หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1400 กลับมาอย่างทรงพลัง

ตู้ม!

ตำหนักขนาดใหญ่ระเบิด คลื่นกระแทกน่าสะพรึงก็กวาดออก ทำให้ตำหนักทั้งหลังกลายเป็นผุยผง

ฉากนี้กะทันหันมาก เมื่อตำหนักถูกทำลายใบหน้าของจอมยุทธ์ตำหนักมู่และผู้ชมก็แข็งค้างทันที…

พวกเขาไม่คิดว่ามู่เฉินจะไม่ไว้หน้าเพียงนี้ ซึ่งนี่จะทำให้อีกฝ่ายโมโหแน่นอน

การยั่วยุจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน งานนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ แล้ว!

หน้าห้องโถงของตำหนักมู่ เหล่าจอมยุทธ์พากันตกใจก่อนที่จะร้องไห้ในใจ ประมุขของพวกเขาดุร้ายเกินไปแล้ว การยั่วยุจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย

ไกลออกไป เจ้าเมฆาม่วง เจ้าอินทรีทองและคนอื่นๆ ก็มองไปด้วยใบหน้าหัวเราะเยาะเย้ย ในที่สุดมู่เฉินก็ปรากฏตัว มิหนำซ้ำยังทำลายตำหนักเดินทางของผู้เฒ่าเฉวียนเทียนอีกด้วย…

ผู้เฒ่าเฉวียนเทียนไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ แน่ วันนี้จะเป็นวันที่ตำหนักมู่ล่มสลาย

ภายใต้สายตาสงสาร-สมเพช-เยาะเย้ย ตำหนักที่แตกสลายก็มีแสงพราวรวมตัวกันเป็นร่างเงาหนึ่ง

ร่างนั้นสวมชุดสีดำมีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวปักอยู่ แม้เขาจะมีผมสีขาว แต่ใบหน้าก็อ่อนวัยราวกับเด็กทารก ดวงตาลึก คิ้วคมราวกับกระบี่เปล่งไอคมกริบออกมา สายตาของเขาทำให้แม้แต่มิติก็สั่นไหว

นี่ก็คือผู้เฒ่าเฉวียนเทียน!

ตอนนี้ใบหน้าของเฉวียนเทียนถมึงทึงพร้อมกับแสงหลิงพลุ่งพล่านอยู่รอบตัวซึ่งเปลี่ยนเป็นดวงดาวนับหมื่นดวงเบื้องหลัง ทำให้เกิดความปั่นป่วนขนาดใหญ่

เมื่อมองไปที่ตำหนักที่พังทลายอยู่ข้างหลัง สายตาเขาก็ราวกับเหยี่ยวจับจ้องไปที่มู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าอารมณ์อะไรอย่างนี้ แต่ในเมื่อเจ้าทำลายตำหนักเดินทางของข้า แม้แต่ตำหนักมู่ทั้งหมดก็ไม่สามารถชดเชยการสูญเสียได้!”

มู่เฉินเอี้ยวหน้ามองเฉวียนเทียนกระตุกยิ้มเย็นชา “ช่างเป็นแพะแก่ที่รู้แต่วิธีเล่นตามอายุเท่านั้น”

“อวดดี!”

สายตาของเฉวียนเทียนกลายเป็นเย็นชา เขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนได้รับความเคารพทุกที่ที่ไป แต่ตอนนี้มู่เฉินไม่เพียงแต่ทำลายตำหนักของเขาเท่านั้น ยังกล้าดูหมิ่นอีกด้วย ช่างรนหาที่ตาย

ตู้ม!

แสงไร้ขอบเขตพุ่งออกมาจากร่างเฉวียนเทียนก่อตัวเป็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวด้านหลัง พร้อมกับดวงดาวเปล่งประกายนับไม่ถ้วนปลดปล่อยแรงกดดันไม่มีที่สิ้นสุด

ตู้ม ตู้ม!

ภายใต้ความกดดัน แม้แต่พื้นที่ก็สั่นสะท้าน รอยแตกปรากฏขึ้นบนพื้น ทุกคนที่อยู่ใต้ระดับตี้จื้อจุนในตำหนักมู่ล้มลงบนพื้นทันที

สำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนหัวเข่าของพวกเขาลั่นเปรียะ ร่างค่อยๆ คุกเข่าลง

ความกดดันอย่างเต็มที่ของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนจะทนได้

“ตำหนักมู่ของข้าไม่มีที่ให้คนแก่โง่อย่างแกมาอาละวาด!”

เสียงเย็นชาของมู่เฉินดังออกมาขณะที่ก้าวเท้าออกไป แสงหลิงไร้ขอบเขตระเบิดออกมา ร่างเขาราวกับดวงอาทิตย์ลุกโชนบนท้องฟ้า

แรงกดดันทรงพลังเช่นเดียวกันรวมตัวกันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากระจายคลื่นหลิงของเฉวียนเทียนออก

โห่!

เมื่อแรงกดดันจากเฉวียนเทียนหายไปทั้งสวรรค์และโลกก็เงียบลง ไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์ตำหนักมู่หรือขั้วอำนาจอื่นๆ ใบหน้าของพวกเขาก็ถอดสีทันที

พวกเขาจ้องมองภาพเงาบนท้องฟ้าด้วยตะลึงลาน พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความผันผวนของคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัวที่มาจากอีกฝ่าย

ซึ่งบอกว่าเขาก้าวผ่านระดับตี้จื้อจุนแล้ว!

นั่นคือระดับเทียนจื้อจุน!

มั่นถัวหลัวและหลิงซีตกตะลึงขณะมองไปที่มู่เฉิน ก่อนที่พวกนางจะสบตากันและสูดลมหายใจเย็นด้วยความไม่เชื่อ “นี่…ความผันผวนของระดับเทียนจื้อจุน?!”

“ท่านประมุขบรรลุระดับเทียนจื้อจุนแล้วเรอะ?!”

หลิ่วเทียนเต้าและจอมยุทธ์ชั้นสูงคนอื่นๆ ในตำหนักมู่ก็ต่างตกตะลึง ราวกับว่าถูกฟ้าผ่ากลางวัน พวกเขาไม่สามารถฟื้นสติจากความตกใจได้เป็นเวลานาน

แม้ว่าพวกเขาจะได้ลิ้มรสพรสวรรค์ของมู่เฉินมามาก แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าเขาจะค้นพบวิถีเทียนจื้อจุนได้ในเวลาเพียงหนึ่งปี

นั่นระดับเทียนจื้อจุนเชียวนะ!

จอมยุทธ์เช่นนี้อยู่บนยอดพีระมิดของมหาพันภพ ซึ่งเป็นธรณีประตูที่อัจฉริยะนับไม่ถ้วนไม่สามารถข้ามไปได้แม้จะจบชีวิตก็ตาม…

“เป็นไปได้ยังไง?!”

เจ้าเมฆาม่วงและคนอื่นๆ ก็มองภาพเงานั้นด้วยความหมดอาลัยตายอยาก ในฐานะคนที่เคยต่อสู้กับมู่เฉิน ความตกใจยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น

ต้องรู้ว่ามู่เฉินอยู่ในระดับตี้จื้อจุนขั้นเต็มเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่ตอนนี้เขากลับก้าวเข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุนแล้ว!

แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าอีกครึ่งก้าวก็จะบรรลุระดับเทียนจื้อจุน แต่นานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่ก้าวหน้าเลย?!

แต่ชายหนุ่มที่ตามอยู่ข้างหลังพวกเขาก้าวเข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุนก่อนเสียอีก ดังนั้นความตกใจจึงเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างมาก

“มู่เฉินเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ!”

พวกเขาพึมพำด้วยความตกใจและความกลัวในใจ เนื่องจากพวกเขารู้ว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจักรวรรดิเหนือจะไม่มีตำแหน่งสำหรับพวกเขาอีกต่อไป ไม่เพียงแต่ที่นี่เท่านั้น ด้วยการมีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนตำหนักมู่จะแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วทวีปเทียนหลัว!

แน่นอนว่าไม่เพียงพวกเขาเท่านั้นที่ตกใจ แต่ขั้วอำนาจอื่นๆ ที่มองตำหนักมู่อยู่ก็พูดไม่ออก

เห็นได้ชัดว่าข่าวที่มู่เฉินบรรลุระดับเทียนจื้อจุนทำให้ทั่วทั้งทวีปเทียนหลัวตะลึงจนพูดไม่ออก

เผชิญกับความตกตะลึงนับไม่ถ้วน มู่เฉินก็ไม่ได้สนใจ เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองไปที่ผู้เฒ่าเฉวียนเทียนที่มีสีหน้าน่าเกลียดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

“บัดซบ ไอ้หนูนี่บรรลุระดับเทียนจื้อจุนได้อย่างไร?!”

ใบหน้าของเฉวียนเทียนเปลี่ยนเป็นตกใจ จากข้อมูลที่มีมู่เฉินเป็นเพียงจอมิยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นเต็มเท่านั้น แต่นี่ไม่เหมือนกับข้อมูลเลย

“ทำไม? ก่อนหน้านี้ข่มขู่ตำหนักมู่ของข้าเก่งนักไม่ใช่เหรอ?” เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเฉวียนเทียน มู่เฉินก็หัวเราะเยาะ

เมื่อเฉวียนเทียนได้ยินใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมพลางเค้นเสียงออกมา “อย่าได้ใจไปแกเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุน ในแง่การต่อสู้ ข้าก็ยังจัดการกับแกได้”

ยังไงเขาก็เป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตามองมา ดังนั้นหากเขาปล่อยให้มู่เฉินสร้างความอับอายให้ได้ก็จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของเขาอย่างมาก

มู่เฉินยิ้มอ่อนยกเปลือกตาขึ้น “ใครบอกให้แกมาสร้างความเดือดร้อนให้ข้า?”

แม้ว่าการกระทำของเฉวียนเทียนจะดูเหมือนเป็นการสั่งการของขั้วอำนาจเบื้องหลังเจ้าเมฆาม่วงกับคนอื่นๆ แต่ด้วยสัญชาตญาณเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลัง

เมื่อได้ยินเฉวียนเทียนก็เยาะเย้ย “แกน่าจะรู้ดีว่าเคยไปทำอะไรให้ใครขุ่นเคืองใจนะ?”

มู่เฉินหรี่ตา แม้ตัวเขาจะมีเรื่องกับคนอื่นนับไม่ไหวเลยทีเดียว แต่การมีความสามารถเชิญจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนมาจัดการกับเขาได้มีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น…เผ่าฝูถู

จากข้อมูลที่ได้รับจากชิงซวง แม้ว่าเผ่าฝูถูจะไม่สามารถประจันหน้ากับเขาได้โดยตรง แต่พวกเขาก็สามารถหาจอมยุทธ์ทรงพลังสักคนเพื่อมาช่วยให้งานของพวกเขาง่ายดายขึ้น

ด้วยเครือข่ายของผู้อาวุโสเผ่าฝูถูเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะเชิญจอมยุทธ์มาทำงานให้

แสงเย็นเยือกวาบขึ้นในนัยน์ตาของมู่เฉิน แต่ไม่ช้าก็ถูกปกปิด เขาเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ไม่ว่าแกจะทำเพื่อใคร แกก็ต้องจ่ายในราคาที่ถูกล่อลวงนั่น”

“อวดดี!” เฉวียนเทียนกระตุกยิ้มด้วยความโกรธ ตอนที่ชื่อของเขาขจรขจายไปทั่วมหาพันภพ มู่เฉินยังไม่รู้ว่าเป็นวุ้นอยู่ที่ไหนเลย แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้กลับกล้าพูดกับเขาในลักษณะนี้

มู่เฉินไม่ได้พูดให้มากความ ทันใดนั้นแสงหลิงก็หดกลับเข้าสู่ร่างกายของเขา

เมื่อคลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตกวนตัวภายใน ร่างกายของมู่เฉินก็ค่อยๆ เปล่งประกายราวกับเป็นผลึก

ในขณะนี้ราวกับว่าร่างกายของมู่เฉินได้รับดัดแปลงด้วยพลังงานหลิงที่บริสุทธิ์ กำจายพลังอำนาจที่ไร้ขอบเขตในทุกการเคลื่อนไหว

“กายาหลิงเทียนจุน?”

สายตาของเฉวียนเทียนดิ่งลง เมื่อสามารถทำสิ่งนี้ได้นั่นหมายความว่ามู่เฉินก้าวเข้าสู่ระดับเทียนจื้อจุนแท้จริงแล้ว

“แต่เด็กน้อยนี่เพิ่งบรรลุระดับเทียนจื้อจุน ซ้ำยังไม่ได้ขัดเกลาเส้นหลิงที่อยู่ภายในร่างกาย” สายตาของเฉวียนเทียนวูบไหว ในฐานะจอมยุทธ์ผู้มากประสบการณ์ เขาสามารถบอกได้อย่างเป็นธรรมชาติว่ามีข้อบกพร่องในกายาหลิงเทียนจุนของมู่เฉิน

“ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างสันติ ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็มาสู้กันให้รู้ดำรู้แดงดีกว่า ดูว่ามันจะยังกล้าทำท่าหยิ่งผยองอีกไหม”

เฉวียนเทียนเค้นเสียงเย็นชาในใจ เขาตัดสินใจแล้วเนื่องจากมู่เฉินเพิ่งบรรลุระดับเทียนจื้อจุนและยังไม่สามารถควบคุมพลังได้เต็มที่ ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเอาชนะ

พร้อมกับการตัดสินใจในใจ ดวงตาของเฉวียนเทียนก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาและจ้องไปที่มู่เฉิน ก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้ออย่างเรียบเฉย “ในเมื่อแกยโสโอหังนัก งั้นข้าจะสอนให้แกรู้ว่ามีคนอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเอาชนะแกได้ แม้ว่าแกจะก้าวเข้าระดับเทียนจื้อจุน แกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะหยิ่งยโส!”

ตู้ม!

ร่างกายเขาสั่นเทิ้มก่อนที่จะเปล่งแสงพร่างพราวออกมาพร้อมกับดวงดาวนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นร่างของเขาก็เจิดจรัสไปด้วยดวงดาวที่สลักอยู่บนพื้นผิว

คลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตกวาดออกจากร่าง กวนพายุคลื่นหลิงออกมา

สองร่างพลังงานหลิงยืนอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับสายตาฟาดฟันกัน แสงเย็นพลุ่งพล่านขณะที่อุณหภูมิระหว่างสวรรค์และโลกลดลงฉับพลัน

วาบ!

อึดใจต่อมาทั้งสองก็ทะยานออกไปภายใต้สายตานับไม่ถ้วน

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset