่ใช่แสงหลิงที่วาบผ่านดวงตาเป็นครั้งคราวละก็ ทุกคนคงจะคิดว่าเขาเป็นรูปปั้นแล้ว

ชายคนนี้นั่งอยู่ที่นี่ตลอดทั้งเดือนโดยไม่เคลื่อนไหว!

คิ้วของลั่วหลีขมวดแน่น ตั้งแต่ชายคนนี้แจ้งความจำนง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีก ดังนั้นนางจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรู

แต่มีบางอย่างที่นางมั่นใจได้ ชายคนนี้น่าจะมาจากหนึ่งในห้าเผ่าโบราณ ซึ่งก็คือเผ่าฝูถู

เนื่องจากลั่วหลีตระหนักถึงภาพปักเจดีย์สีดำที่แขนเสื้อเขา ในมหาพันภพมีเพียงเผ่าฝูถูเท่านั้นที่ถือว่าเป็นขั้วอำนาจพิเศษ

“ท่านแม่ของมู่เฉินก็มาจากเผ่าฝูถู”

ลั่วหลีเคยพบชิงเหยี่ยนจิ้งเมื่อในอดีต ดังนั้นนางจึงรู้อะไรบางอย่าง แต่นางก็มั่นใจว่าเพราะเผ่าฝูถูทำให้มู่เฉินและมารดาของเขาไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้

นั่นหมายความว่ามู่เฉินไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าฝูถู

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ลั่วหลีก็หันไปหาชายวัยกลางคน “ท่านอยู่ที่นี่มานานแล้ว อยู่ต่อไปก็ไม่เกิดผล ดังนั้นไปซะเถอะ“

“มู่เฉินจะไม่กลับมาที่นี่อีก”

ชายวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นพูดว่า “ดูเหมือนเจ้าจะส่งข่าวไปแล้วสินะ”

เมื่อเขาพูดออกมาก็ดูเหมือนว่าเสียงมังกรและช้างจำนวนมหาศาลคำรามออกมาจากร่างกายเขา ปลดปล่อยความผันผวนของคลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้แผ่นหินโดยรอบบนพื้นแตกกลายเป็นเถ้าถ่าน

เผชิญหน้ากับชายวัยกลางคนคนนี้ ลั่วหลีก็ไม่แสดงความหวาดกลัวในสายตา เกลียวแสงหลิงยิ่งใหญ่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของนาง ร่างเวทสวรรค์ก่อตัวขึ้นอย่างเลือนรางที่เบื้องหลัง

แม้ว่านางจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจอมยุทธ์ขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็ม แต่นางก็สามารถปะทะได้ชั่วครู่ด้วยร่างเทพวารี นอกจากนี้หากอีกฝ่ายยังจะเคลื่อนไหวในตระกูลลั่วเสินก็เหมือนกับการท้าทายกฎของตำหนักซีเทียน เมื่อถึงเวลานั้นผู้พิทักษ์ตำหนักซีเทียนก็จะเคลื่อนพลมาเช่นกัน

แต่ชายวัยกลางคนไม่ขยับ เขาแค่จ้องมองลั่วหลีพลางถอนหายใจด้วยความผิดหวัง “ไม่คิดเลยว่าเขาจะเลือกหนี ช่างเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง”

“เขาคิดว่าจะซ่อนตัวได้ตลอดกาลเรอะ? ด้วยพลังอำนาจของเผ่าฝูถูก็เป็นเรื่องของเวลาที่จะต้อนเขาเข้ามุม เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะทำอะไรได้อีก?”

ได้ยินน้ำเสียงผิดหวังและเยาะเย้ยของอีกฝ่าย ลั่วหลีก็รู้สึกโกรธ ทว่าขณะที่นางจะอธิบาย เสียงคุ้นเคยก็ดังก้องขึ้นมาจากประตูห้องโถง

“จอมยุทธ์ขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ข้ามู่เฉินหวาดกลัวหรอก เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป”

ลั่วหลีเงยหน้าขึ้นมามองประตู ภายใต้แสงตะวัน ร่างเงาสูงโปร่งของชายหนุ่นก็ยืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้ม ริ้วความเย็นชากระจายบนใบหน้าเขา

เมื่อมู่เฉินปรากฏตัว ลั่วหลีก็รู้สึกโล่งใจในเวลาเดียวกัน ด้วยพลังของมู่เฉิน เขาเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ในการชำระล้างครั้งนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นแม้เขาจะไม่สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มได้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เช่นกัน

ยืนอยู่ด้านหลังลั่วหลี จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนคนอื่นก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงเมื่อมู่เฉินปรากฏตัว นั่นเป็นเพราะชายวัยกลางคนคนนี้มาหามู่เฉิน ตอนนี้สถานการณ์อาจอยู่นอกเหนือการควบคุมทันทีที่มู่เฉินแสดงตัว

การเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็ม พวกเขารู้สึกถูกกดดันอย่างมาก

ชายวัยกลางคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาคมกริบก็จ้องเขม็งไปที่มู่เฉิน เมื่อเขาเห็นใบหน้าสดใส ดวงตาของเขาก็สั่นระริก

“เจ้าคือมู่เฉินเหรอ?” ชายวัยกลางคนถาม

“อยู่ก็ชื่อมู่เฉิน ตายก็ชื่อมู่เฉิน ข้าไม่เคยเปลี่ยนชื่อแซ่” มู่เฉินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆ

“ดี ถ้าเจ้าไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้าวันนี้ ข้าก็รู้สึกว่าสิ่งที่มารดาเจ้าทำเพื่อปกป้องเจ้าไม่คุ้มค่าเลย” ชายวัยกลางคนกล่าว

มู่เฉินส่ายหน้าอีกครั้ง “ก่อนหน้าข้าพูดไปแล้วว่าขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มยังไม่มีความสามารถทำเช่นนั้น”

เผชิญหน้ากับจอมยุทธ์เผ่าฝูถู เขาไม่มีความประทับใจที่ดี ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าอีกฝ่าย

ชายวัยกลางคนผงกหัวแต่ไม่พูดอะไร ทว่าขณะที่ทุกคนกำลังรู้สึกโล่งใจ ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน

โฮก!

เสียงคำรามของมังกรและช้างดังออกมา เขาก้าวออกมาหนึ่งก้าว เงาร่างก็หายไปปรากฏที่เบื้องหน้ามู่เฉินพร้อมกับชกหมัดออกไป

แม้ว่าหมัดนี้จะดูเรียบง่าย แต่แสงหลิงที่ไร้ขอบเขตก็ส่องแสงราวกับว่ามังกรและช้างคำราม ปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัว

หมัดนี้บรรจุด้วยพลังดุดัน ถ้าเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายธรรมดาคงตายคาที่เลยก็ได้

ทว่าไม่มีริ้วอารมณ์ใดบนใบหน้าของมู่เฉิน เนื่องจากเขาไม่แปลกใจกับการจู่โจมกะทันหันของชายวัยกลางคน เขาสูดลมหายใจลึก เกลียวแสงหลิงพร่างพราวระเบิดออกจากดวงตาของเขาเช่นกัน

โฮก!

เขากำกำปั้นแน่น มังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงปรากฏขึ้นบนแขน พวกมันเปล่งเสียงคำรามพร้อมกับแรงกดดันที่ห่อหุ้มออกมา

ผ่านการชำระล้างมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงก็เข้าสู่ระดับตี้จื้อจุนขั้นต้นเรียบร้อย พวกมันรวมพลังเอาไว้ในหม้ดนี้

แม้ว่าพวกมันจะยังอยู่ในระดับตี้จื้อจุนขั้นต้น แต่พลังของเทพอสูรทั้งสองจริงบวกกับมู่เฉินก็สามารถต่อกรระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายได้เลยทีเดียว

มากเสียจนสามารถทำร้ายหลิงจั้นจื่อได้แบบหนักหน่วง!

ตู้ม!

หมัดสองหมัดอัดแน่นด้วยพลังน่าสะพรึงปะทะกันราวกับอุกกาบาตสองลูก

ปัง!

เสียงน่าขนลุกดังออกมา แต่น่าประหลาดใจที่ไม่มีพลังทำลายล้างเกิดขึ้นจากการเผชิญหน้าที่น่ากลัวนี้ ทว่าผู้ที่มีสายตาแหลมคมจะตระหนักได้ว่าแผ่นหินในรัศมีสิบกว่าจั้งกลายเป็นขี้เถ้าไปจนหมด โดยมีเหวลึกไร้ก้นอยู่ใต้กองเถ้าถ่านเหล่านั้น

มิติบิดเบี้ยวรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างหมัดทั้งสอง ก่อนที่ร่างทั้งสองจะสั่นสะเทือนในวินาทีถัดไป

ร่างของมู่เฉินถอยหลังไปหลายสิบก้าว ส่วนชายวัยกลางคนถอยไปสิบกว่าก้าว แต่โดยรวมแล้วพวกเขาทั้งสองเสมอกันในการเผชิญหน้าครั้งนี้!

ทุกย่างก้าวของพวกเขาทิ้งรอยเท้าดำเมื่อมไว้บนพื้น เนื่องจากฝ่าเท้าของพวกเขาฝังลงไปในพื้นดินลึก

นี่เป็นเพียงชั่วขณะที่ทั้งสองปะทะกันและถอยกลับ ลั่วหลีลุกขึ้น ม่านตาเย็นชาของนางมองไปที่ชายวัยกลางคน ตั้งใจจะเรียกร่างเทพวารีออกมา

ถ้านางกับมู่เฉินร่วมมือกัน แม้ว่าคนคนนี้จะเป็นจอมยุทธ์เกือบจะบรรลุขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็ม เขาก็ต้องหยุดอยู่ที่นี่ในวันนี้

ที่เบื้องหลังลั่วหลี จอมยุทธ์คนอื่นๆ รวมถึงลั่วเทียนเสินลั่วเทียนหลงก็ต่างตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามู่เฉินเอาชนะหลิงจั้นจื่อและพลังของเขาไม่ธรรมดา

แต่ชายคนนี้ไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลาย แต่เป็นขุมพลังเกือบจะบรรลุระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มแล้ว พลังนี้ใกล้เคียงกับระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็ม ในแง่ของพลังไม่ใช่ระดับตี้จื้อจุนขั้นปลายระยะปลายสุดจะเทียบเคียงได้

แต่ใครจะจินตนาการได้ว่ามู่เฉินไปถึงจุดที่สูสีในการเผชิญหน้ากระบวนท่าเมื่อครู่!

เห็นได้ชัดว่าภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปีพลังของมู่เฉินก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัย!

ชายวัยกลางคนทรงตัวไว้ได้ เขาก็เกิดสีหน้าตะลึงงันเช่นกัน เขาไม่คิดว่าไม่เพียงแต่มู่เฉินจะไม่ล่าถอยแต่ยังซัดใส่เขาด้วยพลังที่มี!

นอกจากนี้ก็ไม่ได้เสียเปรียบจากการปะทะนี้!

ต้องรู้ว่าทักษะการฝึกฝนของเขาเพิ่มความแข็งแกร่งเพียงใด ดังนั้นกำปั้นที่บรรจุพลังของมังกรพลายนี้จึงกดขี่อย่างมหาศาล

แต่จากการปะทะกันของพวกเขา เขาสามารถรู้สึกได้ว่าพลังที่เขาภูมิใจจมดิ่งในแรงกดดันที่ไม่รู้จัก ราวกับว่าพลังของมู่เฉินสูงกว่าระดับของเขา

อีกมุมหนึ่งมู่เฉินก็ลูบกำปั้นด้วยสีหน้าตกใจ เขาอึ้งไปกับความแข็งแกร่งที่ชายวัยกลางคนนี้ครอบครอง

หากไม่ใช่มังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงที่บุกทะลวงมาถึงระดับตี้จื้อจุนขั้นต้น เขาคงต้องทนทุกข์อย่างมากจากการปะทะกันครั้งนี้

“พลังของชายคนนี้น่าสะพรึงกลัวนัก ในแง่ของพลังแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มแท้จริง ก็ไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเขา” ดวงตาของมู่เฉินกะพริบไหว เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้ไม่ใช่จอมยุทธ์เกือบจะบรรลุขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มธรรมดา หากพวกเขาต้องต่อสู้กันที่นี่ ก็คงไม่ใช่การต่อสู้ที่ง่ายดาย

ดังนั้นใบหน้าของมู่เฉินจึงเคร่งเครียดลง คลื่นหลิงเพิ่มขึ้นในร่างกายขณะที่จับจ้องชายวัยกลางคนด้วยความตื่นตัว

ทว่าภายใต้การรออย่างเคร่งเครียด ชายวัยกลางคนกลับยิ้มด้วยความพึงพอใจ

“สมกับเป็นลูกของนายหญิง ช่างโดดเด่นด้วยวัยเท่านี้”

เมื่อเห็นรอยยิ้มของเขาซึ่งปกคลุมด้วยความอบอุ่นและความสุข มู่เฉินก็อึ้งไป

แต่ก่อนที่จะมีปฏิกิริยา ชายวัยกลางคนก็คุกเข่าข้างหนึ่งลง สีหน้าที่ไม่มีอารมณ์แต่เดิมแสดงความเคารพจากใจภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคน

“หลงเซี่ยงทักทายนายน้อย!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset