หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler – ตอนที่ 1402 ปราบปรามอย่างรุนแรง

บนท้องฟ้า

เมื่อร่างเงาทั้งสองปรากฏขึ้น ทุกคนพากันตกตะลึงไป ใบหน้าแต่ละคนแข็งค้างไปเลยทีเดียว

พวกเขารู้สึกได้ว่าร่างดวงจิตทั้งสองกำลังเปล่งความผันผวนของระดับเทียนจื้อจุน

ฉากนี้ทำให้ประมุขจักรวรรดิเหนือทั้งสามตกตะลึง จากนั้นครู่หนึ่งพวกเขาก็สูดอากาศเย็นเยือกเข้าปอดพร้อมกับความหวาดผวาพล่านบนใบหน้า

พวกเขาคุ้นเคยกับร่างดวงจิตของมู่เฉินเนื่องจากเคยต่อสู้กันมาก่อน ทว่าพวกเขาไม่เคยคิดว่าหลังจากบรรลุขุมพลังเทียนจื้อจุนร่างดวงจิตของอีกฝ่ายจะมีพลังเช่นเดียวกับร่างหลักอีก…

นั่นคือระดับเทียนจื้อจุน ไม่ว่าร่างดวงจิตจะทรงพลังเพียงใดก็ควรมีข้อจำกัดไม่ใช่รึ? แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบันทักษะเทพที่มู่เฉินครอบครองก้าวข้ามขีดจำกัดนั่นไปแล้ว

นั่นหมายความว่าตำหนักมู่ไม่ได้มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนคนเดียวแต่มีสามคน!

ต้องรู้ว่าแม้แต่ขั้วอำนาจสูงสุดที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาก็มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนคนเดียวเท่านั้น!

ด้วยจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสามคน ตำหนักมู่กวาดทวีปเทียนหลัวทั้งหมดได้อย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว!

ทั้งฟ้าดินเงียบงัน เจ้าเมฆาม่วงและคนอื่นๆ ต่างตกใจจนไร้คำพูด ผู้ชมก็ตกใจเช่นกันเมื่อดูสิ่งนี้

ชัดว่าร่างดวงจิตของมู่เฉิน ทำให้พวกเขาตกตะลึงใหญ่หลวง

“ไม่คิดว่าร่างรองของประมุขจะทรงพลังเช่นนี้…” หลิ่วเทียนเต้าและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ ของตำหนักมู่ตกตะลึงเป็นเวลานาน ก่อนที่จะเรียกสติกลับคืนและทอดถอนหายใจ

ก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะทราบเกี่ยวกับร่างรองของมู่เฉิน แต่พวกเขาก็เหมือนกับพวกเจ้าเมฆาม่วง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าร่างรองจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย หลังจากที่มู่เฉินบรรลุระดับเทียนจื้อจุน

ฝั่งตำหนักมู่ระเบิดเสียงโห่ร้อง ความหดหู่ที่รู้สึกจากการถูกเฉวียนเทียนกดดันตลอดครึ่งปีได้รับการปลดปล่อยออกมาทั้งหมด

ซึ่งมากเกินกว่าพอใจ!

“สมกับเป็นวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดในตำนานสามสิบหกกระบวนท่าอย่างแท้จริง” มั่นถัวหลัวและหลิงซีแลกเปลี่ยนสายตากันต่างก็เห็นความชื่นชมในสายตาของกันและกัน แม้ว่าพวกนางจะคาดหวังไว้ แต่ก็ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อความตกตะลึงเมื่อได้เห็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสามคน

บนท้องฟ้า

เฉวียนเทียนมองไปที่ร่างเสมือนทั้งสองเป็นเวลานาน ก่อนที่เสียงแหบแห้งจะลอดไรฟันออกมา “วิชาสามพิสุทธิ์?!”

ความรู้ของเฉวียนเทียนไม่ธรรมดาในฐานะจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน เขาสามารถบอกที่มาของทักษะเทพของมู่เฉินได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว ที่สุดแล้วมีเพียงวิชาสามพิสุทธิ์เท่านั้นที่สามารถสร้างร่างรองที่มีความแข็งแกร่งเหมือนกับร่างหลักได้

เผชิญหน้ากับร่างรองอีกสองร่าง แม้แต่เฉวียนเทียนก็ยังรู้สึกถึงร่องรอยแห่งความเสียใจในใจ ตอนแรกเขาคิดว่าเรื่องที่ถูกขอให้ช่วยครั้งนี้จะง่าย เนื่องจากตัวเขามีขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิง ไม่ว่ามู่เฉินจะมีวิธีมากแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีไปจากเขาได้

ดังนั้นเมื่อเขาได้รับคำขอก็รับปากโดยไม่ลังเลใดๆ แต่ตอนนี้เขาซึ้งแล้วว่าการกระทำของตนเองโง่เง่าเพียงใด

มู่เฉินบรรลุขุมพลังเทียนจื้อจุนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ในอนาคตเขาจะไม่หยุดอยู่แค่ขั้นหลิงเท่านั้น ใครจะรู้เขาอาจกลายเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งในตำนานอีกคนของมหาพันภพก็ได้

นั่นคือการดำรงอยู่บนจุดสุดยอดของมหาพันภพเลยนะ

ครั้งนี้เขาเตะแผ่นโลหะจังใหญ่เข้าแล้ว!

แม้ว่าสีหน้าเขาจะไม่เปลี่ยนไป แต่ก็ถั่งโถมไปด้วยความขมขื่นในใจ การยืนค้ำตำหนักมู่ครึ่งปีทำให้ชื่อเสียงของตำหนักมู่ป่นปี้ไปหมด ถือว่าทำให้มู่เฉินขุ่นเคืองอย่างที่สุดและด้วยนิสัยของอีกฝ่าย เรื่องนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ

ทว่ามู่เฉินไม่ได้ใส่ใจกับความคิดของเฉวียนเทียน ม่านตาสีดำของเขามองไปที่อีกฝ่ายอย่างคมกริบ

แม้ว่าเฉวียนเทียนจะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน แต่ก็ทำให้ชื่อเสียงของตำหนักมู่เสียหายไป เกือบจะสลายขวัญกำลังใจของพวกเขาเป็นผงธุลี

นอกจากนี้เขายังทำให้ทุกคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นหากมู่เฉินปล่อยเขาออกไปอย่างง่ายดาย คนอื่นๆ จะดูถูกตำหนักมู่เอาได้ ในอนาคตทุกคนก็สามารถมาเหยียบย่ำสำนักของเขาโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา

นี่เป็นสิ่งที่มู่เฉินไม่ยอมให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงเงยหน้าขึ้นพยักหน้าให้กับร่างรองของเขา

ฮึ่ม!

แสงหลิงไร้ขอบเขตพุ่งออกมาจากร่างรอง ร่างกายของพวกเขาเปลี่ยนเป็นแสงพราวเปล่งพลังที่น่ากลัว

วาบ!

เมื่อทั้งสองทะยานออกไปก็นำพารัศมีดุร้ายมาด้วย ขณะซัดไปยังเฉวียนเทียน

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของร่างรองทั้งสอง ใบหน้าของเฉวียนเทียนก็เปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เขาพึ่งพากายาหลิงเทียนจุนทรงพลังเพื่อให้ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อเผชิญหน้ากับมู่เฉินสองคนเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกแล้ว

“บ้าจริง!”

เฉวียนเทียนสาปแช่ง ไม่กล้าใช้กายาหลิงเทียนจุนเพื่อปะทะอีกต่อไป ทันใดนั้นมือเขาวาดตราประทับ ดวงดาวที่สลักอยู่บนร่างกายก็กะพริบและเชื่อมต่อเข้าด้วยกันกลายเป็นแผนภาพท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวบนร่างกายเขา

“แผนภาพเคลื่อนดาว!”

ตู้ม ตู้ม!

เมื่อร่างรองทั้งสองกระโจนเข้าไปก็ไม่ได้ออมมือ แสงพราวพร่างระเบิดออกจากร่างพวกเขาพร้อมกับภาพมายา ขณะที่โจมตีใส่เฉวียนเทียน

ตึง ตึง!

ท้องฟ้าแปรปรวนมิติพังทลายภายใต้การโจมตีที่รุนแรงของพวกเขา แม้ว่าเฉวียนเทียนจะพยายามอย่างเต็มความสามารถที่จะต่อต้าน แต่เขาก็ยังคงได้รับผลกระทบต่อร่างกาย

ทว่าตอนนี้นี่เองแผนภาพดวงดาวหมุนวนปกป้องร่างกาย หมัดทำลายล้างเหล่านั้นก็ทิ้งระลอกคลื่นไว้บนร่างกายของเขาได้เท่านั้น

“ช่างเป็นการป้องกันที่ทรงพลัง นี่คือประโยชน์ของกายาหลิงเทียนจุนหรือ?” ร่างหลักอย่างมู่เฉินเฝ้าดูฉากนี้ด้วยสายตาวูบไหว พลังการป้องกันของแผนภาพดวงดาวน่าตกใจมาก

ดูเหมือนพลังอำนาจของกายาหลิงเทียนจุนจะพิเศษอย่างแท้จริง…

แต่ไม่ว่าการป้องกันจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่สามารถอยู่ได้นานเมื่อเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนสองคน

ตามที่มู่เฉินคาดการณ์ เฉวียนเทียนแทบยืนไม่ไหวในการแลกกระบวนท่า เมื่อเวลาผ่านไปแผนภาพดวงดาวก็เริ่มสั่นคลอนจนใกล้จะแตก

การพยายามเผชิญหน้ากับร่างรองทั้งสองไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด

ตู้ม!

ร่างทั้งสองยืนอยู่ด้านหน้าและด้านหลังของเฉวียนเทียน ฝ่ามือของพวกเขาส่งเสียงฟ้าผ่าดังกระแทกเข้ากับแผนภาพดวงดาว

แกร็ก!

คราวนี้แผนภาพดาวถึงขีดสุด รอยแตกเริ่มกระจายก่อนที่จะแตกเป็นเสี่ยงๆ

ทันทีที่แผนภาพแตกสลาย แสงหลิงก็กะพริบอยู่ใต้เท้าของเฉวียนเทียน เขาหายไปตรงจุดที่ถูกประกบจากร่างรอง

แต่ทุกคนบอกได้เลยว่าเฉวียนเทียนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว

วาบ!

แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช แต่ร่างรองทั้งสองก็ไม่คิดจะปล่อยเขาไป พวกเขาไล่ตามด้วยการโจมตีล้อมกรอบเอาไว้

เฉวียนเทียนเผชิญกับสถานการณ์ที่กลายเป็นอันตรายและดูน่าสมเพชอย่างยิ่ง

“มู่เฉินอย่าบีบกันนัก!” เฉวียนเทียนคำราม

ทว่ามู่เฉินไม่ได้ให้ความสนใจกับเสียงคำรามนั่น ร่างรองเปิดการโจมตีคมชัดขึ้น

เฉวียนเทียนที่สัมผัสได้ถึงการโจมตีไม่สามารถรับได้อีกต่อไป เขาคำรามปลดปล่อยคลื่นหลิง ทันใดนั้นร่างมหึมาสูงหลายแสนจั้งก็ปรากฏขึ้นข้างหลัง

ร่างเงานั้นเปล่งแสงพราว แม้แต่ดวงอาทิตย์ก็สลัวลงเมื่อเทียบเคียงกัน ขณะที่หายใจก็พัดพายุรุนแรงระหว่างสวรรค์และโลก ช่างคล้ายกับเทพยาตราลงมาบนโลก

“นี่คือร่างเหนือสวรรค์…”

ผู้คนจ้องมองร่างมหึมาด้วยความตกตะลึงในใจ เฉวียนเทียนถูกบังคับให้นำร่างเทห์สวรรค์ของระดับเทียนจื้อจุนซึ่งเรียกว่าร่างเหนือสวรรค์ออกมา ดังนั้นสามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงใด

โฮก!

เมื่อร่างเหนือสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นก็ส่งเสียงคำราม ราวกับว่ามีดวงดาวนับล้านพุ่งลงมา กลายเป็นลำแสงยิงเข้าใส่ร่างรองทั้งสอง

ยามนี้เฉวียนเทียนไม่กล้ารั้งแล้ว เขาปลดปล่อยพลังการต่อสู้จนถึงขีดสุด

“ไอ้หนู แกคิดว่าข้ากลัวนักเหรอไง? ถ้าอยากสู้ก็เข้ามา!” ร่างเหนือสวรรค์ยืนตะหง่านบนท้องฟ้าโดยมีเฉวียนเทียนปรากฏตัวบนไหล่

เมื่อมู่เฉินได้ยินเช่นนั้นก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกับสีหน้าเย็นชา

“งั้นเหรอ?”

พอได้ยินเสียงเยือกเย็นของมู่เฉิน เฉวียนเทียนก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างพลางเงยหน้าขึ้น เขาเห็นเจดีย์ผลึกแก้วใสขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น จากนั้นก็บีบกดลงมาปราบปรามเขา

ตู้ม!

เฉวียนเทียนตกใจ จากนั้นก็ควบคุมร่างเหนือสวรรค์ทันทีเพื่อต่อต้านและหยุดเจดีย์เอาไว้ ทว่าก็เพียงเท่านั้น เจดีย์ยังคงค่อยๆ ลดระดับลง ต้องการที่จะกักเขาไว้ภายใน

แกร็ก

ร่างเหนือสวรรค์ขนาดใหญ่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ขณะที่ใบหน้าของเฉวียนเทียนเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็รู้สึกว่าไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เปล่งเสียงคำราม

“จื่อชี่ เหลยจุนเจ่อ หลงเตียว ถ้าพวกเจ้ายังไม่เคลื่อนไหวก็จะไม่มีที่ในจักรวรรดิเหนืออีกแล้ว!”

เมื่อเสียงของเฉวียนเทียนดังขึ้น ความเงียบก็คงอยู่เป็นอึดใจ ก่อนที่พลังสามสายจะทะลุผ่านมิติ ซัดลงบนเจดีย์

ในเวลาเดียวกันเสียงน่าเกรงขามสามเสียงก็ดังก้องไปทั่วฟ้าดินพร้อมกับแรงกดดัน

“ประมุขมู่โปรดยั้งมือ!”

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

The Great Ruler | หนึ่งในใต้หล้า

หนึ่งในใต้หล้าจากปลายปากกาของเทียนฉานถูโต้ว กล่าวถึงมู่เฉิน เด็กหนุ่มจากสำนักศึกษาเป่ยหลิง ผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าฝึกในสงครามเทพยุทธ์ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าคนเก่งกาจ ทว่า… อยู่ดีๆ เขากลับถูกขับไล่ออกมาด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครล่วงรู้ มู่เฉินพยายามฝึกหนักอีกครั้งเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปในเส้นทางแห่งนี้ เขาจำเป็นต้องใช้สิ่งนี้เป็นใบเบิกทางเพื่อเข้าศึกษาที่ภาคเบญจภาคี เพื่อ… ปกป้องหญิงสาวที่ตนรัก และยิ่งกว่านั้นคือเพื่อค้นหาเบาะแสของมารดาที่หายสาบสูญไป ‘มหาพันภพ’ เป็นที่ที่มิติทั้งหลายเชื่อมต่อกันในระบบสุริยจักรวาล สถานที่แห่งนี้มีขั้วอำนาจมากมายอาศัยอยู่ จักรพรรดิที่มาจากพิภพเขตล่างต่างเป็นตำนานที่ผู้อื่นปรารถนาขึ้นไปบนเส้นทางแห่งกฎของโลกไร้ขอบเขตนี้ แคว้นหวู่จิ้งฮั่ว เทพจักรพรรดิอัคคีควบคุมเปลวเพลิงกวาดข้ามสวรรค์ แคว้นหวู เทพจักรพรรดิสงครามผู้ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกหวาดกลัว ตำหนักซีเทียน จักรพรรดิสัประยุทธ์ที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า ในเนินเขารกร้างทางเหนือ ดินแดนวั้นมู่ของจักรพรรดิอมตะครองเหนือภพ เด็กหนุ่มจากมณฑลเป่ยหลิงออกท่องยุทธภพกับวิหคโลกันตร์คู่ใจ มุ่งหน้าสู่โลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสัน ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชะตากรรมในเส้นทางการเป็นหนึ่ง? ในมหาพันภพที่สงครามนับหมื่นอุบัติ ข้าคือผู้กุมชะตาฟ้าดิน… The Great Thousand World. It is a place where numerous planes intersect, a place where many clans live and a place where a group of lords assemble. The Heavenly Sovereigns appear one by one from the Lower Planes and they will all display a legend that others would desire as they pursue the road of being a ruler in this boundless world. In the Endless Fire Territory that the Flame Emperor controls, thousands of fire blazes through the heavens. Inside the Martial Realm, the power of the Martial Ancestor frightens the heaven and the earth. At the West Heaven Temple, the might of the Emperor of a Hundred Battles is absolute. In the Northern Desolate Hill, a place filled with thousands of graves, the Immortal Owner rules the world. A boy from the Northern Spiritual Realm comes out, riding on a Nine Netherworld Bird, as he charges into the brilliant and diverse world. Just who can rule over their destiny of their path on becoming a Great Ruler? In the Great Thousand World, many strive to become a Great Ruler.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset