บนร่างกายของมู่เฉิน
ลวดลายวุ่นวายอันเวิ้งว้างทั้งเก้าปรากฏขึ้น ดูเหมือนจะถูกสลักลึกลงไปในร่างกายตั้งแต่กำเนิดและเต็มไปด้วยสัมผัสแห่งสวรรค์และโลก
ฝูถูเฉวียนผุดลุกขึ้นจากที่นั่ง ไม่สามารถรักษาอาการได้อีกต่อไป ความไม่เชื่อฉายบนใบหน้าเมื่อมองลวดลายโบราณทั้งเก้าบนร่างกายของมู่เฉิน
เขารู้ว่านี่เป็นตัวแทนของอะไร
นี่คือเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรในตำนาน!
“เป็นไปได้ยังไง? เจ้าเด็กกาลกิณีครอบครองเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรได้อย่างไร?!” ฝูถูเฉวียนอุทาน เส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรเป็นตำนานแม้กระทั่งในเผ่าฝูถู ตั้งแต่โบราณกาลมีสามครั้งที่เส้นหลิงในตำนานปรากฏขึ้นในเผ่า ซึ่งทั้งหมดเป็นบรรพบุรุษที่เก่าแก่ที่สุดของพวกเขา
บรรพบุรุษทั้งสามนี้ก่อตั้งเผ่าฝูถู หลังจากนั้นเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพรก็ไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย แม้ว่าเส้นหลิงนี้จะไม่ได้แสดงอะไรที่เฉพาะเจาะจง แต่ก็แสดงถึงความบริสุทธิ์ของสายเลือดในระดับหนึ่ง
ดังนั้นสายเลือดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเผ่าโบราณ
นี่เป็นสาเหตุที่การแต่งงานของชิงเหยี่ยนจิ้งสร้างความโกรธแค้น พวกเขาหวังในตัวนางมาก ทว่านางกลับทำให้สายเลือดต้องแปดเปื้อน
แต่เมื่อมองในตอนนี้ ฝูถูเฉวียนรู้สึกอยากจะกระอักเลือด สายเลือดของมู่เฉินไม่เพียงแต่ไม่แปดเปื้อน แต่ยังมีกระทั่งเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรอีกด้วย นั่นไม่ได้หมายความว่าในแง่ของความบริสุทธิ์สายเลือดของมู่เฉินแข็งแกร่งกว่าทุกคนในเผ่าหรือ?
ความตกใจเผยบนใบหน้าของฝูถูเฉวียนเป็นเวลานานก่อนที่จะค่อยๆ สงบลงและมองไปที่มู่เฉินด้วยสายตาที่ซับซ้อน
หลังจากที่ฝูถูเฉวียนสังเกตเห็นไม่นาน คนทั้งเผ่าและผู้ชมก็เห็นลวดลายโบราณเก้าลายบนร่างกายของมู่เฉิน ทำเอาพวกเขาตกตะลึงไป
ทุกคนสูดอากาศเย็นเข้าปอด ก่อนที่ความปั่นป่วนจะระเบิดขึ้น
“สวรรค์ ข้าเห็นอะไรกัน? นั่นคืออะไร?!”
“ข้าเห็นเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรในตำนานหรือเนี่ย?!”
“มู่เฉินมีเส้นหลิงสองเส้นได้ยังไง? นอกจากนี้หนึ่งในนั้นยังเป็นเก้าชีพจร? เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า!”
“เส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจร… มิน่าล่ะเจ้านี่ถึงร้ายกาจมาก ที่แท้ก็ครอบครองเส้นหลิงสุดยอดในตำนานนี่เอง!”
ความโกลาหลเกิดขึ้นไปทั่ว ตระกูลเฉวียนที่เคยเยาะเย้ยก็อ้าปากค้าง ตอนนี้พวกเขามองร่างเงาพร่างพราวบนท้องฟ้าแล้วตาพร่าอยากเป็นลม
เฉวียนหลัวถึงกับกระอักเลือดออกมาจากปาก ใบหน้าเขียวคล้ำแม้แต่ร่างกายก็เริ่มสั่นสะท้าน แต่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากความตกใจหรือความกลัว หากเขายังคงรักษาหัวใจไว้ได้อย่างเข้มแข็งจากเส้นหลิงแปดชีพจร ยามนี้หัวใจของเขากระเด้งกระดอนเมื่อเห็นเส้นหลิงเก้าชีพจรนี่
เฉวียนกวางก็มองไปที่มู่เฉินอย่างอึ้งทึ่ง ขณะนี้แม้แต่เขายังไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป ท่าทางที่เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันดูน่าขนลุกนัก
เขารู้สึกอยากจะฆ่ามู่เฉินในตอนนี้
มิฉะนั้นหากมู่เฉินบรรลุระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้นมันกับมารดาก็คือจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งสองคน งานนี้แม้แต่คนทั้งเผ่าก็ไม่สามารถปราบปรามสองแม่ลูกนี้ได้
และหากสองแม่ลูกนี่แก้แค้น ตระกูลเฉวียนจะเป็นตระกูลแรกที่ถูกโจมตีอย่างแน่นอน!
ทว่าเฉวียนกวางก็ได้แต่ระงับจิตสังหารในใจ เนื่องจากเขารู้ดีว่าหากเขาเคลื่อนไหว ผู้อาวุโสใหญ่จะหยุดเขาทันที ตาแก่นั่นหัวรั้นเป็นพิเศษและทำตามกฎของเผ่าประหนึ่งอาญาสิทธิ์สวรรค์
นี่เป็นสาเหตุที่ชิงเหยี่ยนจิ้งถูกจองจำเมื่อละเมิดกฎ แม้แต่เฉวียนกวางก็ไม่ได้รับการยกเว้น
ขณะที่ทุกคนตกตะลึง ในที่สุดใบหน้าของหมัวเฮอโยวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขามองไปที่ร่างเงาของมู่เฉินด้วยระลอกความกลัวตีกวน
“เส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจร…” ในฐานะสมาชิกเผ่าหมัวเฮอ เขารู้ความหมายสิ่งนี้ ด้วยพรสวรรค์ของมู่เฉินมีโอกาสสูงที่จะไปถึงระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งในอนาคต!
นั่นหมายความว่าในอนาคตจำนวนของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งที่เป็นประจักษ์ของเผ่าฝูถูจะมีถึงสามคน!
“เจ้านั่นเป็นปัญหาแท้จริง!”
สายตาของหมัวเฮอโยวน่ากลัวลงเมื่อมองไปที่มู่เฉินด้วยไอสังหารในดวงตา
ขณะที่ทุกคนตกตะลึง
เฉวียนจุนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เขามองไปที่ลวดลายโบราณทั้งเก้าบนร่างกายของมู่เฉินก่อนจะกระชากเสียง “ตอแหล คิดจะทำให้ข้าหมดความมั่นใจแล้วฉวยโอกาสเรอะ?!”
เฉวียนจุนไม่คิดจะเชื่อว่ามู่เฉินครอบครองเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจร นอกจากนี้เขาไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองเชื่อได้ในตอนนี้ เพราะจะทำให้เขาเผยช่องโหว่ให้มู่เฉินซัดกลับได้
ดังนั้นไม่ว่ามู่เฉินจะครอบครองเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรหรือไม่ เขาก็ต้องเอาชนะมู่เฉินให้ได้
“ตาย!”
เฉวียนจุนตะเบ็งเสียงพลางสะบัดแขนเสื้อ ความปั่นป่วนของแม่น้ำสีดำทวีความน่ากลัวยิ่งขึ้นขณะที่โอบล้อมมู่เฉินราวกับมังกร
ทุกคนรวมความสนใจไปในที่เดียว พวกเขาอยากรู้ว่าเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรของมู่เฉินเป็นของจริงหรือไม่…
และการพิสูจน์จะเกิดขึ้นในระหว่างการปะทะของทักษะหลิงไม่เสินทง
มู่เฉินค่อยๆ ลืมตาโดยไม่มีอารมณ์ใดๆ บนใบหน้า เขามองไปที่แม่น้ำจากนั้นก็วาดตราประทับในมืออึดใจต่อมาเสียงเขาก็ดังก้องขึ้น
“ทักษะหลิงไม่เสินทง เส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจร… แสงเทพปฐมกาล”
เมื่อเสียงสิ้นสุดลง แสงสีขาวก็พุ่งขึ้นจากด้านหลังร่างมู่เฉินกลายเป็นการระเบิดของมหานวดาราทำให้ทุกคนตาลายไปหมด
เมื่อกลุ่มแสงไร้ระเบียบพุ่งทะยานขึ้น มู่เฉินก็โบกมือซัดไปยังแม่น้ำสีดำที่เคลื่อนลงมา
วาบ!
ฉากที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้น แม่น้ำสีดำหายไปทันทีเมื่อกลุ่มแสงไร้ระเบียบพุ่งผ่าน ทำให้แสงส่องลงมายังพื้นที่นี้อีกครั้ง
ฉากนี้ทำให้ทุกคนอ้าปากตาค้าง
แม่น้ำสีดำที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนยังหวาดกลัวกลับถูกมู่เฉินทำลายได้อย่างง่ายดายเรอะ?!
ทุกคนมองกลุ่มแสงไร้ระเบียบที่เพิ่มขึ้นด้านหลังมู่เฉินด้วยความหวาดผวา เมื่อพวกเขามองเข้าไปใกล้ก็เห็นว่ามีเส้นสีดำบางๆ อยู่ในนั้น ซึ่งก็คือแม่น้ำสีดำ
“ทักษะหลิงไม่เสินทงนี้คืออะไร? ครอบงำเหลือเกิน!” มีคนร้องอุทาน พวกเขารู้สึกหวาดกลัวกับทักษะนี้ยิ่งนัก
เฉวียนจุนก็ตกตะลึงกับฉากนี้ ก่อนที่จะถอยกลับพร้อมกับความกลัวพล่านในดวงตา เห็นได้ชัดว่าเขากลัวมู่เฉินมาก
“แกคิดจะหนีไปไหน?”
มู่เฉินเค้นเสียง กลุ่มแสงไร้ระเบียบพุ่งใส่เฉวียนจุน
ใบหน้าของเฉวียนจุนฉาบด้วยความสยดสยอง ขณะที่ปลดปล่อยคลื่นหลิงออกมาเพื่อปกป้อง
ทว่าสิ่งนี้ก็ไร้ผล เมื่อกลุ่มแสงไร้ระเบียบกวาดลง เฉวียนจุนก็รู้สึกว่าตัวเขาถูกกักขังอยู่ในมิติอื่นโดยปราศจากแนวคิดเรื่องพื้นที่และเวลา ทุกสรรพสิ่งถูกแช่แข็ง
ดังนั้นเมื่อกลุ่มแสงไร้ระเบียบกวาดผ่าน ร่างเฉวียนจุนก็หายไป ส่วนกลุ่มแสงด้านหลังมู่เฉินก็ปรากฏให้เห็นใบหน้าตื่นตระหนกของเฉวียนจุน
ชัดว่าเขาถูกขังในกลุ่มแสงไร้ระเบียบลึกลับแล้ว
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบด้วยความตกใจกับฉากนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนก็ไม่สามารถต้านทานกลุ่มแสงไร้ระเบียบได้? มิหนำซ้ำยังถูกคุมขังในกระบวนท่าเดียวด้วย?
ช่างเป็นทักษะหลิงไม่เสินทงที่น่ากลัวนัก!
ทุกคนตกตะลึง ทักษะหลิงไม่เสินทงนี้อาจเทียบได้กับวิทยายุทธระดับเสินทงขั้นสุดยอดในตำนานสามสิบหกกระบวนท่าของมหาพันภพเลยทีเดียว!
“นี่คือทักษะหลิงไม่เสินทงของเส้นหลิงขั้นเสินเก้าชีพจรหรือ? ทรงพลังอย่างแท้จริงและยากที่จะป้องกันได้!” บางคนถอนหายใจ แม้ว่ามู่เฉินจะเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นหลิงระยะต้น แต่เขาก็ไม่ต้องกลัวแม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซียนด้วยความสามารถของเส้นหลิงนี้
สมาชิกเผ่าฝูถูต่างตกตะลึง แบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเฉวียนจุนแพ้หรือ?
ผู้อาวุโสทั้งสามของตระกูลชิงก็ตั้งตัวไม่ทัน พวกเขามองหน้ากัน ไม่คิดว่าชัยชนะจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน เพราะมู่เฉินตกอยู่ในสถานะอันตรายเมื่อไม่กี่อึดใจก่อนหน้า แต่ไม่นานก็กลับตาลปัตร เฉวียนจุนที่อยู่เหนือถูกขัง
“ทรงพลังเหลือเกิน”
ดวงตาชิงหลิงเป็นประกาย ขณะมองไปที่มู่เฉิน แม้แต่ใบหน้าของนางก็ยังเห่อแดง มู่เฉินแสดงพลังต่อหน้าเผ่าฝูถูให้เป็นที่ประจักษ์ โดยไม่มีใครสามารถปฏิเสธความแข็งแกร่งของเขาได้
สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลชิงก็รู้สึกภาคภูมิใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าตัวตนของมู่เฉินเป็นอย่างไร อย่างน้อยตอนนี้เขาคือประมุขตระกูล ซึ่งหมายความว่าพวกเขาสามารถเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกแห่งชัยชนะได้
ตระกูลเฉวียนอยู่ในความเงียบงัน ส่วนตระกูลมั่วฉายท่าทางเคร่งเครียดรุนแรงพร้อมกับความกลัวในดวงตา
เฉวียนกวางมองไปที่มู่เฉิน ราวกับว่าต้องการแล่เนื้อเถือหนังอีกฝ่าย
มู่เฉินยืนเอามือไพล่หลังขณะที่มหานวดาราที่เบื้องหลังเปล่งรัศมีงดงามออกมา เขาก้มศีรษะลงมองไปที่ตระกูลเฉวียน เสียงของเขาสะท้อนออกมาโดยไม่มีใครหักล้างได้
“พวกเจ้าแพ้แล้ว คืนตำแหน่งมาซะ”